แสดงว่า ถ้าเราพูดว่า "แหม... น่าอิจฉาจัง" เวลาเห็นคนอื่นได้ดี
กับ..... ความรู้สึกที่แบบว่า "อยากเก่งแบบเขา" "อยากทำได้แบบเขามั่ง" "อยากโชคดีแบบเขา" "ทำไมมีแต่เราที่ซวยตลอด แต่คนอื่นไม่ซวยเท่ากับเรา"
นี่ก็คือบาปรึ?
ไม่ได้ตั้งใจกวน เพราะอะไร ๆ ที่เราถาม เราโพส "เรากังวลจริง ๆ นะ"
อิจฉา เป็นบาป?
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อย่ากังวลใจในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
มันต้องแยกแยะภาษาที่ใช้ และการสื่อความหมาย
เพราะจริงๆเป็นภาษาแสดงความรู้สึกที่ negative-postsiitive เป็นการเพิ่มสีสันให้ชีวิต
เช่น "นี่ฉันอิจฉาเธอจัง แฟนสวย" "หรืออิจฉาจังxx ทั้งหล่อ ทั้งรวย และเรียนเก่ง"
นี่คือการแสดงความรู้สึกชื่นชมคนๆนั้นมากกว่า เจ้าตัวได้ยินก็มักจะปลื้ม
เช่นเจี๊ยบ บ่อยๆ จะรู้สึกอิจฉาแมว ที่มันไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเรียนหนังสือ
อยากนอนเมื่อไหร่ก็ได้นอน ...และเคยบอกกับแมว จริงๆไม่ได้ซีเรียสว่าต้องอิจฉาจริงๆ
มันต้องแยกแยะภาษาที่ใช้ และการสื่อความหมาย
เพราะจริงๆเป็นภาษาแสดงความรู้สึกที่ negative-postsiitive เป็นการเพิ่มสีสันให้ชีวิต
เช่น "นี่ฉันอิจฉาเธอจัง แฟนสวย" "หรืออิจฉาจังxx ทั้งหล่อ ทั้งรวย และเรียนเก่ง"
นี่คือการแสดงความรู้สึกชื่นชมคนๆนั้นมากกว่า เจ้าตัวได้ยินก็มักจะปลื้ม
เช่นเจี๊ยบ บ่อยๆ จะรู้สึกอิจฉาแมว ที่มันไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเรียนหนังสือ
อยากนอนเมื่อไหร่ก็ได้นอน ...และเคยบอกกับแมว จริงๆไม่ได้ซีเรียสว่าต้องอิจฉาจริงๆ
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ความอิจฉาที่เป็นบาปน่าจะเกิดขึ้นในกรณีที่ความรู้สึกนั้นทำให้เราพยามแย่งชิงสิ่งที่เป็นของคนอื่นมาเป็นของเรามากกว่าครับ
เช่น "บ้านไอ้เพื่อนคนนั้นมันมีPS3!!!! อยากได้จัง คืนนี้ไปแอบงัดบ้านมันดีกว่า" อันนี้บาป100%
แต่ถ้า "โห เพื่อนคนนั้นเรียนเก่งจัง เราต้องเรียนเก่งแบบมันมั่งให้ได้!!!" การ เรียนเก่งไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง ใครๆก็เรียนเก่งได้ และพอเราเรียนเก่ง ก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนคนนั้นจะเลิกเรียน(ต่างกะกรณีPS3 เพราะถ้าเราไปขโมย มันตื่นมาตอนเช้าก็ต้องตะโกน "NGตรูอยู่ไส!!!??")
บางทีมันก็เป็นความรู้สึกชื่นชมหรือยกย่องอยากได้เป็นแบบอย่างครับ(โมเดลลิซ...อะไรซักอย่างนี่แหละ)
เช่น "บ้านไอ้เพื่อนคนนั้นมันมีPS3!!!! อยากได้จัง คืนนี้ไปแอบงัดบ้านมันดีกว่า" อันนี้บาป100%
แต่ถ้า "โห เพื่อนคนนั้นเรียนเก่งจัง เราต้องเรียนเก่งแบบมันมั่งให้ได้!!!" การ เรียนเก่งไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง ใครๆก็เรียนเก่งได้ และพอเราเรียนเก่ง ก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนคนนั้นจะเลิกเรียน(ต่างกะกรณีPS3 เพราะถ้าเราไปขโมย มันตื่นมาตอนเช้าก็ต้องตะโกน "NGตรูอยู่ไส!!!??")
