+...+ สัมพันธภาพแบบ พระเยซูเจ้า +...+

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

ศุกร์ ก.ค. 23, 2010 11:33 am

รูปภาพ

“สัมพันธภาพแบบ พระเยซูเจ้า”

พระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลกนี้ เพื่อเป็นหนึ่งในระหว่างพวกเรา
พระองค์ทรงเป็นหนึ่งกับประชาชน เพื่อเบิกทางชีวิตให้เราทุกคนได้รับรู้ว่า
เราแต่ละคนสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวด ความหวัง และความรู้สึกอันเดียวกัน

สังคมทุกวันนี้ เราอาจกล่าวได้ว่า คุณภาพของสัมพันธภาพของเราเป็นเครื่องชี้วัดความเป็นคริสตชนเที่ยงแท้ ทั้งความสัมพันธ์ต่อการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะและความสัมพันธ์ต่อปัจเจกบุคคล ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการสื่อพระวรสาร ณ วันนี้ และในยุคสมัยต่อๆ ไป รูปแบบของความสัมพันธ์ของเราแบ่งได้ 10 ประการดังนี้


1. “จงเป็นดั่งที่เราเป็น” พระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลกนี้ เพื่อเจริญชีวิตอยู่กับเรา เพื่อเราแต่ละคนจะได้มีอัตลักษณ์ เฉพาะบุคคล พระเจ้าทรงสร้างเราให้ “เป็นอย่างที่เราเป็น” ดังนั้น จงอย่าพยายามเป็นเหมือนคนนั้น คนนี้ หรือแม้แต่จะพยายามเป็นเหมือนกับพระเยซูเจ้า จงอย่าพยายามกลายเป็นจิต หรือมุ่งชีวิตจิต พระจิตเจ้าทรงแสดงบทบาทในพระคัมภีร์ มิใช่ในรูปแบบชีวิตจิตอย่างที่เราตีความกันในคุก เทวทูตของพระเจ้าได้มาบอกท่านว่า “ลุกขึ้น ใส่รองเท้า คาดเข็มขัด และจงตามเรามา” นี่คือคำพูดของเทวทูต


2.“จงเป็นหนึ่งกับคนรอบข้าง”พระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลกนี้ เพื่อเป็นหนึ่งในระหว่างพวกเรา พระองค์ทรงเป็นหนึ่งกับประชาชน เพื่อเบิกทางชีวิตให้เราทุกคนได้รับรู้ว่า เราแต่ละคนสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวด ความคาดหวัง และความรู้สึกอันเดียวกัน


3. “จงรู้จักฟังเสียงของผู้คน”การฟังคนอื่นนั้นเป็นการแสดงออกของความรักแบบหนึ่ง ศาสนบริการในการฟังนั้นหาได้ไม่ง่ายนัก จงพยายามคิดถึงวันเก่าๆ ที่เรามีภาพแห่งความทรงจำของใครสักคนหนึ่ง ซึ่งเรากำลังถาม หรือฟังเขาอย่างตั้งใจ เมื่อมีการแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก และความเจ็บปวดซึ่งกันและกัน เราจะสัมผัสได้ถึงความรักขององค์พระเจ้า ผ่านทางบุคคลที่เรากำลังฟังเขาอยู่


4. “จงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่กัน”บ่อยครั้งที่เราชอบทำตัวเหมือนกับนักบุญยอห์น บัปติสต์ ชอบสอน ชอบชี้ข้อบกพร่อง ชอบจ้องจับความผิดของคนอื่น สิ่งเหล่านี้มักส่งผลให้บุคคลอื่นพาลโกรธเรา แต่พระเยซูเจ้ากลับมีวิธีการที่ต่างออกไป พระองค์ทรงเริ่มจากความเชื่อมั่นในตัวของผู้คน พระองค์ทรงเรียกบรรดาชาวประมงให้มาเป็นอัครสาวกผู้ใกล้ชิดผู้ใกล้ชิด พระองค์ทรงให้อภัยหญิงโสเภณี ทรงเรียกฟาริสที่ชื่อว่าซักเคียส และทรงชื่นชมชาวสะมาริตัน


5. “จงร่วมกันตัดสินใจ”เราให้เกียรติกับผู้อื่น เมื่อเราให้เขามีบทบาท ร่วมวางแผน เราต้องรู้จักร่วมกันวางแผนในบ้าน ในวัด ในโรงเรียน ในครอบครัว หรือในสังคม เราต้องพยายามให้ทุกคนได้ออกความคิดเห็น ได้มีส่วนร่วมได้มีบทบาทในการวางแผน ในการตั้งเป้าหมาย และวางยุทธศาสตร์ร่วมกัน


