แองกลีกันแต่งตั้ง​บิ​ชอป​เกย์

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ มิ.ย. 22, 2011 8:51 am

อังกฤษ​แต่งตั้ง​บิ​ชอป​เกย์

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ
21 มิถุนายน 2554, 05:15 น.

รูปภาพ

ค​ริ​สต​จักร​นิกาย​แอ​งก​ลิ​กัน​แห่ง​อังกฤษ เผย​ข้อ​กำหนด​เรื่อง​การ​พิจารณา​แต่งตั้ง​บาทหลวง​และ​บิ​ชอป ​ฉบับ​ใหม่ ระบุ​ ​นักบวช​ที่​ประกาศ​ตน​อย่าง​เปิดเผย​ว่า​เป็น​เกย์มี​สิทธิ์​ได้​รับ​การ​แต่งตั้ง​เป็น​บาทหลวง​...

ค​ริ​สต​จักร​นิกาย​แอ​งก​ลิ​กัน​แห่ง​อังกฤษ เผยแพร่​ข้อ​กำหนด​เรื่อง​การ​พิจารณา​แต่งตั้ง​บาทหลวง​และ​บิ​ชอป ​ฉบับ​ใหม่​ เพื่อ​ให้​สอดคล้อง​กับ​กฎหมาย​ความ​เสมอภาค​และ​เท่าเทียม​ของ​รัฐบาล​อังกฤษ เมื่อ 20 มิ.ย.

โดย​ระบุ​ว่า ​นักบวช​ที่​ประกาศ​ตน​อย่าง​เปิดเผย​ว่า​เป็น​เกย์ มี​สิทธิ์​ได้​รับ​การ​แต่งตั้ง​เป็น​บาทหลวง​หรือ​บิ​ชอป​ได้​เช่น​เดียว​กับ​นักบวช​ที่​เป็น​ผู้ชาย โดย​การ​ปรับ​เปลี่ยน​ข้อ​กำหนด​ครั้ง​นี้​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​อย่าง​ดี​จาก​กลุ่ม​ผู้​รณรงค์​เพื่อ​สิทธิ​ของ​ผู้​มี​ความ​หลากหลาย​ทาง​เพศ แต่​บิ​ชอ​ประดับ​สูง​บาง​ราย​วิจารณ์​ว่า ​ไม่​ควร​นำ​เรื่อง​ทาง​โลก​มา​ยุ่ง​เกี่ยว​กับ​การ​ปกครอง​ใน​ค​ริ​สต​จักร




http://www.thairath.co.th/content/oversea/180518
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ มิ.ย. 22, 2011 8:58 am

โบสถ์แองลิกันเตรียมอนุมัติให้ “นักบวชเกย์” เป็นหัวหน้าบาทหลวง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มิถุนายน 2554 12:20 น.

เอเอฟพี - คริสตจักรแองลิกันเตรียมออกระเบียบใหม่ ซึ่งจะอนุมัติให้นักบวชที่เป็นเกย์รับตำแหน่งหัวหน้าบาทหลวง(Bishop)ได้ วันนี้(20)

คริสตจักรแองลิกันจะเผยแพร่เอกสารแจ้งการปรับปรุงกฎระเบียบ ซึ่งจะอนุญาตให้นักบวชรักร่วมเพศสามารถรับสมณศักดิ์ที่สูงขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยความเท่าเทียมของอังกฤษ

เอกสารซึ่งใช้ชื่อว่า “การคัดเลือกหัวหน้าบาทหลวง – กฎหมายว่าด้วยความเท่าเทียม ปี 2010” จะชี้แจงแนวทางในการคัดเลือกนักบวชที่สมควรได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ และระบุอย่างชัดเจนว่า จะไม่นำสภาพทางเพศมาเป็นตัวตัดสินในขั้นสุดท้าย

“ความนิยมทางเพศไม่เกี่ยวข้องกับความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งในศาสนจักร” เอกสารดังกล่าว ระบุ

อย่างไรก็ตาม เอกสารฉบับนี้แนะนำว่า ผู้นำศาสนจักรควรปิดกั้นนักบวชผู้ใดผู้หนึ่ง “หากว่าการแต่งตั้งนักบวชผู้นั้นจะสร้างความแตกแยก หรือทำลายเอกภาพในสังฆมณฑลดังกล่าว”

“ชาวแองลิกันที่ยึดมั่นในหลักศาสนาจำนวนมาก เชื่อว่าผู้นำศาสนาคริสต์ไม่ควรเข้าสู่ระบบการสมรสกับเพศเดียวกัน(civil partnership) แม้จะรักษาพรหมจรรย์ก็ตาม เพราะเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ชั่วชีวิตกับบุคคลเพศเดียวกัน”

“ทว่าชาวแองลิกันอีกไม่น้อยก็เชื่อว่า ไม่มีปัญหาหากนักบวชรักร่วมเพศจะสมรสกับเพศเดียวกัน แม้ศาสนาจะกำหนดให้พวกเขาต้องละเว้นจากเรื่องเพศก็ตาม”

นักบวช เจฟฟรีย์ จอห์น ซึ่งใช้ชีวิตคู่อยู่กับนักบวชอีกรูปหนึ่ง เรียกร้องให้คริสตจักรแองลิกันประกาศจุดยืน หลังจากที่ตนถูกบังคับให้ถอนตัวจากตำแหน่งหัวหน้าบาทหลวง ที่ได้รับเลือกเมื่อ 8 ปีก่อน

ระเบียบใหม่จะถูกนำเสนอต่อสภาแห่งคริสตจักรแองลิกัน ในเดือนกรกฎาคมนี้

คริสตจักรแองลิกันแยกตัวจากคริสตจักรกรุงโรมเมื่อปี 1534 โดยในปัจจุบันมีผู้ยอมรับนับถือราว 77 ล้านคนทั่วโลก และถือเป็นศาสนาหลักในอังกฤษ


http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000075046
ภาพประจำตัวสมาชิก
salvation7
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 522
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
ติดต่อ:

พุธ มิ.ย. 22, 2011 9:09 am

อ๊าา....น๊ะ เศร้า... :s008: :s008:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ มิ.ย. 22, 2011 10:02 am

