บทเรียนของผู้เชื่อใหม่จากผู้เชื่อเก่า

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ก.ค. 01, 2005 11:56 pm

วันนี้มีโอกาสได้คุยกับเพื่อนฝรั่งที่ไม่ได้เจอกันนาน
เราก็ถามเรื่องศาสนาไปเยอะ ไปนั่งกินกาแฟที่สยามกัน

เล่าๆให้ฟังว่า เราสนใจเรื่องพระเจ้ามาครึ่งปีแล้วนะ
ก็คุยๆกันไป เค้าก็แนะนำเราดีนะ ก็บอก เรอย่าเพิ่งไปโบถส์ ให้เรหาข้อมูลให้ดีก่อนว่าคำสอนที่แท้จริงเป็นยังไง (อ้าว ไม่ให้ไปโบสถ์แล้วให้ตูไปหาที่ไหนเนี่ย) เค้าไม่ไว้ใจโบสถ์ในเมืองไทยว่า โบสถ์ไหนยึดคำสอนจริง
โบสถ์ไหนบิดเบือน เค้าได้ยินมาว่ามีลัทธิแปลกๆจากเมืองนอกมาเยอะ แล้วคนไทยกไม่มีความรู้
ไปรับเชื่อผิดๆด้วยความไม่รู้ เรต้องรู้ก่อนว่าที่ถูกเป็นยังไง ถ้าเจอคนที่ไม่ใช่คริสตชนที่ถูกต้อง เรจะได้แยกแยะได้
อืม... ก็จริงนะ

แล้วเค้าก็บอกว่า เรสามารถมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้เดี๋ยวนี้เลย โดยยังไม่ต้องไปโบถส์ก็ได้
พระองค์ทรงอยู่รอบตัวเราอยู่แล้ว อืม...เห็นด้วย (แต่เรก็ยังอยากผ่านพิธีล้างบาปก่อนถึงจะพูดได้เต็มปากว่าเราเป็นคนของพระองค์)

เค้าถามว่าแผนการของพระเจ้าที่วางไว้ให้เรา เปลี่ยนได้ หรือ ไม่ได้
เรก็งงๆ จะตอบว่าไรดีหว่า
เฉลยว่าเราจะเปลี่ยนแผนการที่ทรงวางไว้ให้เราทั้งหมดก็ได้ แต่การที่เราเปลี่ยนทุกอย่างนั้นก็เข้าแผนการอีกแผนของพระองค์อยู่ดี ... เรเหมือนๆจะเข้าใจแต่ชักเริ่มมึนนิดๆ

เค้าบอกว่า ถ้าอยากรู้เรื่องพระเจ้าให้ดีกว่านี้ ให้อ่านจากภาษาอังกฤษดีกว่า เพราะเรื่องดีๆมักไม่ค่อยมีคนแปล เล่มภาษาไทย อ่านไปเสียเวลาเปล่า (อันนี้จริงป่าวคะ??)


