http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 79622.html
ตามLink
เนื้อหาก็เคยโพสมาหลายปีแล้ว และชาวคริสต์ก็ได้ชี้แจงพร้อมแฉให้เห็นถึงการตัดต่อบิดเบือนใส่ร้ายคริสต์
ทำไมชาวพุทธบางคนถึงยังไม่เลิกนิสัยแบบนี้เสียที หน่ายใจจริงๆ คนอ่านที่ไม่รู้ว่าเป็นการตัดต่อบิดเบือนก็เสพหลงเชื่อเข้าไปเต็มๆ จะทำอย่างไรดี?
เมื่อไรการใส่ร้ายศาสนาคริสต์จึงจะหมดไปเสียที
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
......ถามพระเจ้าสิ
ทำไมไม่ช่วยเหลือตอนคริสตชนถูกข่มเหง ใส่ร้าย ทุกครั้งในประวัติศาสตร์
อ้อ อีกเรื่องที่คาใจมาก ๆ คือ การที่ศรัทธาในคริสต์แทบไม่มีในญี่ปุ่น เรามองว่าเป็นเพราะ คริสเตียนชาวนาที่นำโดย อามาคุสะ ชิโร่ "พ่ายแพ้" ให้กับโตกุกาว่าไงล่ะ
พูดแล้วอารมณ์เสีย ตอนนี้ก็ยิ่งหงุดหงิดอยู่หน่อย ๆ แล้วด้วย
ทำไมไม่ช่วยเหลือตอนคริสตชนถูกข่มเหง ใส่ร้าย ทุกครั้งในประวัติศาสตร์
อ้อ อีกเรื่องที่คาใจมาก ๆ คือ การที่ศรัทธาในคริสต์แทบไม่มีในญี่ปุ่น เรามองว่าเป็นเพราะ คริสเตียนชาวนาที่นำโดย อามาคุสะ ชิโร่ "พ่ายแพ้" ให้กับโตกุกาว่าไงล่ะ
พูดแล้วอารมณ์เสีย ตอนนี้ก็ยิ่งหงุดหงิดอยู่หน่อย ๆ แล้วด้วย
ก็ยังทำลายไม่สำเร็จก็หลอกคนอื่นใหม่ แต่ยังไงก็ไม่สำเร็จหรอกครับ ในเมื่อเขาไม่ท้อที่จะโกหกเราก็จงรวบรวมข้อมูลความจริงไว้ชี้แจงเสมอ เพราะเราก็ไม่ท้อที่จะเป็นพยานถึงความจริงครับsdjakapong เขียน:http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 79622.html
ตามLink
เนื้อหาก็เคยโพสมาหลายปีแล้ว และชาวคริสต์ก็ได้ชี้แจงพร้อมแฉให้เห็นถึงการตัดต่อบิดเบือนใส่ร้ายคริสต์
ทำไมชาวพุทธบางคนถึงยังไม่เลิกนิสัยแบบนี้เสียที หน่ายใจจริงๆ คนอ่านที่ไม่รู้ว่าเป็นการตัดต่อบิดเบือนก็เสพหลงเชื่อเข้าไปเต็มๆ จะทำอย่างไรดี?
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
ขอถามค่ะ ไม่มีทางให้มันเด็ดขาดกว่านี้แล้วเหรอคะHoly เขียน:ก็ยังทำลายไม่สำเร็จก็หลอกคนอื่นใหม่ แต่ยังไงก็ไม่สำเร็จหรอกครับ ในเมื่อเขาไม่ท้อที่จะโกหกเราก็จงรวบรวมข้อมูลความจริงไว้ชี้แจงเสมอ เพราะเราก็ไม่ท้อที่จะเป็นพยานถึงความจริงครับsdjakapong เขียน:http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 79622.html
ตามLink
เนื้อหาก็เคยโพสมาหลายปีแล้ว และชาวคริสต์ก็ได้ชี้แจงพร้อมแฉให้เห็นถึงการตัดต่อบิดเบือนใส่ร้ายคริสต์
ทำไมชาวพุทธบางคนถึงยังไม่เลิกนิสัยแบบนี้เสียที หน่ายใจจริงๆ คนอ่านที่ไม่รู้ว่าเป็นการตัดต่อบิดเบือนก็เสพหลงเชื่อเข้าไปเต็มๆ จะทำอย่างไรดี?
