การทําแท้ง - แถลงการณ์สภาพระสังฆราชคาทอลิกไทย

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 7:22 am

แถลงการณ์สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
เรื่อง การทําแท้ง


3 สิงหาคม ค.ศ.1979 / พ.ศ.2522


รูปภาพ

คํานํา

พระศาสนจักรคาทอลิกมีความสนใจและห่วงใยปัญหาต่างๆ ของมนุษย์ตามจิตตารมณ์ที่สังคายนา
วาติกันที่สองกล่าวไว้ว่า ”ความชื่นชมและความหวัง ความโศกเศร้าและความกังวลของมนุษย์ในสมัยนี้ เป็นต้นของคนยากจนและผู้มีความทุกข์เข็ญทั่วไป ย่อมถือเป็นความชื่นชมและความหวัง เป็นความโศกเศร้าและความกังวลของผู้เป็นศิษย์ของพระคริสตเจ้าด้วย” (ธรรมนูญพระศาสนจักรในโลกสมัยนี้ ข้อ 1) พระศาสนจักรคาทอลิกจึงมีความปรารถนาแรงกล้าที่จะมีส่วนในการรับใช้และร่วมมือกับรัฐบาล บรรดาผู้นํา และผู้มีนํ้าใจดีทั้งหลาย เพื่อสร้างสรรค์ความรู้ความเข้าใจ หาวิธีการ และเสนอแนะการปฏิบัติอย่างจริงจังในการแก้ปัญหาต่างๆ

การทําแท้ง ปัจจุบันเป็นปัญหาที่สลับซับซ้อนและหนักหน่วงข้อหนึ่ง เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก
และในประเทศไทยของเราด้วย เป็นความกังวลของคนเป็นจํานวนมาก ทั้งของผู้ที่มีความทุกข์ยากที่ต้องการทําแท้งนั่นเอง และของผู้ที่รับผิดชอบในสังคมซึ่งมีหน้าที่จะต้องดูแลความทุกข์สุขของประชาชนที่มีความทุกข์ยากเหล่านี้ พระศาสนจักรเองมีความกังวลในเรื่องนี้ด้วย เพราะเป็นปัญหาที่สัมพันธ์กับศาสนาและศีลธรรมอย่างลึกซึ้ง


สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ตระหนักดีถึงหน้าที่ซึ่งพระเยซูคริสตเจ้าทรงมอบหมายแก่ผู้สืบคําสั่งสอนของพระองค์ ให้สอนความจริงและศีลธรรม เมื่อทรงกล่าวว่า “พวกท่านจงไปสอนนานาชาติ... ให้เขาเชื่อฟัง และทําตามที่เราสอนทุกประการ” (มธ 28:10 – 20) จึงได้ออกแถลงการณ์เรื่องการทําแท้งฉบับนี้ ชี้แจ้งให้ชาวคาทอลิกและผู้มีนํ้าใจดีทั้งหลายได้รู้ได้เข้าใจหลักศาสนาและศีลธรรม เพื่อเป็นเครื่องธํารงไว้ซึ่งศีลธรรมและรักษาไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของชีวิตมนุษย์ให้มั่นคงถาวรสืบไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 7:25 am

คําสอนของพระศาสนจักรว่าด้วย
ศักดิ์ศรีของชีวิตมนุษย์และความหมายของการทําแท้ง


พระคัมภีร์คาทอลิกกล่าวว่า พระเป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์เอง ทรงอวย
พระพรแก่มนุษย์ ทรงตั้งให้มนุษย์เป็นเจ้านายเหนือสิ่งสร้างทั้งมวล พระองค์ตรัสกับมนุษย์ว่า “จงบังเกิดบุตร” (เทียบ ปฐก 1:26 – 28) ศาสนาคาทอลิกจึงสอนว่า ชีวิตมนุษย์เป็นพระพรอันประเสริฐของพระเป็นเจ้า มีศักดิ์ศรีและคุณค่าเหนือประโยชน์ใดๆ เป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันปกปักรักษา และทะนุบํารุงให้เจริญงอกงาม และแม้ว่าพระเป็นเจ้าทรงสร้างชีวิตมนุษย์โดยอาศัยความร่วมมือของพ่อแม่ ชีวิตมนุษย์ก็มีความศักดิ์สิทธิ์ และพระเป็นเจ้าเท่านั้นทรงอานุภาพเหนือชีวิตมนุษย์ มนุษย์จึงไม่มีสิทธิ์จะทําลายชีวิตของตนเอง หรือชีวิตของคนอื่นผู้บริสุทธิ์ได้


รูปภาพ

พระศาสนจักรยังสอนว่า ตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิมนุษย์มีวิญญาณที่อมตะ นั่นคือถือว่า ชีวิตมนุษย์
เริ่มต้นตั้งแต่เวลาที่เชื้อชีวิตของพ่อแม่ผสมกันแล้ว ซึ่งวาระนั้นถือว่ามีการปฏิสนธิหรือตั้งครรภ์แล้ว เมื่อปี ค.ศ.1970 สหภาพการแพทย์สากลได้ยืนยันทํานองเดียวกันนี้ด้วย นอกนั้น วิทยาศาสตร์สาขาชีววิทยาก็รับรู้ว่า ชีวิตมนุษย์คนหนึ่งเป็นชีวิตเดียวที่เริ่มเมื่อมีการปฏิสนธิและดําเนินต่อเนื่องกันไปจนตาย ชีวิตในครรภ์มารดาจึงเป็นมนุษย์แล้ว ก่อนที่จะมีสิทธิตามกฎหมายในฐานะเป็นบุคคล

