ทำไมต้องมีหลายศาสนา ในเมื่อพระเจ้ามีหนึ่งเดียว

[s.gabriel]

ทำไมต้องมีหลายศาสนา ในเมื่อพระเจ้ามีหนึ่งเดียว

ผมได้ถามคำถามนี้กับคุณแสตนเลย์

คุณแสตนเลย์ได้ให้คำตอบสั้นๆว่า
เพราะความจองหองของมนุษย์ที่อยากเป็นใหญ่ครับ
คำตอบสั้นๆกระชับมากครับ ไม่ต้องหาเหตุผลอย่างอื่นอีกเลยครับ

[Holy]

จริงๆไม่ได้ ต้องมี มันมีของมันเอง

[Cho]

อืม คำตอบของคุณสแตนเลย์ ชัดเจนจริงครับ พลันให้นึกถึงการหล่อรูปวัวทองคำของชาวอิสราเอล ตอนโมเสสขึ้นไปเฝ้าพระเจ้าบนยอดเขาซีนาย

[blue_cross]

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
แต่วิธีการเข้าถึงความจริงนั้น มีได้หลายทางนะคะ

บรรดาศาสดาของศาสนาต่างๆไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อแบ่งแยกหรอกคะ
เขาเผยแพร่หลักธรรมเพื่อให้คนนำไปปฏิบัติ และใช้ชีวิตให้ดีต่อตนเองและต่อผู้อื่น
ไม่ใช้ให้นำมายึดว่าของฉันดี ของคุณไม่ดี

จะพุทธ คริสต์ ฮินดู อิสลาม ฯลฯ ล้วนสอนวิธีการเข้าถึงความจริงที่ไม่ขัดกับคุณงามความดี
ขึ้นอยู่กับคนปฏิบัติมากกว่า ว่านำมาปฏิบัติหรือนำมายึดกันแน่

ศาสนาแต่ละศาสนา เหมือนหนังสือเล่มเดียวกัน แต่มีคนแปลหลายสำนวน
คนหนึ่งที่นับถือศาสนาหนึ่ง เป็นเพราะเขารู้สึกว่าศาสนานั้นมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เขารับได้ เหมาะกับชีวิตฝ่ายจิตของเขา เราจึงควรเคารพในจิตใจที่ใฝ่ดีของเขา

ขอพระจิตเจ้าทรงนำทุกท่านให้มีใจเปิดกว้างด้วยค่ะ
มิฉะนั้น เราคงไม่ต่างจากบรรดาฟาริสี

[s.gabriel]

จริงๆไม่ได้ ต้องมี มันมีของมันเอง

พี่โฮลี่ก็กระชับจนผม คิดตามไม่เข้าใจ

[aqua-alta]

จะเป็นฟาริสีหรือไม่คงมีแต่ใจเราเองกับพระเป็นเจ้าที่จะรู้ได้ ว่าเราเป็นประเภทหน้าซื่อใจคดหรือไม่
ต้องเปิดกว้างรึเปล่าผมก็ไม่รู้ รู้แต่
พระเยซูตรัสแก่เขาว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาเว้นไว้มาทางเรา (John 14:6)
นี่คือพระวจนะที่พระองค์ทรงตรัส
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับทุกคนครับ

[s.gabriel]

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
แต่วิธีการเข้าถึงความจริงนั้น มีได้หลายทางนะคะ

บรรดาศาสดาของศาสนาต่างๆไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อแบ่งแยกหรอกคะ
เขาเผยแพร่หลักธรรมเพื่อให้คนนำไปปฏิบัติ และใช้ชีวิตให้ดีต่อตนเองและต่อผู้อื่น
ไม่ใช้ให้นำมายึดว่าของฉันดี ของคุณไม่ดี

จะพุทธ คริสต์ ฮินดู อิสลาม ฯลฯ ล้วนสอนวิธีการเข้าถึงความจริงที่ไม่ขัดกับคุณงามความดี
ขึ้นอยู่กับคนปฏิบัติมากกว่า ว่านำมาปฏิบัติหรือนำมายึดกันแน่

ศาสนาแต่ละศาสนา เหมือนหนังสือเล่มเดียวกัน แต่มีคนแปลหลายสำนวน
คนหนึ่งที่นับถือศาสนาหนึ่ง เป็นเพราะเขารู้สึกว่าศาสนานั้นมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เขารับได้ เหมาะกับชีวิตฝ่ายจิตของเขา เราจึงควรเคารพในจิตใจที่ใฝ่ดีของเขา

ขอพระจิตเจ้าทรงนำทุกท่านให้มีใจเปิดกว้างด้วยค่ะ
มิฉะนั้น เราคงไม่ต่างจากบรรดาฟาริสี