คอยดูเถอะครับว่าจะมีฝ่ายอนุรักษ์นิยมในแองกลิกัน ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎใหม่นี้ หันกลับมาเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งพระศาสนาจักรก็ได้มีกฎเกณฑ์รองรับเอาไว้แล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ มิ.ย. 22, 2011 2:35 pm

ทำไม ๆๆๆๆๆถึงเป็นแบบนี้ ธรรมดารักร่วมเพศก็ผิดอยู่แล้ว เศ้ราๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ::008:: ::008::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

พุธ มิ.ย. 22, 2011 3:42 pm

เหอๆ รักร่วมเพศมันเป็นเรื่องผิดแหวกมากเลยนะนั่น
ภาพประจำตัวสมาชิก
yuki
โพสต์: 681
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 01, 2006 5:02 am

พุธ มิ.ย. 22, 2011 5:47 pm

ไม่ไหวๆ จะไปกันใหญ่แล้ว แองลิกัน
†ลูกแกะพระเจ้า...
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
ที่อยู่: ขอนแก่น

พุธ มิ.ย. 22, 2011 10:22 pm

พูดตรงๆ ผมไม่เคยมองว่ารักร่วมเพศผิดเลยนะ ซึ่งจนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นสิ่งผิดในพระศาสนจักร เคยอ่านกระทู้ในบอร์ดเรานี่แหละเกี่ยวกับเกย์ แต่ก็ยังไม่เข้าใจ จะกลับไปอ่านใหม่ ตอนนี้กำลังหาอยู่ หรือถ้าพี่น้องท่านใดจะโพสต์ลิงค์ไว้ให้ก็ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

แต่เกี่ยวกับข่าวนี้ผมก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่อยู่ดีนั่นแหละ ไม่เห็นด้วยเลยกับเรื่องนี้ จะแต่งตั้งเกย์เป็นบิชอปเนี่ยนะ!! ถึงจะไม่ได้มองว่าพวกเขาผิด แต่ผมก็ไม่เอาด้วยหละ มันยังขัดกับความรู้สึกบางอย่างอยู่
†ลูกแกะพระเจ้า...
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
ที่อยู่: ขอนแก่น

พุธ มิ.ย. 22, 2011 10:39 pm

เจอแล้วครับ บทความที่เคยอ่าน ขอบคุณพระเจ้าที่หาจนเจอ

http://www.belongtothetruth.com/important/homo01.htm ลงลิงค์ไว้ให้นะครับ เผื่อพี่น้องท่านใดอยากอ่าน
weerachart
โพสต์: 51
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 03, 2011 12:57 am

พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2011 10:01 pm

ผมว่ามันไม่เหมาะมากเลยนะครับ ถ้าจะตั้งใจจะเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าก็น่าจะตัดทางโลกไปสิครับ ทำไมยังหลงกับอารมณ์ของตัวเองอยู่ ถึงจะเป็นการปกป้องสิทธิแต่ก็ไม่ควร แล้วถ้าคนต่างศาสนามาเห็นแบบนี้ เขาจะไม่ดูถูกเราหรอกหรือ ถึงจะต่างนิกายกัน แต่เขาก็เหมารวมเป็นศาสนาคริสต์อยู่ดี
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

ศุกร์ มิ.ย. 24, 2011 12:53 am

เหมือนเอาช้อนไอติมมาตักข้าวกิน.. ถามว่ากินได้มั้ย? มันก็กินได้ ซดน้ำแกงก็ได้เหมือนกัน แต่ทว่ามันไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ทำแบบนั้นซะหน่อย....
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มิ.ย. 24, 2011 9:36 am

พระเจ้าสร้างมนุษย์มี2เพศ ชายและหญิงเท่านั้นและอวยพรให้อยู่กินมีลูกมีหลานสืบกันต่อมา
และถ้าชายสมสู่กับชาย หญิงสมสู่กับหญิง มันก็ตัดตอนไปเรื่อยๆ มันเป็นความผิดปกติทางเพศ
อยู่แล้ว และถ้ามีผู้นำจิตวิญญานเป็นแบบนี้ มิเป็นตัวอย่างให้คนทำตามหรือ คนชอบทำตาม
กระแสอยู่แล้ว.......
ขอคำภาวนาให้กับคริสตจักรแองกลีกันด้วยค่ะ :s008: :s005:
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

เสาร์ มิ.ย. 25, 2011 12:16 am

ผมว่าเรื่องนี้พระวจนะของพระองค์ตรัสกับเราชัดเจนมากนะครับ
(1คร6:9-10).ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่า คนอธรรมจะไม่ได้มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า? อย่าให้เขาล่อลวงท่านให้หลง คนผิดประเวณี หรือคนไหว้รูปเคารพ หรือผิดผัวเมียเขา หรือคนลักเพศ หรือคนรักร่วมเพศ.
หรือคนขโมย หรือคนมักโลภ หรือคนขี้เมา หรือคนปากร้าย หรือคนฉ้อโกง จะไม่ได้รับส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า.
ชัดมากๆเลยนะครับ คงไม่ต้องประกอบคําอธิบายใดต่อ^^
†ลูกแกะพระเจ้า...
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
ที่อยู่: ขอนแก่น

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 1:55 am

ขอบคุณพี่น้องทุกท่าน ในที่สุดผมก็เข้าใจ อย่างที่เคยพูดไปเมื่อโพสต์ก่อนหน้า ผมไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในสิ่งที่ผมคิดไปเองว่าไม่ผิดนั้น พี่น้องก็ได้ไขแสดงจนผมเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า อย่างไรเสียพวกเขาก็คือคนบาปอยู่วันยันค่ำ และผมก็คือคนบาป การเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถเลือกได้มันคือบาป ผมคงต้องยอมรับข้อนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ความเชื่อของผมที่ว่าพระรักเราทุกคนมันก็เป็นความจริง แม้ผมจะไม่ได้รับความรอดก็ตาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 6:23 pm