เพราะความประเสริฐและศักดิ์ศรีของมนุษย์นี้เอง คําสั่งสอนสําคัญของพระเยซูเจ้าจึงเน้นหนักให้
มนุษย์มีความรักต่อกันและกัน ทั้งชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่รักแท้ย่อมเสียสละได้แม้ชีวิตเพื่อผู้อื่น (เทียบ มธ 22:29, ยน. 13:34, ยน. 15:13) คริสต์ศาสนาจึงสอนว่า เราต้องรักมนุษย์ทุกคน โดยไม่เลือกชาติหรือศาสนา ผิวพรรณหรืออายุ แม้ผู้ที่ยังไม่เกิดด้วย

ส่วนในด้านการปกป้องชีวิตนั้น พระเป็นเจ้าทรงมอบพระบัญญัติประการที่ 5 ไว้ว่า “อย่าฆ่าคน”
(อพย. 20:13) เพราะการฆ่าคนเป็นการละเมิดสิทธิของพระเป็นเจ้าและความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตมนุษย์โดยตรง

บัดนี้ เราควรศึกษา “การทําแท้ง” คืออะไร

การทําแท้ง มีความหมายทางการแพทย์ว่า “เป็นการขัดขวางต่อชีวิตที่กําลังก่อตัวในครรภ์ มิให้มีโอกาสเจริญออกมาสู่โลก”

การทําแท้ง มีความหมายทางกฎหมายธรรมชาติว่า “เป็นวิธีการทําลายชีวิตมนุษย์ในขณะที่อาศัย
อยู่ในครรภ์มารดา”

การทําแท้ง มีความหมายทางกฎหมายว่า “เป็นการปล้นสิทธิที่จะมีชีวิตโดยที่เจ้าของชีวิตเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่มีทางป้องกันตัว”

การทําแท้ง มีความหมายทางศีลธรรมว่า “เป็นการฆาตกรรมที่พ่อแม่ยินยอมให้เกิดขึ้น”
ความหมายของการทําแท้งทั้งสี่สถานบ่งชัดว่าเป็น “การฆ่า”


ฝ่ายศาสนาคาทอลิกเน้นว่า “การทําแท้ง เป็นอาชญากรรมที่น่าเกลียดน่าชังที่สุด” (ธรรมนูญ
พระศาสนจักรในโลกสมัยนี้ ข้อ 51)

การทําแท้ง ยังเป็นการกระทําที่จงใจอย่างเลือดเย็นโดยมีการเตรียมการล่วงหน้า มีการสมรู้ร่วม
คิด มีการนําเอาวิชาการมาใช้โดยไม่ถูกต้องตามทํานองคลองธรรม

เป็นการกระทําที่น่าสยดสยอง เพราะผู้มีหน้าที่ปกป้องชีวิตกลับเป็นผู้ทําลายชีวิตนั้นเสียเอง
สมเด็จพระสันตะปาปา ปอล ที่ 6 ทรงกล่าวว่า “คําสั่งสอนของศาสนาคาทอลิกเรื่องการทําแท้ง
ข้อนี้ ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง และเป็นกฎเกณฑ์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้” (
พระดํารัสแก่นักกฎหมาย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1972) และเชื่อว่าหลักศีลธรรมตามคําสอนของศาสนาคาทอลิกในเรื่องนี้ ก็ตรงกับศาสนาอื่นๆ เช่น พุทธศาสนาและศาสนาอิสลาม เป็นต้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 7:28 am

คําชี้แจ้งต่อเหตุผลของฝ่ายสนับสนุนการทําแท้ง

1. มีการเรียกร้องให้ออกกฎหมายอนุญาตทําแท้งได้ เพราะถือว่า ชีวิตทารกในครรภ์มารดา เป็นต้นในระยะแรกๆ ของการตั้งครรภ์ ไม่ใช่มนุษย์ จึงสรุปว่า การทําแท้งไม่ใช่การฆ่าคน แต่เป็นเหมือนการฆ่าสัตว์ธรรมดาๆ ซึ่งคนทั่วโลกก็อนุโลมให้ทําได้ และถ้ามีเหตุผลด้วยแล้วก็ไม่มีอะไรน่าจะติเตียนเลยแม้แต่น้อย

ผู้ที่คิดเช่นนี้ ถือเอาสภาพของส่วนต่างๆ ของร่างกายและสมองที่ยังไม่ปรากฏ หรือยังไม่สมบูรณ์
เป็นเครื่องตัดสินว่าชีวิตทารกในครรภ์ไม่ใช่มนุษย์ แต่เราก็ได้ยืนยันมาแล้วว่า ชีวิตทารกในครรภ์เป็นมนุษย์ตั้งแต่แรกปฏิสนธิ และถ้าคิดพิจารณาให้ดี ก็ต้องยอมรับว่า ความเป็นมนุษย์มิได้อยู่ที่การมีส่วนต่างๆ ของร่างกายและสมองครบถ้วน เช่น คนที่ถูกตัดอวัยวะบางส่วนของร่างกายก็ยังเป็นมนุษย์ ผู้ที่เสียสติหรือหมดสติไปยังเป็นมนุษย์ จึงต้องถือว่า ความเป็นมนุษย์อยู่ที่การมีชีวิตมนุษย์ในตัว ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจจะอยู่ในสภาพเช่นไรก็ตาม ด้วยเหตุผลดังกล่าวเราจึงยืนยันว่า ชีวิตทารกในครรภ์เป็นมนุษย์อย่างแน่นอน