พระเจ้าไม่ใช่อุลต้าแมน หรือซุปเปอร์ฮีโร่นะครับ น้องอย่าเอาลักษณะแบบนั้นมาเปรียบเทียบกับพระเจ้า น้องยังไม่เข้าใจพระองค์เลยแม้แต่น้อย การที่พระองค์ไม่ทรงช่วยผู้ที่ถูกเบียดเบียนในเวลานี้ ก็เพราะความทุกข์ของพวกเขานั้นมีคุณค่า ความตายของพวกเขาจะเป็นคุณประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง ความทุกข์ยากเป็นสิ่งที่กระตุ้นเตือนพระศาสนจักรของพระเจ้าบนโลกนี้ ไม่ให้หลงไปกับสิ่งยั่วยวนใจฝ่ายโลก แต่ให้มองไปถึงชีวิตแห่งความสุขนิรันดรในสวรรค์Valkyrie Zero Number เขียน:......ถามพระเจ้าสิ
ทำไมไม่ช่วยเหลือตอนคริสตชนถูกข่มเหง ใส่ร้าย ทุกครั้งในประวัติศาสตร์
อ้อ อีกเรื่องที่คาใจมาก ๆ คือ การที่ศรัทธาในคริสต์แทบไม่มีในญี่ปุ่น เรามองว่าเป็นเพราะ คริสเตียนชาวนาที่นำโดย อามาคุสะ ชิโร่ "พ่ายแพ้" ให้กับโตกุกาว่าไงล่ะ
พูดแล้วอารมณ์เสีย ตอนนี้ก็ยิ่งหงุดหงิดอยู่หน่อย ๆ แล้วด้วย
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ไม่หมดครับ เพราะมันเป็นเหตุการ์ณส่วนหนึ่งของการเสด็จกลับมาของพระองค์
-
- โพสต์: 286
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
- ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.
ถ้าคิดว่าเชื่อในพระเยซูแล้วหนทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาบก็คิดผิดละครับ
ผมรู้จักหลายต่อหลายคนที่มีจุดประสงค์ในการเป็นคริสต์ที่เบี่ยงเบน
อาทิ เชื่อพระเจ้าแล้วรวย เชื่อแล้วสุขสบาย เชื่อตามพ่อแม่เพื่อรักษาพระศาสนาเท่านั้น หรือแม้แต่เชื่อพระเจ้าแล้วหายป่วยฯลฯ (ผมไม่ได้หมายความว่า พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพจะรักษาคนป่วยไม่ได้นะครับ)
แต่คือ จุดประสงค์ก็ได้เบี่ยงเบนจาก งานไถ่กู้ประชาชาติของพระคริสตเจ้าแล้ว
งานของพระเยซูไม่ได้มาตายแล้วเป็นขึ้นเพื่อให้เรารวย ให้เราสบายไปวันๆ ไม่ได้ยอมละความบริบูรณ์ฝ่ายสวรรค์มารับสภาพรูปกายมนุษย์เพื่อเพียงประกาศศาสนาใหม่ให้โลกรู้จัก
แต่ทรงมาเพื่อการไถ่ เพื่อได้วัสดุในการก่อสร้างพระวิหาร เจ้าสาวของพระเมษโปดกนิรันดร์
และยิ่งไปกว่านั้น เพื่อการนี้ เราซึ่งเป็นวัสดุสร้างวิหารฝ่ายวิญญาณ จะต้องยอมทุกอย่าง ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ จะเจออะไร ถ้าเป็นมาจากพระเจ้า เราก็ต้องยอมรับด้วยความยินดี เพราะล้วนเป็นผลดีต่อเราทั้งสิ้น
วิหารของพระเจ้า จะงดงามต้องมีเพชรนิลจินดา แต่อัญมณีถ้าไม่ได้รับการเจียระไน หรือถลุงผ่านความร้อนสูงแล้ว ก็เป็นเพียงขี้แร่ ไม่ต่างอะไรกับเศษหินเศษกรวด
แม้แต่ต้องเป็นมรณะสักขี จะตายไปแล้ว ความตายไม่ได้เป็นแต่แบบอย่างแก่ชนรุ่นหลังเท่านั้น ส่วนตัวผู้ตายเองก็ได้บําเหน็จ และเป็นวัสดุชั้นดีในการก่อสร้างวิหารอีกด้วย เพราะฐานะในความเป็นวิหารของเราผู้เชื่อไม่ได้สิ้นสุดที่แผ่นดินโลก แต่เป็นฐานะอันนิรันดร์ ไปจนยุคฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่
ฉนั้นการใส่ร้ายแค่นี้มันยังเบาะๆ
ผมไม่ได้มาพล่ามสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ พระเยซูทรงตรัสใน มธ.
