ว่าด้วยภาพยนตร์ฅนไล่ผี(THE RITE)

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

เสาร์ ก.พ. 12, 2011 11:56 pm

*ไม่แน่ใจว่า จะมีใครมาถามแบบนี้ ในบอร์ดนี้ในอนาคตหรือไม่
แต่บอร์ดนี้ เคยมีกระทู้ของคุณ .... Nihil ที่เขียนไว้ดีแ้ล้วในเรื่องนี้

แต่ขอแบ่งปันเสียเล็กน้อย

"ว่าด้วยภาพยนตร์ฅนไล่ผี"

ด้วยความบังเอิญหลังจากที่ หมู่คณะของวีรฺตูสเซียนได้สวดภาวนาส่วนรวม
เรียบร้อย พวกเรามีโอกาสได้ไปชมภาพยนตร์ร่วมกัน
เป็นภาพยนตร์ว่าด้วยการไล่ผีตามขนบธรรมเนียมคาทอลิก ที่ใช้ชื่อว่า THE RITE

อันที่จริง เราอาจเคยเห็นบ้างในภาพยนตร์เก่าๆ เช่น THE EXORCIST
แต่การนำเสนอในเรื่องนี้ มีความน่าสนใจ เพราะประกอบไปด้วยข้อมูลที่มากขึ้น
ซึ่งข้อมูลที่มากขึ้นนี้ คงจะดีกว่าถ้าจะมีการอธิบายเพิ่มเติมบ้าง

คำว่า “ไล่ผี” ในภาษาลาตินว่า “EXORCISMUS” มีความเกี่ยวข้องกับการอ้อนวอน
เราเห็นภาพพจน์นี้ชัดเจนขึ้นในพระวรสารนักบุญลูกา บทที่ 8 บาทที่ 31
“ปีศาจอ้อนวอนพระเยซูเจ้าว่า ไม่ต้องการกลับไปขุมนรก” (ลูกา 8:31)

ถูกต้องแล้ว พระอาจารย์เจ้าของเราเคยไล่ผี เรื่องนี้ มีอยู่หลายส่วนในพระคัมภีร์
เช่น เหตุการณ์ในพระวรสารนักบุญมัทธิว บทที่ 12 บาทที่ 24-28

การไล่ผีตามรูปแบบของพระศาสนจักรมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด
ภาพยนตร์เรื่องนี้ บอกไว้ชัดว่า เช่น จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ในท้องถิ่น
ซึ่งหมายถึง พระสังฆราช ร่วมกับวินิจฉัยของแพทย์ที่ว่า ไม่ป่วยทางจิต

เพราะพฤติกรรมต่อต้านสามารถพบได้ในผู้ป่วยทางจิตเช่นเดียวกัน
การบิดเกร็งร่างกายในองศาที่ผิดปกติ ผู้ป่วยทางจิตอาจทำได้
ซึ่งในต่างประเทศ เห็นได้ชัดว่ามีเส้นแบ่งบางๆเรื่องนี้
อาจดูภาพยนตร์เรื่อง THE EXORCISM OF EMILY ROSE ประกอบ

ดังนั้น มิติของการไล่ผีในภาพยนตร์
เป็นคนละระดับกับการขับไล่สิ่งชั่วร้ายแบบธรรมดา ไม่ใช่เพียงการสวดมนต์
แต่เป็นสนามรบระหว่างฤทธานุภาพอันไม่ปรากฏแก่ตา
กับปีศาจที่พยายามจะต่อกรกับพระองค์ด้วยความจองหอง

จึงมีข้อพิจารณาว่า ให้สงวนไว้สำหรับนักบวช เฉพาะอย่างยิ่งพระสงฆ์

ในทางปฏิบัติ ผู้ที่มีความเชื่อมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้าสามารถไล่ผีได้
กรณีที่เราไม่พบ “ศาสนบริกร” นั่นหมายความ คับขันมาก หลีกเลี่ยงไม่ได้

กฎเกณฑ์ทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้นได้บ้าง
ให้พิจารณาตามแบบที่พระอาจารย์เจ้า ทรงวางไว้ให้ ระมัดระวังอย่างกระทำตนอย่างฟาริสี