รูปภาพ

2. หลายคนยึดถือกฎหมายบ้านเมืองเป็นหลักและอ้างว่า ชีวิตทารกในครรภ์ไม่เป็นบุคคลตาม
กฎหมายจึงไม่มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย นี่แสดงว่าทําแท้งได้

ถ้าหากพิจารณาคําประกาศขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิของเด็ก ซึ่งประกาศเมื่อ ค.ศ.1959 จะเป็นชัดว่าในข้อ 4 พูดถึงการคุ้มครองเด็กที่ยังไม่เกิดด้วย นอกจากนี้ การคุ้มครองและการให้สิทธิพิเศษบางประการแก่หญิงที่กําลังมีครรภ์ในกฎหมายของประเทศต่างๆ ก็คือการคุ้มครองชีวิตทารกในครรภ์นั่นเอง

หากกฎหมายบ้านเมืองจะไม่พูดถึงสิทธิของชีวิตทารกที่ยังอยู่ในครรภ์ ก็ยังมีกฎธรรมชาติและกฎ
ศีลธรรมที่ยืนยันถึงสิทธินี้อยู่ จึงต้องยอมรับว่า ชีวิตทารกในครรภ์ต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง


3. สตรีบางคนให้เหตุผลว่า ชีวิตทารกในครรภ์เป็นส่วนของร่างกายแม่ จึงเป็นสิทธิของแม่ที่จะ
กําหนดความเป็นความตายของสิ่งปฏิสนธิในครรภ์ได้เอง สําหรับผู้ถือศาสนาคาทอลิก การทําแท้งโดยเต็มใจมีโทษทางศาสนาขั้นหนักอีกด้วย

ความจริงทางวิทยาศาสตร์บอกว่า ชีวิตทารกในครรภ์มารดาเป็นชีวิตใหม่อีกชีวิตหนึ่ง เป็นคนละ
คนกับแม่ ยังติดอยู่กับแม่เพื่อรับเอาอาหารและที่อยู่อาศัยทางแม่เท่านั้น เลือดของแม่ไม่ได้เข้าไปในตัวของลูกเหมือนอย่างที่บางคนเข้าใจเลย เพราะฉะนั้น แม่จึงไม่มีสิทธิเหนือความเป็นความตายของลูกในครรภ์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 7:30 am

4. มีการเรียกร้องว่า ในกรณีที่การตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายแก่ชีวิตของแม่ ก็อนุญาตให้ทําแท้งได้
เพราะชีวิตของแม่สําคัญกว่า เป็นต้นเมื่อแม่จะต้องอยู่เพื่อดูแลลูกที่เกิดมาก่อนแล้วและยังเล็กอยู่

แพทย์ศาสตร์ยืนยันว่า ในกรณีที่ถ้าไม่ทําลายชีวิตทารกในครรภ์เสีย แม่จะต้องเสียชีวิตอย่าง
แน่นอนนั้น แทบจะไม่มีเลยในวงการแพทย์สมัยใหม่ ส่วนในกรณีที่การให้ยาหรือการผ่าตัดที่จําเป็นเพื่อรักษาชีวิตของตัวแม่เอง มีผลทําให้เด็กในครรภ์ต้องเสียชีวิตโดยไม่เจตนานั้นถือว่าไม่มีความผิด เพราะไม่มีความตั้งใจจะทําแท้ง และในภาคปฏิบัติ พระศาสนจักรคาทอลิกก็สอนดังนี้ และอนุญาตเสมอมาเพื่อรักษาชีวิตของแม่ไว้อยู่แล้ว


5. การตั้งครรภ์ที่เกิดจากการถูกข่มขืนหรือหลอกลวงเป็นอีกกรณีหนึ่งที่เรียกร้องกันให้อนุญาตทําแท้งได้ เพราะถือว่าเป็นการไม่ยุติธรรมที่ฝ่ายหญิงจะต้องทนอัปยศอดสูและต้องรับภาระชีวิตของเด็กที่จะเกิดมาฝ่ายเดียวทั้งๆ ที่ได้รับความเสียหายและไม่มีความผิด

แม้ว่ากรณีเช่นนี้สร้างแผลหัวใจให้แก่หญิง พ่อแม่และทุกคน กระนั้นก็ดีขอให้พิจารณาดูว่า จะ
เป็นการถูกต้องหรือที่จะแก้ หรือหลีกเลี่ยงผลของความชั่วประการหนึ่งของคนอื่นด้วยการกระทําผิดอีกอย่างหนึ่งด้วยตนเอง ตรงกันข้าม น่าจะแก้ไขโดยให้ผู้กระทําผิดเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทําของตน ส่วนหญิงที่ประสบเคราะห์กรรมก็ควรจะทําสิ่งที่ถูกที่ควรให้ดีที่สุดเท่าที่จะทําได้ โดยไม่ผลักดันผลร้ายให้คนอื่นที่ไม่ได้รู้เห็นด้วย



รูปภาพ

6. มีพ่อแม่หลายคนคิดว่า เป็นการไม่ยุติธรรมที่การทําผิดทางเพศเพราะอารมณ์ชั่ววูบของเด็กหนุ่มคนหนึ่งทําให้เขาต้องรับผิดชอบชดใช้และรับภาระชีวิตของเด็กที่จะเกิดมา เป็นต้นเมื่อเขายังอยู่ในวัยเรียน เป็นการตัดอนาคตของเขาด้วย สําหรับฝ่ายเด็กสาวก็เช่นกัน ถ้าเขาทําผิดและเกิดตั้งครรภ์ขึ้น ก็เป็นเพราะการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงไม่น่าจะต้องให้รับผิดชอบขนาดนี้ การอนุญาตให้ทําแท้งได้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