คุยกันอยู่ชม.กว่า แล้วเค้าก็ชวนเรไปร้านหนังสือ จะแนะนำหนังสือปรัชญาคริสต์ดีๆให้
แต่ไปที่ร้านเอเชียบุ๊ค หาหนังสือแบบที่ว่าไม่ได้สักเล่ม เค้าก็เริ่มหงุดหงิด
สักพักเพื่อนเรมาหา คือ เพื่อนเรเค้าเป็นเด็กต่างจังหวัด เกิดมาไม่เคยเจอฝรั่งในระยะเผาขนอ่ะค่ะ
มาถึงเค้าก็ทักเร ก็คุยๆกันนิดหน่อย แต่เพื่อนที่มาใหม่จะหลบสายตาเพื่อนฝรั่งตลอดเลย
พอเพื่อนเรไป ตาฝรั่งเค้าก็หันมาใส่ใหญ่เลยอ่ะว่า
คนอะไร หยาบคาย ทักทายสักคำก็ไม่มี ทำท่าหยิ่งยโสใส่เค้า
เราก็ขอโทษแทน บอกว่า เพื่อนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
เค้าก็ไม่ยอมฟังบอกว่า แค่ฮัลโหลคำเดียว พูดไม่ได้เค้าไม่เชื่อหรอก มันต้องหยิ่งแน่ๆ
เห็นเค้าเป็นไอ้โง่หรือยังไง คุยด้วยก็เอาแต่เงียบ พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย
(เพื่อนเรมันฟังไม่ออก แต่เค้าไม่เข้าใจ)
แล้วก็ว่าเพื่อนเรสารพัด ตบท้ายว่า ถ้าคราวหน้าเพื่อนคนนี้มาอีก ก็ไม่ต้องให้มาเจอเค้านะ
เจอคราวหน้าจะชกให้หน้าแหกเลย แบบนี้ ให้เรเลิกคบไปเลยดีกว่า มารยาททรามมาก
ถ้าเรเป็นแฟนกับคนนี้นะ ให้เรเลิกคบเค้าได้เลย เค้าจะไม่คบเรแล้ว (ฉันยังไม่ได้บอกสักคำว่านี่แฟน *swt)

เรก็อึ้งกิมกี่ไปเลย..... ชั้นควรจะเลิกคบคนไหนกันแน่
คือที่เค้าพูดเรื่องปรัชญาอะไรทั้งหมดที่เรนั่งฟังมาชม.นึงนี่ หมดกันเลยอ่ะ

คำสอนที่เรรู้มาลอยเข้ามาในหัว...
พระเจ้าสอนให้เราถ่อมใจ และ สุภาพ
พระเจ้าสอนให้เรารักและเข้าใจผู้อื่น
พระเจ้าสอนให้เราให้อภัยผู้อื่น
แค่ทักแล้วไม่ทักตอบ เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่เป็นเนี่ย มันร้ายแรงขนาดจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เลยเหรอ


ความน่าเชื่อถือที่เค้าพูดเหมือนเค้าเป็นคริสตชนที่ดีหายวับไปเลยทันทีอ่ะ


ที่เรนั่งคุยกับเค้าชม.นึงนี่ เหมือนไม่ได้อะไรเลย เมื่อเทียบกับสิ่งที่เรเห็น
คนเราสามารถประกาศถึงการเป็นคริสชนได้ผ่านคำพูด
แต่เราประกาศได้ชัดเจนกว่าผ่านการสำแดงชีวิต

พี่พีพีเคยบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องบอกใครๆว่าเชื่อพระเจ้าแล้วดียังไงก็ได้
การสำแดงชีวิตของเรา ให้เค้าเห็นว่า เราเป็นคนที่ดีขึ้นเมื่อมีพระคริสต์ในชีวิตต่างหากที่สำคัญ
ถ้าเราประกาศปาวๆ แต่เราไม่ทำให้เห็นจริงว่าเรานำคำสอนของพระเยซูมาใช้ในชีวิต มันจะไม่มีประโยชน์เลย

กลายเป็นว่า เรได้สัจธรรมข้อนี้มาแทนเสียนี่.... นี่อาจจะเป็นพระประสงค์ของพระองค์ก็ได้ที่ส่งเพื่อนคนนี้มาให้คุยกับเรวันนี้ (และส่งเพื่อนอีกคนมาให้เรเห็นธาตุแท้ของเค้า)


บทเรียนของผู้เชื่อใหม่ในวันนี้ ... จงสำแดงชีวิตของเจ้า
แก้ไขล่าสุดโดย -Rei- เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 01, 2005 11:59 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ ก.ค. 02, 2005 12:15 am

มธ 23:3
ถ้าเขาสั่งสอนเรื่องใด ท่านจงปฏิบัติตามเถิดแต่อย่าปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา เพราะเขาพูด แต่ไม่ปฏิบัติ