บางทีมันก็เป็นความรู้สึกชื่นชมหรือยกย่องอยากได้เป็นแบบอย่างครับ(โมเดลลิซ...อะไรซักอย่างนี่แหละ)
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
อิจฉา
ความหมาย
[อิด] ก. เห็นเขาได้ดีแล้วไม่พอใจ อยากจะมีหรือเป็นอย่างเขาบ้าง (มีความหมายเบากว่า ริษยา). (ป., ส. อิจฺฉา ว่า ความอยาก, ความต้องการ, ความปรารถนา).
พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร
อิจฉา
คำแปล
(มค. อิจฺฉา) น. ความอยาก, ความต้องการ. ก. กัน, ไม่พอใจเห็นคนอื่นได้ดี, ไม่อยากให้ใครดีกว่าตัว, ริษยา.
"แหม... น่าอิจฉาจัง" "คำพูด" ไม่น่ากลัวเท่า "ความคิด"
"คนคิดริษยาอิจฉาตาร้อนมักนอนไม่หลับ คนคิดดีนอนพับหลับผล็อยอร่อยไปเลย...ย...ย"
อิจฉา
ความหมาย
[อิด] ก. เห็นเขาได้ดีแล้วไม่พอใจ อยากจะมีหรือเป็นอย่างเขาบ้าง (มีความหมายเบากว่า ริษยา). (ป., ส. อิจฺฉา ว่า ความอยาก, ความต้องการ, ความปรารถนา).
พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร
อิจฉา
คำแปล
(มค. อิจฺฉา) น. ความอยาก, ความต้องการ. ก. กัน, ไม่พอใจเห็นคนอื่นได้ดี, ไม่อยากให้ใครดีกว่าตัว, ริษยา.
"แหม... น่าอิจฉาจัง" "คำพูด" ไม่น่ากลัวเท่า "ความคิด"
"คนคิดริษยาอิจฉาตาร้อนมักนอนไม่หลับ คนคิดดีนอนพับหลับผล็อยอร่อยไปเลย...ย...ย"
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
งั้นเหรอ.....แบบนั้นก็ดีไป
แต่เราก็คงขี้อิจฉาจริง ๆ นั่นแหละ แม้จะไม่ถึงกับอยากแย่งของสำคัญของใคร (คนที่ตัวเองรักมีแฟน ยังไม่คิดแย่งแถมขอพระเจ้าอวยพรให้ซะอีก) แต่ก็พอรู้ตัวว่ามีหนี้บุญคุณและอะไรที่ควรใช้คืนให้เค้าตั้งเยอะ(ที่ไม่ใช่ตัวเงิน)แต่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรนี่แหละ ที่ upset ตัวเองมาก
ไม่รู้สิ พักนี้ทำไมคิดมากจัด แถมออกไปแนวประชดพระองค์แบบระบบออโต้ ยั้งไม่ค่อยทันด้วย น็อตหลวมสุด ๆ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีดราม่าอะไรกับเพื่อน ๆ ละ (จะมีบ้างก็อาจจะคนใกล้ตัวนิดหน่อย แต่ตอนนี้ยังลมสงบอยู่แท้ ๆ ไม่นับดราม่ากับตัวเอง)
ไม่รู้พักนี้เราเป็นอะไรของเราฟระ เครื่องรวนกับตัวเองแล้วลามถึงพระองค์ได้ตลอดเวลา -*-
.......จะว่าไป ด้านความเชื่อ เราก็ตกต่ำจริง ๆ นั่นแหละ เพราะเราค่อนข้างมองโลกในแง่ Dark น่ะนะ
ถามว่าอ่านพระคัมภีร์ไหม พักนี้ไม่ อ่านไบเบิลไดอารี่เป็นครั้งคราวแค่นั้น เพราะพระธรรมใหม่พอรู้สิ่งที่ต้องการจะสื่ออยู่แล้ว แต่เหมือนมันจะยังไม่เพียงพอจะชนะใจเราโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว ส่วนพระธรรมเดิม...... เอ่อ ยิ่งอ่านยิ่งจิตตก + ไม่เชื่อ (ตัดสินจากสิ่งที่เห็นในโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม และประวัติศาสตร์)
แต่เราก็คงขี้อิจฉาจริง ๆ นั่นแหละ แม้จะไม่ถึงกับอยากแย่งของสำคัญของใคร (คนที่ตัวเองรักมีแฟน ยังไม่คิดแย่งแถมขอพระเจ้าอวยพรให้ซะอีก) แต่ก็พอรู้ตัวว่ามีหนี้บุญคุณและอะไรที่ควรใช้คืนให้เค้าตั้งเยอะ(ที่ไม่ใช่ตัวเงิน)แต่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรนี่แหละ ที่ upset ตัวเองมาก
ไม่รู้สิ พักนี้ทำไมคิดมากจัด แถมออกไปแนวประชดพระองค์แบบระบบออโต้ ยั้งไม่ค่อยทันด้วย น็อตหลวมสุด ๆ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีดราม่าอะไรกับเพื่อน ๆ ละ (จะมีบ้างก็อาจจะคนใกล้ตัวนิดหน่อย แต่ตอนนี้ยังลมสงบอยู่แท้ ๆ ไม่นับดราม่ากับตัวเอง)