10:34 อย่าคิดว่าเรามาเพื่อจะนำสันติภาพมาสู่โลก เรามิได้นำสันติภาพมาให้ แต่เรานำดาบมา
10:35 ด้วยว่าเรามาเพื่อจะให้ลูกชายหมางใจกับบิดาของตน และลูกสาวหมางใจกับมารดาและลูกสะใภ้หมางใจกับแม่สามี
10:36 และผู้ที่อยู่ร่วมเรือนเดียวกัน ก็จะเป็นศัตรูต่อกัน
10:37 ผู้ใดที่รักบิดามารดายิ่งกว่ารักเราก็ไม่สมกับเรา และผู้ใดรักบุตรชายหญิงยิ่งกว่ารักเรา ผู้นั้นก็ไม่สมกับเรา
10:38 และผู้ใดที่ไม่รับเอากางเขนของตนตามเราไป ผู้นั้นก็ไม่สมกับเรา
10:39 ผู้ที่จะเอาชีวิตของตนรอดจะกลับเสียชีวิต แต่ผู้ที่สู้เสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เราก็จะได้ชีวิตรอด
10:40 ผู้ที่รับท่านทั้งหลายก็รับเรา และผู้ที่รับเราก็รับพระองค์ที่ทรงใช้เรามา
10:41 ผู้ที่รับศาสดาพยากรณ์เพราะนามแห่งศาสดาพยากรณ์นั้น ก็จะได้บำเหน็จอย่างที่ศาสดาพยากรณ์พึงได้รับ และผู้ที่รับผู้ชอบธรรมเพราะนามแห่งผู้ชอบธรรมนั้น ก็จะได้บำเหน็จอย่างที่ผู้ชอบธรรมพึงได้รับ
10:42 และผู้ใดจะเอาน้ำเย็นสักถ้วยหนึ่งให้คนเล็กน้อยเหล่านี้คนใดคนหนึ่งดื่ม เพราะนามแห่งศิษย์ของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนนั้นจะขาดบำเหน็จก็หามิได้”
ปล. อิมมานูเอล
ผมรู้จักหลายต่อหลายคนที่มีจุดประสงค์ในการเป็นคริสต์ที่เบี่ยงเบน
อาทิ เชื่อพระเจ้าแล้วรวย เชื่อแล้วสุขสบาย เชื่อตามพ่อแม่เพื่อรักษาพระศาสนาเท่านั้น หรือแม้แต่เชื่อพระเจ้าแล้วหายป่วยฯลฯ (ผมไม่ได้หมายความว่า พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพจะรักษาคนป่วยไม่ได้นะครับ)
แต่คือ จุดประสงค์ก็ได้เบี่ยงเบนจาก งานไถ่กู้ประชาชาติของพระคริสตเจ้าแล้ว
งานของพระเยซูไม่ได้มาตายแล้วเป็นขึ้นเพื่อให้เรารวย ให้เราสบายไปวันๆ ไม่ได้ยอมละความบริบูรณ์ฝ่ายสวรรค์มารับสภาพรูปกายมนุษย์เพื่อเพียงประกาศศาสนาใหม่ให้โลกรู้จัก
แต่ทรงมาเพื่อการไถ่ เพื่อได้วัสดุในการก่อสร้างพระวิหาร เจ้าสาวของพระเมษโปดกนิรันดร์