คุณเรใจเย็นๆครับ ยกโทษให้เขา และเดินตามพระเจ้าที่เราได้รู้จักแล้ว เขาอาจรู้จักเรื่องศาสนามาก่อนคุณเร แต่คุณเรเป็นคนไทย รู้จักเมืองไทยดีกว่าเขา ดังนั้น ฟังเขาไว้ก็เอามาพิจารณาไม่ต้องเชื่อไปซะหมดหรอกครับ

มธ 5:13-16 เกลือดองแผ่นดิน และแสงสว่างส่องโลก
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ก.ค. 02, 2005 12:16 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
kendo

เสาร์ ก.ค. 02, 2005 12:43 am

คุณเร มีเรื่องสั้นสอนใจ ประจำวัน มาให้อ่านอีกแล้ว ;D
และคุณ เร สามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆในชีวิต เข้ากับน้ำพระทัยพระองค์ ได้เป็นอย่างดี
แต่อย่าเชื่อที่ ฝรั่งบอกว่า อย่าเพิ่งไปเข้าโบสถ์
สมมติ มีคนมาบอก คุณเรว่า พระเยซูจะมาที่โบสถ์แม่พระฟาติมา ดินแดง ตอนหนึ่งทุ่ม วันที่ 2 ก.ค. แม่พระก็จะมาด้วย คุณ เร และ เราทุกคนคงรีบแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน แย่งกันเข้าเฝ้าพระองค์
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องสมมติ เพราะพระเยซูกำลังรออยู่จริงๆ กำลังรอพบ คุณ เร อยู่ รอมานานแล้ว รอเพื่อที่จะประทานพระพร พระหรรษทานทุกอย่าง ให้คุณ เร
joemaddog

เสาร์ ก.ค. 02, 2005 2:21 am

ฝรั่งเจออย่างนั้นเข้าไป ถ้าเป็นคนถือเรื่องมารยาทจัดๆ
มันก็อารมณ์คล้ายๆคนไทยถูกเอาเท้าชี้นะครับ
พอเข้าใจครับว่าทำไมเค้าถึงโกรธ
ก็จำไว้ว่าวันนี้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น
แล้วก็อย่าไปอคติเค้าเลยครับ
ถ้าต้องเสียเพื่อนคนนึงไปเพราะเหตุการณ์เดียวอย่างนี้
ผมว่าไม่คุ้มนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

เสาร์ ก.ค. 02, 2005 8:11 am

ก็ไม่เชิงอ่ะค่ะ แต่เหมือนๆคุยเรื่องอื่นดีกว่า ไม่คุยเรื่องศาสนาแล้ว
ต้องมาเห็นตอนเค้าวีนแตกลั่นร้านหนังสือหลังจากเพื่อนเรไปแล้วอ่ะ พูดจาหยาบคายด้วย
งงไปเลย เมื่อกี้ยังวางตัวดีมากๆอยู่เลย

จริงๆก่อนหน้านี้ก็เคยรู้สึกแปลกๆตอนที่มีเด็กมาขายดอกไม้วันแม่ กับมีคนแก่มาขายท็อฟฟี่แล้วเค้าทำเมินๆ บอกว่าเรอยากซื้อก็ซื้อไป เค้าจะไม่ซื้อ
จริงๆเราก็รู้ว่ามันไม่ดีนะ เพราะว่าถ้าซื้อแล้วก็ต้องซื้อร่ำไป แต่ถ้านี่มันเป็นอาชีพเขาก็ถือว่าให้ข้าวคนกิน เป็นไรไป
เงินเดือนเป็นหมื่น ซื้อดอกไม้เด็ก 20 บาท คิดมากอะไรกัน
ถ้าเราต้อนรับผู้เล็กน้อยที่สุดในนามพระเยซู มันไม่ดีหรือไง

เรยังไม่ได้เรียนคำสอนถ้าพูดอะไรไม่ถูกก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ แต่เรเชื่อแบบนี้อ่ะ
คริสชนที่ดีต้องใจกว้าง โอบอ้อมอารี พร้อมจะช่วยเหลือผู้อื่นในเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ถ่อมตน สุภาพ ไม่พูดหยาบคาย
ไม่โกรธคนอื่นด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เค้าไม่ได้ตั้งใจ
และให้อภัยคนอื่นได้

