แม่พระแห่งนานาชาติ

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

อาทิตย์ เม.ย. 10, 2011 5:59 pm

รูปภาพ
แม่พระแห่งนานาชาติ
Our Lady of All Nations

บทภาวนาของแม่พระแห่งนานาชาติ
“ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระบิดา โปรดส่งพระจิตศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์มายังโลก ขอให้พระจิตเจ้าทรงประทับในดวงใจของมนุษย์ทุกชนชาติ เพื่อคุมครองมนุษย์ทุกคนให้พ้นจากหายนะภัยต่างๆ ความเสื่อมถอยของจิตใจ และภัยจากสงคราม ขอพระนางพรหมจารีย์มารีย์ แม่พระแห่งนานาชาติ โปรดเป็นคนกลางและทนายแก้ต่างให้แก่พวกเราด้วยเทอญ อาแมน”
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

อาทิตย์ เม.ย. 10, 2011 6:17 pm

สาส์นของแม่พระวันที่ 31 พ.ค. 1955
ประทานแก่ ไอดา เปียเดอมาน ที่กรุงอัมสเตอดัม ประเทศฮอลแลนด์

รูปภาพ
ไอดา เปียเดอมาน

(ระหว่างการอวยพรศีลในโบสถ์นักบุญโทมัส อควินัส) แม่พระตรัสว่า “จงสวดบทภาวนาของแม่” แต่ ดิฉันรู้สึกไม่สบายใจและไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะสวดภาวนาได้ในทันที แม่พระจึงตรัสอีกครั้งว่า “จงสวดบทภาวนาของแม่” และพระนางทรงเริ่มสวดภาวนา “ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า...” และให้ฉันสวดต่อ.

แม่พระทรงหยุดรอสักพักหนึ่ง ทรงเพ่งมองไปยังเบื้องหน้าของพระนางแล้วตรัสว่า

“แม่ยืนอยู่ที่นี่ในฐานะแม่พระแห่งนานาชาติ ผู้ร่วมมือในการไถ่กู้ คนกลางและทนายแก้ต่าง...”

แม่พระทรงหยุด ราวกับกำลังกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าฝูงชนที่มองไม่เห็น แล้วทรงเริ่มตรัสต่อไปดังนี้


“แม่สัญญาว่าจะมาในวันนี้ วันที่ 31 พ.ค. แม่คือ แม่พระแห่งนานาชาติ กำลังยืนอยู่ต่อหน้าพวกลูก พระนางต้องการกล่าวต่อนานาชาติในวันนี้ จงฟังด้วยความตั้งใจในวาจาของแม่...” “แม่มาเพื่อเตือนชาติทั้งหลายว่า ซาตานยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไป จงเตือนนานาชาติในเรื่องประกาศกเท็จเทียม แม่พระแห่งนานาชาติได้รับอนุญาตให้มาทุกปี พระนางทรงสัญญาที่จะให้เครื่องหมาย – เครื่องหมายนี้ได้ประทานมาให้แล้วเวลานี้....แม่ได้พูดว่า แม่จะกลับมา เฉพาะในที่สาธารณะ ดังนั้น ชาติทั้งหลาย เครื่องมือนี้ได้ยินเสียงของพระนาง เพื่อที่เธอจะเผยแพร่วาจาของพระนางไปให้แก่พวกลูก”

แม่พระทรงหยุดเล็กน้อย แล้วตรัสว่า

“ซาตานยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไป เวลานี้แม่พระแห่งนานาชาติได้รับอนุญาตให้มาเพื่อกำจัดซาตาน พระนางมาเพื่อประกาศถึงพระจิตเจ้า พระจิตเจ้าเท่านั้นที่จะทรงหลั่งพระพรมายังโลกในเวลานี้ได้ แต่ลูกควรจะสวดภาวนาที่แม่มอบให้แก่โลก ทุกวันและทุกเวลาลูกควรคิดถึงบทภาวนาที่แม่พระแห่งนานาชาติได้มอบให้แก่โลกในเวลานี้

ซาตานเอาโลกทั้งหมดไว้ในกำมือของมันได้อย่างไร มีเพียงพระเป็นเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบ เวลานี้พระองค์ได้ทรงส่งพระมารดาของพระองค์มายังพวกลูกทุกชนชาติ พระนางจะทรงพิชิตและกำจัดซาตาน ตามที่ได้มีการทำนายไว้ล่วงหน้าแล้ว พระนางจะทรงเหยียบหัวของเจ้าซาตาน ชาติทั้งหลายจงอย่าหลงเชื่อประกาศกเท็จเทียม จงฟังแต่เพียงพระองค์เท่านั้น พระเป็นเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต

ทรงเป็นองค์เดียวกัน...พระบิดา...เป็นองค์เดียวกับ...พระบุตร (ตรัสอย่างช้าๆและหยุดเป็นระยะ) – เป็นองค์เดียวกัน...พระบิดา และพระบุตร เป็นองค์เดียวกับพระจิต

แม่พระทรงหยุดรอเป็นเวลานาน และตรัสต่อว่า

“ลูกจะต้องทนรับสิ่งมากมายทีเดียวในศตวรรษนี้ พวกลูก ประชาชาติทั้งหลายในยุคสมัยนี้ จงตระหนักเถิดว่า ลูกอยู่ภายใต้การปกป้องของแม่พระแห่งนานาชาติ จงเรียกขานพระนางในฐานะทนายแก้ต่าง จงวอนขอพระนางให้หยุดยั้งหายนะภัยทั้งหมด วอนขอพระนางให้กำจัดความเสื่อมถอยทางจิตใจทั้งหมดของโลกนี้ออกไป ความเสื่อมถอยเหล่านี้ก่อให้เกิดภัยพิบัติ ความเสื่อมถอยก่อให้เกิดสงคราม พวกลูกควรวอนขอด้วยบทภาวนาของแม่เพื่อกำจัดสิ่งเหล่านั้นออกไปจากโลก ลูกไม่รู้หรอกว่าบทภาวนาบทนี้มีอานุภาพและคุณค่าใหญ่หลวงเพียงใดเฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้า พระองค์จะทรงอนุญาตตามคำวอนขอของพระมารดาของพระองค์ เมื่อพระนางมาช่วยพวกลูกในฐานะทนายแก้ต่าง”