ไม่รู้พักนี้เราเป็นอะไรของเราฟระ เครื่องรวนกับตัวเองแล้วลามถึงพระองค์ได้ตลอดเวลา -*-
.......จะว่าไป ด้านความเชื่อ เราก็ตกต่ำจริง ๆ นั่นแหละ เพราะเราค่อนข้างมองโลกในแง่ Dark น่ะนะ
ถามว่าอ่านพระคัมภีร์ไหม พักนี้ไม่ อ่านไบเบิลไดอารี่เป็นครั้งคราวแค่นั้น เพราะพระธรรมใหม่พอรู้สิ่งที่ต้องการจะสื่ออยู่แล้ว แต่เหมือนมันจะยังไม่เพียงพอจะชนะใจเราโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว ส่วนพระธรรมเดิม...... เอ่อ ยิ่งอ่านยิ่งจิตตก + ไม่เชื่อ (ตัดสินจากสิ่งที่เห็นในโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม และประวัติศาสตร์)
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ถ้าอิจฉา คืออิจฉาจริงๆ ก็บาป
เราขอพูดแบบตรงๆอีกครั้ง อาการที่คุณเป็นอยู่ ไม่สามารถหายได้ ถ้าอยู่แต่บนโลกไซเบอร์
น่าจะมีโอกาสคุย/ขอคำปรึกษาระดับมืออาชีพ ครับ
เราขอพูดแบบตรงๆอีกครั้ง อาการที่คุณเป็นอยู่ ไม่สามารถหายได้ ถ้าอยู่แต่บนโลกไซเบอร์
น่าจะมีโอกาสคุย/ขอคำปรึกษาระดับมืออาชีพ ครับ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
"มืออาชีพ" ที่ว่าน่ะ รอให้มาตั้งนานแล้ว (แต่หมายถึงเทวดาประจำตัวหรือชาวสวรรค์ที่รู้ชัดแจ้งกว่าน่ะนะ เพราะเรามั่นใจว่าน่าจะตอบคำถามเราได้ชัดเจนและ official กว่าคนบนโลกน่ะนะ นี่ไม่ได้กวนแต่เรารู้สึกงี้จริง ๆ )Jeab Agape เขียน:ถ้าอิจฉา คืออิจฉาจริงๆ ก็บาป
เราขอพูดแบบตรงๆอีกครั้ง อาการที่คุณเป็นอยู่ ไม่สามารถหายได้ ถ้าอยู่แต่บนโลกไซเบอร์
น่าจะมีโอกาสคุย/ขอคำปรึกษาระดับมืออาชีพ ครับ
แต่ก็นะ อย่างเรา คงไม่มีค่าพอจะเห็นการสำแดงใด ๆ หรอก
-
- โพสต์: 159
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 03, 2011 5:53 pm
ถ้าคุณเป้นคริสต์เพียงเพื่อได้เห็นอะไรแปลกๆล่ะก้อ คุณจะไม่มีวันได้เห็นจนวันตาย จำไว้
แรง แต่ถูกอย่างยิ่ง ศาสนา นับถืออย่างจริงใจและสุดใจ แม้มีชีวิตอยู่อำนาจของพระนั้นๆก็อาจจะแสดงให้เราเห็นให้เราพบ แต่ถ้าเพียงอยากรู้อยากเห็น ก็คงตามที่พี่พูดอ่ะนะHOLY DANCE เขียน:ถ้าคุณเป้นคริสต์เพียงเพื่อได้เห็นอะไรแปลกๆล่ะก้อ คุณจะไม่มีวันได้เห็นจนวันตาย จำไว้
ไม่แปลกหรอกครับ คุณก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ในเรื่องการประชดพระองค์ มันอยู่ในสายเลือดคุณแล้วนี่ครับ จะไปสงสัยมันทำไมไม่รู้สิ พักนี้ทำไมคิดมากจัด แถมออกไปแนวประชดพระองค์แบบระบบออโต้ ยั้งไม่ค่อยทันด้วย น็อตหลวมสุด ๆ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีดราม่าอะไรกับเพื่อน ๆ ละ (จะมีบ้างก็อาจจะคนใกล้ตัวนิดหน่อย แต่ตอนนี้ยังลมสงบอยู่แท้ ๆ ไม่นับดราม่ากับตัวเอง)
ไม่รู้พักนี้เราเป็นอะไรของเราฟระ เครื่องรวนกับตัวเองแล้วลามถึงพระองค์ได้ตลอดเวลา -*-
คุณรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าการกระทำอย่างนี้ มันไม่เหมาะสม แต่คุณก็ยังทำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเรียกว่า หน้า้าน รู้ตัวว่าตัวเองทำไม่ดี แต่ก็ยังทำ แล้วยังมาเรียกร้องขอดูเครื่องหมายอัศจรรย์อีก