ไม่เชิงจะเลิกคบเค้าหรอกนะ แต่คงต้องระวังตัวไว้
รู้สึกเหมือนเค้าพูดดี แต่เค้าไม่ทำอ่ะ
บางคนพระเจ้าอยู่ที่ปาก แต่ไม่อยู่ในชีวิต ก็พูดยาก
งั้นคงต้องฟังหูไว้หู

เรื่องให้อภัย เรไม่ได้โกรธเค้าหรอก เรื่องแค่นี้สบายบรื๋อ อภัยให้ได้อยู่แล้ว
ก็พระบิดาทรงอภัยบาปของเรายิ่งกว่านี้อีก แค่นี้ทำไมจะอภัยไม่ได้
แต่งงๆมากกว่า เลยเอามาฝากให้เพิ่อนๆคิดกันเล่นๆอ่ะค่ะ ^^
แก้ไขล่าสุดโดย -Rei- เมื่อ เสาร์ ก.ค. 02, 2005 8:14 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ก.ค. 02, 2005 10:05 am

เข้ามาอ่านค่ะ :-* คงเข้าทฤษฏีที่บอกว่า เพื่อไม่ให้เกิดความหมางใจให้หลีกเลี่ยงพูด สาม เรื่อง คือ

-ศาสนา
-การเมือง
-เศรษฐกิจ

เพราะบ่อยครั้ง ความเห็นไม่ตรงกัน ทำให้มิตรภาพ แตกแยก กัน ;D

แล้วจะคุยเรื่องไรดีล่ะ :D

ผู้ที่เชื่อพระเจ้าพึ่งฤทธิ์โลหิตของพระคริสต์ ต้องแสดงผลของมันในชีวิตของเขาคือ


ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน ( กาลาเทีย ๕.๒๒-๒๓ )
joemaddog

เสาร์ ก.ค. 02, 2005 12:36 pm

ชื่นชมมุมมองและความใจกว้างของคุณเรครับ
เราคงไปบังคับอะไรใครมากไม่ได้ เอาเป็นว่าทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดแล้วกัน อย่างที่คุณเรทำอยู่ทุกวันนี้ไงครับ
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nihil
~@
โพสต์: 1763
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 4:36 pm
ที่อยู่: Pax
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.ค. 03, 2005 12:21 am

คุณเรใจดี ใจกว้าง *ok
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

อาทิตย์ ก.ค. 03, 2005 12:26 am

กับคนที่รู้จักพระมาหมาดๆอย่างพี่เร แต่มีความคิดและจิตใจต่อพระและคำสอนของพระเช่นนี้ผมยินดีและอิจฉาจริงๆครับ :)

ผมฝากข้อคิดสักนิดให้คุณเรลองดูนะครับว่าจริงไหม

"ขันใบใหญ่ย่อมตักตวงได้มากกว่าขันใบเล็ก ใจที่กว้างใหญ่ย่อมตักตวงได้มากกว่าใจที่แคบเล็ก" นั่นหมายถึงว่า ต่อให้คนที่มาตักน้ำก่อนหน้าเรานานแค่ไหนถ้าขันเขาเล็กเขาก็ตักได้น้อยกว่าเราซึ่งมาทีหลังแต่มีขันใบใหญ่กว่า :)
แก้ไขล่าสุดโดย พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เมื่อ อาทิตย์ ก.ค. 03, 2005 12:28 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.ค. 03, 2005 7:47 am

Prod Pran เขียน:
เข้ามาอ่านค่ะ :-* คงเข้าทฤษฏีที่บอกว่า เพื่อไม่ให้เกิดความหมางใจให้หลีกเลี่ยงพูด สาม เรื่อง คือ