แม่พระทรงหยุดเป็นเวลานานอีกครั้งแล้วจึงทรงตรัสต่อ

“เหตุการณ์ยิ่งใหญ่กำลังใกล้เข้ามา พวกลูก บรรดาคนหนุ่มสาว จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง แม่พระแห่งนานาชาติกำลังเตือนพวกลูก พระนางจะปกป้องพวกลูก พระนางจะทรงปกครองยุคสมัยนี้...ในยุคนี้ ในโลกนี้ ท่ามกลางชาติทั้งหลาย ในฐานะแม่พระ ยุคนี้จะเป็นยุคที่มีการประดิษฐ์สิ่งที่น่ากลัวและโง่เขลา ซึ่งแม้แต่ผู้อภิบาลของลูกก็ยังงุนงงประหลาดใจและจะพูดกับลูกว่า พวกเราเข้ามาใกล้วาระสุดท้ายแล้ว จงฟังคำของแม่ที่พูดกับพวกลูกในวันที่ 31 พ.ค. พระบิดาทรงทราบและทรงอนุญาตแล้วให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นและผ่านพ้นไปในโลกนี้

“จงรู้ไว้เถิดว่าพระจิตเจ้าทรงอยู่ใกล้ยิ่งกว่าแต่ก่อน พระจิตเจ้าจะทรงเสด็จมาเดี๋ยวนี้ถ้าเพียงแต่ พวกลูกสวดภาวนาขอให้พระองค์เสด็จมาใน เวลานี้ พระองค์ทรงพร้อมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เวลาได้มาถึงแล้ว”

“โลกได้สูญเสียพละกำลังของมันแล้วหรือ? อย่ากระนั้นเลย ชาติทั้งหลาย จงวางใจในพระมารดาของลูกเถิด พระนางไม่เคยทอดทิ้งลูกๆของพระนาง พระนางได้รับอนุญาตให้มาหาลูกภายใต้พระนามใหม่ว่า “ผู้ร่วมมือในการไถ่กู้ คนกลาง และทนายแก้ต่าง”

“ทำไมลูกจึงไม่ขอให้พระสันตะปาปาประกาศข้อความเชื่อตามที่แม่สั่งเล่า?” (แม่พระทรงหยุดในระหว่างที่มีการอวยพรศีลมหาสนิท แม่พระทรงประนมมือไหว้ก่อนและหลังการอวยพรศีล พระหัตถ์ของพระนางอยู่ในลักษณะเหมือนในรูปภาพ เมื่อการอวยพรเสร็จสิ้นแล้ว พระนางตรัสต่อว่า)

“เมื่อข้อความเชื่อนี้ได้ถูกประกาศไปแล้ว แม่พระแห่งนานาชาติจะทรงอวยพรให้แก่โลก....และแม่พระแห่งนานาชาติจะหลั่งพระพรแห่งสันติภาพ พระนางจะทรงช่วยลูกเมื่อข้อความเชื่อได้ถูกประกาศ”

“สิ่งที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น โลกอยู่ในอันตรายของความเสื่อมถอยทางจิตใจ ชาติทั้งหลาย จงสำนึกในอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงประทานให้แก่พวกลูกทุกวัน(ศีลมหาสนิท) พระองค์ประทานแก่พวกลูก เพื่อที่ลูกจะได้มีประสบการณ์ทุกๆวัน ลูกตระหนักหรือไม่ว่าอะไรจะเกิดกับลูกถ้าลูกไม่มีสิ่งนี้?”

“ชาติทั้งหลาย แม่ขอบอกลูกว่า แม่มาเพื่อรวบรวมประชาชนและนำความไพบูลย์มาสู่ลูกๆของแม่ คือ อัครสาวกทั้งหลายและประชากรทุกชนชาติ และ แม่พระได้มาแล้ว”

“ลูกต้องนำทางประชาชนให้ไปสู่พระเยซูคริสตเจ้า ลูกต้องสอนพวกเขาอีกครั้งถึงวิธีสวดภาวนา ดังเช่นที่แม่พระแห่งนานาชาติได้สอนลูก แม่พระทรงขอร้องลูกผู้เป็น บิดามารดา ให้สอนบุตรทั้งหลายของลูกให้สวดภาวนาบทนี้ จงนำบุตรทั้งหลายของลูกกลับสู่ศีลศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ชาติทั้งหลายหันกลับมาสู่ศีลศักดิ์สิทธิ์เถิด”

“และเมื่อแม่พูดว่า “ชาติทั้งหลาย” แม่หมายถึงแกะสีขาวและโดยเฉพาะอย่างยิ่งแกะดำของแม่ที่ยืนอยู่รอบๆแม่ ประชาชนสีขาว จงเอาใจใส่ดูแลประชาชนสีดำด้วย พวกเขาต้องการคนที่จะนำทางเขาให้ไปหาพระเยซูเจ้า พวกเขาต้องมีคนที่จะชี้ทางให้พวกเขาเพื่อไปหาพระบิดา พระบุตรและพระจิต

“เมื่อลูกเริ่มต้นวอนขอพระสันตะปาปาสำหรับการประกาศข้อความเชื่อนี้ แม่พระจะทำให้คำสัญญาของพระนางสมบูรณ์และสันติภาพที่แท้จริงจะมา สันติภาพที่แท้จริง ชาติทั้งหลายเอ๋ย นั่นคือพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้า พระอาณาจักรของพระองค์อยู่ใกล้มากยิ่งกว่าแต่ก่อน จงเข้าใจคำพูดเหล่านี้ให้ดีเถิด”

“เป็นพระมารดาจริงๆ แม่พระแห่งนานาชาติ ที่กำลังพูดกับลูกอยู่นี้ และนี่เป็นการเตือนของแม่ จงอย่าไปฟังคำพูดของประกาศกเท็จเทียม จงฟังแต่นายชุมภาบาลของลูก ผู้จะนำลูกไปในทางที่ถูกต้อง ตามเสียงของมโนธรรม....ตาม “พระผู้สูงสุด” – แม่พูดสิ่งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้ที่ไม่ได้อยู่ในพระศาสนจักรที่แท้จริง”

