อิจฉา เป็นบาป?

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อาทิตย์ พ.ค. 01, 2011 11:08 pm

แสดงว่า ถ้าเราพูดว่า "แหม... น่าอิจฉาจัง" เวลาเห็นคนอื่นได้ดี

กับ..... ความรู้สึกที่แบบว่า "อยากเก่งแบบเขา" "อยากทำได้แบบเขามั่ง" "อยากโชคดีแบบเขา" "ทำไมมีแต่เราที่ซวยตลอด แต่คนอื่นไม่ซวยเท่ากับเรา"

นี่ก็คือบาปรึ?

ไม่ได้ตั้งใจกวน เพราะอะไร ๆ ที่เราถาม เราโพส "เรากังวลจริง ๆ นะ"
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ พ.ค. 01, 2011 11:38 pm

อย่ากังวลใจในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

มันต้องแยกแยะภาษาที่ใช้ และการสื่อความหมาย
เพราะจริงๆเป็นภาษาแสดงความรู้สึกที่ negative-postsiitive เป็นการเพิ่มสีสันให้ชีวิต
เช่น "นี่ฉันอิจฉาเธอจัง แฟนสวย" "หรืออิจฉาจังxx ทั้งหล่อ ทั้งรวย และเรียนเก่ง"
นี่คือการแสดงความรู้สึกชื่นชมคนๆนั้นมากกว่า เจ้าตัวได้ยินก็มักจะปลื้ม

เช่นเจี๊ยบ บ่อยๆ จะรู้สึกอิจฉาแมว ที่มันไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเรียนหนังสือ
อยากนอนเมื่อไหร่ก็ได้นอน ...และเคยบอกกับแมว จริงๆไม่ได้ซีเรียสว่าต้องอิจฉาจริงๆ
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

จันทร์ พ.ค. 02, 2011 1:12 pm

ความอิจฉาที่เป็นบาปน่าจะเกิดขึ้นในกรณีที่ความรู้สึกนั้นทำให้เราพยามแย่งชิงสิ่งที่เป็นของคนอื่นมาเป็นของเรามากกว่าครับ

เช่น "บ้านไอ้เพื่อนคนนั้นมันมีPS3!!!! อยากได้จัง คืนนี้ไปแอบงัดบ้านมันดีกว่า" :s019: อันนี้บาป100%
แต่ถ้า "โห เพื่อนคนนั้นเรียนเก่งจัง เราต้องเรียนเก่งแบบมันมั่งให้ได้!!!" การ เรียนเก่งไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง ใครๆก็เรียนเก่งได้ และพอเราเรียนเก่ง ก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนคนนั้นจะเลิกเรียน(ต่างกะกรณีPS3 เพราะถ้าเราไปขโมย มันตื่นมาตอนเช้าก็ต้องตะโกน "NGตรูอยู่ไส!!!??")

บางทีมันก็เป็นความรู้สึกชื่นชมหรือยกย่องอยากได้เป็นแบบอย่างครับ(โมเดลลิซ...อะไรซักอย่างนี่แหละ)
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

จันทร์ พ.ค. 02, 2011 1:37 pm

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
อิจฉา
ความหมาย
[อิด] ก. เห็นเขาได้ดีแล้วไม่พอใจ อยากจะมีหรือเป็นอย่างเขาบ้าง (มีความหมายเบากว่า ริษยา). (ป., ส. อิจฺฉา ว่า ความอยาก, ความต้องการ, ความปรารถนา).

พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร
อิจฉา
คำแปล
(มค. อิจฺฉา) น. ความอยาก, ความต้องการ. ก. กัน, ไม่พอใจเห็นคนอื่นได้ดี, ไม่อยากให้ใครดีกว่าตัว, ริษยา.

"แหม... น่าอิจฉาจัง" "คำพูด" ไม่น่ากลัวเท่า "ความคิด"

"คนคิดริษยาอิจฉาตาร้อนมักนอนไม่หลับ คนคิดดีนอนพับหลับผล็อยอร่อยไปเลย...ย...ย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

จันทร์ พ.ค. 02, 2011 1:43 pm

งั้นเหรอ.....แบบนั้นก็ดีไป

แต่เราก็คงขี้อิจฉาจริง ๆ นั่นแหละ แม้จะไม่ถึงกับอยากแย่งของสำคัญของใคร (คนที่ตัวเองรักมีแฟน ยังไม่คิดแย่งแถมขอพระเจ้าอวยพรให้ซะอีก) แต่ก็พอรู้ตัวว่ามีหนี้บุญคุณและอะไรที่ควรใช้คืนให้เค้าตั้งเยอะ(ที่ไม่ใช่ตัวเงิน)แต่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรนี่แหละ ที่ upset ตัวเองมาก