-ศาสนา
-การเมือง
-เศรษฐกิจ

เพราะบ่อยครั้ง ความเห็นไม่ตรงกัน ทำให้มิตรภาพ แตกแยก กัน ;D

แล้วจะคุยเรื่องไรดีล่ะ :D

ผู้ที่เชื่อพระเจ้าพึ่งฤทธิ์โลหิตของพระคริสต์ ต้องแสดงผลของมันในชีวิตของเขาคือ


ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน ( กาลาเทีย ๕.๒๒-๒๓ )


เห็นด้วยกับพี่พีพีอย่างแรงครับ สามเรื่องนี้ ทำเอาคนดีๆและเป็นเพื่อนแท้กันตลอด ต้องต่อยกันเองมานักต่อนักแล้ว ผมว่าเราพูดกันเรื่องความรัก(จากพระ)กันดีก่า

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.ค. 03, 2005 9:23 pm

princess of wands เขียน: กับคนที่รู้จักพระมาหมาดๆอย่างพี่เร แต่มีความคิดและจิตใจต่อพระและคำสอนของพระเช่นนี้ผมยินดีและอิจฉาจริงๆครับ :)

ผมฝากข้อคิดสักนิดให้คุณเรลองดูนะครับว่าจริงไหม

"ขันใบใหญ่ย่อมตักตวงได้มากกว่าขันใบเล็ก ใจที่กว้างใหญ่ย่อมตักตวงได้มากกว่าใจที่แคบเล็ก" นั่นหมายถึงว่า ต่อให้คนที่มาตักน้ำก่อนหน้าเรานานแค่ไหนถ้าขันเขาเล็กเขาก็ตักได้น้อยกว่าเราซึ่งมาทีหลังแต่มีขันใบใหญ่กว่า :)
ขอบคุณค่ะ จะพยายามต่อไปค่ะ คือเรยังไม่ทราบอะไรอีกมากมาย ถ้าพูดอะไรผิดไป หรือเข้าใจอะไรไม่ถูกก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
หลายๆครั้งที่เจอเหตุการณ์ในชีวิต แล้วก็เกิดสงสัยว่า ที่เราคิดนี่มันถูกหรือเปล่าอ่ะค่ะ
คงต้องมารบกวนถามบ่อยๆนะคะ ^^

ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

ปล. ขนาดของขัน ไม่ได้แปรผันตรงกับน้ำหนักตัวใช่ป่ะคะ ช่วงนี้อ้วนมากเยย >_<
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

อาทิตย์ ก.ค. 03, 2005 9:42 pm

อิอิ ไม่เกี่ยวกันครับแต่สำหรับพี่....... แล้วต้องอันนี้

"กะละมังใบใหญ่ย่อมตักตวงได้มากกว่ากะละมังใบเล็ก ตัวที่กว้างใหญ่ย่อมตักตวง(ใขมัน)ได้มากกว่าตัวที่แคบเล็ก" 555555
ภาพประจำตัวสมาชิก
Champkun
โพสต์: 570
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 10:35 pm
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.ค. 03, 2005 9:47 pm

SugarRei เขียน:
พี่พีพีเคยบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องบอกใครๆว่าเชื่อพระเจ้าแล้วดียังไงก็ได้
การสำแดงชีวิตของเรา ให้เค้าเห็นว่า เราเป็นคนที่ดีขึ้นเมื่อมีพระคริสต์ในชีวิตต่างหากที่สำคัญ
ถ้าเราประกาศปาวๆ แต่เราไม่ทำให้เห็นจริงว่าเรานำคำสอนของพระเยซูมาใช้ในชีวิต มันจะไม่มีประโยชน์เลย
ชอบตรงนี้มากเลยครับ
Wasu

เสาร์ ก.ค. 09, 2005 7:30 pm

มนุษย์ทุกคนย่อมแตกต่างกันครับไม่มากก็น้อย เกิดร่วมท้องเดียวกันบางทียังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยครับ แต่พวกเราคริสตชนที่มีใจรักพระเจ้าเหมือนกันทุกคน ก็ย่อมต้องให้อภัยในความแตกต่างของทุกๆคนครับ Double Standard น่ะครับ ;D
ตอบกลับโพส