“สำหรับพวกลูกที่เป็นสมาชิกของพระศาสนจักรแห่งโรม จงยินดีในความยิ่งใหญ่ของลูกเถิด ลูกได้เป็นเจ้าของความสุขอันยิ่งใหญ่ จงตระหนักถึงความหมายของการเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรแห่งโรม ลูกได้กระทำสิ่งที่เหมาะสมกับสิ่งนี้หรือไม่? แม่ของลูก แม่พระแห่งนานาชาติ อาจจะมาหาลูกปีละครั้งภายใต้พระนามใหม่นี้ ไม่ช้าสิ่งนี้จะเปลี่ยนไป จงเข้าใจวาจาของแม่ให้ดีเมื่อแม่พูดว่า จงทำให้แน่ใจว่าในทุกปี ทุกชนชาติจะมาอยู่รวมกันรอบๆบัลลังก์นี้ เบื้องหน้ารูปภาพนี้ นี่เป็นของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่พระนางมารีย์ “มิเรียม” หรือ “แม่พระแห่งนานาชาติ” ได้รับอนุญาตให้ประทานแก่โลกนี้”

“แม่ขอบอกว่า พระนางจะกลับมา พระนางจะตรัสแก่อัครสาวกของพระนาง เวลานี้แม่พระกำลังกล่าวสุนทรพจน์กับลูกก่อนเป็นอันดับแรก ลูกทุกคน ชาติทั้งหลาย จงยืนข้างๆอัครสาวกของลูก อย่าทำความลำบากให้แก่พวกเขา จงถวายบุตรทั้งหลายของลูกอีกครั้งให้เป็นเครื่องบูชาแด่พระเป็นเจ้า”

“บรรดาอัครสาวกของพระเยซูคริสตเจ้า แม่พระของลูกเข้าใจพวกลูกดี แม่พระของลูกจะช่วยเหลือในความยากลำบากทั้งหมดของพวกลูก แม่พระของลูกจะช่วยลูก ในพระนามของพระนางจงวอนขอต่อพระบิดา พระบุตรและพระจิต ผู้จะทรงเสด็จมาในเวลานี้อย่างเต็มเปี่ยมยิ่งกว่าครั้งก่อน”

“พระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าอยู่ใกล้มากยิ่งขึ้น แม่ขอพูดดังนี้ – ชาติทั้งหลาย เจ้าตระหนักหรือไม่ว่านี่หมายความว่าอะไร? เจ้ารู้หรือไม่ ชาติทั้งหลายเอ๋ย ว่าความรับผิดชอบวางอยู่ต่อหน้าเจ้า? พวกลูกผู้มีตำแหน่งรับผิดชอบใหญ่โตในโลก จงอย่านำประชาชนให้หลงทาง อย่านำลูกของแม่ไปในทางที่ผิด ลูกมีความรับผิดชอบเบื้องพระพักตร์พระเยซูคริสตเจ้า (แม่พระได้ย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น) ลูกแบกรับความรับผิดชอบเอาไว้”

“แม่ได้พูดเมื่อไม่กี่นาทีมานี้ สิ่งประดิษฐ์ที่น่ากลัวจะเกิดขึ้น(ระเบิดปรมาณูและอาวุธชีวภาพ อาวุธร้ายแรงต่างๆ) พระเป็นเจ้าทรงอนุญาตสิ่งนี้ แต่พวกลูก ชาติทั้งหลาย สามารถทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่ามันจะมีทำให้เกิดหายนะภัยขึ้น”

“ชาติทั้งหลาย – แม่ขอวิงวอนพวกลูก – แม่พระขออ้อนวอนลูก จงฟังดีๆ พระมารดาของพระเจ้าไม่เคยอ้อนวอนลูกในลักษณะนี้มาก่อนเลย”

“เพื่อช่วยลูกให้พ้นจากการตกเป็นเหยื่อของสิ่งประดิษฐ์ที่น่ากลัวนี้ ชาติทั้งหลาย แม่พระขอวิงวอนลูก ในเวลานี้ ในวันนี้ จงวอนของพระบิดา พระบุตร และพระจิต ให้ทรงคุ้มครองปกป้องประชากรของพระองค์และให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกันในท่ามกลางพวกเขา ความเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นสิ่งที่ประชากรของพระองค์ต้องทำให้สำเร็จ พวกเขาต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน แม่พระแห่งนานาชาติขอย้ำคำพูดนี้ เป็นสังคมเดียวกัน”

“เมื่อคิดถึงอนาคต “ (แม่พระดูเหมือนจะทรงยิ้ม)

“ไม่ใช่....แม่พระไม่ได้พูดว่า จงเตรียมตัวสำหรับอนาคตแห่งวัตถุนิยม จงพยายามเข้าใจถึงเหตุผลที่แม่มาในวันนี้ พระเยซูคริสต์ได้ทรงเลือกวันอันยิ่งใหญ่นี้สำหรับแม่พระแห่งนานาชาติ

“ภารกิจของพระนางคือการสถาปนาความเป็นหนึ่งเดียวในท่านกลางนานาชาติ พระนางถูกส่งมาเพื่อทำให้เกิดสังคมที่ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในบรรดาชาติทั้งหลายของพระนาง เพื่อรวบรวมทุกชาติให้เป็นสังคมเดียว นั่นคืองานที่ถูกกำหนดไว้ต่อหน้าโลกในยุคสมัยนี้ และแม่ได้ประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม่เคยพูดถึงเกี่ยวกับเวลานี้ในการประจักษ์ส่วนบุคคล และบัดนี้ เวลานี้ได้มาถึงแล้ว”

“ซาตานยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไป ลูกต้องมองให้เห็น พวกลูก ประชากรของพระศาสนจักรแห่งโรม จงจดจำศีลศักดิ์สิทธิ์ของลูก ศีลเหล่านั้นยังคงอยู่ พวกลูกผู้เป็นคริสตชน ด้วยแบบอย่างของพวกลูกจงนำคนอื่นมาหาพระเป็นเจ้า มาสู่อัศจรรย์ทุกวัน มาสู่ศีลศักดิ์สิทธิ์ทุกวัน”