มิเช่นนั้น
จะเข้าทางของ “ปีศาจ” อีกต่อหนึ่ง

การประสบกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประจญ หรือมีปีศาจเกี่ยวข้อง
จึงเต็มไปด้วยความสุ่มเสี่ยง ทางที่ดีจงหลีกเลี่ยงโอกาสเสี่ยงที่จะประสบ
การหลีกเลี่ยงมิใช่หลับหูหลับตา แต่จงพิศเพ่งเฉพาะองค์พระผู้เป็นเจ้า เท่านั้น

เพราะปีศาจ รู้พระคัมภีร์ รู้ทุกอย่าง รู้บาปของเรา นั่นทำให้มัน รู้จุดอ่อนของเราด้วย
มันพยายาม “ทดสอบเรา” เสมอในทุกวิธีการ
พระอาจารย์เจ้าของเราเป็นตัวอย่างให้เราเห็นในเรื่องนี้

เราจงถ่อมตนลงเฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้า อย่างตรอมตรม
เราจงเป็นทุกข์ถึงบาปที่เราได้กระทำ จงยอมรับในตัวตนที่อ่อนแอ
อย่ากลัว เพราะชีวิตนี้มิใช่ของเราอีกต่อไป
แต่เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงวางใจในพระองค์

การตอบโต้ด้วยอารมณ์ทุกวิถีทางเป็นการเข้าทางปีศาจทั้งสิ้น
อย่าเข้าใจผิดว่า ความรู้สึกไม่อยาก เกลียดชัง เกลียดกลัว
เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะบางครั้งเมื่อมันมากเกินไปแล้ว
จะเกิดปัญหา เพราะทำให้เราจดจ่อกับมันโดยไม่รู้ตัว

อันตรายที่สุด เมื่อมันแฝงตัวมาอย่างที่เราไม่รู้ตัวเลย
มันแฝงตัวเรามาอย่างมิตร ทำให้เราตามืดบอด เหมือนฟาริสีบางฅน
ดังนั้น พระบัญชาเดียวขององค์พระเยซูเจ้า คือ “จงรัก”

“รักให้มันจริง”

ขอสวัสดีพร้อมกับคำภาวนา,
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 12:12 am

ต้องระมัดระวังการประจญเสมอ
เฉพาะอย่างยิ่ง การตอบโต้อย่างรุนแรง และด้วยอารมณ์ที่เผ็ดร้อน
แม้ว่าจะคุยในเรื่องขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่จงระลึกเถิดว่า
ที่ใดชุมนุมกันในนามของพระองค์มากกว่า 2-3 ฅน พระองค์ประทับอยู่
เราจะแสดงกิิริยาเช่นนี้เฉพาะพระพักตร์กระนั้นหรือ

ถ้าจะเป็นฅนจริงก็ต้่องแบบมัทธิว คือ
"จริง ก็ว่า จริง, ไม่ ก็ว่า ไม่ พูดเท่านี้พอ"

ดังนั้น การประจญที่น่ากลัวคือ การประจญที่แฝงมานี่แหละ
เราต้องพิจารณามโนธรรมอย่างละเอียด และเปลือยเปล่าตนเอง
เราต้องยอมรับในความคิดอกุศล หรือเรื่องต่างที่ไม่ดี
เพราะเราต้องรู้ว่า เราไม่ใช่ฅนดีบริบูรณ์

ต่อให้ดีในสายตาทุกฅนในโลก?
มีเสียงสรรเสริญ และฅนสนับสนุนมากมาย
แต่กล้าแน่ใจหรือว่า ดี?

ดังนั้น เรื่องจึงกลับไปที่

"ความนบนอบเป็นอาวุธสำคัญในการเอาชนะปีศาจ
ด้วยว่า บาปจองหองจะนำพาทุกบาปมา
ถ้าเราเจริญความนบนอบจนไม่เปิดโอกาสให้บาปจองหองแล้ว
บาปอื่นก็เกิดความกำเริบได้ยาก เพราะชีวิตมีแต่ความถ่อมตน"

ใช่แล้ว จงเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อยเถิด
และตื่นเฝ้า ภาวนา อยู่เสมอเพื่อจะได้ไม่ถูกทดลอง,

ด้วยว่า
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 12:16 am

ด้วยว่า
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงผินพระพักตร์เมตตามายังเรา
และตรัสปลอบโยนเราเสมอว่า "ลูกเอ๋ย ร้องไห้ทำไม"

