ขอความรู้เรื่องตู้ศีลค่ะ
คือพี่สังเกตุมานานแล้วค่ะ ว่าประตูตู้ศีลจะเปิดทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนที่นำแผ่นปังออกมา และจะเปิดทิ้งไว้อย่างนั้นจนกระทั่งนำแผ่นปังเข้าไปเก็บอีกครั้งนึง เรื่องเกี่ยวกับตู้ศีลพี่ก็พอจะเข้าใจว่า คาทอลิกเชื่อว่าพร ะกายของพระเยซูอยู่ที่นั่น แต่พี่ก็สงสัยว่าจำเป็นไม๊ที่ต้องเปิดประตูตู้ศีลทิ้งไว้อย่างนั้น ขอความรู้เกี่ยวกับตรงนี้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ก็พระองค์ออกมาจากตู้ศีล
ประตูก็เปิดรอพระองค์กลับเข้าไป
ถ้าปิดประตู พอถึงเวลากลับ
ก็เข้าไม่ได้สิคะ
(กวนไปมั๊ยนี่)
LL คิดว่า น่าจะสะดวกกับคุณพ่อมากกว่า
การที่มาเปิดๆปิดๆ เปิดค้างไว้เลยเก็บง่ายกว่า
แต่อาจจะมีอะไรที่ล้ำลึกกว่านี้ก็ได้
รอผู้รู้มาตอบดีกว่าคะ ;D
ประตูก็เปิดรอพระองค์กลับเข้าไป
ถ้าปิดประตู พอถึงเวลากลับ
ก็เข้าไม่ได้สิคะ
(กวนไปมั๊ยนี่)
LL คิดว่า น่าจะสะดวกกับคุณพ่อมากกว่า
การที่มาเปิดๆปิดๆ เปิดค้างไว้เลยเก็บง่ายกว่า
แต่อาจจะมีอะไรที่ล้ำลึกกว่านี้ก็ได้
รอผู้รู้มาตอบดีกว่าคะ ;D
การเปิดประตูตู้ศีลค้างเอาไว้ ไม่ได้มีความหมายเป็นนัยอะไรหรอกครับ
**********************************************************
ผมมีบทสรรเสริญศีลมหาสนิทบทหนึ่ง ซึ่งแต่งโดยนักบุญโทมัส อาไควนัส เป็นบทที่ใช้ในโอกาสสมโภชพระคริสตวรกาย จะอ่านก่อนพระวรสาร แต่ที่ใช้อยู่นั้นดึงเอามาบางส่วน ที่ผมจะนำเสนอนี้เป็นบทเต็ม ๆ ซึ่งยาวมาก แต่มีความหมายทางเทววิทยาของศีลมหาสนิทครบถ้วนครับ
************************************************************
1. ศิโยนเอ๋ย จงขับร้องบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆสรรเสริญพระผู้ไถ่ ผู้นำและผู้เลี้ยงดูของเจ้าเถิด
2. จงทำดังนี้ให้สุดความสามารถ เพราะพระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าคำสรรเสริญใดๆ
เจ้าจะสรรเสริญอย่างไรก็ไม่เพียงพอ
3. เนื้อหาพิเศษของคำสรรเสริญที่กล่าวถึงในวันนี้คือเรื่องปังทรงชีวิตที่ให้ชีวิต
นั่นเอง
4. ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระคริสตเจ้าประทานปังนี้ให้แก่อัครสาวกทั้งสิบสองคน
ในการเลี้ยงอาหารค่ำศักดิ์สิทธิ์กับบรรดามิตรสหาย
5. เจ้าจงสรรเสริญให้เต็มที่ จงเปล่งเสียงแสดงความยินดีอย่างไพเราะ เพื่อแสดงความชื่นชมในจิตใจ
6. เพราะเป็นวันฉลองอย่างสง่าที่เราระลึกถึงงานเลี้ยงอาหารนี้เป็นครั้งแรก
7. ในงานเลี้ยงนี้ของกษัตริย์องค์ใหม่ ปัสกาใหม่แห่งธรรมบัญญัติใหม่ทำให้ปัสกาเก่าจบสิ้นไป
8. ความใหม่ขับไล่ความเก่า ความจริงขับไล่เงาออกไป แสงสว่างขจัด
กลางคืนให้สิ้นไป
9. พระคริสตเจ้าทรงทำสิ่งใดในการเลี้ยงอาหารค่ำ พระองค์ก็ทรงบัญชาให้ทำสิ่งนั้นเพื่อระลึกถึงพระองค์ด้วย
10. พวกเราได้รับพระบัญชาจากพระองค์ จึงเสกขนมปังและเหล้าองุ่นให้เป็นของถวายที่บันดาลความรอดพ้น