“ด้วยวิธีนี้วาจาที่ว่า “ตั้งแต่นี้ไป ชนทุกสมัยจะเรียกข้าพเจ้าว่าเป็นผู้มีบุญ” จะสมบูรณ์ ในวันนี้สาส์นของแม่พระแห่งนานาชาติจะเผยแพร่ไปทั่วโลก “แม่จะปลอบประโลมลูก” ชาติทั้งหลาย แม่ของลูกรู้ดีว่าชีวิตเป็นอย่างไร แม่ของลูกคุ้นเคยกับความเศร้าโศกดี แม่ของลูกรู้ดีว่ากางเขนหมายถึงอะไร สิ่งที่ลูกเป็นทุกข์ในชีวิตนี้ แม่ของลูก แม่พระแห่งนานาชาติ เคยได้รับความทุกข์มาก่อนพวกลูก พระนางได้เคยแสดงให้ลูกเห็นถึงความทุกข์ทรมานของพระนางมาก่อนแล้ว”

แม่พระทรงหยุดสักพัก แล้วตรัสอย่างช้าๆว่า

“แต่พระนางได้ทรงขึ้นไปหาพระบิดา พระนางกลับไปหาพระบุตรของพระนาง พวกลูกก็เช่นเดียวกัน ชนชาติทั้งหลาย จะไปหาพระบิดาด้วยหนทางแห่งกางเขน ลูกจะไปหาพระบุตรตามทางแห่งกางเขนด้วย พระจิตจะทรงช่วยเหลือพวกลูกให้ทำสิ่งนี้ จงวอนขอพระองค์เดี๋ยวนี้เถิด แม่ไม่สามารถกล่าวย้ำคำพูดแก่โลกให้บ่อยได้เพียงพอว่า จงหันไปพึ่งพาความช่วยเหลือจากพระจิตเจ้าเดี๋ยวนี้เถิด”

(แม่พระทรงกล่าวอย่างช้ามาก ทรงย้ำทุกคำพูด)

“ลูกจะได้รับความช่วยเหลือ จงกลับไปสู่พระศาสนจักร จงกลับไปสู่สังคม จงเอาใจใส่แกะอื่นๆของแม่ คนซึ่งไม่รู้จักหนทาง และตั้งใจที่จะอยู่ในทุ่งหญ้า”

“ลูกรู้หรือไม่ว่าสิ่งนี้สำคัญอย่างไร – การไปสู่ทุ่งหญ้า?” (แม่พระทรงตรัสย้ำอีกเช่นเดียวกัน)

“เหนือสิ่งอื่นใด จงพยายามทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวในท่ามกลางนานาชาติ นั่นเป็นสิ่งที่แม่พระแห่งนานาชาติมาเพื่อบอกลูกในวันนี้ พระนางจะไม่ลืมลูก ลูกยังคงไม่ยินดีในคำพูดนี้”

“เครื่องหมายของแม่ แม่ขอบอกว่า “อยู่ในคำพูดของแม่” แม่ของลูกจะปลอบประโลมลูก แม่เวลาของพระเยซูคริสตเจ้ามาถึง ลูกจะได้เห็นว่า ประกาศกเท็จเทียม สงคราม ความบาดหมาง ความขัดแย้ง จะสูญหายไป บัดนี้เวลาใกล้เข้ามาแล้ว แม่พระแห่งนานาชาติตรัสดังนี้”

แล้วแม่พระก็ทรงหายไปอย่างช้าๆ

x x x x x x x x x x x x

การประจักษ์ได้รับการรับรองจากพระศาสนจักรในปี 1997

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการประกาศข้อความเชื่อตามความประสงค์ของแม่พระ ครั้งหนึ่งแม่พระตรัสแก่ไอดาว่า “แม่ได้พูดไปแล้วว่า จะมีการโต้เถียงกันในข้อความเชื่อนี้อย่างมากมาย อย่างไรก็ตาม พระศาสนาจักรแห่งโรม ซึ่งจะใช้ความพยายามในเรื่องนี้เป็นเวลายาวนาน ในที่สุดจะประกาศข้อความเชื่อนี้ พระศาสนจักรแห่งโรมจะสามารถเผชิญหน้ากับการต่อต้าน...สิ่งที่แม่ต้องการและสิ่งที่แม่คาดหวังจากลูกมีเพียงแต่ขอให้ลูกผลักดันพระศาสนจักรและนักเทววิทยาให้เข้าร่วมในความพยายามครั้งนี้"


ระหว่างการประจักษ์ครั้งที่ 28 คือในวันที่ 4 มี.ค. 1951 แม่พระทรงปรากฏพระองค์ให้ไอดาเห็นตามแบบในภาพที่วาด แม่พระบอกให้ไอดาจดจำทุกสิ่งและบรรยายรายละเอียดทุกอย่างที่เธอเห็น เพื่อที่ภาพจะถูกวาดออกมาได้ถูกต้อง ในภาพนั้น แม่พระทรงประทับยืนอยู่บนลูกโลก พระบาททรงวางอยู่ที่ประเทศฮอลแลนด์ ประเทศซึ่งจะเผยแพร่สาส์นไปสู่มนุษยชาติ ด้านหลังของพระนางเป็นกางเขนของพระบุตรของพระนาง องค์พระผู้ไถ่ของโลก แม่พระทรงเตือนเราว่า พระนางทรงยืนอยู่แทบเชิงกางเขน ตามที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ และทำให้คำทำนายของท่านซีเมออนสำเร็จไป และพระนางยังเป็นผู้ร่วมงานการไถ่กู้มนุษยชาติ โดยพระนางมอบถวายพระบุตรของพระนางแด่พระบิดานิรันดร ทางด้านล่างของรูปเป็นฝูงแกะจำนวนมากมาย รังสีแห่งแสงสว่างสามสายกระจายจากพระหัตถ์แต่ละข้างของพระนางลงมายังโลกคือพระหรรษทานจากการไถ่กู้ พระหรรษทานแห่งแสงสว่าง และพระหรรษทานแห่งสันติภาพจะบังเกิดแก่ทุกคนที่เคารพพระรูปนี้ทุกวัน พร้อมด้วยการสวดภาวนาตามบทภาวนาที่แม่พระได้ประทานให้

http://www.palangjai.0fees.net/Mary_Nation.html         
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 11, 2011 2:03 pm

ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ เม.ย. 11, 2011 3:44 pm

แม่รักลูกยิ่งสิ่งใด พระแม่ของลูก ลูกรักแม่ แม่ห่วงลูกๆเสมอ :s005:
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