เมื่อนั้น จงมีความชื่นชมยินดีเถิด
เพราะเราได้ชนะโลกแล้ว และมิได้เป็นของโลกอีกต่อไป

มารจึงไม่อาจมีชัยชนะเหนือเราได้
มิใช่เพราะเราจองหองในชัยชนะ
แต่เพราะพระเป็นเจ้าทรงบัญชาให้เป็นเช่นนั้นตามสัญญา

ดังนี้
เราจึงมีพละกำลังในฐานะแสงสว่างส่องโลก
ซึ่งจะให้รังสีที่อบอุ่นเสมอไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
yuki
โพสต์: 681
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 01, 2006 5:02 am

อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 4:45 am

ไปดูกับพี่ที่บริษัทมาเหมือนกัน...พี่เค้าสงสัยว่า ทำไมต้องรู้ชื่อก่อนถึงจะไล่ได้???
ใครทราบช่วยแบ่งปันที่ครับ
เพราะพี่แกเทียบว่าเหมือนเล่นซ่อนแอบ พอเจอก็แบบว่า "อุ้ยจับได้ละ...ไปดีกว่า" อะไรทำนองนี้
blue_cross
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 9:05 am

อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 9:23 am

yuki เขียน:ไปดูกับพี่ที่บริษัทมาเหมือนกัน...พี่เค้าสงสัยว่า ทำไมต้องรู้ชื่อก่อนถึงจะไล่ได้???
ใครทราบช่วยแบ่งปันที่ครับ
เพราะพี่แกเทียบว่าเหมือนเล่นซ่อนแอบ พอเจอก็แบบว่า "อุ้ยจับได้ละ...ไปดีกว่า" อะไรทำนองนี้
เคยถามพี่คนนึงค่ะ พี่เค้าตอบว่า
การที่ปีศาจยอมบอกชื่อของตนเองนั้นก็เท่ากับว่ามันได้ยอมรับกับตนเอง
ว่าเป็นตัวมันที่กำลังทำร้ายสิ่งที่คนที่มันรักรักที่สุดนั่นคือการทำร้ายมนุษย์ซึ่งพระเป็นเจ้ารัก
เหมือนคนที่ทำความผิดแล้ว จำเป็นต้องยอมรับว่าตนเองทำความผิด
ด้วยความที่เกลียดชังตนเองและความผิดบาปของตนเองมาก จึงทำให้ปีศาจทนไม่ได้ จนยอมออกไปค่ะ

ไม่ใช่แค่เพียงปีศาจ... เหล่าคนบาปทั้งหลายก็เช่นกัน
หากได้มาย้อนระลึกว่าตนเองได้ทำผิดบาปอะไรไปบ้าง
ทำให้พระเสียใจ และหมิ่นพระเกียรติมงคลไปเ่ท่าใดบ้าง
ทั้งบาปที่จำได้และจำไม่ได้ ก็ย่อมต้องมีความเสียใจและเป็นทุกข์ถึงบาปเช่นกัน

แต่เราต่างจากปีศาจ ตรงที่ เราไม่ได้จมอยู่กับความผิดบาปนั้นที่เราได้เคยกระทำ
เรายอมรับกับพระเป็นเจ้าและยอมรับกับตนเอง สำนึกโทษบาป ขอโทษพระว่าเราจะไม่ทำบาปอีก
ดังที่ปรากฎในบทแสดงความทุกข์ (ขอใช้แบบเก่าในการนำมาอ้างอิง เพราะเห็นว่าความครบ)

"ข้าแต่พระเป็นเจ้า... ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เสียใจที่ได้กระทำบาป
เพราะบาปเรียกร้องอาชญาของพระองค์. แต่เป็นต้นเพราะมันทำเคืองพระทัยพระองค์
ซึ่งดีและน่ารักยิ่งนัก. เดชะพระหรรษทานช่วย ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำบาปอีกเลย
ทั้งจะอุตสาห์ใช้โทษ ขอทรงพระกรุณายกบาปแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด. อาแมน"
ภาพประจำตัวสมาชิก
salvation7
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 522
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.พ. 13, 2011 3:46 pm