11. บรรดาคริสตชนได้รับคำสั่งสอนมาว่าขนมปังเปลี่ยนเป็นพระกาย
และเหล้าองุ่นเปลี่ยนเป็นพระโลหิต
12. สิ่งที่ท่านไม่เข้าใจ และไม่เห็นนั้น ความเชื่อทำให้เรามั่นใจ
แม้ว่าไม่เป็นไปตามวิถีทางธรรมชาติก็ตาม
13. ความเป็นจริงอันสูงส่งซ่อนอยู่ภายใต้รูปปรากฏที่แตกต่างกัน เพียงแต่ในเรื่องเครื่องหมายเท่านั้น ไม่ใช่ในความเป็นจริง
14. พระกายเป็นอาหาร พระโลหิตเป็นเครื่องดื่ม ถึงกระนั้นพระคริสตเจ้าทั้งองค์ก็ทรงอยู่ครบถ้วนในรูปปรากฏแต่ละอย่าง
15. ผู้ที่รับศีลมหาสนิท รับพระคริสตเจ้าอย่างครบถ้วน ไม่ทรงถูกตัด ไม่ทรงถูกหัก ไม่ทรงถูกแบ่ง
16. ผู้รับศีลจะมีเพียงคนเดียวหรือพันคน ก็รับพระองค์เท่ากัน เมื่อทรงถูกรับแล้วพระองค์ก็ไม่สูญหายไปไหน
17. คนดีหรือคนชั่วก็รับพระองค์ได้ แต่ผลที่ได้รับนั้นไม่เหมือนกัน คือเป็นชีวิตสำหรับคนดี หรือความตายสำหรับคนชั่ว
18. ความตายเป็นของคนชั่ว ชีวิตเป็นของคนดี เห็นไหมว่าแม้จะรับเหมือนกัน แต่ผลที่ตามมานั้นไม่เหมือนกันเลย
19. เมื่อศีลถูกบิแล้ว ท่านอย่าข้องใจเลย และจงจำไว้ว่าพระองค์ทรงอยู่ในเศษเล็ก ๆ เท่ากับทรงอยู่ในแผ่นปังทั้งแผ่น
20. การบิปังนี้เป็นเพียงการแบ่งเครื่องหมายเท่านั้น ความเป็นจริงมิได้ถูกแบ่งเลย สภาพความเป็นอยู่และขนาดของพระองค์ภายใต้เครื่องหมายมิได้ลดน้อยลงเลย
21. นี่คือปังของทูตสวรรค์ ที่กลายเป็นอาหารสำหรับ(มนุษย์)ผู้เดินทาง เป็นอาหารสำหรับบรรดาบุตร จึงต้องไม่ให้อาหารนี้แก่สุนัข
22. ศีลมหาสนิทนี้มีเครื่องหมายแสดงไว้แล้วในอดีต เมื่ออิสอัคถูกถวายเป็นบูชา เมื่อลูกแกะปัสกาถูกฆ่าเป็นบูชา เมื่อพระเจ้าประทานมานนาแก่บรรพบุรุษ
23. ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ทรงเป็นอาหารแท้จริง โปรดทรงพระกรุณาข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด ขอพระองค์ทรงเลี้ยงดู และปกปักรักษาข้าพเจ้าทั้งหลาย โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้พบความสุขในแดนของผู้มีชีวิตด้วยเถิด
24. พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง พระองค์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าทั้งหลายผู้รู้ตายในแผ่นดินนี้แล้ว ขอพระองค์ทรงบันดาลให้ผู้ที่ทรงเชิญให้มาร่วมโต๊ะกับพระองค์
ได้ร่วมรับมรดกและเป็นมิตรสหายกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ชาวสวรรค์ด้วยเถิด
**********************************************************
ผมมีบทสรรเสริญศีลมหาสนิทบทหนึ่ง ซึ่งแต่งโดยนักบุญโทมัส อาไควนัส เป็นบทที่ใช้ในโอกาสสมโภชพระคริสตวรกาย จะอ่านก่อนพระวรสาร แต่ที่ใช้อยู่นั้นดึงเอามาบางส่วน ที่ผมจะนำเสนอนี้เป็นบทเต็ม ๆ ซึ่งยาวมาก แต่มีความหมายทางเทววิทยาของศีลมหาสนิทครบถ้วนครับ