†ลูกแกะพระเจ้า... เขียน:ขอบคุณพี่น้องทุกท่าน ในที่สุดผมก็เข้าใจ อย่างที่เคยพูดไปเมื่อโพสต์ก่อนหน้า ผมไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในสิ่งที่ผมคิดไปเองว่าไม่ผิดนั้น พี่น้องก็ได้ไขแสดงจนผมเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า อย่างไรเสียพวกเขาก็คือคนบาปอยู่วันยันค่ำ และผมก็คือคนบาป การเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถเลือกได้มันคือบาป ผมคงต้องยอมรับข้อนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ความเชื่อของผมที่ว่าพระรักเราทุกคนมันก็เป็นความจริง แม้ผมจะไม่ได้รับความรอดก็ตาม
ทำไมคิดว่าจะไม่ได้รับความรอดล่ะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
salvation7
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 522
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
ติดต่อ:

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 7:11 pm

†ลูกแกะพระเจ้า... เขียน:ขอบคุณพี่น้องทุกท่าน ในที่สุดผมก็เข้าใจ อย่างที่เคยพูดไปเมื่อโพสต์ก่อนหน้า ผมไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในสิ่งที่ผมคิดไปเองว่าไม่ผิดนั้น พี่น้องก็ได้ไขแสดงจนผมเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า อย่างไรเสียพวกเขาก็คือคนบาปอยู่วันยันค่ำ และผมก็คือคนบาป การเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถเลือกได้มันคือบาป ผมคงต้องยอมรับข้อนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ความเชื่อของผมที่ว่าพระรักเราทุกคนมันก็เป็นความจริง แม้ผมจะไม่ได้รับความรอดก็ตาม
เมื่อเรารู้ทั้งรู้ว่าเป็นคนบาป เพียงมองขึ้นไปหาพระองค์ ขอให้พระองค์นำทาง ขอพละกำลัง ให้เข้มแข็ง วันนี้พลาด พรุ่งนี้เริ่มใหม่ เพียงมีความตั้งใจ และยึดมั่นในพระองค์ พระองค์รออยู่น๊ะ....

สู้ๆๆๆ ทุกคนก็ต้องสู้กับสิ่งที่ตัวเองไม่อยากจะเป็น สักวันจะผ่านไปได้
†ลูกแกะพระเจ้า...
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
ที่อยู่: ขอนแก่น

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 10:20 pm

กลายเป็นกระทู้หนุนใจไปแล้ว ^^

วันนี้ไปสมโภชพระวรกายที่วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล บ้านน้อยสามเหลี่ยม อันที่จริงผมเป็นสัตบุรุษวัดนักบุญเยราร์ด แต่พาพี่รหัสที่เป็นพุทธไปเรียนคำสอนที่วัดสามเหลี่ยม เพราะบ้านพี่เขาอยู่แถวนั้น ในเมืองขอนแก่นก็มีแค่สองวัด ผมก็เลยสนิทกับคุณพ่อทั้งสองวัด เพราะไปมิสซาบ่อยเท่ากัน วันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมสารภาพบาปเรื่องนี้ เรื่องที่ตัวเองเป็นเกย์(ดูเหมือนจะ Coming out บอร์ดนี้เป็นบอร์ดแรกนะครับเนี่ย เพราะไม่เคยพูดที่ไหน ถึงจะไม่ได้ปิดก็เถอะ) อย่างที่บอกไว้ในโพสต์ก่อนหน้า ผมเคยคิดว่าสิ่งที่ผมเป็นมันไม่ใช่สิ่งผิด และผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองผิดปกติหรือแตกต่างจากใคร ผมก็ผู้ชาย ผู้ชาย100%ด้วย แค่เป็นผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกันเท่านั้นเอง ผมไม่เคยทำผิดบาปเนื้อหนัง(หมายถึงเฉพาะเพศสัมพันธ์) และก็ไม่คิดจะทำให้มันเกิดขึ้น เพราะผมเคยสัญญากับตัวเองและเคยพูดกับพระว่า จะรอจนกว่าจะแต่งงาน มีครอบครัว แต่ก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถแต่งงานอย่างถูกต้องได้ในพระศาสนจักร นั่นหมายความว่า เรื่องเพศสัมพันธ์คงจะไม่มีวันเกิดขึ้น รู้ตลอดมาว่า เกย์ในสายตายของสังคมรวมทั้งในพระศาสนจักร ถูกมองในแง่ลบ แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันคือบาป จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ตอนที่รอดูบอล U21 รอบชิง สวิส-สเปน ก็เข้ามาอ่านกระทู้ในบอร์ดเรา เห็นว่ากระทู้นี้มีคนตอบเลยเข้ามาอ่าน อาจเพราะที่ผ่านมาเข้าวัดไม่บ่อยพอ จนมาตอนนี้ถึงเข้าบ่อยขึ้น ทำให้ไม่รู้ อาจเพราะอธิษฐานภาวนาไม่มากพอ ไม่พูดกับพระบ่อยพอ ทำให้ไม่รู้ หรืออาจเป็นเพราะอ่านพระคัมภีร์ไม่มากพอ ทำให้ไม่รู้ พอมาเจอข้อพระคัมภีร์ที่พี่น้องยกขึ้นมาก็ถึงกับสะดุด ความคิด ณ ตอนนั้น ตัวเองกลายเป็นคนบาป เป็นผู้ที่จะไม่รอดภายในพริบตา ความเชื่อที่ตัวเองเคยเชื่อว่าไม่ผิด มันกลับผิด

ผมเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่สาวหนึ่งคน แม้ฝั่งแม่จะเป็นพุทธ แต่ผมก็เข้าวัดเรียนคำสอนกับย่ามาตั้งแต่เด็ก และได้รับการปลูกฝังความเชื่อแบบคาทอลิกมาตั้งแต่จำความได้ แม้จะมาล้างบาปเอาตอนโต แต่สิ่งที่เชื่อและศรัทธามาโดยตลอดก็มีเพียงพระหนึ่งเดียวเท่านั้น ย่าไม่เคยบอกว่าใครจะรอดหรือไม่รอด บอกเพียงว่าพระรักทุกคน เพราะทุกคนคือลูกพระ และเราก็ต้องรักพระมากๆ ด้วย ผมเชื่อเช่นนั้นเสมอมา ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมเป็นมันเกิดขึ้นตอนไหน ตอนเด็กๆ ผมเล่นกับทั้งเพื่อนผู้หญิงและผู้ชาย หมากเก็บก็เล่นเป็น เล่นผู้ร้ายตำรวจกับเพื่อนผู้ชายก็เล่น แถมเคยมีความฝันว่าอยากเป็นตำรวจคอยจับผู้ร้าย พอขึ้นมัธยม ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ได้เข้าใจอะไรมากขึ้น นั่นก็ทำให้ทุกอย่างชัดเจน ผมเป็นเกย์ ผมไม่ได้บอกใครนอกจากที่บ้านและเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม แต่ผมก็ไม่เคยปิด ไม่เคยมีใครถามผมในเรื่องพวกนี้ นั่นทำให้ผมไม่จำเป็นต้องตอบอะไรใคร

เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่ผิดมันคือบาป ผมจึงตัดสินใจสารภาพบาปเรื่องนี้กับคุณพ่อเป็นครั้งแรกเมื่อมิสซาเช้าวันนี้ เพราะหากไม่ได้พูดออกไป ผมคงไม่กล้ารับพระวรกายเข้ามาในตัวผมแน่ และผมก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นในวันสมโภชพระวรกายเช่นวันนี้ ...แม้ผมจะสารภาพบาปเรื่องนี้แล้ว แต่ผมยังคงสับสน หลักที่ผมเคยยึดมันพังลงแล้ว ผมเลือกไม่ได้นี่ที่เป็นเช่นนี้ แต่ผมก็กลายเป็นคนที่บาปที่สุดไปแล้ว ผมควรจะทำยังไงดี พี่น้องช่วยตอบผมได้ไหมว่า ผมควรทำยังไง...
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 11:29 pm

คืออย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่าเป็นเกย์นั้นไม่ได้ตกนรกนะครับ

คนเราจะตกนรกหรือไม่นั้นอยู่ที่สิ่งที่เรากระทำ ไม่ใช่สิ่งที่เราเป็นครับ
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 11:36 pm

วิธีคือกลับใจเสียใหม่ครับ
ผมเชื่อในพระโลหิตของพระคริสต์ว่ามีฤทธานุภาพตั้งแต่อดีตกาล ปัจจุบันกาลตลอดจนอนาคตกาล
ถ้าเรากลับใจจริง สํานึกผิดจริง พระโลหิตของพระองค์ทรงอภัยเราได้ทุกเมื่อครับ
อีกประการต้องเข้าใจนะครับว่าผู้เชื่อนั้นได้รับความรอดทุกคนอยู่แล้วครับ(รอดที่ว่าคือรอดจากนรก100%ตามคําทรงสัญญา)
ทว่า ถ้าเรารอดแล้วแต่พระองค์กลับไม่ให้เรามีส่วนในแผ่นดินสวรรค์เพียงเพราะข้อบกพร่องบางประการของเรา มันน่าเศร้ากว่าตกนรกอีกนะครับ ฉนั้นสารภาพผิดและกลับใจเถอะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย aqua-alta เมื่อ อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 11:48 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 11:38 pm

aqua-alta เขียน:วิธีคือกลับใจเสียใหม่ครับ
ผมเชื่อในพระโลหิตของพระคริสต์ว่ามีฤทธานุภาพตั้งแต่อดีตกาล ปัจจุบันกาลตลอดจนอนาคตกาล
ถ้าเรากลับใจจริง สํานึกผิดจริง พระโลหิตของพระองค์ทรงอภัยเราได้ทุกเมื่อครับ

ไม่ทราบว่า "กลับใจ" ในความหมายที่สื่อออกมาหมายถึงกลับใจอะไรและอย่างไรครับ :)
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 11:54 pm

เลิกเป็นไงครับ
ถ้าเรารู้ว่าเป็นแล้วพระเป็นเจ้าจะเสียพระทัยเพราะเรา ก็เลิกเป็นครับ
คนข้างนอกอาจจะบอกว่าเรื่องแบบนี้เลิกไม่ได้ แต่เชื่อเถอะครับว่าไม่มีสิ่งใดเกินกําลังพระเป็นเจ้าของเรา
ขอพระเจ้าทรงเป็นกําลังแก่คุณนะครับ อิมมานูเอล
แก้ไขล่าสุดโดย aqua-alta เมื่อ อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 11:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 11:55 pm

ประเด็นของสงฆ์นิกายนี้ไม่ใช่ที่เขาเป็นคนรักร่วมเพศอย่างเดียว
แต่เป็นที่เขานำเรื่องของคนกลุ่มนี้มาชูเป็นจุดขายมากกว่า
คนเป็นสงฆ์หากมามีห่วงเรื่องครอบครัว ยังติดสนใจกับกามตัณหา
แล้วจะถวายตัวและใจให้พระเจ้าได้สมบูรณ์ได้อย่างไร
(ไม่แค่เฉพาะคนที่เป็นเกย์ สงฆ์ที่อนุญาตให้แต่งงานด้วย)

เมื่อคุณรู้ตัวเองว่าคุณเป็นอะไร คุณอย่าทำพฤติกรรมประเภท
แต่งกับผู้หญิงมีลูกบังหน้าเพราะกลัวสังคมประณาม
คุณจะยิ่งทำร้ายผู้อื่นและลูกของคุณเอง การอยู่ด้วยโดยไม่มีความรัก
มันเป็นสิ่งที่ผิดร้ายแรงสำหรับการสร้างครอบครัว
อย่าทำตัวเป็นพวกบางกลุ่มหลบซ่อนแล้วล่วงละเมิดเด็กด้วย

นี่เป็นกางเขนของคุณ

พระเจ้าให้กางเขนที่ลูก ๆ ของพระองค์สามารถแบกได้
และพระองค์ก็ช่วยลูก ๆ ของพระองค์แบกกางเขนชีวิตไปด้วย
ภาวนาขอพละกำลังและความมั่นคงทางจิตใจ
ยึดในความรักที่ไม่อยากให้พระองค์เสียใจ
ทำตนไม่ให้เปิดโอกาสให้ตกในบาป

"ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด" ยน8:7
มนุษย์ทุกคนล้วนเป็นคนบาป (ยกเว้นแม่พระ)
ผู้ที่ตัดสินคือพระเจ้าเพียงผู้เดียว ว่าคุณรอดหรือไม่รอด

คนที่เป็นรักร่วมเพศไม่ใช่คนไม่ดี คุณเป็นลูกของพระเช่นกัน
เมื่อรู้ว่าพลั้งพลาดอย่ากลัวและอย่าอายที่จะเดินกลับไปขอโทษพระ
พระเจ้าเจ็บปวดกว่าถ้าลูกของพระองค์วิ่งหนีไม่กล้ากลับมาหาพระองค์

ขอให้พระเจ้าทรงคุ้มครองและอวยพร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ มิ.ย. 27, 2011 2:27 am

†ลูกแกะพระเจ้า... เขียน:กลายเป็นกระทู้หนุนใจไปแล้ว ^^

วันนี้ไปสมโภชพระวรกายที่วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล บ้านน้อยสามเหลี่ยม อันที่จริงผมเป็นสัตบุรุษวัดนักบุญเยราร์ด แต่พาพี่รหัสที่เป็นพุทธไปเรียนคำสอนที่วัดสามเหลี่ยม เพราะบ้านพี่เขาอยู่แถวนั้น ในเมืองขอนแก่นก็มีแค่สองวัด ผมก็เลยสนิทกับคุณพ่อทั้งสองวัด เพราะไปมิสซาบ่อยเท่ากัน วันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมสารภาพบาปเรื่องนี้ เรื่องที่ตัวเองเป็นเกย์(ดูเหมือนจะ Coming out บอร์ดนี้เป็นบอร์ดแรกนะครับเนี่ย เพราะไม่เคยพูดที่ไหน ถึงจะไม่ได้ปิดก็เถอะ) อย่างที่บอกไว้ในโพสต์ก่อนหน้า ผมเคยคิดว่าสิ่งที่ผมเป็นมันไม่ใช่สิ่งผิด และผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองผิดปกติหรือแตกต่างจากใคร ผมก็ผู้ชาย ผู้ชาย100%ด้วย แค่เป็นผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกันเท่านั้นเอง ผมไม่เคยทำผิดบาปเนื้อหนัง(หมายถึงเฉพาะเพศสัมพันธ์) และก็ไม่คิดจะทำให้มันเกิดขึ้น เพราะผมเคยสัญญากับตัวเองและเคยพูดกับพระว่า จะรอจนกว่าจะแต่งงาน มีครอบครัว แต่ก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถแต่งงานอย่างถูกต้องได้ในพระศาสนจักร นั่นหมายความว่า เรื่องเพศสัมพันธ์คงจะไม่มีวันเกิดขึ้น รู้ตลอดมาว่า เกย์ในสายตายของสังคมรวมทั้งในพระศาสนจักร ถูกมองในแง่ลบ แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันคือบาป จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ตอนที่รอดูบอล U21 รอบชิง สวิส-สเปน ก็เข้ามาอ่านกระทู้ในบอร์ดเรา เห็นว่ากระทู้นี้มีคนตอบเลยเข้ามาอ่าน อาจเพราะที่ผ่านมาเข้าวัดไม่บ่อยพอ จนมาตอนนี้ถึงเข้าบ่อยขึ้น ทำให้ไม่รู้ อาจเพราะอธิษฐานภาวนาไม่มากพอ ไม่พูดกับพระบ่อยพอ ทำให้ไม่รู้ หรืออาจเป็นเพราะอ่านพระคัมภีร์ไม่มากพอ ทำให้ไม่รู้ พอมาเจอข้อพระคัมภีร์ที่พี่น้องยกขึ้นมาก็ถึงกับสะดุด ความคิด ณ ตอนนั้น ตัวเองกลายเป็นคนบาป เป็นผู้ที่จะไม่รอดภายในพริบตา ความเชื่อที่ตัวเองเคยเชื่อว่าไม่ผิด มันกลับผิด

ผมเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่สาวหนึ่งคน แม้ฝั่งแม่จะเป็นพุทธ แต่ผมก็เข้าวัดเรียนคำสอนกับย่ามาตั้งแต่เด็ก และได้รับการปลูกฝังความเชื่อแบบคาทอลิกมาตั้งแต่จำความได้ แม้จะมาล้างบาปเอาตอนโต แต่สิ่งที่เชื่อและศรัทธามาโดยตลอดก็มีเพียงพระหนึ่งเดียวเท่านั้น ย่าไม่เคยบอกว่าใครจะรอดหรือไม่รอด บอกเพียงว่าพระรักทุกคน เพราะทุกคนคือลูกพระ และเราก็ต้องรักพระมากๆ ด้วย ผมเชื่อเช่นนั้นเสมอมา ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมเป็นมันเกิดขึ้นตอนไหน ตอนเด็กๆ ผมเล่นกับทั้งเพื่อนผู้หญิงและผู้ชาย หมากเก็บก็เล่นเป็น เล่นผู้ร้ายตำรวจกับเพื่อนผู้ชายก็เล่น แถมเคยมีความฝันว่าอยากเป็นตำรวจคอยจับผู้ร้าย พอขึ้นมัธยม ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ได้เข้าใจอะไรมากขึ้น นั่นก็ทำให้ทุกอย่างชัดเจน ผมเป็นเกย์ ผมไม่ได้บอกใครนอกจากที่บ้านและเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม แต่ผมก็ไม่เคยปิด ไม่เคยมีใครถามผมในเรื่องพวกนี้ นั่นทำให้ผมไม่จำเป็นต้องตอบอะไรใคร

เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่ผิดมันคือบาป ผมจึงตัดสินใจสารภาพบาปเรื่องนี้กับคุณพ่อเป็นครั้งแรกเมื่อมิสซาเช้าวันนี้ เพราะหากไม่ได้พูดออกไป ผมคงไม่กล้ารับพระวรกายเข้ามาในตัวผมแน่ และผมก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นในวันสมโภชพระวรกายเช่นวันนี้ ...แม้ผมจะสารภาพบาปเรื่องนี้แล้ว แต่ผมยังคงสับสน หลักที่ผมเคยยึดมันพังลงแล้ว ผมเลือกไม่ได้นี่ที่เป็นเช่นนี้ แต่ผมก็กลายเป็นคนที่บาปที่สุดไปแล้ว ผมควรจะทำยังไงดี พี่น้องช่วยตอบผมได้ไหมว่า ผมควรทำยังไง...

