ทำไมพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันอาทิตย์

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 9:03 am

มีคนมาถามผมว่า ทำไมพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันอาทิตย์ พระองค์เคยตรัสล่วงหน้าไว้ว่า
มธ 12:40 โยนาห์อยู่ในท้องปลาสามวันสามคืนฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะอยู่ในท้องแผ่นดินสามวันสามคืนฉันนั้น
ทำไมพระเยซูเจ้าไม่ทรงอยู่ในพระคูหาให้ครบ 3 วัน 3 คืน แต่ทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันอาทิตย์ ซึ่งเมื่อนับเวลาแล้วก็เพียง 1.8 วัน

เราจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดีครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 11:27 am

เข้าใจว่า การนับเวลาในสมัยพระเยซู ไม่ได้นับแบบชาวประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน

ประเทศอิสราเอล เป็นศาสนายูดาห์
เขาเชื่อว่าปฏิทินที่เขาใช้เป็นปฏิทินแบบของโมเสส
ปฏิทินโมเสสหายไปนานแล้ว
การนับแบบจันทรคติโมเสส ไม่มีใครรู้/หลักฐานสูญหายไปหลายพันปีแล้ว
วันเวลาของสัปดาห์ เริ่มต้นที่ชั่วโมงใด สิ้นสุดที่ชั่วโมงใด จึงไม่มีผู้รู้ที่แท้จริง

และหากมาดูเวลาในแต่ละที่/แต่ละประเทศ อาจจะเห็นได้ว่าถึงใช้มาตรฐานเวลาเดียวกันคือ
ปฏิทินจันทรคติ แต่ในแต่ละประเทศแต่ละที่นั้นก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ แม้ว่าจะใช้
ปฏิทินจันทรคติก็ตาม

การเปลี่ยน วันใหม่ ที่ 00.00น.หลังเที่ยงคืน12.00น.
ที่เรารู้จักกันอยู่นี้ ถูกกำหนดโดยปฏิทิน (สุริยะคติ สมัยใหม่)
ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ

ปฏิทินจันทรคติโมเสส
ปฏิทินจันทรคติ ประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน
ปฏิทินจันทรคติ ยิว ในนิคมถ้ำคุมราน
ปฏิทินจันทรคติ มุสลิม คศ.625
ปฏิทินจันทรคติ จีน
ปฏิทินจันทรคติ ไทย ฯลฯ
ปฏิทินจันทรคติ เหล่านี้ ล้วนมีความต่างกันทั้งสิ้นอีกด้วย

นี่คือปฎิธินอิสราเอลที่ใช้อยู่ในปัจจุบันครับ http://www.chabad.org/calendar/view/mon ... e=4/1/2011

หากแต่ไม่รู้ผมเข้าใจถูกหรือไม่
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 2:16 pm

วันศุกร์ คือวันแรกค่ะ
วันเสาร์ก็ 2 วันอาทิตย์ก็ 3


ทำไมถึงคิดว่าแปลกค่ะ... ก็ 3 วันงัย

แล้วสำหรับชาวยิว ดวงอาทิตย์ตก เขาก็นับว่าเป็นวันถัดไปแล้วค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 2:43 pm

แต่พระเยซูเจ้าทรงตรัสล่วงหน้าว่า จะทรงอยู่ในท้องแผ่นดินสามวันสามคืน ทำไมพระองค์ทรงรีบออกมาทั้ง ๆ ที่ยังทรงอยู่ในพระคูหาแค่สองคืนกับอีกแค่หนึ่งวันเต็ม ๆ ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 2:51 pm

1 วันชาวยิว
นับตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นวันนี้ไปจนถึงดวงอาทิตย์จกวันถัดไป นี่นา
ใช่ไหม?ครับ
ข้า-พระ-เจ้า
โพสต์: 407
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 28, 2010 12:03 am

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 6:57 pm

เคยถามพ่อ พ่อบอกว่า สำหรับชาวยิว แม้เพียงเศษเสียวของวันเขาก็ถือว่าคือ 1 วันเต็มครับ