ไปดูเรียบร้อย สนุกดี เมื่อก่อนดู The Exocist หลับค่ะ อิอิ :s013: พอเรื่องนี้ ok สนุกดี ชอบมาก เพิ่มความเชื่อ ความศรัทธา วางใจในพระองค์ผู้เป็นแสงสว่างแห่งสรรพสิ่งทุกอย่าง มากยิ่งขึ้น และก็เกิดเหตุการณ์แปลก ก่อนที่ไปดูเรื่องนี้ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าพระองค์ ชี้นำให้เราเข้าใจอะไรสักอย่าง กำลังพิจารณาเหตุการณ์ที่ไขแสดงให้เกิดขึ้นนี้????? :s002:
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ ก.พ. 14, 2011 7:46 am

เท่าที่ทราบมา ใน De Exorcizandis Obsessis A Daemonio

คำถามที่ว่า "ไล่ผีทำไมต้องถามชื่อ" ให้ IDEA กับเราดังนี้

(1) ถ้าตอบแบบตามกฎเกณฑ์ การถามชื่อปีศาจ ถือเอาตามเหตุการณ์ในพระวรสารนักบุญมาระโก ในตอนที่พระเยซูเจ้าถามว่า "จงออกไปจากฅนผู้นี้ และเจ้ามีชื่อว่าอะไร" (มาระโก 5:9) --- ในการไล่ผี ผู้ประกอบพิธีจำเป็นต้องเดินตามกฎเกณฑ์ที่ปรากฎ หรือ ได้รับแรงบันดาลใจจากพระวรสารอย่างเคร่งครัด

* จริงๆคำแนะนำตามกฎยังละเอียดไปถึงว่า "คำถามที่จำเป็น" เช่น "ถามจำนวนปีศาจ,สิงนานเท่าไรแล้ว,ทำไมต้องมาสิง" ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเพื่อถอนรากถอนโคนมันให้หมดสิ้น

15.Necessariae vero interrogationes sunt,ex.de numero et nomine spirituum obsidentium,de tempore quo Ingressisunt,de causa

(2) ถ้าตอบแบบทางปฏิบัติ แบบ blue Cross ก็โอเคแล้ว

(3) เรื่องนี้การตอบคำถามเป็นปลายเปิดเช่นกัน ขึ้นอยู่กับมุมมองและประสบการณ์ของชีวิตฝ่ายจิตใจที่มีต่อเหตุการณ์เหล่านั้น ที่สำคัญต้องรู้ว่ามีหลักการ หรือแนวคิดอะไรบ้างไว้ก่อน

พระอวยพร,
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ ก.พ. 14, 2011 7:46 am

เท่าที่ทราบมา ใน De Exorcizandis Obsessis A Daemonio

คำถามที่ว่า "ไล่ผีทำไมต้องถามชื่อ" ให้ IDEA กับเราดังนี้

(1) ถ้าตอบแบบตามกฎเกณฑ์ การถามชื่อปีศาจ ถือเอาตามเหตุการณ์ในพระวรสารนักบุญมาระโก ในตอนที่พระเยซูเจ้าถามว่า "จงออกไปจากฅนผู้นี้ และเจ้ามีชื่อว่าอะไร" (มาระโก 5:9) --- ในการไล่ผี ผู้ประกอบพิธีจำเป็นต้องเดินตามกฎเกณฑ์ที่ปรากฎ หรือ ได้รับแรงบันดาลใจจากพระวรสารอย่างเคร่งครัด

* จริงๆคำแนะนำตามกฎยังละเอียดไปถึงว่า "คำถามที่จำเป็น" เช่น "ถามจำนวนปีศาจ,สิงนานเท่าไรแล้ว,ทำไมต้องมาสิง" ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเพื่อถอนรากถอนโคนมันให้หมดสิ้น

15.Necessariae vero interrogationes sunt,ex.de numero et nomine spirituum obsidentium,de tempore quo Ingressisunt,de causa

(2) ถ้าตอบแบบทางปฏิบัติ แบบ blue Cross ก็โอเคแล้ว

(3) เรื่องนี้การตอบคำถามเป็นปลายเปิดเช่นกัน ขึ้นอยู่กับมุมมองและประสบการณ์ของชีวิตฝ่ายจิตใจที่มีต่อเหตุการณ์เหล่านั้น ที่สำคัญต้องรู้ว่ามีหลักการ หรือแนวคิดอะไรบ้างไว้ก่อน

พระอวยพร,
ตอบกลับโพส