ไม่รู้สิ พักนี้ทำไมคิดมากจัด แถมออกไปแนวประชดพระองค์แบบระบบออโต้ ยั้งไม่ค่อยทันด้วย น็อตหลวมสุด ๆ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีดราม่าอะไรกับเพื่อน ๆ ละ (จะมีบ้างก็อาจจะคนใกล้ตัวนิดหน่อย แต่ตอนนี้ยังลมสงบอยู่แท้ ๆ ไม่นับดราม่ากับตัวเอง)

ไม่รู้พักนี้เราเป็นอะไรของเราฟระ เครื่องรวนกับตัวเองแล้วลามถึงพระองค์ได้ตลอดเวลา -*-

.......จะว่าไป ด้านความเชื่อ เราก็ตกต่ำจริง ๆ นั่นแหละ เพราะเราค่อนข้างมองโลกในแง่ Dark น่ะนะ

ถามว่าอ่านพระคัมภีร์ไหม พักนี้ไม่ อ่านไบเบิลไดอารี่เป็นครั้งคราวแค่นั้น เพราะพระธรรมใหม่พอรู้สิ่งที่ต้องการจะสื่ออยู่แล้ว แต่เหมือนมันจะยังไม่เพียงพอจะชนะใจเราโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว ส่วนพระธรรมเดิม...... เอ่อ ยิ่งอ่านยิ่งจิตตก + ไม่เชื่อ (ตัดสินจากสิ่งที่เห็นในโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม และประวัติศาสตร์)
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ พ.ค. 04, 2011 4:01 pm

ถ้าอิจฉา คืออิจฉาจริงๆ ก็บาป

เราขอพูดแบบตรงๆอีกครั้ง อาการที่คุณเป็นอยู่ ไม่สามารถหายได้ ถ้าอยู่แต่บนโลกไซเบอร์
น่าจะมีโอกาสคุย/ขอคำปรึกษาระดับมืออาชีพ ครับ :s015:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พุธ พ.ค. 04, 2011 10:36 pm

Jeab Agape เขียน:ถ้าอิจฉา คืออิจฉาจริงๆ ก็บาป

เราขอพูดแบบตรงๆอีกครั้ง อาการที่คุณเป็นอยู่ ไม่สามารถหายได้ ถ้าอยู่แต่บนโลกไซเบอร์
น่าจะมีโอกาสคุย/ขอคำปรึกษาระดับมืออาชีพ ครับ :s015:
"มืออาชีพ" ที่ว่าน่ะ รอให้มาตั้งนานแล้ว (แต่หมายถึงเทวดาประจำตัวหรือชาวสวรรค์ที่รู้ชัดแจ้งกว่าน่ะนะ เพราะเรามั่นใจว่าน่าจะตอบคำถามเราได้ชัดเจนและ official กว่าคนบนโลกน่ะนะ นี่ไม่ได้กวนแต่เรารู้สึกงี้จริง ๆ )

แต่ก็นะ อย่างเรา คงไม่มีค่าพอจะเห็นการสำแดงใด ๆ หรอก
HOLY DANCE
โพสต์: 159
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 03, 2011 5:53 pm

ศุกร์ ธ.ค. 23, 2011 11:10 pm

ถ้าคุณเป้นคริสต์เพียงเพื่อได้เห็นอะไรแปลกๆล่ะก้อ คุณจะไม่มีวันได้เห็นจนวันตาย จำไว้
ภาพประจำตัวสมาชิก
garuda
โพสต์: 116
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 12, 2011 11:22 pm

จันทร์ ธ.ค. 26, 2011 8:27 am

HOLY DANCE เขียน:ถ้าคุณเป้นคริสต์เพียงเพื่อได้เห็นอะไรแปลกๆล่ะก้อ คุณจะไม่มีวันได้เห็นจนวันตาย จำไว้
แรง แต่ถูกอย่างยิ่ง ศาสนา นับถืออย่างจริงใจและสุดใจ แม้มีชีวิตอยู่อำนาจของพระนั้นๆก็อาจจะแสดงให้เราเห็นให้เราพบ แต่ถ้าเพียงอยากรู้อยากเห็น ก็คงตามที่พี่พูดอ่ะนะ ::017::
Kenneth
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 2:23 pm

อังคาร ธ.ค. 27, 2011 2:18 am

ไม่รู้สิ พักนี้ทำไมคิดมากจัด แถมออกไปแนวประชดพระองค์แบบระบบออโต้ ยั้งไม่ค่อยทันด้วย น็อตหลวมสุด ๆ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีดราม่าอะไรกับเพื่อน ๆ ละ (จะมีบ้างก็อาจจะคนใกล้ตัวนิดหน่อย แต่ตอนนี้ยังลมสงบอยู่แท้ ๆ ไม่นับดราม่ากับตัวเอง)