ช่วงเย็นของวันศุกร์ หลังจากสิ้นพระชนม์ คือ 1 วัน

วันเสาร์เต็มๆ คือ 1 วัน

ช่วงเช้าวันอาทิตย์ ก่อนการกลับคืนพระชนม์คือ 1 วัน

สรุปครบ 3 วัน

ปล. เพราะพระคัมภีร์ไม่สามารถตีความตามตัวอักษรได้ทั้งหมด แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนรู้ วัฒนธรรม และประเพณีนิยมของชาวยิวด้วยจึงจะสามารถตีความได้อย่างถูกต้อง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 8:06 pm

ผมเคยสงสัยเหมือนกันแล้วก็ได้คำตอบว่าสมัยนั้นเค้าไม่ได้นับ เวลา 24 ช.ม. เหมือนสมัยนี้อ่ะครับ
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 11:14 pm

พระองค์ก็ไม่ได้ทรงบอกว่า3วันซะหน่อย
พระองค์บอกว่าวันที่3ต่างหาก
แต่ที่น่าแปลกใจคือนักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันยืนยันว่าการเป็นขึ้นนั้นจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยถ้าศพถูกทิ้งไว้ถึง3วันเต็ม(52ชั่วโมง) แต่เพราะพระองค์ทรงถูกกักขังที่เมืองผีไม่ครบ3วัน ร่างกายจึงยังไม่เน่าเปื่อยจนถึงขีดที่ไม่สามารถกลับเป็นขึ้นโดยร่างที่ตายแล้วได้ พระเป็นเจ้าทรงละเอียดอ่อนจริงๆ
อัลเลลูยา เหล็กไนความตายเจ้าอยู่ที่ไหน? อำนาจเมืองผีเจ้าอยู่ที่ไหน? กักขังพระองค์ไว้ไม่ได้ ::020:: อัลเลลูยา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 26, 2011 8:51 am

aqua-alta เขียน:พระองค์ก็ไม่ได้ทรงบอกว่า3วันซะหน่อย
พระองค์บอกว่าวันที่3ต่างหาก
แต่ที่น่าแปลกใจคือนักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันยืนยันว่าการเป็นขึ้นนั้นจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยถ้าศพถูกทิ้งไว้ถึง3วันเต็ม(52ชั่วโมง) แต่เพราะพระองค์ทรงถูกกักขังที่เมืองผีไม่ครบ3วัน ร่างกายจึงยังไม่เน่าเปื่อยจนถึงขีดที่ไม่สามารถกลับเป็นขึ้นโดยร่างที่ตายแล้วได้ พระเป็นเจ้าทรงละเอียดอ่อนจริงๆ
อัลเลลูยา เหล็กไนความตายเจ้าอยู่ที่ไหน? อำนาจเมืองผีเจ้าอยู่ที่ไหน? กักขังพระองค์ไว้ไม่ได้ ::020:: อัลเลลูยา
อ้างจริงหรือครับที่พระเยซูเจ้าไม่ทรงบอกว่าจะอยู่ในอุโมงฝังศพเป็นเวลาสามวันสามคืน แล้วในพระวรสารนักบุญมัทธิว คนที่บอกว่าโยนาห์อยู่ในท้องปลาสามวันวสามคืนฉันใด บุตรแห่งมุนษย์ก็จะอยู่ในท้องแผ่นดินสามวันสามคืนฉันนั้น คือใครครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อังคาร เม.ย. 26, 2011 11:19 am

จำไม่ผิด ขนาดศพของลาซารัสเน่าจนส่งกลิ่นแล้ว พระองค์ยังทำให้ฟื้นเป็นปกติได้เลย

แล้วก็ นักบุญหลายท่าน ศพไม่เน่าเปื่อยทั้งที่ผ่านไปไม่รู้กี่ปี

......สรุป "ตามใจพระเจ้าผู้ทรงอำนาจ"
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