ผมว่าคุณออกความเห็นไม่ค่อยตรงประเด็นสักเท่าไหร่ครับ ถ้าคุณเป็นคาทอลิคและมีความเชื่อว่าพระเจ้ามีองค์เดียว คุณก็คงไม่ออกประเด็นไปน่ะครับ ผมไม่ได้ว่าศาสนาอื่นไม่ดีนะครับ
และไม่ได้พูดว่าศาสนาคริสต์ดีศาสนาเดียวนะครับ คำตอบที่ได้มานี้ ได้มาจากคุณแสตนเล่ย์ครับ
คำถามนี้เกิดขึ้นจากความสงสัยของผมที่ทำไม
พระเจ้าสามารถบันดาลทุกสิ่งได้ ตามที่พระองค์ต้องการ พระเจ้าทำไมไม่ให้มีศาสนาเดียวเลย จะได้ไม่ต้องมาเปล่าประกาศพระวาจาดึงคนกลับมาเป็นนับถือคริสต์ มาเผยแพร่พระเมตตา แล้วสวรรค์อื่น นรกอื่นล่ะ ที่คนบนโลกนี้พูดถึงกัน นึกแล้วมันเยอะไปหมดครับ หลายข้อข้องใจ ในหัวสมองผม มีหลายเรื่องที่ผมจะถามคุณสแตนเล่ย์ แต่ผมคิดว่าคงเป็นพระประสงค์ของพระองค์
บางเรื่องถึงผมจะรู้ความจริงหมดทุกอย่าง ว่าอะไรเป็นอะไร ก็คงไม่อาจทำให้ผมซึ่งเป็นคนบาปเป็นคนดีขึ้นมาได้ มากกว่าเดิมสักเท่าไหร่ครับ

ผมก็รู้นะครับว่าคำตอบนี้มีผลกระทบต่อผู้เชื่อในศาสนาอื่นครับ แต่ผมเองไม่ได้มีเจตนาที่คิดจะโจมตีศาสนาอื่นนะครับเพียงแต่คิดตามความคิดของตัวเองเพราะอาไร โลกนี้มันมีเรื่องราว
สลับซับซ้อนจนบางครั้งสมองของเราที่มีอยู่ คิดยังไงก็ไม่เข้าใจครับ

[Holy]

ผมไม่เชื่อในแนวคิดของนิวเอจที่ว่าทุกศาสนาดีหมด เพราะอย่างโอมชินริว หรือลัทธิเทียมเท็จต่างๆที่นิยมพาสาวกไปฆ่าตัวตายหมู่ อันนั้นไม่ได้ดี และศาสดาเจ้าลัทธิไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ดี ยังไม่นับศาสนาที่นับถือซาตานโดยตรง ที่มีพิธีกรรมทุราจารสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และด่าแช่งพระเจ้า และเมื่อเร็วๆนี้ได้ทำการฆาตกรรมซิสเตอร์ท่านหนึ่งเพื่อให้ซาตานพอใจ

แม้แต่ในยุคสมัยของอัครสาวกเอง ก็ประสบปัญหา การเกิดขึ้นของหลักความเชื่ออื่นซึ่งบิดเบือนความจริงของคริสตชน


กท 1:6-10 คำเตือน
ข้าพเจ้าประหลาดใจที่ท่านทั้งหลายหันเหอย่างรวดเร็วจากพระบิดาผู้ทรงเรียกท่านด้วยพระหรรษทานของพระคริสตเจ้า ไปเชื่อข่าวดีอื่น อันที่จริงแล้ว ข่าวดีอื่นนั้นไม่มี แต่มีบางคนก่อความวุ่นวายในหมู่ท่านทั้งหลาย และประสงค์จะบิดเบือนข่าวดีของพระคริสตเจ้า แต่ถ้าเรา หรือทูตสวรรค์ประกาศข่าวดีขัดแย้งกับที่เราเคยประกาศแก่ท่าน ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้าขอพูดย้ำสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยพูดไว้ก่อนอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าใครประกาศข่าวดีแก่ท่านขัดแย้งกับข่าวดีที่ท่านเคยรับไว้ ก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์หรือพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามเอาใจมนุษย์กระนั้นหรือ หากข้าพเจ้ายังเอาใจมนุษย์ ข้าพเจ้าก็คงไม่เป็นผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้า