ตอบตามเทววิทยาคาทอลิก

เป็นไม่บาปและไม่ใช่สาเหตุตกนรก แต่ไปทำจะบาปครับ


การที่มนุษย์ชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร ล้วนมีส่วนบกพร่องที่มาจากการเสื่อมของบาปทั้งสิ้น ดังนั้นบางคนชอบกิน แต่กินมากจนโลภอาหารและป่วยอันนี้บาป แต่ชอบความอร่อยของอาหารไม่ใช่ความบาป

คนชอบของแบรนเนมหรือไอแพท การชอบของพวกนี้ไม่บาป แต่ถ้าโลภเกินกำลังต้องสรรหามาให้ได้ จนขายไตซื้อไอแพท หรือลักขโมยเขา หรือเอารัดเอาเปรียบงกไม่แบ่งปันเพื่อซื้อของแพง อันนี้บาป

พระเจ้าไม่ตัดสินคนที่รสนิยมความชอบของเขาหรอกครับ

เช่นกัน เหมือนการ ปฏิญาณ สัญญากับพระเจ้า ว่าจะถือศีลพรรหมจรรย์ของนักบวช ไม่ได้แปลว่า เขาต้องหมดความต้องการทางเพศ หรือกลายเป็นพระอิฐพระปูนเห็นเพศตรงข้ามแล้วเฉยๆ เขาอาจรู้สึกขึ้นมา เวลาเจอกับคนในแบบที่เป็นสเปกเขาอยู่แล้วได้ แล้วเขาก็ตัดมันออกไปจากใจด้วยเห็นแก่สัญญาที่ให้กับพระเจ้า เขาก็ไม่บาป แต่ถ้าเขาไปล่วงละเมิดเขาก็จะบาปที่ผิดคำสัญญาต่อพระเจ้า


มธ 19:10-12 การสมัครใจไม่แต่งงาน
บรรดาศิษย์ทูลพระองค์ว่า “ถ้าสภาพของสามีกับภรรยาเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ควรจะแต่งงานเลย” พระองค์ตรัสว่า “ไม่ใช่ทุกคนเข้าใจคำสอนนี้ คนที่เข้าใจคือคนที่พระเจ้าประทานให้ เพราะว่า บางคนเป็นขันทีตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา บางคนถูกมนุษย์ทำให้เป็นขันที และบางคนทำตนเป็นขันทีเพราะเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์ผู้ที่เข้าใจได้ ก็จงเข้าใจเถิด”



---ดังนั้น ถ้าความชอบของเรา ไม่สอดคล้องต่อการปฏิบัติตามบทบัญญัติ ก็แนะนำตามข้อนี้คือ ตัดสละชีวิตที่จะมีความสัมพันธ์ทางเพศเพื่อถวายแด่พระเจ้า คนที่ไม่สามารถมีชีวิตสมรสที่สืบพันธุ์มีลูกหลานได้ อาจไม่ใช่ว่าพระเจ้าสาปแช่งให้เขาต้องตกนรกตั้งแต่เกิด แต่อาจเป็นพระพร ที่พระเจ้าเลือกเขาให้รักษาความบริสุทธิ์ครองชีวิตโดยไม่แต่งงานก็ได้


พระศาสนาจักรคาทอลิกไม่ตีความว่าคนที่เป็นจะต้องบาปหรือตกนรกครับ แต่ตีความถึงคนที่ไป กระทำว่าบาปครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ มิ.ย. 27, 2011 5:54 am

ส่วนข้อพระคัมภีร์ 1 โครินทร์ ดูตามนี้นะครับ


1คร 6:9
ท่านไม่รู้หรือว่า คนอธรรมจะไม่ได้รับพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก จงอย่าหลอกตนเอง คนผิดประเวณี คนกราบไหว้รูปเคารพ คนเป็นชู้ คนลักเพศ คนรักร่วมเพศ คนขโมย คนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย คนฉ้อโกง คนเหล่านี้จะไม่ได้รับพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก บางท่านเคยเป็นเช่นนี้มาก่อน แต่ท่านได้รับการชำระล้างแล้ว ท่านได้รับความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ท่านได้รับความชอบธรรมแล้วเดชะพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า และเดชะพระจิตของพระเจ้าของเรา




--------------------


ถ้าเราดูชุดความบาปพวกนี้ทั้งหมด จะเห็นว่า ทุกอัน จะทำให้ กลายเป็น คนเคยเป็นเช่นนี้ ก็ด้วยการเลิกทำ

เช่นคนขี้เมา เลิกดื่ม ก็ไม่กลายเป็นคนขี้เมา แต่ถ้าถามว่า คนนั้นเขามีความชอบบรรยากาศมิตรภาพในวงเหล้า หรือความสนุกยามได้ดื่ม ก็ย่อมมีอยู่ในนิสัย แต่แค่เขาเลิกทำ เขากลายเป็นแค่คนเคยขี้เมาทันที

หรือคนเป็นชู้ ถ้าคุณเป็นหญิงที่มีสามีแล้วแอบคบชู้ คุณบอกเลิกกับชู้ คุณกลายเป็นคนเคยมีชู้ทันที ต่อให้คุณยังคงรักชายชู้อยู่ก็ตาม

หรืออย่างคนปากร้าย ถ้าคุณเลิกด่าคน แม้เวลาคุณโดนใครด่าก่อนแล้วคุณจะปรี๊ดขึ้นมาอยากสวน แต่ไม่สวน คุณก็จะกลายเป็นแค่คนเคยปากร้าย ตอนนี้พูดเพราะแล้ว