เราทราบว่า การต้องรับผิดชอบต่อผลของการกระทําของตนนั้น เป็นหลักการที่สําคัญและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น คนที่ทิ้งก้นบุหรี่เพราะความเลินเล่อและทําให้เกิดไฟไหม้บ้านคนอื่นก็ต้องชดใช้หรือติดคุก เป็นการตัดอนาคตของผู้ทําละเมิดมิใช่หรือ? ในทํานองเดียวกันผู้ทําผิดทางเพศก็ต้องรับผิดต่อผลของการกระทํานั้นด้วย

7. บางคนถือว่า เด็กในครรภ์เป็นผู้บุกรุก ในเมื่อพ่อแม่ไม่ปรารถนาจะมีลูกและพยายามคุมกําเนิด
อยู่แล้ว ฉะนั้น พ่อแม่มีสิทธิ์ทําแท้งเพื่อจํากัดเด็กออกไปเสีย

เราต้องพิจารณาข้อเท็จจริงว่าใครเป็นผู้บุกรุก ในกรณีของการถูกข่มขืนหรือหลอกลวง ผู้ชายเป็นผู้บุกรุก ในกรณีของความผิดพลาดในการคุมกําเนิดของหนุ่มสาวหรือพ่อแม่ ความผิดเป็นของผู้ใหญ่ไม่ใช่ ของเด็กในครรภ์ จะเรียกเด็กว่าเป็นผู้บุกรุกไม่ได้ ฉะนั้น พ่อแม่หรือใครอื่นก็ตามไม่มีสิทธิ์ทําแท้งได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 7:37 am

8. นักจิตวิทยาบางคนสนับสนุนให้อนุญาตทําแท้งได้ ในกรณีที่การมีครรภ์เป็นอันตรายต่อ
สุขภาพจิตของแม่อย่างร้ายแรง ซึ่งมักจะแสดงออกด้วยความเสียใจและผิดหวังอย่างมากต่อการตั้งครรภ์ และต้องการจะทําแท้งไม่ว่าจะต้องเสียเงินทองหรือเจ็บปวดหรือเสี่ยงต่อชีวิตเพียงใดก็ตาม

ความร้ายแรงของอันตรายต่อสุขภาพจิตของแม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตั้งครรภ์โดยตรง แต่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือความคิดถึงสภาพปัจจุบัน และการคาดการณ์ล่วงหน้าอย่างผิดๆ หรือไม่ตรงความเป็นจริง ซึ่งมักจะเป็นจิตวิทยาของผู้กระทําผิดหรือไม่สมหวัง บ่อยครั้ง คนเราก่อนจะทําอะไรลงไป ก็มักจะมีความคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เสี่ยงได้ง่ายๆ แต่พอทําอะไรลงไปแล้วกลับคิดมาก และเห็นอะไรเป็นเรื่องใหญ่โต ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล จนอยากทําสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล จึงควรแนะนําให้ผู้ที่อยู่ในสภาพจิตเช่นนั้นเข้าใจและยอมรับสภาพความเป็นจริง จะได้กล้าเผชิญกลับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล



9. หลายคนมีความเห็นว่า ควรแนะนําให้ทําแท้งอย่างยิ่งในกรณีที่รู้แน่ว่าเด็กในครรภ์เกิดมาจะ
พิการมากหรือติดโรคร้ายแรงไปตลอดชีวิต อันเป็นการทรมานแก่เด็กเอง และเป็นภาระแก่ครอบครัวและสังคมโดยเปล่าประโยชน์

แม้ว่ากรณีเช่นนี้น่าสลดใจอย่างยิ่ง แต่ความเห็นอันนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าชีวิตทารกในครรภ์ยังไม่
เป็นมนุษย์ และมองคุณค่าของชีวิตมนุษย์ในด้านผลประโยชน์เท่านั้น หากเราจะยอมรับหลักการประการหลังนี้เพื่อทําแท้ง ในกรณีที่รู้ว่าเด็กในครรภ์ที่เกิดมาจะพิการ ในไม่ช้าเราจะต้องยอมจํานนต่อเหตุผลที่จะต้องกําจัดคนพิการและคนชราที่ต้องทรมานและเป็นภาระแก่ครอบครัวและสังคมโดยเปล่าประโยชน์ด้วย

นอกจากนี้ การกําจัดชีวิตของเด็กในครรภ์ที่จะเกิดมาพิการ เพราะเหตุผลของความสงสารก็ไม่ได้
ด้วย เพราะเป็นการฆ่าคน ตรงข้าม การยอมรับ การให้ความรักและความเมตตา และความช่วยเหลือคนพิการ เป็นคุณธรรมที่น่าสรรเสริญ


รูปภาพ

10. มีผู้ต้องการให้อนุญาตทําแท้งได้ เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น ในกรณีที่ครอบครัวยากจนและมีลูกมากแล้ว หากมีการตั้งครรภ์และปล่อยให้เด็กเกิดมาอีก ก็จะไม่ได้รับความรักและการเลี้ยงดูที่เหมาะสม เด็กจะกลายเป็นปัญหาของสังคม ลูกคนอื่นๆ ก็พลอยได้รับความเสียหายไปด้วย นอกจากนี้สังคมและเศรษฐกิจส่วนรวมจะได้รับความกระทบกระเทือน การพัฒนาอาจล้มเหลว ในเมื่อมีประชากรมากเกินไป จนสังคมไม่สามารถจะให้การบริการแก่ประชาชนได้ทั่วถึง ฉะนั้น เพื่อประโยชน์ของเด็กเองและของสังคมส่วนรวมจึงควรให้ทําแท้งได้

เรายอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจและสังคมรวมกับปัญหาประชากรและการพัฒนาเหล่านี้เป็นเรื่อง
สําคัญที่จะต้องช่วยกันแก้ไขด้วยวิธีการหลายด้าน กระนั้นก็ดี การแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่การอนุญาตให้ทําแท้งได้ แต่อยู่ที่การส่งเสริมชีวิตครอบครัว การวางแผนครอบครัวในแนวที่ถูกต้องตามทํานองคลองธรรมและมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมอาชีพและการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในด้านการเฉลี่ยรายได้ของประชากร เหล่านี้เป็นต้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 7:39 am

11. ข้ออ้างอีกประการหนึ่งคือ การทําแท้งนั้นทํากันอยู่แล้ว แต่เป็นการทําแบบหลบซ่อน และผู้รับจ้างทําเป็นหมอเถื่อนซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตแม่ จึงควรแก้ไขกฎหมายให้แพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะเป็นผู้ทําจะได้ช่วยชีวิตแม่ไว้ได้

ผลที่ออกมาจากกฎหมายที่อนุญาตให้ทําแท้งเสรีได้ในหลายประเทศ ปรากฏว่าไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องหมอเถื่อนเลย เช่น สถิติของประเทศอังกฤษระหว่างปี ค.ศ. 168 – 1973 ชี้ให้เห็นว่า นอกจากจํานวนคนทําแท้งทั่วไปได้เพิ่มขึ้นถึง 700 กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว การทําแท้งกับหมอเถื่อนก็ยังมีอยู่และเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากฝ่ายหญิงมักต้องการปกปิดเพราะความอายและกลัวเสียชื่อเสียง นอกจากนี้ยังปรากฏว่า เด็กที่เกิดนอกสมรสก็เพิ่มขึ้น และความเสื่อมเสียศีลธรรมทางเพศก็ถูกถือว่าเป็นผลของการแก้กฎหมายในเรื่องอนุญาตทําแท้งโดยเสรีด้วย

รูปภาพ

12. มีผู้เสนอให้ปรับปรุงกฎหมายการทําแท้งให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมของสังคมที่
เปลี่ยนแปลงไป โดยอนุโลมให้ทําแท้งได้กว้างขวางมากขึ้น

เราเห็นด้วยกับการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย ในปัจจุบันมีความพยายามแสวงหาวิธีรักษาชีวิตให้ยืนยาว มีการประท้วงการประหารชีวิตนักโทษฉกรรจ์ ประท้วงการฆ่าสัตว์เพื่อใช้ทดลองทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ สิ่งเหล่านี้แสดงว่ามนุษย์สมัยนี้เห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้น เพราะฉะนั้น หากเราจะปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสม ก็ควรปรับปรุงให้เป็นไปในลักษณะส่งเสริมชีวิต มากกว่าในลักษณะทําลายชีวิต

13. หลายคนไม่พอใจกับการก้าวก่ายของศาสนาในเรื่องการทําแท้ง เพราะเห็นว่าการแก้ปัญหา
สังคมจะยึดเอาเฉพาะหลักศาสนาและประเพณีไม่ได้ ยิ่งเป็นคําสอนของศาสนาที่เคร่งครัดด้วยแล้ว ก็ยิ่งไม่ควรนํามาบังคับให้ผู้ที่ถือศาสนาอื่นต้องปฏิบัติตามไปด้วย

ศาสนาคาทอลิกยึดมั่นในหลักของปรัชญาสังคมที่ว่ากฎหมายบ้านเมืองจะต้องไม่ขัดกับกฎศีลธรรมและประเพณีอันดีงาม และแม้ว่าการแก้ปัญหาสังคมจะต้องมาจากการพิจารณาความจําเป็นทางด้านต่างๆ ทุกๆ ด้านก็จริง แต่จะละเลยไม่คํานึงถึงด้านศีลธรรมด้วยไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อปรากฏว่ามีกฎหมายที่ขัดกับศีลธรรม หรือมีแนวโน้มที่จะให้มีกฎหมายที่ขัดกับกฎศีลธรรม พระศาสนจักรก็มีหน้าที่ต้องชี้แจงให้ทราบทั่วกันถึงอัตถ์ความจริงแท้ของพระศาสนจักรคาทอลิก


14. มีผู้เห็นว่าควรมีกฎหมายอนุญาตทําแท้งโดยเสรีได้ เพราะกฎหมายนี้เป็นเพียงอนุญาตให้ทําได้เท่านั้น ไม่บังคับให้ใครต้องทํา ใครไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องทํา

หากพิจารณาเฉพาะทางฝ่ายผู้ต้องการทําแท้งด้านเดียวก็รู้สึกว่าทุกคนเป็นอิสระ แต่จะต้องยอมรับว่า กฎหมายที่อนุญาตให้ทําแท้งได้จะมีผลทางจิตวิทยา คือทําให้คนรู้สึกว่าทําแล้วไม่ผิดก็ทําได้ง่ายขึ้น และอาจโฆษณาชวนเชื่อให้มาทํากันได้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการยากที่จะรับรองอิสรเสรีของทุกฝ่าย เช่น เมื่อหญิงคนหนึ่งต้องทําแท้ง สามีอาจจะต้องจํายอม พ่อแม่ของผู้เยาว์อาจจะต้องจําใจอนุญาต โรงพยาบาลทุกแห่งอาจถูกบังคับให้ทําแท้งแก่ผู้มาขอให้ทํา แพทย์และพยาบาลที่ไม่ยอมทําแท้งให้อาจจะถูกถือว่ามีความผิด หรือถูกกีดกันออกไป ดังนี้เป็นต้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 7:41 am