ไม่รู้พักนี้เราเป็นอะไรของเราฟระ เครื่องรวนกับตัวเองแล้วลามถึงพระองค์ได้ตลอดเวลา -*-
ไม่แปลกหรอกครับ คุณก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ในเรื่องการประชดพระองค์ มันอยู่ในสายเลือดคุณแล้วนี่ครับ จะไปสงสัยมันทำไม
คุณรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าการกระทำอย่างนี้ มันไม่เหมาะสม แต่คุณก็ยังทำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเรียกว่า หน้า้าน รู้ตัวว่าตัวเองทำไม่ดี แต่ก็ยังทำ แล้วยังมาเรียกร้องขอดูเครื่องหมายอัศจรรย์อีก


.......จะว่าไป ด้านความเชื่อ เราก็ตกต่ำจริง ๆ นั่นแหละ เพราะเราค่อนข้างมองโลกในแง่ Dark น่ะนะ
โอ...ว้าว จริงเหรอ ความคิดแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่เลยสำหรับคุณเลย คนในบอร์ดนี้เข้ารู้ดีว่าคุณไม่ได้มีความเชื่อเลยแม้แต่น้อย
ถามว่าอ่านพระคัมภีร์ไหม พักนี้ไม่ อ่านไบเบิลไดอารี่เป็นครั้งคราวแค่นั้น เพราะพระธรรมใหม่พอรู้สิ่งที่ต้องการจะสื่ออยู่แล้ว แต่เหมือนมันจะยังไม่เพียงพอจะชนะใจเราโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว ส่วนพระธรรมเดิม...... เอ่อ ยิ่งอ่านยิ่งจิตตก + ไม่เชื่อ (ตัดสินจากสิ่งที่เห็นในโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม และประวัติศาสตร์)
เมื่ออ่านแล้ว ไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องอ่าน เพราะยิ่งอ่านมันก็ยิ่งไม่เชื่อ เพราะฉนั้น วางพระคัมภีร์ลงเถอะครับ อย่าไปเอาพระวาจาอันศักดิ์สิทมาแปดเปื้อนความอัคติของคุณเลย
เมื่อใดที่คุณรักพระองค์จริงๆ แล้วค่อยหยิบขึ้นมาอ่าน แต่ผมคิดว่าชาตินี้สำหรับคุณคงไม่มีวันรักพระองค์จากใจหรอก ปากพูดว่าตัวเองเป็นคริสต์ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ไม่เดินตามวิถีทางของคริสตชน ก็อย่าเรียกตัวว่าเป็นคริตส์อีกเลย ผมขอร้อง

..............................................................................................................

พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่บรรดาศิษย์

19ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด"

20ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกายแก่บรรดาศิษย์ เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็น เจ้า ก็มีความยินดี

21พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า "สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลาย ไปฉันนั้น"

22ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า"จงรับพระจิตเจ้าเถิด

23ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัยท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย"

24โทมัส ซึ่งเรียกกันว่า "ฝาแฝด" เป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกทั้งสิบสองคน ไม่ได้อยู่กับอัครสาวกคนอื่นๆ เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมา

25ศิษย์คนอื่นบอกเขาว่า "พวกเราได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว" แต่เขาตอบว่า "ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์และไม่ได้เอานิ้วแยงเข้าไปที่รอยตะปู และไม่ได้เอามือคลำที่ด้านข้างพระวรกายของพระองค์ ข้าพเจ้าจะไม่เชื่อเป็นอันขาด"

26แปดวันต่อมา บรรดาศิษย์อยู่ด้วยกันในบ้านนั้นอีก โทมัสก็อยู่กับเขาด้วย ทั้งๆที่ประตูปิดอยู่พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลางตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด"

27แล้วตรัสกับโทมัสว่า "จงเอานิ้วมาที่นี่ และดูมือของเราเถิด จงเอามือมาที่นี่ คลำที่สีข้างของเราเถิด อย่าสงสัยอีกต่อ ไป แต่จงเชื่อเถิด"

28โทมัสทูลพระองค์ว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า!"

29พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า"ท่านเชื่อเพราะว่าได้เห็นเรา แต่ผู้ที่เชื่อ แม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข"
Kenneth
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 2:23 pm

อังคาร ธ.ค. 27, 2011 2:56 am

พระวาจาที่ยกมาให้อ่านด้านบน จะเว้นไว้ไม่ต้องอ่านก็ได้นะ ถึงอ่านไปคุณก็ไม่เชื่ออยู่ดี
ตอบกลับโพส