และยิ่งไปกว่านั้น เพื่อการนี้ เราซึ่งเป็นวัสดุสร้างวิหารฝ่ายวิญญาณ จะต้องยอมทุกอย่าง ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ จะเจออะไร ถ้าเป็นมาจากพระเจ้า เราก็ต้องยอมรับด้วยความยินดี เพราะล้วนเป็นผลดีต่อเราทั้งสิ้น
วิหารของพระเจ้า จะงดงามต้องมีเพชรนิลจินดา แต่อัญมณีถ้าไม่ได้รับการเจียระไน หรือถลุงผ่านความร้อนสูงแล้ว ก็เป็นเพียงขี้แร่ ไม่ต่างอะไรกับเศษหินเศษกรวด
แม้แต่ต้องเป็นมรณะสักขี จะตายไปแล้ว ความตายไม่ได้เป็นแต่แบบอย่างแก่ชนรุ่นหลังเท่านั้น ส่วนตัวผู้ตายเองก็ได้บําเหน็จ และเป็นวัสดุชั้นดีในการก่อสร้างวิหารอีกด้วย เพราะฐานะในความเป็นวิหารของเราผู้เชื่อไม่ได้สิ้นสุดที่แผ่นดินโลก แต่เป็นฐานะอันนิรันดร์ ไปจนยุคฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่
ฉนั้นการใส่ร้ายแค่นี้มันยังเบาะๆ
ผมไม่ได้มาพล่ามสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ พระเยซูทรงตรัสใน มธ.
10:34 อย่าคิดว่าเรามาเพื่อจะนำสันติภาพมาสู่โลก เรามิได้นำสันติภาพมาให้ แต่เรานำดาบมา
10:35 ด้วยว่าเรามาเพื่อจะให้ลูกชายหมางใจกับบิดาของตน และลูกสาวหมางใจกับมารดาและลูกสะใภ้หมางใจกับแม่สามี
10:36 และผู้ที่อยู่ร่วมเรือนเดียวกัน ก็จะเป็นศัตรูต่อกัน
10:37 ผู้ใดที่รักบิดามารดายิ่งกว่ารักเราก็ไม่สมกับเรา และผู้ใดรักบุตรชายหญิงยิ่งกว่ารักเรา ผู้นั้นก็ไม่สมกับเรา
10:38 และผู้ใดที่ไม่รับเอากางเขนของตนตามเราไป ผู้นั้นก็ไม่สมกับเรา
10:39 ผู้ที่จะเอาชีวิตของตนรอดจะกลับเสียชีวิต แต่ผู้ที่สู้เสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เราก็จะได้ชีวิตรอด
10:40 ผู้ที่รับท่านทั้งหลายก็รับเรา และผู้ที่รับเราก็รับพระองค์ที่ทรงใช้เรามา
10:41 ผู้ที่รับศาสดาพยากรณ์เพราะนามแห่งศาสดาพยากรณ์นั้น ก็จะได้บำเหน็จอย่างที่ศาสดาพยากรณ์พึงได้รับ และผู้ที่รับผู้ชอบธรรมเพราะนามแห่งผู้ชอบธรรมนั้น ก็จะได้บำเหน็จอย่างที่ผู้ชอบธรรมพึงได้รับ
10:42 และผู้ใดจะเอาน้ำเย็นสักถ้วยหนึ่งให้คนเล็กน้อยเหล่านี้คนใดคนหนึ่งดื่ม เพราะนามแห่งศิษย์ของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนนั้นจะขาดบำเหน็จก็หามิได้”
ปล. อิมมานูเอล