จันทร์ เม.ย. 11, 2011 8:15 pm

รูปภาพ
Lady of All Nations


Prayer of Our Lady of all Nations

Lord Jesus Christ Son of the Father,
Send now your Spirit over the earth.
Let the Holy Spirit live in the hearts of all nations,
that they may be preserved from degeneration, disaster and war.
May the Lady of all Nations, who once was Mary be our advocate.
Amen.

http://newmexicolegionofmary.org/Our%20 ... sidium.htm
Arttise
โพสต์: 870
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

จันทร์ ต.ค. 23, 2023 11:09 pm

💒 วาติกันไม่รับรองการประจักษ์ที่อัมสเตอร์ดัม ❌🇳🇱

สันตะสำนักปฏิเสธการประจักษ์ของแม่พระต่อไอด้า เพียร์เดอมาน

“การประจักษ์ที่อัมสเตอร์ดัมเป็นเรื่องเท็จ จะต้องไม่มีการแสดงความเคารพนับถือ“แม่พระแห่งปวงชน” และผู้มีความเชื่อจะต้องยุติการโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมด” นี่เป็นการประกาศของสภาหลักคำสอนแห่งความเชื่อ ที่ได้ออกจดหมายลงวันที่ 20 ก.ค. 2020 แต่เพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ หลังจากการโต้เถียงกันหลายสิบปีเกี่ยวกับการประจักษ์ของพระแม่มารีย์ต่อไอด้า เพียร์เดอมาน (Ida Peerdeman) 56 ครั้ง เวลานี้ถูกปฏิเสธอย่างเป็นทางการแล้วจากทางสันตสำนัก

ตอนนี้กรณีของเพียร์เดอมาน สิ้นสุดแล้วหรือยัง? หญิงสาวชาวดัตช์🇳🇱แห่งศตวรรษที่ 20 ไอด้า เพียร์เดอมาน ที่อ้างว่าเธอได้รับการประจักษ์จากแม่พระถึง 56 ครั้ง ระหว่างปี 1945 ถึง 1959 และแม่พระประจักษ์มาในฐานะ "แม่พระแห่งนานาชาติ"( Lady of All Nations) การเปิดเผยอันลึกลับนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2020 และตามคำร้องขอของพระคาร์ดินัล เบชารา บูทรอส ราส (Cardinal Béchara Boutros Raï, Patriarch)พระสังฆราชแห่งอันติโอคแห่งมาโรไนท์, สภาหลักคำสอนแห่งความเชื่อ Congregation for the Doctrine of the Faith (CDF) ซึ่งเดิมเรียกว่า “สันตะสำนักศักดิ์สิทธิ์(Holy Office)” ได้ชี้แจงในจดหมายถึงบรรดาพระสังฆราชถึงจุดยืนของสันตะสำนักเกี่ยวกับนิมิตของไอด้า เพียร์เดอมานดังนี้

ถึงแม้ว่าตามคำบอกเล่า , พระแม่มารีย์ประจักษ์แก่ไอด้า เพียร์มาน คล้ายกันหลายประการกับการประจักษ์ของแม่พระต่อ(นักบุญ)คัทรีน ลาบูเร (Catherine Laboure) ในปี 1830 คือมีลูกโลกอยู่ใต้พระบาทของแม่พระ , มีแสงที่ออกมาจากพระหัตถ์พุ่งลงมาเบื้องล่าง แต่อดีตเจ้าหน้าที่สันตะสำนักได้เขียนยืนยันเป็นข้อสังเกตุในปีค. ศ. 1974 ซึ่งกล่าวว่า “มีความเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะมีส่วนในการเผยแพร่ความเคารพนับถือพระนางมารีย์ในฐานะ “แม่พระแห่งปวงชน” (Our Lady of all peoples)

❓ การประจักษ์หลอก 56 ครั้ง?

ตามเรื่องราวที่รายงานโดยไอด้า เพียร์เดอมาน , หญิงสาวชาวดัตช์🇳🇱ที่เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1905 ที่เมืองอัลก์มาร์ (เนเธอร์แลนด์🇳🇱) พระแม่มารีย์ประจักษ์แก่เธอเป็นครั้งแรกในวันที่ 13 ตุลาคม 1917 ซึ่งตรงกับวันที่แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมาและเกิด ”อัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์🌞” เวลานั้นไอด้า มีอายุ 12 ปีเธอเห็นแม่พระประจักษ์มาในระหว่างเดินทางกลับบ้านที่อัมสเตอร์ดัม เธอเล่าว่าเป็น "สตรีที่สดใสเปล่งประกายแห่งความงามอย่างยิ่ง และเธอรู้ได้ทันทีว่าเป็นพระแม่มารีย์"

การประจักษ์ครั้งต่อมา ซึ่งทำให้เกิดการประจักษ์อีกหลายครั้งตามมานั้น , เกิดในวันที่ 25 มีนาคม 1945 ซึ่งตรงกับวันแม่พระรับสาร , หลังจากนี้เธอได้รับการประจักษ์อีก 56 ครั้ง สิ้นสุดในปี 1959 หลังจากการประจักษ์ไม่กี่ครั้ง , พระแม่มารีย์ทรงบอกพระนามแก่ไอด้า เพียร์เดอมานว่า : “ฉันคือพระนางมารีย์, พระมารดาของมนุษย์ทุกคน” และตรัสว่า "พระบิดาและพระบุตรทรงส่งมาเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ" เพื่อประกาศการยุติสงคราม และเพื่อเตือนโลกในเรื่องของ "ความเสื่อมถอย , ภัยพิบัติ และสงคราม" และอันตรายจาก "ภัยพิบัติครั้งที่สามของโลก"

มีการให้คำพยากรณ์มากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมือง , เศรษฐกิจ และสังคมที่จะเกิดในศตวรรษที่ 20 อาทิเช่น สงครามเย็น , การล่มสลายของสหภาพโซเวียต , สงครามเกาหลี , ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ , ความวุ่นวายทางการเมืองในปาเลสไตน์และตะวันออกกลาง ฯลฯ