6. “จงอย่าคิดที่จะเปลี่ยนคนอื่น”ในโลกนี้ จะมีใครสักคนไหมที่จะคอยช่วยเรา ยามที่เราตกในวิกฤติของชีวิต บางทีอาจไม่มีใครเลยแม้สักคนที่คอยให้คำแนะนำแก่เราก็เป็นได้ เพราะเวลาที่ใครสักคนหนึ่งให้คำแนะนำแก่เรา ก็เท่ากับว่าเขากำลังวางตนเป็นผู้ใหญ่เหนือเรา ซึ่งเมื่อใครคนหนึ่งกดดันให้อีกคนเปลี่ยนแปลงก็ดูเป็น เครื่องบ่งชี้ว่าบุคคลนั้นไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับ เขาจึงต้องใช้การกดดันเข้าช่วย


7. “จงรักอย่างเฉพาะเจาะจง”การที่เราจะรักใครสักคน ณ เวลาหนึ่ง และรักเขาในรูปแบบเฉพาะเจาะจงนั้น ย่อมมีความหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกครั้งที่เราพยายามจะรักทุกคน อุปสรรคก็มักตามมา เพราะเราสามารถรักได้เพียงแค่คนบางกลุ่ม เฉกเช่นภารกิจเฉพาะของพระเยซูเจ้า ซึ่งพระอาณาจักรของพระเจ้าทั้งครบมาถึง เรา เพราะพระเยซูเจ้าทรงใช้เวลาเพียง 3 ปีในการสร้างความสัมพันธ์กับอัครสาวกแค่ 12 คน


8. “จงรู้จักขอความช่วยเหลือ”คนเราต้องรู้จักน้อมรับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นด้วย นี่เป็นคุณลักษณะอีกประการหนึ่งของพระเยซูเจ้า ซึ่งนับเป็นภาวะผู้นำที่ดีสำหรับคนในยุคสมัยของเรานี้ พระเยซูเจ้าทรงร้องขออาหาร น้ำ ขอความช่วยเหลือ พระองค์ทรงแสวงหามิตรภาพจากคนอื่นด้วย หากเราเต็มใจที่จะขอความช่วยเหลือ ก็หมายความว่า เรากำลังเข้าถึงศาสนบริการในสิ่งที่เราไม่ชำนาญ หรือขาดความสามารถในด้านนั้น


9. “จงรักผู้อื่นอย่างมีความหมาย” เราต้องรู้จักให้ในสิ่งที่คนอื่นเขาต้องการ มิใช่ให้เขา ในสิ่งที่เราอยากจะให้หรือให้ ในสิ่งที่เขาไม่ต้องการ บุคคลหนึ่งต้องการความช่วยเหลือจากเรา ก็เฉพาะแต่ในสิ่งที่เขาสามารถจะรับรู้ หรือสัมผัสได้ว่าเรามีความใส่ใจดูแลเขา


10. “จงพร้อมที่จะยอมทุ่มเท” ความสัมพันธ์ที่มีความหมายเรียกร้องความพร้อมสรรพที่จะยอมรับบาดแผลชีวิตพร้อมที่จะรัก พร้อมที่จะถูกหัวเราะเยาะพร้อมที่จะได้รับการ เข้าใจผิด พร้อมที่จะถูกปฏิเสธ พร้อมที่จะพบกับความขัดแย้งหรือความเสียใจ เพื่อที่เราจะได้มีความรักอย่างสมบูรณ์และลึกซึ้ง โดยมีความเชื่อมั่นอยู่ลึกๆในใจว่า พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเราแล้วนั้นเราก็จะสามารถพบกับคำตอบของชีวิตของเราในพระองค์


:s024: แหล่งที่มา : นิตยสารครอบครัวซาเลเซียน ปีที่ 53 กรกฏาคม 2553
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ก.ค. 23, 2010 2:48 pm

ขอบคุณมากค่ะ ที่นำข้อมูลดีๆ มาแบ่งปันค่ะ :s023:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ชิปโป
โพสต์: 184
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 03, 2006 4:17 am

เสาร์ ก.ค. 31, 2010 12:47 am

ขอบคุณคับ :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ส.ค. 01, 2010 1:41 am

ขอบคุณค่ะ :s012:
ตอบกลับโพส