แนวทางปฏิบัติ

1. ขอให้ทุกคนมีความรักและความปรารถนาดีต่อกัน มีความคิดในแง่ที่ดีต่อกัน มีถ้อยคําอันเป็น
มิตรต่อกัน และเป็นกําลังใจแก่กันและกันในการทําสิ่งที่ถูกที่ควร ช่วยเหลือกันตามความสามารถ
ขอให้ทุกคนมีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่น หลีกเลี่ยงไม่ก่อความยากลําบากหรือความเสียหายต่อ
ชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใด และหากเป็นเหตุให้ใครต้องรับความเสียหาย ขอให้มีความซื่อตรงชดใช้แก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายนั้น ขอให้ทําดังนี้แต่ผู้ที่มีครรภ์โดยที่เขาไม่ปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นความผิดของใครก็ตาม

2. ขอให้พระสงฆ์ นักบวช พ่อแม่ ผู้ปกครอง และสถาบันการอบรมต่างๆ ร่วมมือกันอย่างจริงจัง
ในการอบรม เป็นต้นว่า

ก. การรู้จักคุณค่าและความศักดิ์สิทธิ์ของ “ศีลสมรส” และชีวิตครอบครัว
ข. การรู้จักและเคารพศักดิ์ศรีของชีวิตมนุษย์ และหน้าที่ในการช่วยกันทะนุถนอมรักษาชีวิต
ค. การรู้จักเสียสละและกล้าหาญในการเผชิญชีวิตครอบครัว ที่ต้องมีทุกข์ควบคู่ไปกับความสุข
เป็นต้น ในบทบาทและความรักของพ่อแม่ที่ต้องมีต่อลูก แก้ไขความโน้มเอียงของจิตใจที่มุ่ง
หาแต่ความสุขความพอใจ จนกระทั่งกลัวและพยายามหลีกเลี่ยงความลําบากทุกอย่างโดย
อาศัยทุกวิธีไม่ว่าจะผิดศีลธรรมหรือไม่ก็ตาม
ง. การรู้จักคุณค่าและความสูงส่งของการปฏิบัติทางเพศ ซึ่งจะต้องกระทําให้ถูกหลักศีลธรรมและ
มีความรับผิดชอบ

3. ขอให้องค์การของรัฐ เช่น กรมประชาสงเคราะห์ องค์การทางศาสนา เช่น ศูนย์อบรมชีวิต
ครอบครัว สมาคมวินเซนเดอปอล และองค์การเอกชนต่างๆ เช่น สภาสังคมสงเคราะห์ฯ ร่วมมือกันในการตั้งศูนย์ ซึ่งพร้อมที่จะให้คําแนะนําคําปรึกษาที่ถูกต้องแก่หญิงมีครรภ์ที่มีปัญหา รวมทั้งศูนย์ที่ให้การสงเคราะห์ในด้านที่อยู่อาศัยแก่แม่ที่ต้องการพักพิงชั่วคราว หรือในด้านการเลี้ยงเด็กและหาผู้อุปการะเด็กที่เกิดจากผู้มีปัญหา ดังนี้เป็นต้น

4. ขอให้หญิงที่มีครรภ์โดยที่ตนไม่ปรารถนาจงรับสภาพความเป็นจริง เลือกกระทําในสิ่งที่ถูกที่
ควร เห็นเกียรติในการทําดีและรักษาคุณธรรม อย่าได้หนีความอายหรือความลําบากโดยกระทําสิ่งที่ผิดศีลธรรม ขอให้คิดว่ายังมีผู้หวังดีและคอยช่วยเหลือท่านอยู่ด้วย

5. ขอให้แพทย์และพยาบาลตั้งมั่นอยู่ในอาชีวปฏิญาณและบทบาทของตนต่อสังคม คือการ
ป้องกันและรักษาชีวิต อย่าให้อาชีพท่านแปดเปื้อนด้วยการยอมรับเป็นผู้ทําลายชีวิตเลย ตรงกันข้าม ขอให้ท่านใช้ความพยายามและเหตุผลทุกอย่างโน้มน้าวหญิงมีครรภ์ที่มีปัญหา ให้เกิดความยั้งคิดและ กระทําในสิ่งที่ถูกที่ควรต่อไป

6. ขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารบ้านเมืองกําหนดวิธีป้องกันและควบคุมที่มีประสิทธิภาพ
ในอันที่จะขจัดความเสื่อมโทรมศีลธรรมทางเพศ ซึ่งเป็นต้นเหตุสําคัญประการหนึ่งของการทําแท้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารสิ่งพิมพ์และแหล่งบําเรอหย่อนใจที่ผิดศีลธรรมนานาชนิด

7. สุดท้าย ขอให้สื่อมวลชนที่ดีและผู้มีนํ้าใจดีทั้งหลายอย่าได้วางเฉยหรือคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ แต่จงร่วมมือกันส่งเสริมสิ่งที่ดีงาม ป้องกันมิให้เกิดสิ่งที่ผิด เหตุว่า ความชั่วช้าจะชนะ ก็เพราะคนดีซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ไม่ยอมร่วมมือกันนั่นเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 7:41 am