ในช่วงต้นปี 1951 พระแม่มารีย์ได้แสดงภาพนิมิตให้ไอด้า เห็นเกี่ยวกับ สังคายนาวาติกันครั้งที่2 ซึ่งจะเกิดขึ้นในทศวรรษต่อมา จากนั้นมีการยืนยันถึงความจำเป็นในการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลง , การเปลี่ยนแปลงทางวินัยซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมพระสงฆ์และนักบวช พระนางทรงมีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับกรุงโรมและวาติกัน🇻🇦ที่ตกอยู่ในอันตราย ไอด้าอธิบายถึงนิมิต(ตามที่เธอเรียก) ไว้ดังนี้ :

ตอนนี้ ฉันสังเกตเห็นว่าแม่พระทรงวางพระหัตถ์ของพระนางเหนือพระสันตะปาปาและนักบุญเปโตร พระสันตะปาปาทรงประทับนั่งโดยยกนิ้วขึ้น และเหนือศีรษะของพระองค์มีตัวหน้งสือเขียนว่า "สู้" ฉันเห็นการต่อสู้มากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นฉันเห็นทหารสวมหมวกทรงสูงยืนอยู่ด้านหลังพระสันตะปาปา พวกเขาชูสองนิ้ว นี่อาจเป็นการอ้างอิงถึงลัทธิฟรีเมซอนหรือไม่?

🧐 การโต้เถียงและการยอมรับ

ตามธรรมเนียมในพระศาสนจักรคาทอลิก การตัดสินลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์ขึ้นอยู่กับพระสังฆราชของสังฆมณฑลซึ่งการประจักษ์นั้นได้เกิดขึ้น : ในกรณีนี้การตัดสินอยู่ในอำนาจของ สังฆมณฑลฮาร์เลม-อัมสเตอร์ดัม (Diocese of Haarlem-Amsterdam) ความยากลำบากในกรณีของเพียร์เดอมาน อยู่ที่บรรดาพระสังฆราชที่สืบต่อกันมาในสังฆมณฑลนี้จะได้ทำการตัดสินกัน

บุคคลแรกคือ Mgr Johannes Huibers บิชอปในช่วงเวลาของการประจักษ์ , ท่านได้ให้ความเห็นชอบ (nihil obat) ต่อพระนามแม่พระใหม่นี้และบทภาวนาที่เกี่ยวข้องกับการประจักษ์ อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 พฤษภาคม 1956 หลังจากได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบเกี่ยวกับกรณีการประจักษ์และการเปิดเผยพระนามของ "พระแม่มารีย์แห่งปวงชน" บิชอปคนเดียวกันกลับคำตัดสินของท่าน ท่านบอกว่าท่านพบว่า "ไม่มีหลักฐานของลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์"

หลายต่อหลายครั้งในปี 1957 , 1972 และ 1974 ทางสันตะสำนัก CDF ยืนยันจุดยืนของบิชอปชาวดัตช์🇳🇱 อย่างไรก็ตามในวันที่ 31 พฤษภาคม 1996 บิชอปเฮนดริก โบเมอร์ (Hendrik Bomers) ผู้สืบทอดตำแหน่ง โดยได้รับอนุญาตจาก CDF อนุญาติให้ประชาชนเคารพพระนางพรหมจารีย์แห่งปวงชนได้ ขณะนั้นยังไม่มีคำถามเกี่ยวกับลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์ ยังไม่มีการยืนยัน บิชอปย้ำการตัดสินใจของท่านในจดหมายลงวันที่ 3 ธันวาคม 1997

วันที่ 31 พฤษภาคม 2002 บิชอปโจเซฟ มาริอานุส ปุนต์ (Jozef Marianus Punt) พระสังฆราชคนต่อมา ได้ประกาศว่าการประจักษ์นั้นมีต้นกำเนิดที่เหนือธรรมชาติ ตั้งแต่นั้นมาก็มีคำถามว่า Bishop Punt มีอำนาจที่จะคว่ำการตัดสินของพระสังฆราชเดิมก่อนท่านหรือไม่? เนื่องจากการตัดสินก่อนหน้านี้ได้รับการยืนยันจาก CDF ในจดหมายที่ไม่ได้ตีพิมพ์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2005 , CDF ขอให้เปลี่ยนบทภาวนาที่เกี่ยวข้องกับการประจักษ์ โดยแทนที่คำว่า "ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมารีย์" ด้วยคำว่า "พระนางพรหมจารีย์มารีย์ผู้ทรงบุญ" ผู้สนับสนุนในเรื่องการประจักษ์จึงได้คิดเอาเองว่า CDF ยอมรับการรับรองของ Bishop Punt โดยปริยาย

❓ กรณีของเพียร์เดอมานสิ้นสุดแล้วหรือไม่?

มีคำถามจากพระคาร์ดินัลชาวเลบานอน🇱🇧ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่สันตะสำนักงานศักดิ์สิทธิ์ ท่านพูดถึงจดหมายที่ลงนามเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมว่าการตัดสินของพระศาสนจักรยังคงเป็นที่เผยแพร่โดยสังฆมณฑลอัมสเตอร์ดัม🇳🇱เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ซึ่งกล่าวไว้ว่า – หลังจากการศึกษาอย่างดีแล้ว เห็นว่า ไอด้า เพียร์เดอมาน "ไม่รู้เรื่องลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์เลย" นี่คือเหตุผลที่เราอ่านพบในจดหมายของวาติกันว่า ผู้มีความเชื่อควร "ยุติการโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมดเกี่ยวกับการประจักษ์และการเปิดเผยที่อ้างว่าประทานให้โดยแม่พระแห่งปวงชนและขอให้แสดงความเคารพนับถือพระนางพรหมจารีย์มารีย์ , ราชินีแห่งจักรวาลในรูปแบบที่พระศาสนจักรรับรองและแนะนำแทน"

รูปภาพ

รูปภาพ

CR. : จิตอิสระ

📚 อ้างอิง : 1. Notification regarding the alleged apparitions and revelations of Our Lady of All Nations
https://www.vatican.va/.../rc_con_cfaith_doc_19740525...
2. Vatican's doctrinal office: Don't promote alleged apparitions connected to 'Lady of All Nations’
https://www.catholicnewsagency.com/.../ ... -doctrinal...
3. Vatican reaffirms rejection of so-called apparitions of Our Lady of All Nations
https://aleteia.org/.../vatican-reaffir ... ion-of.../

CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/FaithOfLord/po ... yocRE65Gql
Arttise
โพสต์: 870
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