แต่ทำไมกรณีรักร่วมเพศ การที่คุณเลิกยุ่งเกี่ยวทางเพศกับเพศเดียวกัน มันถึงไม่พอ สังคมยังบังคับต่อไปถึงรสนิยมว่าคุณต้องหันมาอยากร่วมเพศกับเพศตรงข้ามให้ได้ ซึ่งในทางสังคมจริง มีเกย์ และกะเทยมากมาย ที่สามารถฝืน หลอกตัวเองและผู้หญิงไปแต่งงานกับเธอเพื่อจะได้บอกคนอื่นที่ตัดสินคุณแบบนั้นว่าคุณไม่ได้เป็นรักร่วมเพศแล้ว เพราะตอนนี้ มีเพศสัมพันธุ์กับผู้หญิงและมีลูกได้ (ตัวอย่างหลายคนในวงการบันเทิง)

ทำไมอันนี้ถึงต้องโดน3เด้งคือ นอกจากเลิกทำของเดิม ต้องเปลี่ยนรสนิยมเลิกชอบแบบเดิมไปชอบอีกแบบ แล้วต้องไปกระทำแบบใหม่ ด้วย

ปัญหาก็คือ การ error ทางความรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมครับ

การจำกัดความของคนสมัยก่อนและคนสมัยนี้ไม่เหมือนกันเลยครับ

2000ปีก่อน ไม่มีคำว่าเกย์ หรือโฮโมเซ็กซ์ชวล การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันไม่ได้นับเป็นเพศที่3 แบบสมัยนี้ แต่นับเป็นพฤติกรรมเท่านั้น เช่นในสังคมโรมันสมัยนักบุญเปาโล มีชาวโรมันมากมายที่แต่งงานมีลูกมีเมีย แต่นิยมมีความสัมพันธุ์ทางเพศกับเด็กชายหรือคนเพศเดียวกัน เช่น พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ฯลฯ

ต้นฉบับภาษากรีกคำว่า คนลักเพศ คนรักร่วมเพศ ในพระคัมภีร์บทนี้ ใช้คำว่า "malokois" และ "arsenokoitai."

นักวิชาการกรีกได้กล่าวเอาไว้ว่า ในช่วงศตวรรษแรก ๆ นั้น คำว่า malaokois น่าจะหมายถึง “เด็กผู้ชายที่มีลักษณะอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง” ขณะที่ความหมายหลังจากนั้นเปลี่ยนแปลงกลายไปเป็น “โสเภณีชาย”

ส่วนคำว่า arsenokoitai นั้น นักวิชาการกรีกไม่แน่ใจว่าคำดังกล่าวมีความหมายว่าอย่างไรกันแน่ และจากการที่เราไม่มั่นใจในความหมายของมันนี่เอง ได้นำไปสู่การโต้เถียง ความขัดแย้ง และโศกนาฏกรรม นักวิชาการบางคนเชื่อว่าเปาโลได้หยิบยกคำนี้มาใช้เรียกลูกค้าของโสเภณีชาย ที่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “ชายชราตัณหากลับ” ขณะที่บางที่แปลความหมายคำนี้ออกมาว่า sodomites(การร่วมเพศทางทวารหนัก) แต่ก็ไม่มีคำอธิบายใด ๆ ว่าทำไมจึงถูกแปลออกมาเช่นนั้น

ในปี 1958 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีคนมาแปลพระคัมภีร์ภาษากรีกมาเป็นภาษาอังกฤษ

โดยได้สรุปว่าคำดังกล่าวหมายถึง พวกรักร่วมเพศ หรือ โฮโมเซ็กชัวล์ ถึงแม้จะในความเป็นจริงจะไม่มีคำดังกล่าวอยู่ในภาษากรีกหรือฮีบรูเลย และคนสมัยนั้นไม่เคยรู้จักคำนี้ แต่ผู้แปลก็ได้ตัดสินใจแทนเราทุกคน ใส่คำว่า โฮโมเซ็กชัวล์ ลงไปในพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรก

เราต้องมาพินิจพิเคราะห์คำว่า arsenokoitai นี้กันเสียใหม่ โดยการมองที่ความหมายดั้งเดิมของมัน ซึ่งหลักฐานที่น่าเชื่อถือทางประวัติศาสตร์ ที่ชาวโรมันเจ้าอาณานิคมในสมัยนั้นมีพฤติกรรมทางเพศแบบไหน เปาโลจึงน่าจะกล่าวประณามผู้ชายที่มีภรรยาแล้วแต่กลับจ้างเด็กผู้ชาย (malakois) ให้มามีเพศสัมพันธ์กับตน เหมือนกับที่ผู้ชายจ้างเด็กสาวสวย ๆ มาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน ซึ่งเป็นประเด็นของการล่วงประเวณี และการคบชู้ ซึ่งเป็นคำที่อยู่ก่อนหน้าคำ2คำนี้


ดังนั้น การที่ โปรแตสแตนท์ สาย fundamentalist คิดว่าจะต้องให้เกย์ เปลี่ยนมา ชอบเพศตรงข้ามจึงจะรอดได้ หรืออีกนัยคือ ลงไปตัดสินตั้งแต่รสนิยมทางเพศ แทนพฤติกรรมทางเพศ จึงเป็นการใช้ระเบียบสังคมปัจจุบัน ยัดลงไปทับซ้อนเหตุการณ์ในความพระคัมภีร์ จนเบือนจากเจตนาในสมัยก่อน

ในส่วนของคำตอบในเทววิทยาของพระศาสนจักรคาทอลิกได้เคยมีตอบชัดเจนเรื่องนี้ไว้แล้วครับ
viewtopic.php?f=2&t=6366
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

จันทร์ มิ.ย. 27, 2011 7:48 am

2000ปีก่อน ไม่มีคำว่าเกย์ หรือโฮโมเซ็กซ์ชวล การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันไม่ได้นับเป็นเพศที่3 แบบสมัยนี้ แต่นับเป็นพฤติกรรมเท่านั้น เช่นในสังคมโรมันสมัยนักบุญเปาโล มีชาวโรมันมากมายที่แต่งงานมีลูกมีเมีย แต่นิยมมีความสัมพันธุ์ทางเพศกับเด็กชายหรือคนเพศเดียวกัน เช่น พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ฯลฯ