อังคาร เม.ย. 26, 2011 1:42 pm

คนนั้นคือองค์พระเยซูนั่นแหละครับที่พูด แต่ที่ผมบอกว่าวันที่3 ผมก็ไม่ได้พูดเองนะครับ
อ่านสิครับ นี่ใครพูด
มธ 17:22-23 ครั้นพระองค์กับเหล่าสาวกกลับมาอยู่ในแขวงฆาลิลาย พระเยซูจึงตรัสแก่เขาว่า "บุตรมนุษย์จะต้องถูกมอบไว้ในมือประชาชน
ให้เขาประหารชีวิตเสีย แต่ในวันที่สามจึงจะเป็นขึ้นมาใหม่" พวกสาวกก็พากันเป็นทุกข์ยิ่งนัก

อย่างไรก็ตาม ที่ผมต้องการสื่อคือ แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันยังยอมรับการเป็นขึ้นนั้น ว่าไม่ขัดต่อวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด อีกทั้งยังสอดคล้องด้วย

และก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าหากเกินเวลาต่อให้เน่าต่อให้เปื่อยไปแล้ว และพระผู้เป็นเจ้าจะไม่มีฤทธานุภาพที่จะให้เป็นขึ้นได้อีกครั้ง

คาดไม่ถึง ที่อัศจรรย์กว่านั้น คือพระบิดาไม่ทรงปล่อยให้แม้แต่เพียงกายขององค์พระบุตรเน่าเปื่อยไป ไม่ทรงปล่อยให้แม้แต่เพียงเริ่มเน่าก็ทรงให้เป็นขึ้นแล้ว

อีกประการไม่ใช่ว่าชาวยิวนับวันไม่ครบ24ชม. แต่แค่เค้านับเริ่มไม่เหมือนเรา ชาวยิวจะเริ่มนับวันใหม่ตอนตะวันตกดิน(อ้างอิงพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ฉบับของคาทอลิก กิจการบทที่ 20เชิงอรรถ k) ยังสอดคล้องกับใน พระธรรม ปฐก.ตอนพระเจ้าเนรมิตสร้าง ก็บันทึกไว้ว่า มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่1,2,3...... ไม่ได้บอกว่ามีเวลาเช้าและเวลาเย็น

จริงๆควรนับเช่นนี้(พระคัมภีร์บันทึกอะไรไว้ก็ไม่ขัดกันเองหรอกครับ)

ช่วงเย็นของวันศุกร์ หลังจากสิ้นพระชนม์จนตะวันตกดิน คือ วันที่ 1

วันเสาร์เต็มๆ คือวันที่ 2

ตั้งแต่ตะวันตกดิน(วันเสาร์) จนถึง ช่วงเช้าวันอาทิตย์ ก่อนการกลับคืนพระชนม์คือวันที่ 3

สรุปครบวันที่ 3 แต่ไม่ครบ 72 ชม.(สามวันเต็ม)
(กระทู้ที่ผมโพสข้างบนก่อนอันนี้พิมพ์ผิดนะครับพิมพ์ว่า52ชม. ต้องแก้เป็น72ชม.เหมือนกัน^^)

อย่างไรก็ตาม ผมขอสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นผลแรกจากความมรณา ผู้ซึ่งอำนาจเมืองผีกักขังไม่ได้ ผู้ทรงมีชัยแก่ความตาย และยังเป็นทรงขึ้นเพื่อเราทั้งหลายอีกด้วย
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

พุธ เม.ย. 27, 2011 11:13 am

ที่อ้างถึงนักวิทยาศาสตร์พูดถึงถ้าเวลาเกินกว่านี้จะทำให้เนื้อหนังเน่าเปื่อยไป....
ถ้าใช้แนวความคิดแบบมนุษย์ก็เป็นไปไม่ได้ครับ (อย่าคิดแบบมนุษย์)
แต่สำหรับพระเจ้าไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้ครับ
พระเจ้าอยู่เหนือสรรพสิ่ง อยู่เหนือกาลเวลา อยู่เหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติครับ
ถ้าเราไม่เชื่อสิ่งที่พระองค์บอก ก็ไม่มีเหตุผลที่ทุกคน
จะเชื่อว่าพวกเราทุกคนที่ตายไปแล้ว จะกลับคืนชีพในวันสุดท้ายครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ เม.ย. 27, 2011 7:17 pm