จันทร์ ต.ค. 23, 2023 11:11 pm

😈 Collyridianism ลัทธิที่บูชาพระแม่มารีย์เป็นพระเจ้า

ลัทธิคอลลีริเดียนนี้เป็นลัทธิหนึ่งในช่วงยุคแรกของคริสตศาสนา ซึ่งจัดว่าเป็นลัทธิที่นอกรีตตามความเชื่อของคริสตศาสนา เพราะเป็นลัทธิที่บูชาพระแม่มารีย์เป็นบูชาเป็นเทพีหรือGoddessเลยทีเดียวครับ ถือกันว่าพระตรีเอกนุภาพนั้นมีพระบิดา พระบุตร(พระเยซู)และพระแม่มารีย์ ลัทธินี้เป็นการยกย่องให้เกียรติพระแม่มารีย์มากเกินไปจนกลายเป็นลัทธิบูชารูปเคารพ บูชาพระแม่มารีย์เป็นพระเจ้าซึ่งอาจจะมาจากการที่ศาสนจักรสมัยก่อนยกย่องพระแม่มารีย์เป็นพระมารดาพระเจ้าและเป็นผู้ภาวนาวิงวอนต่อพระเจ้าที่ทรงพลัง ชาวคริสต์บางคนเลยอาจล้ำเส้น ไปบูชาพระแม่มารีย์เป็นพระเจ้าแทนไปเสียอย่างนั้น

สำหรับลัทธินี้ไม่ค่อยมีข้อมูลมากนัก ไม่ปรากฏว่าลัทธินี้มาจากใคร ใครเป็นผู้นำหรือหลักเทววิทยา พิธีกรรมก็ทราบเพียงแค่ขนมปังในพิธีกรรมของเขานั้นจะใช้เป็นเครื่องบูชาแด่พระแม่มารีย์เท่านั้น

ข้อมูลเกี่ยวกับลัทธินี้ที่พอมีอยู่ หลักๆแล้วมาจากนักบุญเอพิฟานิอุสแห่งซาลามิส(St. Epiphanius of Salamis) ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 4 เขาได้เขียนไว้ว่ามีผู้หญิงบางคนในแถบคาบสมุทรอาราเบีย(ในยุคก่อนอิสลาม)ได้นำเอาก้อนขนมปังมาถวายเป็นเครื่องบูชาในนามของพระแม่มารีย์ เป็นการผสานความเชื่อคริสตศาสนากับการบูชาเทพีของลัทธินอกศาสนา

แม้จะไม่สามารถสืบหาหลักฐานได้ว่าลัทธินี้ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันหรือไม่ แต่ก็มีคริสตศาสนิกชนในปัจจุบันจัดตั้งกลุ่มบางกลุ่มขึ้นมาซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับแนวคิดของลัทธินี้เช่นกลุ่ม Collyridian Episcopal Ecumenical Convocation หรืออย่างกลุ่ม Community of the Lady of All Nations กลุ่มนี้ถูกวาติกันบัพพาชนียกรรมตัดขาดจากศาสนจักรโรมันคาทอลิกทั้งเรื่องที่จัดการบวชพระสงฆ์เองและหลักความเชื่อที่เชื่อกันว่าผู้ก่อตั้งกลุ่มนั้นเป็นพระแม่มารีย์ลงมาบังเกิดใหม่ในร่างของเธอ

/AdminMichael

ข้อมูลอ้างอิง: https://www.ewtn.com/library/HOMELIBR/COLLYRID.TXT
http://taylormarshall.com/.../01/6-here ... -mary.html
http://www.catholicnewsagency.com/.../army_of_mary.../

รูปภาพ

CR. : ประวัติศาสตร์คริสตศาสนา - ทั้งตะวันตกและตะวันออก
https://www.facebook.com/HistoryofChris ... 920?type=3
Arttise
โพสต์: 870
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

จันทร์ ต.ค. 23, 2023 11:13 pm

SACRED CONGREGATION FOR THE DOCTRINE OF THE FAITH

With regard to the alleged apparitions and revelations of "Our Lady of All Nations", said to have taken place in Amsterdam, the Sacred Congregation for the Doctrine of the Faith considers it advisable to make the following declaration.

On 7 May 1956, the Bishop of the Diocese of Haarlem (Netherlands), following on a careful examination of the case concerning the supposed apparitions and revelations of "Our Lady of All Nations", declared that he "found no evidence of the supernatural nature of the apparitions". He therefore prohibited public veneration of the picture of "Our Lady of All Nations" and the spreading of writings which attributed a supernatural origin to these apparitions and revelations.

On 2 March 1957, the same Ordinary repeated the above statement. The Holy Office, in a letter dated 13 March of the same year, praised the Bishop’s prudence and pastoral concern and approved of the measures taken. Moreover, in reply to an appeal of the Bishop of Haarlem, dated 29 March 1972, the Sacred Congregation for the Doctrine of the Faith, on 24 May of the same year, confirmed the previous decision on the matter.

At the present time, following on further developments and after a fresh and deeper examination of the case, the Sacred Congregation for the Doctrine of the Faith confirms by the present notification the judgment already expressed by the competent ecclesiastical authority, and invites priests and laity to discontinue all forms of propaganda with regard to the alleged apparitions and revelations of "Our Lady of All Nations". It exhorts all, moreover, to express their devotion to the Most Holy Virgin, Queen of the Universe (cf. Encyclical Letter Ad Caeli Reginam, AAS 30 [1954], pp. 625-640) by forms of piety which are recognized and recommended by the Church.

Rome, 25 May 1974.

* L’Osservatore Romano, English Ed., June 27, 1974, page 12.

CR. : https://www.vatican.va/roman_curia/cong ... am_en.html

รูปภาพ
Arttise
โพสต์: 870
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

จันทร์ ต.ค. 23, 2023 11:16 pm

Vatican’s doctrinal office: Don’t promote alleged apparitions connected to ‘Lady of All Nations’

CNA Staff, Jan 4, 2021 / 06:10 am

The Vatican's doctrinal office has urged Catholics not to promote "the alleged apparitions and revelations" associated with the Marian title of "Lady of All Nations," according to a Dutch bishop.

The Congregation for the Doctrine of the Faith's appeal was announced in a clarification issued Dec. 30 by Bishop Johannes Hendriks of Haar­lem-Am­ster­dam.

