แนวทางการเข้าร่วมพีธีกรรมศาสนาอื่น

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ มี.ค. 07, 2012 10:38 am

จดหมายอภิบาลของ สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
ว่าด้วย
แนวทางการเข้าร่วมพีธีกรรมศาสนาอื่น


เจริญพรมายังพี่น้องคริสตชนทั้งหลาย

พี่น้องย่อมตระหนักดีว่า สถานการณ์ของสังคมในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก
อาจทำให้คริสตชนคาทอลิกไม่แน่ใจว่าจะปฏิบัติอย่างไร เกี่ยวกับการเข้าร่วมพิธีกรรมศาสนาอื่น เช่น การตักบาตร การไหว้พระพุทธรูปหรือการไหว้เจ้า เหล่านี้เป็นต้น เราจึงขอมอบจดหมายอภิบาลนี้เป็นแนวทาง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าร่วมพิธีกรรมศาสนาอื่น

ต่อไปนี้เป็นแนวทางกว้างๆที่พี่น้อง ควรจะเรียนรู้เพื่อนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญปัญหาในการเข้าร่วมพิธีกรรมศาสนาอื่น ด้วยเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่น เช่น โดยตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือมีคู่สมรสที่มิได้เป็นคาทอลิกดังนี้เป็นต้น ส่วนผู้ที่ไม่ต้องเผชิญปัญหาดังกล่าวก็จะได้รับรู้ เรียนรู้และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องด้วย

แนวทางกว้างๆที่เราขอมอบให้พี่น้องมีอยู่ 2 คือ

ข้อที่ 1.
คริสตชนต้องทราบก่อนว่า การเข้าร่วมพิธีกรรมศาสนาอื่นมิใช่ว่า เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ไปเสียทั้งหมด ทั้งนี้เพราะว่า การเข้าร่วมพิธีกรรมใดๆจะทำได้หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นกับเนื้อหาสาระของการกระทำและสภาพแวดล้อมเพียงอย่างเดียว

แต่ยังขึ้นกับเจตนาของผู้ที่กระทำเป็นสำคัญอีกด้วย หมายความว่า

1.เนื้อหาสาระของพิธีกรรม
2.สภาพแวดล้อม
3.และเจตนาของผู้เข้าร่วมพิธี
ต้องดีพร้อมทั้งสามอย่าง จึงจะร่วมพิธีได้

ข้อที่ 2.
คริสตชนต้องทราบด้วยว่า การร่วมพิธีนั้นมี 2 อย่างคือ การอยู่ในพิธี (Passive Participation) และการเข้ามีส่วนร่วมในพิธี (Active Participation)

การอยู่ในพิธี หมายถึง การอยู่ในสถานที่ที่มีการประกอบพิธีกรรม โดยตนมิได้มีบทบาททำอะไรในพิธีนั้น

ในกรณีเช่นนี้ คริสตชนสามารถอยู่ในพิธีได้โดยวางตัวด้วยความสุภาพเรียบร้อย

การเข้ามีส่วนร่วมในพิธี หมายถึง การทำอะไรบางอย่างตามที่มีกำหนดไว้ในพิธีกรรมนั้นๆ

ในกรณีเช่นนี้ คริสตชนพึงละเว้นการมีส่วนเข้าร่วมในพิธี ทั้งนี้เพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของการเป็นคริสตชน (ยืนยันการเป็นคริสตชน) อย่างไรก็ตามในกรณีที่คนหนึ่งต้องเข้ามี ส่วนร่วมในพิธี เราขอแนะนำว่าก่อนตัดสินใจ จะต้องเรียนรู้เสียก่อนว่าสิ่งที่ตนจะทำได้หรือไม่ได้ ดีหรือไม่ดี โดยตอบคำถามต่อไปนี้เสียก่อน คือ

ก) ฉันกำลังปฏิเสธความเชื่อคาทอลิกและทำขัดต่อคำสอนคาทอลิกหรือไม่
ข) การกระทำของฉันเป็นที่สะดุดแก่บุคคลอื่นที่เป็นคาทอลิกหรือศาสนิกชนอื่นๆโดยเฉพาะคนที่เป็นสมาชิกศาสนานั้นหรือไม่


ในกรณีที่ตอบว่า "ไม่ " ทั้งสองคำถาม เขาสามารถเข้ามีส่วนร่วมในพิธีได้

ส่วนในกรณีที่ตอบว่า "ใช่ " ไม่ว่าในคำถามข้อใด เขาไม่อาจเข้าร่วมพิธีได้ มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด


ในกรณีสงสัยให้ปรึกษากับพระสงฆ์หรือผู้แนะนำวิญญาณ (พ่อเจ้าวัด)


ขอให้สังเกตว่าการเป็นที่สะดุด เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ เช่นกัน ขอพี่น้องจงระวังอย่าให้เกิดขึ้น นักเปาโลได้เขียนจดหมายเตือนชาวโครินธ์เกี่ยวกับเรื่องการรับประทานเนื้อสัตว์ที่บวงสรวงถวายในสักการะสถาน ท่านขอร้องให้คริสตชนที่เห็นว่า การรับประทานเนื้อดังกล่าวโดยไม่รู้สึกผิดในมโนธรรม ได้ละเว้นการรับประทานเนื้อนั้น เพราะเห็นแก่พี่น้องที่มีมโนธรรมอ่อนแอกว่า ท่านกล่าวว่า
" ไม่ควรทำอะไรให้เป็นที่สะดุดแก่ใครเลย ไม่ว่า จะเป็นยิว กรีก หรือพระศาสนจักรของพระองค์ "(1คร.10:32)

สุดท้ายเราขอเตือนพี่น้องคริสตชนทุกคน พึงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติศาสนาของตนอย่างเคร่งครัดและด้วยความจริงใจ แต่ขณะเดียวกัน ก็ให้เกียรติและเคารพพี่น้องศาสนาอื่นตามเจตนารมณ์ของพระวรสารและตามคำสอนของพระศาสนจักร พร้อมทั้งยอมรับว่า แต่ละศาสนาก็มีคัณลักษณะดีเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนทั้งด้านคำสอนและพิธีกรรม

ให้ไว้ ณ วันสมโภชปัสกา
วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน คริสตศักราช 1994

ขอพระพรของพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพสถิตอยู่กับพี่น้องทุกคน

พระคาร์ดินัลมีชัย กิจบุณชู
ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิก
แห่งประเทศไทย


พระสังฆราชเทียนชัย สมานจิต
เลขาธการสภาพระสังฆราชคาทอลิก
แห่งประเทศไทย
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2012 2:30 am

ยังใช้จนถึงปัจจุบันใช่ไหมครับ

อันที่จริงหนังสือของ พ่อเขียว ที่เขียนก่อนตาย ก็เรื่องแบบนี้ ซึ่งเป็นคำตอบให้เราอย่างดี
ตอบกลับโพส