โอ...ว้าว จริงเหรอ ความคิดแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่เลยสำหรับคุณเลย คนในบอร์ดนี้เข้ารู้ดีว่าคุณไม่ได้มีความเชื่อเลยแม้แต่น้อย.......จะว่าไป ด้านความเชื่อ เราก็ตกต่ำจริง ๆ นั่นแหละ เพราะเราค่อนข้างมองโลกในแง่ Dark น่ะนะ
เมื่ออ่านแล้ว ไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องอ่าน เพราะยิ่งอ่านมันก็ยิ่งไม่เชื่อ เพราะฉนั้น วางพระคัมภีร์ลงเถอะครับ อย่าไปเอาพระวาจาอันศักดิ์สิทมาแปดเปื้อนความอัคติของคุณเลยถามว่าอ่านพระคัมภีร์ไหม พักนี้ไม่ อ่านไบเบิลไดอารี่เป็นครั้งคราวแค่นั้น เพราะพระธรรมใหม่พอรู้สิ่งที่ต้องการจะสื่ออยู่แล้ว แต่เหมือนมันจะยังไม่เพียงพอจะชนะใจเราโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว ส่วนพระธรรมเดิม...... เอ่อ ยิ่งอ่านยิ่งจิตตก + ไม่เชื่อ (ตัดสินจากสิ่งที่เห็นในโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม และประวัติศาสตร์)
เมื่อใดที่คุณรักพระองค์จริงๆ แล้วค่อยหยิบขึ้นมาอ่าน แต่ผมคิดว่าชาตินี้สำหรับคุณคงไม่มีวันรักพระองค์จากใจหรอก ปากพูดว่าตัวเองเป็นคริสต์ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ไม่เดินตามวิถีทางของคริสตชน ก็อย่าเรียกตัวว่าเป็นคริตส์อีกเลย ผมขอร้อง
..............................................................................................................
พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่บรรดาศิษย์
19ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด"
20ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกายแก่บรรดาศิษย์ เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็น เจ้า ก็มีความยินดี
21พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า "สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลาย ไปฉันนั้น"
22ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า"จงรับพระจิตเจ้าเถิด
23ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัยท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย"
24โทมัส ซึ่งเรียกกันว่า "ฝาแฝด" เป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกทั้งสิบสองคน ไม่ได้อยู่กับอัครสาวกคนอื่นๆ เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมา
25ศิษย์คนอื่นบอกเขาว่า "พวกเราได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว" แต่เขาตอบว่า "ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์และไม่ได้เอานิ้วแยงเข้าไปที่รอยตะปู และไม่ได้เอามือคลำที่ด้านข้างพระวรกายของพระองค์ ข้าพเจ้าจะไม่เชื่อเป็นอันขาด"
26แปดวันต่อมา บรรดาศิษย์อยู่ด้วยกันในบ้านนั้นอีก โทมัสก็อยู่กับเขาด้วย ทั้งๆที่ประตูปิดอยู่พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลางตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด"
27แล้วตรัสกับโทมัสว่า "จงเอานิ้วมาที่นี่ และดูมือของเราเถิด จงเอามือมาที่นี่ คลำที่สีข้างของเราเถิด อย่าสงสัยอีกต่อ ไป แต่จงเชื่อเถิด"
28โทมัสทูลพระองค์ว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า!"
29พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า"ท่านเชื่อเพราะว่าได้เห็นเรา แต่ผู้ที่เชื่อ แม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข"