- เลขและจำนวนในพระวิวรณ์ที่มักถูกลัทธิเทียมเท็จเอาไปแปลมั่ว-

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 4:02 am

จำนวนเลขที่เป็น “ปัญหา”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องจำนวนที่เป็นสัญลักษณ์ในหนังสือวิวรณ์ เราได้บอกว่ามีจำนวน 3 จำนวนที่น่าจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษนั่นคือ

รูปภาพ

(1) จำนวน 144,000 ของผู้ที่ได้รับการประทับตรา ในหนังสือวิวรณ์บทที่ 7 และ 14
(2) จำนวน 666 ซึ่งเป็นจำนวนของ “สัตว์ร้าย” ที่หมายถึงมนุษย์ในบทที่ 13 และ
(3) จำนวน 1000 ปี ที่พระคริสตเจ้าทรงครองราชย์ในบทที่ 20

เพราะเคยมีคำอธิบายหลายต่อหลายแบบด้วยกัน ก่อนให้เกิดความสับสนและหวาดกลัวกันไม่น้อยทั้งในอดีตและในปัจจุบัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 4:10 am

1. จำนวน 144,000 ของผู้รับการประทับตราใน วว 7:1-8 (เทียบ 14:1, 5)


วว 7:1-8 ผู้รับใช้ของพระเจ้าจะรอดพ้น
7 (1)หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์สี่องค์ยืนอยู่ที่มุมทั้งสี่ของแผ่นดิน กำลังควบคุมลมทั้งสี่ทิศของแผ่นดินมิให้พัดบนบกหรือในทะเลหรือพัดต้นไม้ใด ๆ (2)ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งปรากฏขึ้นทางทิศตะวันออก ถือตราของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต ทูตสวรรค์องค์นั้นร้องเสียงดังบอกทูตสวรรค์ทั้งสี่องค์ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำลายแผ่นดินและทะเลว่า (3)”อย่าทำลายแผ่นดินหรือทะเลหรือต้นไม้ จนกว่าเราจะได้ประทับตราไว้ที่หน้าผากของบรรดาผู้รับใช้พระเจ้าของเรา” (4)และข้าพเจ้าได้ยินว่าผู้ที่ได้รับการประทับตรามีจำนวนหนึ่งแสนสี่หมื่นสี่พันคน ผู้รับการประทับตราเหล่านี้มาจากทุกเผ่าของชาวอิสราเอล
(5)ผู้ได้รับการประทับตราจากเผ่ายูดาห์มีหนึ่งหมื่นสองพันคน จากเผ่ารูเบนหนึ่งหมื่นสองพันคน จากเผ่ากาดหนึ่งหมื่นสองพันคน (6)จากเผ่าอาเชอร์หนึ่งหมื่นสองพันคน จากเผ่านัฟทาลีหนึ่งหมื่นสองพันคน จากเผ่ามนัสเสห์หนึ่งหมื่นสองพันคน (7)จากเผ่าสิเมโอนหนึ่งหมื่นสองพันคน จากเผ่าเลวีหนึ่งหมื่นสองพันคน จากเผ่าอิสสาคาร์หนึ่งหมื่นสองพันคน (8)จากเผ่าเศบูลุนหนึ่งหมื่นสองพันคน จากเผ่าโยเซฟหนึ่งหมื่นสองพันคน และจากเผ่าเบนยามินหนึ่งหมื่นสองพันคน



รูปภาพ


จำนวนนี้นับว่ามีความสำคัญที่สุด เพราะเป็นจำนวนที่ผู้นิพนธ์หนังสือวิวรณ์กล่าวว่า เป็นจำนวนของผู้ที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย ใน วว บทที่ 7 เราอยู่ในเรื่อง “ตราดวงที่หก” ซึ่งกล่าวถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นและทวีความรุนแรงเกือบจะถึงที่สุดแล้ว ในตราดวงที่เจ็ด วว บทที่ 7 มีลักษณะเป็น “บทคั่น” ทูตสวรรค์สี่องค์ได้รับคำสั่งให้ทำลาย “แผ่นดินและทะเล” (7:2) แต่ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งมายับยั้งไว้ “อย่าทำอันตรายแก่แผ่นดิน, ทะเลหรือต้นไม้ จนกว่าเราจะได้ประทับตรา ไว้ที่หน้าผากของผุ้รับใช้ทั้งหลายของพระเจ้าเสียก่อน”

จำนวนของผู้การประทับตรามีจำนวน 144,000 คน จาก 12 เผ่าของอิสราเอล (7:3-4) เผ่าละ 12,000 คน ปัญหาจึงมีว่าจำนวน 144,000 ที่ว่านี้เป็นจำนวนจำกัดหรือเปล่า ถ้าเป็นจำนวนจำกัดก็นับว่าไม่ใช่จำนวนใหญ่นัก จำนวนผู้ที่รอดพ้นจากการทำลายเพียงแสนกว่าคนเมื่อเทียบกับชาวโลกนับล้านๆ ก็เป็นจำนวนน้อยนิดไม่น่าจะเป็น “ข่าวดี” อะไรสำหรับมนุษย์โลกที่จะต้องถูกทำลาย

ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้มีกลุ่มศาสนาหลายกลุ่ม ใช้เรื่องนี้มาเทศน์เชิญชวนให้ผู้คนรีบกลับใจเพื่อจะเข้าอยู่ในจำนวน “ผู้รับเลือกสรร” ซึ่งมีจำกัดก่อนที่จะถูกทำลายล้างพร้อมกับมนุษย์ส่วนใหญ่ ซึ่งจะต้องพินาศอย่างแน่นอน ผู้ที่อยากจะรอดพ้นจะต้องรีบเร่งเข้ามาอยู่ใน “พระศาสนจักรที่แท้จริงพระศาสนจักรแห่งคนดีและชอบธรรม” ไม่ใช่พระศาสนจักรที่มีทั้งคนดีและคนชั่วปนกันอย่างพระศาสนจักร “คาทอลิก” คนเหล่านี้มักจะยกเอาพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่เคยตรัสถึง “ประตูแคบ” “ฝูงแกะน้อยๆ” ฯลฯ มาสนับสนุนความเห็นของตนในเรื่องนี้ คำสอนเช่นนี้ทำให้ผู้ฟังมีความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าตนจะถูกนับอยู่ในจำนวนจำกัดของผู้ที่รอดพ้นนี้หรือไม่

แต่ถ้าเราจะพิจารณารายละเอียดใน วว 7:1-8 ให้ดีแล้วจะเห็นชัดว่าข้อความตอนนี้เป็นข่าวดีโดยตรง เพราะยอห์นใช้ความคิดเรื่อง “ตรา” ที่เป็นเครื่องหมายของผุ้ที่รับการยกเว้นไม่ต้องถูกทำลาย โดยยืมสัญลักษณ์นี้มาจากประกาศกเอเสเคียล (อสค 9) เมื่อพระวิหารและกรุงเยรูซาเล็ม (อสค 4) ยอห์จะใช้ภาพเดียวกันเพื่อกล่าวถึงความรอดพ้นของผู้ที่มิได้มีส่วนทำความผิดกับ “สัตว์ร้าย” เพราะฉะนั้นคน 144,000 คนนี้จึงเป็นผู้ที่รอดพ้น จากการทำลายล้างและมีส่วนรับความรอดพ้นที่ “ลูกแกะ” นำมาให้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 4:18 am

สิ่งที่เราต้องพิจารณาต่อไปก็คือเราจะต้องเข้าใจว่าจำนวน 144,000 นี้ เป็นจำนวนจริงๆ ตามตัวอักษรหรือเปล่า เป็นจำนวนจำกัดเพียงเท่านั้นไม่มากไม่น้อยกว่านั้นใช่ไหม คำตอบเห็นจะต้องบอกว่า “ไม่ใช่”

เพราะโดยปรกติแล้วจำนวน 1000 ในพระคัมภีร์เป็นจำนวนไม่เจาะจงนัก มีความหมายรวมๆ หมายถึง “จำนวนมาก” เท่านั้น

รูปภาพ

เพราะฉะนั้นเมื่อบอกว่าคนที่ได้รับประทับตรามีจำนวนพันจึงหมายเพียงว่า “มีจำนวนมาก” ยอห์นกล่าวถึงอิสราเอล 12 ตระกูล แต่ละตระกูลมีผู้ได้รับประทับตราจำนวน “12 พัน” เมื่อรวมกันแล้วจึงได้ “144 พัน” (144,000) จึงหมายความว่ามีจำนวน “มากมายทีเดียว”

จำนวน 12 เป็นผลคูณของ 3 และ 4 ซึ่งหมายถึงความสมบูรณ์ เลข 12 จึงหมายถึง จำนวนมากมาย 144 เป็นจำนวน 12 คูณ 12 แล้วคูณด้วย 1,000 ซึ่งหมายถึงจำนวนมากมายอีกเช่นกันจำนวน 144,000 จึงไม่ใช่จำนวนจำกัด หรือจำนวนเล็กๆ ของผู้รอดพ้นแต่จำนวนนี้ต้องทำให้เราคิดถึงจำนวนที่สมบูรณ์ เพราะเป็นผลคูณของจำนวนเลข “สมบูรณ์” ถึงสามหรือสี่จำนวนด้วยกัน คือ เลข 3, 4, 12 และ 1000 ประชากรของพระเจ้าที่ได้รับความรอดพ้นโดยอาศัย “ลูกแกะ” กลุ่มนี้หมายถึงประชากรอิสราเอล จำนวนมากมายซึ่งเป็นประชากรแห่งพันธสัญญาเดิมนั่นเอง

รูปภาพ

ประชากรที่รอดพ้นมิได้มีเพียงชนชาติอิสราเอล ประชากรแห่งพันธสัญญาเดิมเท่านั้น เราต้องไม่หยุดที่ข้อ 8 นี้เท่านั้น ข้อความต่อไปทำให้เราหายสงสัยในเรื่องนี้ เพราะบอกว่านอกจากคนจำนวน 144,000 จากประชากรแห่งพันธสัญญาเดิมนี้แล้วยังมี “คนมากมายเหลือคณานับมาจากทุกชาติทุกเผ่า ทุกประเทศและทุกภาษา” (วว 7:9)

แสดงว่าจำนวน 144,000 ของผู้ที่รอดพ้นไม่ใช่จำนวนจำกัดแต่ยังมีคนอื่นอีกมากมายรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็หมายความว่าพระเจ้าทรงปรารถนาจะช่วยมนุษย์ทุกคนให้รอดพ้นแต่ก็มิได้หมายความว่าความรอดพ้นนี้ไม่เรียกร้องอะไรจากมนุษย์ ผู้ที่รอดพ้นเหล่านี้ล้วนเป็น “คนที่มาจากการเบียดเบียนครั้งใหญ่ เขาซักเสื้อของเขาจนขาวในพระโลหิตของลูกแกะ” (7:14) นี่คือ “ข่าวดี” ของหนังสือวิวรณ์ การกลับคืนพระชนม์ชีพของพระคริสตเจ้าบังเกิดผลมากมายมหาศาล ผู้ที่เชื่อและเป็นพยานยืนยันถึงพระคริสตเจ้า ในความทุกข์ทรมานต่างๆ เช่นเดียวกับพระองค์จะได้รับความรุ่งโรจน์เดชะพระโลหินหรือการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ด้วยเช่นกัน

รูปภาพ

พระเจ้าที่ยอห์นกล่าวถึงในหนังสือวิวรณ์จึงไม่ใช่พระเจ้าที่ใจแคบหรือขี้เล่น ที่คอยนับจำนวนผู้ที่จะรับความรอดทีละคนจนครบจำนวนที่กำหนดไว้ที่ 144,000 คน แล้วจะหยุดเพียงแค่นั้นไม่มากไม่น้อยกว่านั้น ถ้าเป็นเช่นนี้จริง งานกอบกู้ของพระองค์ต้องนับว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เมื่อเทียบจำนวนนี้กับมนุษย์จำนวนหลายร้อยหลายพันล้านที่อยู่ในโลกตลอดมา ตรงกันข้าพระเจ้าในหนังสือวิวรณ์ทรงพระกรุณาอย่างเหลือล้น พระองค์ทรงรักษาพระสัญญาที่ได้ทรงให้ไว้ว่าทรงปรารถนาให้มนุษย์ทั้งปวงได้รอดพ้น ถ้าเราจะคำนึงถึงมนุษย์ที่พระคริสตเจ้าทรงกอบกู้ไว้ เดชะการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนม์ของพระองค์เราต้องกล่าวว่า ยอห์นบอกเราว่าจำนวนผู้ที่รับความรอดพ้นนั้นมีจำนวนมากมายจนนับไม่ถ้วน

ยอห์นมิได้เทศน์สอนให้มนุษย์ต้องรีบกลับใจเพราะความหวาดกลัวว่าจะไม่มีที่ในจำนวนเล็กน้อยของผุ้รับความรอดพ้นแต่ให้ยินดีกลับใจมารับความเชื่อในพระบารมีขององค์พระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพและมีความชื่นชมยินดีที่จะเป็นคนหนึ่งในหมู่ประชากรมากมายมหาศาลที่รับความรอดพ้นจากอำนาจการไถ่กู้อันปราศจากขอบเขตของพระองค์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 4:24 am

2.สัตว์ร้ายและเลข 666


เลขที่รู้จักกันดีที่สุดในหนังสือวิวรณ์และเป็นเลขที่ถูกใช้ผิดๆ มากที่สุดคือ เลข 666 เป็นเลขที่มีปัญหามากที่สุดถูกใช้ให้หมายถึง ความชั่วร้ายสุดๆ และศัตรูหมายเลขหนึ่งของมนุษยชาติตลอดมา โดยให้เกี่ยวข้องกับซาตานหรือปรปักษ์ของพระคริสต์อยู่เสมอๆ

ในอดีตที่ผ่านมาได้เคยมีเรื่องราวกล่าวถึงเลขจำนวนนี้อยู่มากมายนับไม่ถ้วนและบางครั้งมีการเปลี่ยนเลขจาก 666 เป็น 616 ในสำเนาโบราณบางฉบับเพื่อจะนำมาใช้กับคู่อริบุคคลอื่น เป็นการเพิ่มเติมด้วย

จนถึงปัจจุบันของเรา เลขจำนวนนี้ถูกเข้าใจให้หมายถึงบุคคลหรือเหตุการณ์ที่แต่ละคนต้องการจะตราหน้าให้เป็นศัตรูร้ายกาจของมนุษยชาติ ศัตรูที่ว่านี้นับได้ว่าเป็นตัวความชั่วช้าอย่างสมบูรณ์ที่สุด สัตว์ร้ายที่มีหมายเลข 666 นี้ถูกนำมาใช้ทั้งกับระบบสังคม ศาสนา รวมทั้งปัจเจกบุคคล เช่น จักรวรรดิโรมัน พวกอนารยชนที่รุกรานทวีปยุโรป พระสันตะปาปาและพระศาสนจักรคาทอลิก (ตามความคิดของ “นักปฏิรูปศาสนา” ในศตวรรษที่ 16) นักปฏิรูปศาสนาชาวโปรแตสตันต์ (ตามความคิด ของชาวคาทอลิก) ศาสนายูดายลัทธิคอมมิวนิสต์ ลัทธิจักรวรรดินิยม ของอเมริกา ฮิตเล่อร์ สตาลิน เหมาเจ๋อตุง ฯลฯ


รูปภาพ

แม้ในภาพยนตร์หลายเรื่องเราจะพบหมายเลขนี้อยู่บนหน้าผากของ “ตัวร้าย” ในเรื่อง หรืออาจเป็นรหัสลับที่ใส่ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสิ่งของซึ่งจะเป็นพาหะนำนายนะมาให้ผู้คน สิ่งของ หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้อง บางทีผู้ร้ายที่ชอบทำลายก็เขียนเลข 666 บนซากของสิ่งของที่ถูกทำลายนั้น เป็นการแสดงผลงานและการข่มขู่ไว้ด้วย

อย่างไรก็ตามเราต้องไม่ลืมว่าจุดสนใจที่สุดของเราในหนังสือวิวรณ์ ต้องเป็นองค์พระคริสตเจ้า “ลูกแกะที่ถูกประหารและประทับยืนอยู่” ผู้ทรงชัยชนะอย่างเด็ดขาดและจะทรงครองราชย์ตลอดไป ถึงแม้ว่าสัตว์ร้ายหมายเลข 666 นี้จะมีความสำคัญอยู่บ้าง แต่เราต้องไม่ให้ความสำคัญแก่มันมากเกินไป มันไม่ใช่พระองค์ที่จะมีชัยชนะแน่ๆ ตรงกันข้ามมันจะต้องถูก “ลูกแกะ” หรือพระคริสตเจ้าทำลายลงอย่างแน่นอน ไม่ว่ามันจะทำร้ายแก่โลกนี้มากสักเท่าใด ยอห์นผู้เขียนหนังสือวิวรณ์ยังบอกผู้อ่านด้วยว่าจำนวนเลขดังกล่าวนี้หมายความว่าอะไร “จำเป็นต้องมีปรีชาญาณผู้มีปัญญาจงตีความจำนวนเลขของสัตว์ร้านให้ได้ เพราะมันเป็นจำนวนเลขที่หมายถึง มนุษย์หนึ่งจำนวน เลขนั้นคือ หกร้อยหกสิบหก” (วว 13:18)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 4:28 am

ในเรื่องความหมายของจำนวนเลข 666 นี้เราจึงต้องใช้ความรอบคอบในการตีความหมาย ดังที่ยอห์นเตือนเราให้ “มีปรีชาญาณ” เพราะมีการอธิบายความหมายได้มากมายหลายอย่าง ยอห์นยังบอกเราอย่างชัดเจนด้วยว่า “จำนวนเลขนั้นเป็นจำนวนเลขที่หมายถึงมนุษย์คนหนึ่ง”

“การตีความจำนวนเลข” ที่ยอห์นกล่าวถึงนี้ หมายถึงการค้นหาคำที่อักษรทุกตัวของคำนั้นมีค่าเป็นจำนวนรวมกันได้เท่ากับจำนวนที่บอกใบ้ให้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าคนโบราณไม่มีตัวเลขใช้เขียนจำนวนแต่ใช้อักษรแต่ละตัวมีค่าเป็นตัวเลขด้วยตามลำดับ เช่น ตัว A เท่ากับเลข 1, B เท่ากับ 2 ฯลฯ ภาษากรีกและฮีบรูก็ใช้ตัวอักษรแทนจำนวนเลขด้วย เมื่ออักษรแต่ละตัวมีค่าเป็นตัวเลขคำแต่ละคำจึงบอกใบ้เป็นจำนวนได้ ดังนั้นเมื่อยอห์นบอกใบ้ว่า 666 เป็นเลขของมนุษย์คนหนึ่งก็หมายความว่า ตัวอักษรที่เขียนชื่อของมนุษย์คนนี้ เมื่อนำมาเปลี่ยนเป็นตัวเลขแล้วรวมกันจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 666

เนื่องจากหนังสือวิวรณ์เขียนเป็นภาษากรีก เราต้องคำนึงถึงคำภาษากรีกและค่าตัวเลขของอักษรกรีกแต่ละตัว (บางคนคิดว่ายอห์นเป็นชาวยิวอาจคิดถึงคำภาษาฮีบรูและอักขระฮีบรู ที่มีค่าเป็นตัวเลขก็เป็นได้ แต่เหตุผลนี้ดูเหมือนจะมีน้ำหนักน้อยกว่า)

ถึงกระนั้นเราก็ยังไม่ทราบแน่อยู่ดีว่ายอห์นหมายถึงผู้ใดในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่แรกแล้ว ก็มีคำเฉลยหลายหลากด้วยแต่ละคำเฉลยก็ยังไม่เป็นที่พอใจของทุกคน บางคนยังเปลี่ยนเลข 666 ให้เป็น 616 อีกด้วยเพื่ออธิบายความหมายตามความเข้าใจของตน

รูปภาพ

คำเฉลยของนักบุญอีเรเน ผู้มีชีวิตอยู่ราวปี 125-203) เสนอชื่อ 3 ชื่อซึ่งอาจหมายถึง พระจักรพรรดิโรมันองค์ใดองค์หนึ่ง คือชื่อ EUANTHAS (5+400+1+50+9+1+200) หรือ LATEINOS (30+5+10+300+1+50) หรือ TEITAN (300+5+10+300+1+50) แต่คำเฉลยนี้ก็ยังไม่เป็นที่ยุติและคงจะเป็นที่ถกเถียงกันต่อไปจนสิ้นพิภพ



ในที่นี้เราจึงจำเป็นต้องพอใจกับหลักการในการอธิบายความหมายของจำนวนเลขเท่านั้นคือ

(1) จำนวนเลขนี้ต้องมาจากอักษณภาษากรีกเพราะทั้งยอห์นและผู้อ่านหนังสือวิวรณ์ รู้จักภาษากรีกดี ความเห็นที่ว่าจำนวนเลขนี้มาจากคำภาษาฮีบรู (หรือละติน) นั้นดูเหมือนจะมีเหตุผลอ่อนไป

(2) ผู้อ่านหนังสือวิวรณืในปลายคริสตศตวรรษที่ 1 หรือต้นศตวรรษที่ 2 อยู่ในเหตุการณ์จึงสามารถเข้าใจเจตนาของยอห์นได้ถูกต้องกว่าเราในสมัยนี้ การเข้าใจว่าบุคคลที่ยอห์นกล่าวถึงนั้นอยู่ในสมัยต่อมาภายหลังจึงไม่เข้าประเด็น

(3) “สัตว์ร้าย” ที่ว่านี้จะต้องเข้าใจในบริบทของเรื่องราวที่ยอห์นกล่าวถึงในบทที่ 12-18 ของหนังสือวิวรณ์ซึ่งเป็นบริบทของอำนาจปกครองของจักรวรรดิโรมัน

(4) “สัตว์ร้าย” ที่มีชื่อเป็นจำนวนเลขนี้เป็น “มนุษย์” คนหนึ่งแม้ว่าเขาจะพยายามตั้งตนเป็น “เทพเจ้า” อย่างที่พระจักรพรรดิโรมัน ได้กระทำโดยให้ราษฎรทั่วจักรวรรดิถวายสักการบูชาแก่ตนก็ตาม

ถ้าจะยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ ก็เหมือนกับการดูรูปการ์ตูนการเมืองทุกวันนี้ ผู้ที่เห็นรูปสัตว์ประหลาดต่างๆ หรือรูปคนที่มีลักษณะพิเศษจะเข้าใจได้ทันทีว่าหมายถึงใคร เช่น นักการเมืองที่มีจมูกเหมือนชมพู่ รูปปลาไหล ฯลฯ ซึ่งเราจะไม่คิดเลยว่าจะมีความหมายถึงบุคคลในอนาคต การที่คิดว่าบุคคลที่มีเลข 666 นี้จะเป็นบุคคลที่จะเกิดมา ภายหลังสมัยของยอห์นจึงเป็นความเข้าใจที่ผิดแน่ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 4:37 am

3. พระคริสตเจ้าทรงครองราชย์ 1000 ปี

ในวิวรณ์บทที่ 20 มีข้อความกล่าวถึงทูตสวรรค์จับมังกรหรืองูดึกดำบรรพ์มัดไว้หนึ่งพันปีแล้วทิ้งมันลงไปในบาดาลเมื่อครบกำหนดหนึ่งพันปีแล้ว มันจะถูกปล่อยออกมาชั่วขณะหนึ่ง (ข้อ 1-3)

“ข้าพเจ้ายังเห็นวิญญาณของผุ้ที่ถูกตัดศีรษะเพราะคำพยานถึงพระเยซูเจ้าและเพราะพระวาจาของพระเจ้า เขาเหล่านั้นกลับมีชีวิตและได้เข้าครองราชย์พร้อมกับพระคริสตเจ้าเป็นเวลาหนึ่งพันปี ผู้ตายคนอื่นไม่ได้กลับมีชีวิตจนกว่าจะครบกำหนดหนึ่งพันปี นี่คือการกลับคืนชีพครั้งแรก ความตายครั้งที่สองไม่มีอำนาจเหนือเขาเหล่านี้ แต่เขาจะเป็นสมณะของพระเจ้าและของพระคริสตเจ้าและจะครองราชย์พร้อมกับพระองค์เป็นเวลาหนึ่งพันปี” (วว 20:4-6)

เพื่อจะเข้าใจความหมายของข้อความนี้เราต้องไม่ลืม “ข่าวดี” ซึ่งเป็นความหมายส่วนรวมของหนังสือวิวรณ์ นั่นคือพระคริสตเจ้า จะทรงชัยชนะในที่สุดศัตรูของพระองค์ (มังกร) จะถูกมัดและขังไว้ แม้ว่ามันจะถูกปล่อยออกมาชั่วระยะเวลาสั้นๆ (ข้อ3) ส่วนผู้ที่ได้สละชีวิตเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้าจะมีส่วนในชัยชนะของพระองค์โดย “ครองราชย์พร้อมกับพระองค์เป็นเวลาหนึ่งพันปี” (ข้อ4) คริสตชนที่ได้ทนทุกข์ทรมานและถูกประหารเพราะความเชื่อต่อองค์พระคริสตเจ้าในโลกนี้จะมีส่วนร่วมในชัยชนะและความรุ่งเรืองของพระคริสต์เจ้าอย่างแน่นอน


รูปภาพ

ระยะเวลา “หนึ่งพันปี” ที่เขาจะครองราชย์พร้อมกับพระคริสตเจ้านี้ถ้าจะเข้าใจตรงตามตัวอักษรก็จะมีปัญหาตามมานั่นคือ “ระยะเวลาหนึ่งพันปีนี้เริ่มตั้งแต่เมื่อไรและสิ้นสุดเมื่อไร” นับตั้งแต่การสมภพของพระคริสตเจ้าหรือนับตั้งแต่การสิ้นพระชนม์ของพระองค์หรือนับตั้งแต่ยอห์นถึงแก่กรรม หรือนับตั้งแต่เขียนหนังสือวิวรณ์นี้ ฯลฯ

ดูเหมือนว่าไม่มีใครให้คำตอบได้และขณะที่เรากำลังใกล้จะถึงปี 2000 ก็มี “นักเทศน์” หลายคนกล่าวว่าเวลา “หนึ่งพันปี” นี้กำลังจะสิ้นสุดลงเจ้ามังกรร้าย กำลังจะถูกปล่อยออกมาก่อให้เหตุภัยพิบัติต่างๆ ความชั่วช้าและภัยพิบัติต่างๆ จะมาครอบงำมนุษยชาติอีกเพราะการครองราชย์ “หนึ่งพันปี” ของพระคริสตเจ้ากำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว

รูปภาพ

ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์ก็จะเห็นว่าเมื่อใกล้จะถึง ค.ศ.1000 ก็ได้มี “นักเทศน์” เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ความคิดเห็นเช่นนี้ได้ชื่อทางวิชาการว่า “Millenarianism” และได้ก่อให้เกิดความหวาดวิตกแก่ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อบรรดา “นักเทศน์ที่กล่าวถึงภัยพิบัติ” เหล่านี้ แต่ความจริงมีอยู่ว่าพระศาสนจักรไม่เคยสอนเช่นนี้และได้ประนามคำสอนตลอดมาเราจึงควรเข้าใจว่าเวลาหนึ่งพันปีนี้หมายถึง ระยะเวลาสำคัญนานพอสมควร แม้จะไม่ตลอดนิรันดร

นักบุญออกัสตินเข้าใจว่าระยะเวลานี้หมายถึง ช่วงเวลาของพระศาสนจักรในโลกนี้ เราไม่ทราบว่าระยะเวลาดังกล่าวนี้จะสิ้นสุดเมื่อไร ในช่วงเวลานี้บรรดาคริสตชนที่สละชีวิตเป็นพยานถึงองค์พระคริสตเจ้าจะมีส่วนในชัยชนะของพระองค์ ขณะที่กำลังรอคอยเวลาแห่ง “ฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่” ที่เขาจะได้เข้าไปอยู่ร่วมความสุขและชีวิตตลอดนิรันดร

จึงเห็นได้ว่าเมื่ออ่านหนังสือวิวรณ์เราต้องพยายามเข้าใจความหมายของข้อความที่เป็นสัญลักษณ์เหล่านี้ในบริบทของหนังสือนี้ทั้งหมด นั่นคือ “ข่าวดี” ที่คริสตชนกำลังรอคอยต้องรับพระคริสตเจ้าผู้ทรงชัย เพื่อจะมีส่วนในการฉลองชัยพร้อมกับพระองค์และบรรดาผู้เลือกสรรที่ได้เป็นพยานถึงองค์พระคริสตเจ้า ในการสู้ทนความทุกข์ยากต่างๆ แม้กระทั่งต้องหลั่งเลือดสละชีวิตของตนเพื่อต่อสู้กับอำนาจมืดและความชั่วช้าต่างๆ ซึ่งดูเหมือนว่ามีอำนาจปกครองโลกพิภพของเรานี้ แต่ในที่สุดอำนาจความชั่วช้าเหล่านี้จะต้องพ่ายแพ้ต่อองค์พระคริสตเจ้า “ลูกแกะที่ถูกประหารและประทับยืนอยู่” พระองค์ได้สละพระโลหิตเหมือนลูกแกะที่ถูกฆ่าเป็นบูชายัญโดยไม่มีความผิด แต่พระองค์ก็ได้ทรงกลับคืนพระชนม์ประทับยืนอย่างสง่าท่ามกลางทูตสวรรค์และจะเสด็จมาสถาปนา “ฟ้าใหม่ แผ่นดินใหม่” ที่มนุษย์ผู้ได้รับการไถ่กู้ทุกคนจะร่วมฉลองงานวิวาห์มงคลของลูกแกะ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างพระคริสตเจ้ากับพะระศาสนจักรหรือมนุษย์ผู้รับการกอบกู้ทั้งหลายนั่นเอง

หนังสือวิวรณ์จึงต้องไม่เป็นโอกาสให้เราเป็นกังวลว่าโลกจะจบสิ้นในปี ค.ศ.2000 นี้ อย่างที่หลายคนกลัว แต่ตรงกันข้ามจะต้องเปิดใจของเราทุกคนให้ต้อนรับสหัสวรรษที่ 3 ซึ่งกำลังจะเริ่มขึ้นด้วยความชื่นชมยินดีพร้อมที่จะให้องค์พระคริสตเจ้าพระผู้ไถ่กู้ของเราทรงเป็นผู้นำชีวิต และสังคมมนุษย์เดินมุ่งหน้าด้วยความมั่นใจไปยัง “ฟ้าใหม่ แผ่นดินใหม่” ที่จะทรงให้เรามีส่วนร่วมสถาปนาขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

--------------------------------------------------------------------------

บาทหลวงทัศไนย์ คมกฤส. วิวรณ์ รหัสแห่งข่าวดี. นครปฐม: วิทยาลัยแสงธรรม, 2550. หน้า 73-86
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 10:22 am

เคยอ่านการ์ตูนเรื่องโนงามินิวโร(นักสืบปีศาจเขมือบปริศนา)

ในเรื่องให้แนวคิดไว้ว่า 666 อาจจะเป็นการเล่นคำพ้องเสียงกับ Sick(โรคภัย) ก็ได้ :s024: (ไม่ได้เชื่อจริงจังนะ แค่เห็นว่าเข้าใจคิดดีเหมือนกัน)
weewie
โพสต์: 85
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 02, 2010 11:25 pm

ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 1:20 pm

อยากจะเล่ามานานและ คนกลุ่มนี้มาบ้านเราเดือนละสองครั้งเป็นเวลาเกือบ 2 ปี เอาหนังสือมาแจก เป็นคู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่น มากี่ทีก็เห็นปั่นจักรยานมาตลอดเป็นคนที่น่ารักมาก ไม่เคยชักชวนเราไปเข้าร่วมกลุ่มเลย เค้าบอกว่าแค่อยากให้เราเปิดใจรับพระเจ้าเท่านั้นเอง

แต่ช่วงหลังนี่จะเป็นผู้ชายคนไทยกับเด็กวัยรุ่นที่เรียนคำสอนของคนกลุ่มนี้เป็นคนมาแทน ชวนเราให้เข้าร่วมทุกครั้งที่มา จนกระทั่งประมาณต้นเดือน เรากำลังจะสวดสายประคำ คนพวกนี้ก็มากันอีก เราก็เลยเอาสายปะคำสวมคอแล้วออกไปหา เท่านั้นแหละเจ้าค่ะ ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นมาว่า "ที่ไม่ยอมไปเข้าร่วมนี่เพราะอย่างนี้นี่เอง รู้มั้ยว่าที่ห้อยคออยูน่ะ มันเป็นพวกลัทธิบูชานางมาเรีย ยกเอาผู้หญิงคนธรรมดามาอ้างเป็นมารดาพระเจ้า เที่ยวยกแห่เดินขบวน แบบนั้นมันไม่ต่างกับพวกนับถือเจ้าแม่คงคาหรอก คำสอนผิดๆของพวกนักบวช กลับใจตอนนี้ยังทันนะครับ ศึกษาของพวกเราแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่พระเจ้าสอนที่แท้จริงคืออะไร"

โอ้!!! เจอแบบนี้เข้าไป อึ้งค่ะ ไม่เคยรู้สึกอยากกระทืบใครขนาดนี้มาก่อน ก็เลยบอกไปว่าคราวหลังไม่ต้องมาแล้วนะ ครอบครัวเป็นพุทธ ไม่มีใครนับถือคริสต์ซักคนหรอก มีก็แต่เรานี่แหละแต่ว่ายังไม่ได้ล้างบาป ที่บ้านไม่มีใครชอบศาสนาคริสต์ ยิ่งมาพูดแบบนี้ที่บ้านจะไม่ชอบกว่าเดิม ไม่ต้องมาอีกแล้วนะ พระเจ้าอวยพร.........

แล้วก็หายยยยยย............ไปเลย 55555+ :s024:
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 11:29 pm

::034::
weewie เขียน:อยากจะเล่ามานานและ คนกลุ่มนี้มาบ้านเราเดือนละสองครั้งเป็นเวลาเกือบ 2 ปี เอาหนังสือมาแจก เป็นคู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่น มากี่ทีก็เห็นปั่นจักรยานมาตลอดเป็นคนที่น่ารักมาก ไม่เคยชักชวนเราไปเข้าร่วมกลุ่มเลย เค้าบอกว่าแค่อยากให้เราเปิดใจรับพระเจ้าเท่านั้นเอง

แต่ช่วงหลังนี่จะเป็นผู้ชายคนไทยกับเด็กวัยรุ่นที่เรียนคำสอนของคนกลุ่มนี้เป็นคนมาแทน ชวนเราให้เข้าร่วมทุกครั้งที่มา จนกระทั่งประมาณต้นเดือน เรากำลังจะสวดสายประคำ คนพวกนี้ก็มากันอีก เราก็เลยเอาสายปะคำสวมคอแล้วออกไปหา เท่านั้นแหละเจ้าค่ะ ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นมาว่า "ที่ไม่ยอมไปเข้าร่วมนี่เพราะอย่างนี้นี่เอง รู้มั้ยว่าที่ห้อยคออยูน่ะ มันเป็นพวกลัทธิบูชานางมาเรีย ยกเอาผู้หญิงคนธรรมดามาอ้างเป็นมารดาพระเจ้า เที่ยวยกแห่เดินขบวน แบบนั้นมันไม่ต่างกับพวกนับถือเจ้าแม่คงคาหรอก คำสอนผิดๆของพวกนักบวช กลับใจตอนนี้ยังทันนะครับ ศึกษาของพวกเราแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่พระเจ้าสอนที่แท้จริงคืออะไร"

โอ้!!! เจอแบบนี้เข้าไป อึ้งค่ะ ไม่เคยรู้สึกอยากกระทืบใครขนาดนี้มาก่อน ก็เลยบอกไปว่าคราวหลังไม่ต้องมาแล้วนะ ครอบครัวเป็นพุทธ ไม่มีใครนับถือคริสต์ซักคนหรอก มีก็แต่เรานี่แหละแต่ว่ายังไม่ได้ล้างบาป ที่บ้านไม่มีใครชอบศาสนาคริสต์ ยิ่งมาพูดแบบนี้ที่บ้านจะไม่ชอบกว่าเดิม ไม่ต้องมาอีกแล้วนะ พระเจ้าอวยพร.........

แล้วก็หายยยยยย............ไปเลย 55555+ :s024:
คราวหน้าฝากด้วย 2 ที ::034::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ พ.ค. 21, 2011 4:30 am

อย่าไปอยากกระทืบเขาเลยครับ แต่เราควรต้องสงสารเขา ที่แม้จะรักพระเจ้า แต่กลับถูกมารซาตานหลอกลวงจนโจมตีทำลายพระกายพระเยซูคริสต์เอง คือพระศาสนจักรที่พระองค์ตั้งขึ้นและยืนยันว่า ประตูนรกไม่มีวันชนะพระศาสนจักรนี้
weerachart
โพสต์: 51
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 03, 2011 12:57 am

เสาร์ พ.ค. 21, 2011 10:47 am

ทำไมคนเราถึงเป็นแบบนี้กัน ที่เราให้ความเคารพพระนางมารีย์ ก็เพราะเราเชื่อว่าพระนางเป็นมารดาพระเจ้า อย่าน้อยเขาก็น่าจะให้เกียรติพระนางในฐานะแม่ผู้ซึ่งอุ้มท้อง คอยเลี้ยงดูองค์พระเยซูเจ้าพระเจ้าของเราทั้งหลาย ถ้ามีใครมาว่าแม่ของตัวเองเป็นใครจะไม่โกรธ พวกคำสอนผิดๆนี่ไม่ไหวจะเคลียร์
redblacky
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 16, 2008 8:57 pm

อาทิตย์ พ.ค. 22, 2011 1:23 am

ขนาดแม่ของพระเจ้า พวกเขายังไม่รักเลย แล้วแม่ของตัวเองเขารักมั้ยหนอ?
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

อาทิตย์ พ.ค. 22, 2011 12:09 pm

redblacky เขียน:ขนาดแม่ของพระเจ้า พวกเขายังไม่รักเลย แล้วแม่ของตัวเองเขารักมั้ยหนอ?
อืม...ม...นั่นดิ แล้วเวลาที่เค้ามาเจอม่าม้าของเรา เค้าจะเมินม่าม้าของเราด้วยมั๊ยเนี่ย
เค้ารักพระเยซูเจ้ามากขนาดนั้น เขายังไม่แสดงความเคารพแม่ของพระเยซูเจ้าเลย :s008:
เรียกแม่ของพระเยซูคริสตเจ้าว่า นางมารีย์ :s008:
แล้วม่าม้าของเรา เค้าก็คงเรียก นาง... แน่เลย :s008:
weewie
โพสต์: 85
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 02, 2010 11:25 pm

อาทิตย์ พ.ค. 22, 2011 1:32 pm

เค้ารักพระเยซูเจ้ามากขนาดนั้น เขายังไม่แสดงความเคารพแม่ของพระเยซูเจ้าเลย

พระเยซูพวกเค้าก็ไม่รักค่ะ เค้ารักพระเจ้า พระเจ้าผู้ซึ่งส่งพระเยซูมาเกิดในฐานะมนุษย์

เข้าใจมั้ยคะ พระเยซูสำหรับคนกลุ่มนี้เป็นเพียงหนึ่งในสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างเพื่อเป็นตัวแทนในโลกมนุษย์เพื่อให้คนบาปกลับใจ พระเยซู---ไม่ใช้พระเจ้า---ไม่ใช่บุตรของพระเจ้า เป็นเพียงสิ่งที่พระเป็นเจ้าประทานมาให้มนุษย์ และตายในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง นั่นก็คือ พระเยซูไม่มีบทบาทและส่วนร่วมใดๆในคำสอนของคนกลุ่มนี้หรอกค่ะ เพราะเค้าไม่เชื่อในตรีเอกานุภาพ พระแม่มารีย์ก็เป็นเพียงสตรีคนหนึ่งที่ให้กำเนิดมนุษย์คนหนึ่งตามพระทัยของพระเป็นเจ้าเท่านั้นเอง พวกเค้าจะเรียก พ่อ และแม่ของเราว่า เยซู กับ นางมาเรีย

แล้วรูปวาดของพระเยซูในหนังสือที่พวกเค้าเอามาแจก อยากจะบอกว่า หน้าโค-ตะ-ระเหมือนมหาโจรเลยค่ะ ผมสั้นๆยุ่งๆ ดวงตานี่ไม่มีความเมตตาแบบในรูปที่เราเห็นทั่วไปหรอกค่ะ ไม่รู้ว่าพวกเค้าทำไปได้ยังไง ว่าแล้วก็ปวดตับค่ะ เศร้า...ฮึก ฮึก :s008:
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ พ.ค. 22, 2011 2:54 pm

ขอเล่าย้อนประวัติศาสตร์ของโปรเตสแตนต์ ที่ปฏิเสธอะไรหลายๆอย่าง
คงเพราะเมื่อแยกออกมา (อันที่จริงมาตินร์ ลูเธอร์ ไม่มีปัญหาเรื่องพระแม่มารีย์ แต่นักprotest อื่นๆมี) ก็ต้องไม่เหมือนกัน ถ้าเหมือนก็ยังเป็นคาทอลิก ดังนั้นเมื่อปีแล้วปีเล่า
ก็ เลยพัฒนาปฏิเสธมากขึ้น จนกลายเป็นศัตรูกับคริสต์ที่ต่างนิกายกับตัวเองไปเลย (น่าเศร้า)
เพราะโปรเตสแตนต์จะกลัว หรือระวังเรื่องรูปเคารพมาก จนกลายเป็นก้าวร้าว แข็งกร้าว
และกลุ่มนี้จะเป็นกระต่ายขาเดียว หรือศิษย์หมอลักษณ์ "ฟันธง" ไปเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ พ.ค. 22, 2011 10:59 pm

weewie เขียน:เค้ารักพระเยซูเจ้ามากขนาดนั้น เขายังไม่แสดงความเคารพแม่ของพระเยซูเจ้าเลย

พระเยซูพวกเค้าก็ไม่รักค่ะ เค้ารักพระเจ้า พระเจ้าผู้ซึ่งส่งพระเยซูมาเกิดในฐานะมนุษย์

เข้าใจมั้ยคะ พระเยซูสำหรับคนกลุ่มนี้เป็นเพียงหนึ่งในสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างเพื่อเป็นตัวแทนในโลกมนุษย์เพื่อให้คนบาปกลับใจ พระเยซู---ไม่ใช้พระเจ้า---ไม่ใช่บุตรของพระเจ้า เป็นเพียงสิ่งที่พระเป็นเจ้าประทานมาให้มนุษย์ และตายในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง นั่นก็คือ พระเยซูไม่มีบทบาทและส่วนร่วมใดๆในคำสอนของคนกลุ่มนี้หรอกค่ะ เพราะเค้าไม่เชื่อในตรีเอกานุภาพ พระแม่มารีย์ก็เป็นเพียงสตรีคนหนึ่งที่ให้กำเนิดมนุษย์คนหนึ่งตามพระทัยของพระเป็นเจ้าเท่านั้นเอง พวกเค้าจะเรียก พ่อ และแม่ของเราว่า เยซู กับ นางมาเรีย

แล้วรูปวาดของพระเยซูในหนังสือที่พวกเค้าเอามาแจก อยากจะบอกว่า หน้าโค-ตะ-ระเหมือนมหาโจรเลยค่ะ ผมสั้นๆยุ่งๆ ดวงตานี่ไม่มีความเมตตาแบบในรูปที่เราเห็นทั่วไปหรอกค่ะ ไม่รู้ว่าพวกเค้าทำไปได้ยังไง ว่าแล้วก็ปวดตับค่ะ เศร้า...ฮึก ฮึก :s008:
กลุ่มพยานพระยะโฮวาเหรอครับ
weewie
โพสต์: 85
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 02, 2010 11:25 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 1:18 am

แม่นแล่วค่ะพี่โฮลี่----อีสานแตก

ที่ตั้งของคนกลุ่มนี้ของจังหวัดที่บ้านนะคะ จะเป็นตึกแถวประมาณ 4 คูหาแต่งแบบสวยเวอร์ แล้วเขียนเอาไว้ พระอานาจักรแห่งพระเจ้า ความหวังของเหล่ามวลมนุษย์ ป้ายนี่อลังกาลงานสร้างมาก ยังไม่รวมถึงพวกลัทธิโดราเอมอม่อนนะคะ พวกนี้ก็มาตั้งหลักได้เกือบปีแล้ว มาที่บ้านบ้างไม่กี่ครั้ง แต่ไม่หนักเท่ากลุ่มพยานค่ะ หายไปได้เดือนกว่าๆแล้วไม่รู้จะโผล่มาอีกรึปล่าว แต่ที่แน่ๆขับรถผ่านที่ไรนี่เห็นคนไปเรียนคำสอนเพียบค่ะ จะเป็นลมตาย เพราะห่างไปไม่ถึง 1 กิโลก็จะเป็นวัดคาทอลิก ไปอีกซัก 3 กิโลก็เป็นคริสจักรความหวัง.....ปวดจิตปวดใจมากค่ะ ไม่รู้จำทำยังไงดี.......... ::008:: ::008:: ::008::
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 1:37 am

:s002: เมื่อเราทำอะไรไม่ได้แล้วก็ต้องพึ่งพระบารมีของพระคริสต์
สวดภาวนาเพื่อลูกแกะทั้งหลาย หากพระจิตอยู่กับพวกเขา
ถึงจะไม่ใช่คาทอลิกไม่ใช่โปรฯ เขาก็ยังเป็นลูกแกะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 2:40 am

อ่านเบื้องลึกเกี่ยวกับ ลัทธิพยานฯได้ที่นี่ครับ

viewtopic.php?f=13&t=7506


อย่าว่าแต่คาทอลิกเลยครับ โปรฯยังโดนแย่งลูกแกะเพราะลัทธินี้เขามีฐานกำลังจากต่างประเทศ ทำกันเป็นอาชีพเลยทีเดียว

อธิษฐานเพื่อลูกแกะที่หาคอกทั้งหลายให้มากๆ ให้เข้าประตูที่ถูกต้องครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร พ.ค. 24, 2011 4:27 am

คำขวัญวันนี้

พระเยซูไม่ใช่เรยา จึงไม่(มีวัน)ด่าและดูถูกแม่ตัวเอง






ลองอ่านบทการตีความพระคัมภีร์ที่ทางโปรแตสแตนท์(สายที่ไม่ชอบแม่พระ) ชอบเอามากล่าวหาว่าพระเยซูไม่เคารพแม่พระในฐานะแม่ อันนี้เป็นการตีความอย่างถูกต้องโดยปิตาจารย์คนสำคัญของพระศาสนจักร (ผู้บัญญัติศัพท์และคอนเซปของคำว่า "พระตรีเอกภาพ" (เพราะคำนี้ก็ไม่มีในพระคัมภีร์นะรู้ไหม)) อันเป็นการยืนยันว่า พระศาสนจักรสอนถูกต้องว่า พระเยซูรักและให้เกียรติแม่ตัวเองและเราก็ควรให้เกียรติแม่ของพระองค์ด้วย มานานกว่า2000ปี

http://newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=2&t=16549
ตอบกลับโพส