คําส่งท้าย

สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทยหวังว่าคําสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก คําชี้แจ้งและ
แนวทางปฏิบัติต่างๆ ที่กล่าวไว้ในแถลงการณ์ฉบับนี้ คงจะช่วยให้ชาวคาทอลิกและผู้มีนํ้าใจดีทุกๆ ท่าน ได้รู้และเข้าใจปัญหาเรื่องการทําแท้งโดยชัดแจ้งขึ้น ท่านที่ต้องการจะปฏิบัติตนให้อยู่ในทํานองคลองธรรมคงได้รับหลักธรรมประจําใจที่แน่นอน และมีคู่มือสําหรับชี้แจงให้ผู้อื่นเห็นดีเห็นชอบกับท่านด้วย

สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ขออวยพรให้ชาวคาทอลิกและผู้มีนํ้าใจดีทุกท่าน จง
ประสบความสุขความเจริญในชีวิตที่มีศักดิ์ศรีและร่วมมือกันกระทําความดี เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติไทยยิ่งๆ ขึ้นไป

กรุงเทพมหานคร วันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ.1979 / พ.ศ.2522
PeterCartoon
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 03, 2006 12:17 pm

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 9:56 am

ชัดเจนดีมาก...นี่คือสิ่งหนึ่งที่บอกว่า พระศาสนจักร คือเสาหลักแห่งมโนธรรมของโลก ... แม้ว่ามนุษย์จะให้เหตุผลเข้าข้างตัวเองอย่างไรก็ตาม พระศาสนจักรก็ยังคงมีจุดยืนที่ถูกต้องและมั่นคงเสมอ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

ศุกร์ ก.พ. 17, 2012 2:20 pm

ผมคนหนึ่งที่ไม่สนับสนุนให้ทำแท้งทุกกรณี ไม่ว่าพ่อแม่จะพร้อมหรือไม่ด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
b.kungz'?
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 11, 2010 4:54 am

เสาร์ ก.พ. 18, 2012 12:19 am

ชัดเจนครับ ขอบคุณมากๆ เลย ชีวิตทุกชีวิตมีค่าเท่าเทียมกัน และมนุษย์เองไม่มีสิทธิ์ตัดสินพรากชีวิตไปได้... ผมดูภาพประกอบด้านบน เขาใช้เครื่องมือคีบดึงตัวเด็กออกมา รับไม่ได้เลยจริงๆ ครับ
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

เสาร์ ก.พ. 18, 2012 3:19 pm

ภาพวาดทำให้เรามองเห็นภาพเลยครับว่า ตัดชิ้นส่วนร่างกายแล้วค่อยดึงออกมาทีละชิ้นจนหมด
คนที่ทำแท้งให้ผู้อื่น ไม่รู้ว่ามโนธรรมในใจหายไปไหน แต่ชัดเจนดีครับสำหรับข้อบังคับต่างๆ
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

เสาร์ ก.พ. 18, 2012 5:31 pm

Holy เขียน: 10. มีผู้ต้องการให้อนุญาตทําแท้งได้ เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น ในกรณีที่ครอบครัวยากจนและมีลูกมากแล้ว หากมีการตั้งครรภ์และปล่อยให้เด็กเกิดมาอีก ก็จะไม่ได้รับความรักและการเลี้ยงดูที่เหมาะสม เด็กจะกลายเป็นปัญหาของสังคม ลูกคนอื่นๆ ก็พลอยได้รับความเสียหายไปด้วย นอกจากนี้สังคมและเศรษฐกิจส่วนรวมจะได้รับความกระทบกระเทือน การพัฒนาอาจล้มเหลว ในเมื่อมีประชากรมากเกินไป จนสังคมไม่สามารถจะให้การบริการแก่ประชาชนได้ทั่วถึง ฉะนั้น เพื่อประโยชน์ของเด็กเองและของสังคมส่วนรวมจึงควรให้ทําแท้งได้
อืม....ผมเห็นด้วยกับเหตุผลนี้นะ

งั้นเรามาทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมกันเต็มรูปแบบเลยดีกว่า ถ้าการฆ่าเด็กในครรภ์ช่วยป้องกันปัญหาได้
ฆ่าพ่อแม่ไร้ความรับผิดชอบที่จะทำให้เด็กเกิดมาก็ต้องลดปัญหาสังคมได้มากกว่านี้แน่ๆ!!!


/me ขึ้นแท่น ซาตานเดินมามอบเหรียญโนเบล ปีศาจปรบมือกันเกรียวกราว


(ข้างบนนั่นประชดล้วนๆนะครับ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

เสาร์ ก.พ. 18, 2012 7:35 pm

In the name of father เขียน:
Holy เขียน: 10. มีผู้ต้องการให้อนุญาตทําแท้งได้ เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น ในกรณีที่ครอบครัวยากจนและมีลูกมากแล้ว หากมีการตั้งครรภ์และปล่อยให้เด็กเกิดมาอีก ก็จะไม่ได้รับความรักและการเลี้ยงดูที่เหมาะสม เด็กจะกลายเป็นปัญหาของสังคม ลูกคนอื่นๆ ก็พลอยได้รับความเสียหายไปด้วย นอกจากนี้สังคมและเศรษฐกิจส่วนรวมจะได้รับความกระทบกระเทือน การพัฒนาอาจล้มเหลว ในเมื่อมีประชากรมากเกินไป จนสังคมไม่สามารถจะให้การบริการแก่ประชาชนได้ทั่วถึง ฉะนั้น เพื่อประโยชน์ของเด็กเองและของสังคมส่วนรวมจึงควรให้ทําแท้งได้
อืม....ผมเห็นด้วยกับเหตุผลนี้นะ

งั้นเรามาทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมกันเต็มรูปแบบเลยดีกว่า ถ้าการฆ่าเด็กในครรภ์ช่วยป้องกันปัญหาได้
ฆ่าพ่อแม่ไร้ความรับผิดชอบที่จะทำให้เด็กเกิดมาก็ต้องลดปัญหาสังคมได้มากกว่านี้แน่ๆ!!!


