พระสันตะปาปา ตรัส คือบาปของพระศาสนจักร ที่ต้องกล่าวโทษ ในเรื่องอื้อฉาวทางเพศ
จาก กรณีเรื่องอื้อฉาวที่พระคาทอลิกได้ไปล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กชายนี่เอง ทำให้ในวันอังคารที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เบเนดิค ที่ 16 ออกมาตรัสแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมชี้ว่า เหตุทั้งหมดนี้เกิดขึ้นขากบาปในพระศาสนจักรเอง ขณะที่พระองค์เสด็จเยือนประเทศโปรตุเกส
พระสันตะปาปาชี้ว่า พระศาสนจักรคาทอลิกประสบปัญหาให้ถูกกล่าวโทษหลายต่อหลายคราว และปัญหานั้นเกิดขึ้นจากภายในเอง พระศาสนจักรต้องเรียนรู้ที่จะสำนึกในความผิด ยอมรับซึ่งการชำระล้าง และเรียนรู้ซึ่งการให้อภัย หากแต่ต้องคงไว้ซึ่งความยุติธรรม
พระ สันตะปาปาทรงสัญญาว่า พระศาสนจักรจะดำเนินการทุกอย่างในการปกป้องเด็กๆ และให้พระนักบวชทุกรูปที่กระทำการล่วงละเมิดนี้ ถูกลงโทษอย่างยุติธรรม โดยพระสันตะปาปาเริ่มลงมือกวาดล้างให้พระศาสนจักร ถูกชำระล้างให้สะอาดขึ้นใหม่ โดยเริ่มตั้งแต่การลงชื่อในการปลดพระบิชอปหลายรูป ที่มีส่วนในการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและเยาวชน หรือแม้กระทั่งพยายามปกปิดความผิดของพระสงฆ์ในสังกัดของตน ออก
แต่ แม้พระสันตะปาปาจะทรงกระทำการเช่นนี้ หลายฝ่ายก็ยังวิพากษ์วิจารณ์ และต้องการเห็นการลงโทษที่รุนแรง และเป็นรูปธรรมมากกว่านี้
ประเทศ โปรตุเกส มีประชากรกว่า 90 % เป็นคาทอลิก แต่มีประชากรเพียงแค่ราว 2 ล้านคน จากราว 10 ล้าน 6 แสนคน ที่แสดงตนว่าเป็นคาทอลิกที่ลงมือปฏิบัติจริง ไม่ใช่คาทอลิกแต่ในทะเบียน และในช่วงหลายปีหลังนี้ ดูเหมือนโปรตุเกสจะถอยห่างทีละน้อยจากคำสั่งสอนของพระศาสนจักร
นั่นหมาย รวมถึงการอนุมัติกฎหมายการอนุญาตให้ทำแท้งได้ ของรัฐบาลสังคมนิยมซ้ายจัด ในปี 2007 และในปีต่อมา กฎหมายก็รองรับให้คู่สามีภรรยากระทำการหย่าได้ แม้จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคัดค้านก็ตาม โดยการออกกฎหมายดังกล่าว ใช้คำสวยหรูอ้างว่า ทั้งหมดทำไปเพื่อให้ประเทศชาติมีความทันสมัย ขณะที่ในสัปดาห์หน้า ทางสภาจะมีการพิจรนากฎหมายเรื่องการอนุญาติให้คู่สมรส สามารถแต่งงานกับเพศเดียวกันกับตนได้ ซึ่งหากโปรตุเกสผ่านกฎหมายนี้ได้สำเร็จ จะทำให้โปรตุเกสเป็นประเทศที่ 6 ในยุโรป ที่อนุญาติให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้
พระ สันตะปาปา เบเนดิค ทรงแสดงความห่วงใยเป็นพิเศษ ต่อค่านิยมในปัจจุบันทางฝั่งยุโรป และพระองค์ยังกล่าวตำหนิอย่างรุนแรงต่อกฎหมายที่อนุญาติให้มีการทำแท้งของ โปรตุเกส
พระสันตะปาปา ยังทรงตรัสถึงเรื่องวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลก ณ ปัจจุบันอีกด้วยว่า เป็นคราวสำคัญที่ศีลธรรมควรถูกใส่ลงไปควบคู่กับเรื่องทางการเงิน โดยในสาสน์ของพระองค์ในปี 2009 ในหัวข้อ “การกุศลในความเป็นจริง” (Charity in Truth) ได้ร่างนำ เค้าโครงมุมมองของพระองค์ ในการนำศีลธรรม และความรับผิดชอบ ใส่ลงไปควบคู่กับทางเศรษฐกิจ
โปรตุเกส เป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก และยิ่งประสบภาระปัญหาหนักในช่วงวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลกนี้ และในปีที่ผ่านมายังประสบปัญหาเรื่องอื้อฉาวจากการกระทำของพระบิชอปตามมาซ้ำ เติมอีก หลายคนเชื่อว่าการเสด็จมาเยือนของพระสันตะปาปาในเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ เป็นการนำมาซึ่งสารแห่งความหวัง ที่มาตอบสนองต่อประชาชนผู้หิวกระหายซึ่งความยุติธรรม และภราดรภาพที่จางหายไป จากสังคมของพวกตน
แต่กระนั้น โปรตุเกสก็เป็นสถานที่ท่ามกลางประชาชาติ ที่ความเชื่อความศรัทธา ได้แพร่ขยายขจรขจายไป นับรวมทั้ง 5 ทวีป มีโบสถ์จำนวนนับไม่ถ้วนทั่วโลก ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาโดยคณะมิชชันนารีชาวโปรตุเกส อันมีส่วนผลักดันให้คริสต์ศาสนาแพร่กระจายไปทั่วโลกด้วยเช่นเดียวกัน
สุด ท้าย พระสันตะปาปาปิดท้ายการเสด็จมาเยือนโปรตุเกสด้วยพิธีมิซซา แบบเปิด ที่จัตุรัสลิสบอน โดยจากปากคำของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่ามีผู้คนราว 150,000-200,000 คน มาเข้าร่วมในพิธีการในครั้งนี้เลยทีเดียว
รับ ชมคลิปวีดีโอ พระสันตะปาปาเสด็จเยือนประเทศโปรตุเกส เป็นเวลา 4 วัน ได้ที่นี่
http://news.yahoo.com/video/world-15749633/19711541