>> จากศึกษาประวัติศาสตร์ชาวกรีก-โรมันในยุคก่อนคริสต์กาลมีพฤติกรรมนี้จริง

เป็นธรรมเนียมนิยมชายจะมีภรรยาเพื่อมีลูกให้ แต่จะคบหากับบุรุษอื่นออกหน้า
ออกงานสังคมเฉพาะในกลุ่มผู้ชาย ซึ่งสังคมในยุคนั้นยอมรับพฤติกรรมนี้
ว่าเป็นเรื่องของกลุ่มชนชั้นสูงกระทำเท่านั้น แรงงาน ทาส ไม่มีสิทธิ์ทำ

เหมือนพฤติกรรมการกินเข้าไปมาก ๆ แล้วไปล้วงคอออก
มีหลักฐานตามบ้านผู้มีอันจะกินทั้งหลายจะมีห้องล้วงคอ
กินเข้าไปแล้วล้วงออก (ต้องเอาให้ออกด้วย ไม่ออกคนอื่นจะหัวเราะเยาะ)

เป็นธรรมเนียมชนชั้นสูง เพราะคนไม่มีฐานะการเงินจะไม่สามารถซื้อ
ทาสเด็กชายมาปรนเปรอหรือจัดเลี้ยงอาหารจำนวนมาก ๆ เพื่อล้วงคอออกได้

สะดุดตรง malaokois "โสเภณีชาย" เพราะนอกจากทาสเด็กชายที่ถูกซื้อมาปรนเปรอ
มันน่าจะหมายถึง "ภรรยา/คู่นอนที่มีเพศชาย" ด้วย

คำว่า arsenokoitai (อันนี้ไม่รู้คำแปลจริง ๆ ) ที่คู่กับ malaokois อาจจะหมายถึง
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวและมีฐานะทางสังคม ที่ไปทำความรู้จักและคบกับ
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวและมีฐานะทางสังคมอีกคน และออกงานสังคม
ยุคนั้นเขาไม่เอาภรรยาที่เป็นผู้หญิงออกงานสังคมเลยถือว่าเสียหน้า
ต้องเอาภรรยาที่เป็นผู้ชายเหมือนกันออกงาน จึงถูกแปลด้วยคำว่า sodomites

คนยุคนี้อ่านแล้วคงรู้สึกแปลกแต่มันเป็นข้อเท็จจริงและเป็นประเพณีปฏิบัิติในยุคนั้น
ยุคนั้นไม่ถือว่าผิดปกติ ถือว่าเป็นเรื่องสุนทรียทางกามารมณ์
ศึกษาประวัิติศาสตร์ต้องอย่าเอาบรรทัดฐานปัจจุบันไปวัดพฤติกรรมคนในอดีต
ไม่งั้นเราจะเกิดอคติ
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

จันทร์ มิ.ย. 27, 2011 11:16 am

อ่านแล้วตกใจเหมือนกันครับ นักบวชชายที่คบกับนักบวชชายด้วยกัน เป็นการคบกันแบบนั้นซะด้วย
ผมคิดว่า นักบวชคือคนที่ตกหลุมรักพระคริสต์ จนไม่สามารถรักใครในโลกแบบคนรักได้อีกแล้วครับ
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

จันทร์ มิ.ย. 27, 2011 5:49 pm

อ่านแล้วก็ ::044:: เฮ้อ...อ...อ
เดี๋ยวสวดให้เค้าสักหนึ่งสายแล้วกัน
†ลูกแกะพระเจ้า...
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
ที่อยู่: ขอนแก่น

จันทร์ มิ.ย. 27, 2011 11:28 pm

เหมือนกระทู้นี้จะโดนแย่งซีนโดยเรื่องของผมไปเรียบร้อยแล้ว ^^

ขอบคุณทุกคำแนะนำของพี่น้อง โดยเฉพาะคำแนะนำ/ชี้แจงยาวๆ จากคุณ Holy ทำให้ผมได้เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขึ้น

"สู้กับความอ่อนแอของตัวเอง ไม่โทษคนนั้นคนนี้ ไม่เปรียบเทียบคนนั้นคนนี้ แต่เผชิญกับปัญหาของตัวเอง เผชิญหน้ากับความจริง เปิดใจยอมรับ ฉันคือฉัน พระให้ฉันมาอย่างนี้ย่อมมีดีสักอย่างแน่ อย่าดูหมิ่นตัวเอง ท่านมีพระพรอื่นๆในตัวอีกมากมาย มองจุดดีอย่าไปเน้นจุดด้อยมากจนเกินไป" --viewtopic.php?f=2&t=6366

แม้ผมจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่ผมก็สามารถเลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ ความรักไม่ใช่สิ่งผิด ไม่ว่าจะเกิดขึ้นอย่างไรหรือกับใครก็ตาม ดังนั้น ผมจะไม่ดูหมิ่นตัวเอง เพราะผมคือผม พระให้ผมมาอย่างนี้ ผมภูมิใจในสิ่งที่เป็น เพราะมันคือสิ่งที่พระมอบให้ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำชี้แนะและหนุนใจจากพี่น้องทุกท่าน และขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงประทานทางสายนี้ให้ลูกเดิน แม้จะเป็นทางที่ยากลำบาก แต่ลูกขอสัญญาว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้ พระองค์คงประสงค์ให้ลูกถือพรหมจรรย์ไปตลอดชีวิต ลูกจะทำเช่นนั้น ลูกเชื่อว่าลูกจะทำเพื่อพระองค์ได้ และลูกขอพระองค์โปรดประทานพละกำลังแก่ลูก เพื่อลูกจะได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปได้ ลูกรักพระองค์พระเจ้าข้า
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

อังคาร มิ.ย. 28, 2011 9:30 am

ขอพระเจ้าทรงนำและประทานกำลังแก่ท่านครับ
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

อังคาร มิ.ย. 28, 2011 4:25 pm

ผลงานที่ดีล้วนมาจากพระเจ้า ผลงานที่ไม่ดีล้วนมาจากปีศาจ
ตอบกลับโพส