************************************************************
1. ศิโยนเอ๋ย จงขับร้องบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆสรรเสริญพระผู้ไถ่ ผู้นำและผู้เลี้ยงดูของเจ้าเถิด
2. จงทำดังนี้ให้สุดความสามารถ เพราะพระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าคำสรรเสริญใดๆ
เจ้าจะสรรเสริญอย่างไรก็ไม่เพียงพอ
3. เนื้อหาพิเศษของคำสรรเสริญที่กล่าวถึงในวันนี้คือเรื่องปังทรงชีวิตที่ให้ชีวิต
นั่นเอง
4. ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระคริสตเจ้าประทานปังนี้ให้แก่อัครสาวกทั้งสิบสองคน
ในการเลี้ยงอาหารค่ำศักดิ์สิทธิ์กับบรรดามิตรสหาย
5. เจ้าจงสรรเสริญให้เต็มที่ จงเปล่งเสียงแสดงความยินดีอย่างไพเราะ เพื่อแสดงความชื่นชมในจิตใจ
6. เพราะเป็นวันฉลองอย่างสง่าที่เราระลึกถึงงานเลี้ยงอาหารนี้เป็นครั้งแรก
7. ในงานเลี้ยงนี้ของกษัตริย์องค์ใหม่ ปัสกาใหม่แห่งธรรมบัญญัติใหม่ทำให้ปัสกาเก่าจบสิ้นไป
8. ความใหม่ขับไล่ความเก่า ความจริงขับไล่เงาออกไป แสงสว่างขจัด
กลางคืนให้สิ้นไป
9. พระคริสตเจ้าทรงทำสิ่งใดในการเลี้ยงอาหารค่ำ พระองค์ก็ทรงบัญชาให้ทำสิ่งนั้นเพื่อระลึกถึงพระองค์ด้วย
10. พวกเราได้รับพระบัญชาจากพระองค์ จึงเสกขนมปังและเหล้าองุ่นให้เป็นของถวายที่บันดาลความรอดพ้น
11. บรรดาคริสตชนได้รับคำสั่งสอนมาว่าขนมปังเปลี่ยนเป็นพระกาย
และเหล้าองุ่นเปลี่ยนเป็นพระโลหิต
12. สิ่งที่ท่านไม่เข้าใจ และไม่เห็นนั้น ความเชื่อทำให้เรามั่นใจ
แม้ว่าไม่เป็นไปตามวิถีทางธรรมชาติก็ตาม
13. ความเป็นจริงอันสูงส่งซ่อนอยู่ภายใต้รูปปรากฏที่แตกต่างกัน เพียงแต่ในเรื่องเครื่องหมายเท่านั้น ไม่ใช่ในความเป็นจริง
14. พระกายเป็นอาหาร พระโลหิตเป็นเครื่องดื่ม ถึงกระนั้นพระคริสตเจ้าทั้งองค์ก็ทรงอยู่ครบถ้วนในรูปปรากฏแต่ละอย่าง
15. ผู้ที่รับศีลมหาสนิท รับพระคริสตเจ้าอย่างครบถ้วน ไม่ทรงถูกตัด ไม่ทรงถูกหัก ไม่ทรงถูกแบ่ง
16. ผู้รับศีลจะมีเพียงคนเดียวหรือพันคน ก็รับพระองค์เท่ากัน เมื่อทรงถูกรับแล้วพระองค์ก็ไม่สูญหายไปไหน
17. คนดีหรือคนชั่วก็รับพระองค์ได้ แต่ผลที่ได้รับนั้นไม่เหมือนกัน คือเป็นชีวิตสำหรับคนดี หรือความตายสำหรับคนชั่ว
18. ความตายเป็นของคนชั่ว ชีวิตเป็นของคนดี เห็นไหมว่าแม้จะรับเหมือนกัน แต่ผลที่ตามมานั้นไม่เหมือนกันเลย
19. เมื่อศีลถูกบิแล้ว ท่านอย่าข้องใจเลย และจงจำไว้ว่าพระองค์ทรงอยู่ในเศษเล็ก ๆ เท่ากับทรงอยู่ในแผ่นปังทั้งแผ่น
20. การบิปังนี้เป็นเพียงการแบ่งเครื่องหมายเท่านั้น ความเป็นจริงมิได้ถูกแบ่งเลย สภาพความเป็นอยู่และขนาดของพระองค์ภายใต้เครื่องหมายมิได้ลดน้อยลงเลย
21. นี่คือปังของทูตสวรรค์ ที่กลายเป็นอาหารสำหรับ(มนุษย์)ผู้เดินทาง เป็นอาหารสำหรับบรรดาบุตร จึงต้องไม่ให้อาหารนี้แก่สุนัข
22. ศีลมหาสนิทนี้มีเครื่องหมายแสดงไว้แล้วในอดีต เมื่ออิสอัคถูกถวายเป็นบูชา เมื่อลูกแกะปัสกาถูกฆ่าเป็นบูชา เมื่อพระเจ้าประทานมานนาแก่บรรพบุรุษ
23. ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ทรงเป็นอาหารแท้จริง โปรดทรงพระกรุณาข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด ขอพระองค์ทรงเลี้ยงดู และปกปักรักษาข้าพเจ้าทั้งหลาย โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้พบความสุขในแดนของผู้มีชีวิตด้วยเถิด
24. พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง พระองค์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าทั้งหลายผู้รู้ตายในแผ่นดินนี้แล้ว ขอพระองค์ทรงบันดาลให้ผู้ที่ทรงเชิญให้มาร่วมโต๊ะกับพระองค์
ได้ร่วมรับมรดกและเป็นมิตรสหายกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ชาวสวรรค์ด้วยเถิด
[quote="Andreas"]
การเปิดประตูตู้ศีลค้างเอาไว้ ไม่ได้มีความหมายเป็นนัยอะไรหรอกครับ
**********************************************************
ผมมีบทสรรเสริญศีลมหาสนิทบทหนึ่ง ซึ่งแต่งโดยนักบุญโทมัส อาไควนัส เป็นบทที่ใช้ในโอกาสสมโภชพระคริสตวรกาย จะอ่านก่อนพระวรสาร แต่ที่ใช้อยู่นั้นดึงเอามาบางส่วน ที่ผมจะนำเสนอนี้เป็นบทเต็ม ๆ ซึ่งยาวมาก แต่มีความหมายทางเทววิทยาของศีลมหาสนิทครบถ้วนครับ
************************************************************
1.
การเปิดประตูตู้ศีลค้างเอาไว้ ไม่ได้มีความหมายเป็นนัยอะไรหรอกครับ
**********************************************************
ผมมีบทสรรเสริญศีลมหาสนิทบทหนึ่ง ซึ่งแต่งโดยนักบุญโทมัส อาไควนัส เป็นบทที่ใช้ในโอกาสสมโภชพระคริสตวรกาย จะอ่านก่อนพระวรสาร แต่ที่ใช้อยู่นั้นดึงเอามาบางส่วน ที่ผมจะนำเสนอนี้เป็นบทเต็ม ๆ ซึ่งยาวมาก แต่มีความหมายทางเทววิทยาของศีลมหาสนิทครบถ้วนครับ
************************************************************
1.
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
*thx เยี่ยมเลยตาเพชร ขยันพิมพ์ ;)
บทนี้ผมไม่พิมพ์เองหรอกครับ คุณพ่อทัศไนย์ คมกฤสท่านเป็นผู้แปล จากภาษาละติน คุณพ่อเป็นอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในด้านภาษาละตินครับ ท่านได้ให้มา ผมคิดว่า ถ้าเอาไว้สวดรำพึงช่วงเฝ้าศีลก็ดีนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:04 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมว่าไม่เกี่ยวนะครับ แล้วแต่คุณพ่อที่ทำมิสซาครับ
ไม่เกี่ยวกับอะไรครับ ไม่เห็นเข้าใจเลย เพราะที่พิมพ์ข้างบน เราสามารถเอาไว้สวดเวลาเราไปเฝ้าศีลตามรำพังได้ ช่วยเสริมความศรัทธาต่อศีลมหาสนิท ที่จริง วันสมโภชพระคริสตกายา คนอ่านบทอ่านจะอ่านบทสรรเสริญนี้ด้วย แต่เขาอ่านแบบสั้น ไม่ครบทั้งหมดBatholomew เขียน: ผมว่าไม่เกี่ยวนะครับ แล้วแต่คุณพ่อที่ทำมิสซาครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอบคุณฮะ พี่เพชร บทนี้มีการร้อง หรือสวดบ่อยไหมฮะ เพราะค่อนข้างยาวนะ 8)