ขอบคุณมากครับสำหรับคำอธิบายที่หลาย ๆ ท่านช่วยกันแบ่งปัน ผมจะพยายามรวบรวมไปตอบคนที่ถามคำถามนี้กับผม ก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะยอมรับแค่ไหน เพราะว่าคนนั้นเป็นคนไทยที่ไม่นับถือศาสนาใดเลย แถมยังเป็นคนมีฐานะร่ำรวย เรียนและใช้ชีวิตในโลกตะวันตกตั้งแต่เล็ก ป่านนี้อายุปาเข้าไปหกสิบแล้ว ผมไปเยี่ยมเขาที่บ้านครั้งนึง เขาตั้งศาลเหมือนศาลพระภูมิไว้หน้าบ้าน ในนั้นมีทั้งรูปปั้นพระแม่มารีย์ (เขาตั้งชื่อให้ใหม่ว่าอะไรจำไม่ได้) รูปเจ้าแม่กวนอิม (เขาตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "เจ้าแม่กวนเอง") แล้วก็ตุ๊กตารูปพระภิกษุพม่า แล้วในบ้านของเขา ที่ห้องน้ำก็ตั้งกางเขนประดับพลอยแบบโบราณ และพระพุทธรูปไว้ด้วย เขาพยายามพูดโน้มน้าวให้เห็นว่าเรื่องพระเจ้าและพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่มนุษย์แต่งขึ้น มีข้อบกพร่องมากมาย เนื้อหาบางตอนก็ขัดกันเอง ผมก็พยายามอธิบายในเบื้องต้นไปแล้ว แต่เขาก็คิดว่าความคิดของเขานั้นถูกต้อง

ในคำถามเรื่องการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า เขายังถามอีกว่า เวลาพระเยซูกลับคืนชีพและปรากฏองค์ให้บรรดาศิษย์เห็น พระองค์ทรงสวมใส่อะไร เพราะเสื้อคลุมชั้นนอกและชั้นในก็ถูกพวกทหารโรมันจับสลากเอาไปหมดแล้ว ส่วนผ้าห่อพระศพก็ทิ้งไว้ในพระคูหา ไม่ได้ทรงนำติดตัวคลุมพระวรกายไปด้วย ผมเองยังไม่ได้ตอบเขา แต่ก็คิดในใจว่า ชาวสวรรค์ก็ต้องมีชุดอาภรณ์ของสวรรค์สวมใส่อยู่แล้ว คงไม่ต้องพึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์ของมนุษย์หรอก ไม่งั้นในสวรรค์คงเห็นเหมือนกับรูปภาพของไมเคิ้ลแองเจโลในโบสถ์ซิสทีนที่ทุกคนไม่ได้ใส่อะไรเลย
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

ศุกร์ พ.ค. 24, 2013 1:55 am

พอดีนึกขึ้นได้ครับ^^ ขออภัยที่ขุดขึ้นมา 55
เหตุผลที่พระเจ้าไม่ให้พระกายพระองค์เปื่อยเน่าเพราะทรงสัญญาไว้แล้ว สดด16:9-10
ไม่ใช่ว่าโดยเดชพระเจ้าเน่าแล้วจะไม่มีปัญญาทำให้ฟื้น แต่เพราะพระเจ้ารักษาคำพูด แล้วทรงพยากรณ์ไว้แล้ว ไม่ใช่ผมนึกขึ้นมาเอง แต่ตอนนั้นจำข้อพระคัมภีร์อ้างอิงไม่ได้จริงๆ ต้องขอโทษด้วยครับ
ยังมีอีกหลายประเด็นที่า่าสนใจ เกี่ยวกับการตายของพระองค์ซึ่งล้วนแต่มีการพยากรณ์ไว้แล้ว
อาทิ พระองค์จะถูกฝังอย่างเศรษฐีแม้จะตายในหมู่คนชั่ว (อสย 53:9)
ขาพระองค์ไม่ถูกททุบ เพราะเป็นแกะปัสกา (อพย 12:46, กดว9:12,สดด34:20)
พระองค์ต้องถูกแทง (ศคย 12:10)
เป็นต้น
ปล.อิมมานูเอล
ตอบกลับโพส