/me ขึ้นแท่น ซาตานเดินมามอบเหรียญโนเบล ปีศาจปรบมือกันเกรียวกราว


(ข้างบนนั่นประชดล้วนๆนะครับ)
55+ ไลค์ทับ ฆ่าพ่อแม่ไร้ความรับผิดชอบ /Me ขึ้นแท่นด้วยอีกคน รับเหรียญเป็นลำดับที่สอง ปีศาจปรบมือกันอีกครั้ง

::006:: ::006:: ::006:: ::006::
(ล้อเล่น ขำๆนะ 55+)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ก.พ. 19, 2012 4:50 am

แถลงการณ์นี้จริงๆก็นานมากแล้วนะครับ ปัจจุบันฝ่ายสนับสนุนการทำแท้งก็มีเถียงกลับมาอยู่ในหลายประเด็น และทุกวันนี้มีการพยายามสร้างคำใหม่ๆ ของกลุ่มที่สนับสนุนการทำแท้ง เช่น

ไม่ใช่การทำแท้ง แต่เป็นการยุติการตั้งครรภ์

หรือ ที่ทำแท้งตายไปไม่ใช่เด็ก แต่เป็น ตัวอ่อน

เพื่อโต้แย้งหรือสร้างความรู้สึกว่าไม่ได้ฆ่าคนนะ

แต่จริงๆก็คร่าชีวิตมนุษย์นั่นแหละ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

จันทร์ ก.พ. 20, 2012 11:01 pm

Cherval เขียน:
In the name of father เขียน:
Holy เขียน: 10. มีผู้ต้องการให้อนุญาตทําแท้งได้ เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น ในกรณีที่ครอบครัวยากจนและมีลูกมากแล้ว หากมีการตั้งครรภ์และปล่อยให้เด็กเกิดมาอีก ก็จะไม่ได้รับความรักและการเลี้ยงดูที่เหมาะสม เด็กจะกลายเป็นปัญหาของสังคม ลูกคนอื่นๆ ก็พลอยได้รับความเสียหายไปด้วย นอกจากนี้สังคมและเศรษฐกิจส่วนรวมจะได้รับความกระทบกระเทือน การพัฒนาอาจล้มเหลว ในเมื่อมีประชากรมากเกินไป จนสังคมไม่สามารถจะให้การบริการแก่ประชาชนได้ทั่วถึง ฉะนั้น เพื่อประโยชน์ของเด็กเองและของสังคมส่วนรวมจึงควรให้ทําแท้งได้
อืม....ผมเห็นด้วยกับเหตุผลนี้นะ

งั้นเรามาทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมกันเต็มรูปแบบเลยดีกว่า ถ้าการฆ่าเด็กในครรภ์ช่วยป้องกันปัญหาได้
ฆ่าพ่อแม่ไร้ความรับผิดชอบที่จะทำให้เด็กเกิดมาก็ต้องลดปัญหาสังคมได้มากกว่านี้แน่ๆ!!!


/me ขึ้นแท่น ซาตานเดินมามอบเหรียญโนเบล ปีศาจปรบมือกันเกรียวกราว


(ข้างบนนั่นประชดล้วนๆนะครับ)
55+ ไลค์ทับ ฆ่าพ่อแม่ไร้ความรับผิดชอบ /Me ขึ้นแท่นด้วยอีกคน รับเหรียญเป็นลำดับที่สอง ปีศาจปรบมือกันอีกครั้ง

::006:: ::006:: ::006:: ::006::
(ล้อเล่น ขำๆนะ 55+)
ถ้าจังหวะประชดนั่นสามารถเป่าหัวพวกปีศาจที่กำลังเผลอทิ้งได้เรียบวุธด้วยก็คงดีสินะ
Holy เขียน:แถลงการณ์นี้จริงๆก็นานมากแล้วนะครับ ปัจจุบันฝ่ายสนับสนุนการทำแท้งก็มีเถียงกลับมาอยู่ในหลายประเด็น และทุกวันนี้มีการพยายามสร้างคำใหม่ๆ ของกลุ่มที่สนับสนุนการทำแท้ง เช่น

ไม่ใช่การทำแท้ง แต่เป็นการยุติการตั้งครรภ์

หรือ ที่ทำแท้งตายไปไม่ใช่เด็ก แต่เป็น ตัวอ่อน

เพื่อโต้แย้งหรือสร้างความรู้สึกว่าไม่ได้ฆ่าคนนะ

แต่จริงๆก็คร่าชีวิตมนุษย์นั่นแหละ
คิด ๆ ไป รู้ไหม ทำไมนักฆ่าถึงเรียกตัวเองว่านักฆ่าล่ะ แทนที่จะบัญญัติคำอื่นให้ตัวเองดูดีกว่า

เหตุผล- ก็พวกเขายัง "ฉลาดพอ" ที่จะรู้ว่าตีลังกายังไงที่พวกเขาทำก็ยังเป็นการ "ฆ่าคน" ไงล่ะ เลยไม่มีเหตุผลต้องคิดใช้คำอื่นมาหาเรื่องเบี่ยงประเด็นอย่างไร้สาระ
ตอบกลับโพส