ดังนั้น ผมเห็นด้วยว่า เราไม่ควรลบหลู่ศาสนาอื่นๆในฐานะที่เรามีความเชื่อในคริสตศาสนา แต่คงไม่ถึงขนาดว่าต้องมีความคิดว่าทุกศาสนาและลัทธิในโลกดีไปหมด เพราะอะไรไม่ดีก็ว่าไม่ดี อะไรไม่ถูกก็ว่าไม่ถูก อะไรไม่จริงก็ว่าไม่จริง ไม่จำเป็นต้องบอกว่าดีไปหมดเพื่อเอาใจกัน

ที่สำคัญบัญญัติประการที่1 ต้องรักษาไว้ให้ดี เพราะถ้าเป็นคนน่ารักชื่นชมรับได้หมดทุกศาสนาในโลก แต่หลักธรรมของศาสนาตัวเองไม่สามารถรักษาไว้ได้ มันก็ดูจะพาราด๊อกเกินไปครับ

[aqua-alta]

ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่นซึ่งเป็นที่รอดแก่เราทั้งหลาย ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า.(act 4:12)
แต่ให้ถ้อยคำของท่านเป็นคำตรงเถิด จริงก็ว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ ซึ่งพูดเกินนี้ไปก็มาจากความชั่ว
(Matthew 5:37)

[rosa-lee]

พระเจ้าเที่ยงแท้มีองค์เดียว พระองค์ให้อิสระ อำเภอใจกับมนุษย์ ไม่บังคับ ที่จะนับถืออะไร
ตั้งแต่พระเจ้าสร้างโลกสร้างมนุษย์คนแรก ก็ได้รู้จักรักนมัสการพระองค์ อยู่ในสวนสวรรค์แล้ว
แต่เพราะความหยิ่งจองหองอยากเป็นใหญ่ เท่าพระเจ้า จึงทำผิดไม่เชื่อฟังพระเจ้า
ตังแต่นั้นมามนุษย์ทุกยุคทุกสมัยก็แสวงหาพระเจ้าของตนเอง ศาสนาต่างๆลัทธิต่างๆเกิดขึ้น
มากมาย คนอยู่ในป่าก็นับถือผี นางไม้ จ้าวป่า จ้าวเขาฯลฯ หลงลืม ไม่รู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้
แล้วเราจะทำอย่างไร ประกาศข่าวดีให้เขาเหล่านั้นได้รู้ถึงพระเจ้าเที่ยงแท้ ซึ่งรักมนุษย์มากจน
ยอมให้พระบุตรมายอมตายเพื่อมาไถ่บาปมนุษย์..........

[francisco xavier]

คำถามน่าสนใจครับ ถ้าเราถามว่า ในเมื่อมีพระเจ้าองค์เดียว แล้วทำไมถึงได้มีหลายศาสนา ก็คงทำเดียวกับคำถามที่ว่า ถ้าพระเจ้ารักมนุษย์จริง ทำไมจึงต้องให้บางคนเกิดมาสุขสบาย บางคนเกิดมาทุกข์ยากลำบาก บางคนร่ำรวย บางคนยากจน
ในปฐมกาล พระเป็นเจ้าทรงสร้างโลกและสรรพสิ่งที่สมบูรณ์แบบ แต่เมื่อมนุษย์ล้มลงในบาปก็พาตัวเองและสรรพสิ่งที่ได้ทรงสร้างนั้นเข้าสู่ความไม่สมบูรณ์ ความผิดพลาด และคำสาปแช่ง จึงเกิดความทุกข์ยากลำบากขึ้นในชีวิตมนุษย์ ศาสดาต่าง ๆ มองเห็นว่ามนุษย์ทุกคนล้วนแต่เกิดมาต้องประสบกับความทุกข์ยาก และพยายามค้นหาหลักสัจจธรรมที่สามารถช่วยมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ยากเหล่านั้น เมื่อหลักการเดิมที่มีมาตอบคำถามไม่ได้ทั้งหมด ก็ต้องพยายามค้นหาหลักการอื่น ๆ ที่สามารถตอบคำถามได้ เกิดเป็นลัทธิความเชื่อต่าง ๆ
ในความคิดเห็นของผม ศาสนาต่าง ๆ ล้วนแต่ถ่ายทอดหลักสัจจธรรมที่ศาสดาได้ค้นพบ คำสอนเหล่านั้นล้วนเป็นความจริง ที่สามารถพิสูจน์ได้จริงในชีวิตของผู้ปฏิบัติ แต่ความจริงเหล่านี้ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งในความจริงแท้ที่ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถค้นพบเพราะเกินกว่าสติปัญญาของมนุษย์ที่จะเข้าใจ มนุษย์รับรู้ความจริงแท้นี้ได้โดยอาศัยการไขแสดงขององค์ความจริงอย่างมีเจตจำนงเฉพาะเท่านั้น