The clarification relates to the alleged visions which Ida Peerdeman, a secretary living in the Dutch capital Amsterdam, claimed to have received between 1945 and 1959.

Hendriks, who as the local bishop is primarily responsible for evaluating the apparitions, said that he had decided to issue the statement after consulting with the Vatican's doctrinal congregation, which guides bishops in the discernment process.

The bishop said that the Vatican congregation regarded the title "Lady of All Nations" for Mary as "theologically acceptable."

"Nevertheless, the recognition of this title cannot be understood -- not even implicitly -- as the recognition of the supernaturality of some pheno­mena from which it seems to have come," he wrote in the clarification, published in five languages on the website of Haar­lem-Am­ster­dam diocese.

"In this sense, the Congregation for the Doctrine of the Faith reaffirms the validity of the negative judg­ment on the supernaturality of the alleged 'apparitions and revelations' to Ms. Ida Peerdeman approved by St. Paul VI on 04/05/1974 and published on 05/25/1974."

"This judg­ment implies that everybody is urged to cease any propagation concer­ning the alleged apparitions and revelations of the Lady of All Nations. Therefore, the use of the images and prayer cannot in any way be consi­dered a recognition -- not even implicitly -- of the supernaturality of the events in question."

Peerdeman was born on Aug. 13, 1905, in Alkmaar, in the Netherlands. She claimed that on March 25, 1945, she saw her first apparition of a woman bathed in light who referred to herself as "the Lady" and "Mother."

In 1951, the woman reputedly told Peerdeman that she wished to be known as "the Lady of All Nations." That year, the artist Heinrich Repke created a painting of "the Lady," depicting her standing on top of a globe in front of a cross.

The series of 56 alleged visions concluded on May 31, 1959.

In 1956, Bishop Johannes Huibers of Haarlem declared that after an investigation he had "found no evidence of the supernatural nature of the apparitions."

The Holy Office, the forerunner of the CDF, approved the bishop's verdict a year later. The CDF confirmed the judgment in 1972 and 1974.

In his clarification, Bishop Hendriks acknowledged that "Through devotion to Mary, the Mother of All Nations, many faithful express their desire and their effort for the universal fraternity of man­kind with the help and support of Mary's intercession."

He quoted from Pope Francis' encyclical, "Fratelli tutti," published Oct. 3, in which the pope wrote that "For many Christians, this journey of fraternity also has a Mother, whose name is Mary. Having received this universal motherhood at the foot of the cross, she cares not only for Jesus but also for 'the rest of her children.' In the power of the risen Lord, she wants to give birth to a new world, where all of us are brothers and sisters, where there is room for all those whom our societies discard, where justice and peace are resplen­dent."

Hendriks said: "In this sense, the use of the title Lady of All Nations for Mary is in itself theologically acceptable. Prayer with Mary and through the intercession of Mary, Mother of our peoples, serves the growth of a more united world, in which everyone recognizes themselves as brothers and sisters, all created in the image of God, our common Father."

Concluding his clarification, the bishop wrote: "Regar­ding the mere title 'Lady,' 'Madonna,' or 'Mother of All Nations,' the Congregation generally is not opposed to its use, provided that this is clearly separated from the recognition of the alleged apparitions."

"If the Virgin Mary is invoked under this title, pastors and faithful must ensure that all forms of this devotion refrain from any reference, even implicit, to alleged apparitions or revelations."

Alongside the clarification, the bishop issued an explanation, also dated Dec. 30 and published in five languages.

In it, he wrote: "Devotion to Mary as the Lady and Mother of All Nations is good and valuable; it must, however, remain separate from the messages and the apparitions. These are not approved by the Congregation for the Doctrine of the Faith. That is the core of the clarification which has come about in accordance with the Congregation follo­wing the recent appearance of various national and inter­na­tio­nal reports concer­ning the veneration."

The bishop said that he had issued the clarification as a result of conversations with CDF officials following the media reports and inquiries.

He recalled that the CDF had expressed concern in 2005 about the wording of an official prayer invoking the Blessed Virgin as Lady of All Nations "who was once Mary," advising Catholics not to use the phrase.

Hendriks said: "It is permitted to use the image and the prayer -- always in the way the Congregation for the Doctrine of the Faith approved in 2005. Days of Prayer in honor of the Lady of All Nations are also allowed; however, reference may not be made to the apparitions and messages which are not approved."

"Anything that might be understood as (implicit) recognition of the messages and apparitions has to be avoided because the Congregation passed a negative judg­ment about these which was confirmed by Pope Paul VI."

Hendriks noted that Bishop Hendrik Bomers, bishop of Haarlem from 1983 to 1998, authorized the devotion in 1996, although he did not pronounce on the validity of the apparitions.

He also acknowledged that Bishop Jozef Punt, bishop of Haarlem from 2001 to 2020, announced in 2002 that he believed that the apparitions to be authentic.

Hendriks said that Paul VI's negative verdict would therefore "be new for many people."

"In 2002, namely, when Bishop Punt took a position on the authenticity of the apparitions, only a clarification from the year 1974 was known," he said.

"In the 1980s, my predecessor believed that it might be possible to authorize this devotion, and Bishop Bomers finally decided for that in 1996."

Hendricks was appointed coadjutor bishop of Haar­lem-Am­ster­dam in 2018 and succeeded Punt in June 2020. (The diocese's name was changed from Haarlem to Haar­lem-Am­ster­dam in 2008.)

Devotion to the Lady of All Nations is centered on a chapel in Amsterdam and promoted by the website theladyofallnations.info.

In his explanation of the CDF's observations, Hendriks wrote: "For everyone who feels united in devotion to the Lady of All Nations is the good news in this clarification approved by the Congregation for the Doctrine of the Faith that devotion to Mary under this title is permitted and words of appreciation are dedicated to it."

"For many faithful, however, it will be especially painful that the Congregation for the Doctrine of the Faith and Pope Paul VI expressed a negative judgment about the apparitions. I want to say to all of them that I can understand their disappoint­ment."

"The apparitions and the messages have inspired many people. I hope that it is a consolation to them that devotion to Mary under the title 'Lady of All Nations' remains in place, whether in the chapel in Am­ster­dam or at the Days of Prayer, at which in the past I myself was present several times."

CR. : https://www.catholicnewsagency.com/news ... ll-nations

รูปภาพ
ตอบกลับโพส