“สายัณห์ทัวร์”
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 15, 2012 11:59 am
“สายัณห์ทัวร์”
จากหนังสืออิสระรายเดือน คณะพระมหาไถ่
“เยี่ยมคารวะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา ณ อาเภอลิกินิกิ เมืองแครเคา ประเทศโปแลนด์”
(SANCTUARY OF THE DIVINE MERCY, LAGIENIKI, KRAKOW, POLAND)
โดย อาสายัณห์
สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่เคารพรัก พบกันอีกครั้งในอิสระรายเดือน วันนี้ผมจะพาไปเยี่ยมคารวะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา ณ อำเภอลิกินิกิ เมืองแครเคา ประเทศโปแลนด์ ติดกับประเทศเยอรมนีที่ผมอาศัยอยู่ ห่างจากเมืองแฟรงเฟิร์ต (FRANKFURT) 500 ไมล์ (804 กิโลเมตร) ขับรถเกือบ 10 ชั่วโมง ถ้านั่งเครื่องบินก็ประมาณ 1 ชั่วโมงกับ 45 นาที ผมมีวันหยุด 3 วันปลายสัปดาห์ของสิ้นเดือนพฤษภาคม เลยบอกกับภรรยาที่อยู่สหรัฐว่า คงจะต้องไปจาริกแสวงบุญที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา ประเทศโปแลนด์ ก่อนจะเดินทางกลับสหรัฐปลายเดือนมิถุนายน เป็นการปิดท้ายรายการ และคงจะต้องฉายเดี่ยว เพราะลูกๆ ต้องไปโรงเรียนและแม่คงจะทิ้งลูกๆ ไปร่วมรายการไม่ได้ ภรรยาผมใจดีสนับสนุน แถมยังเข้าอินเตอร์เน็ตจองตั๋วเครื่องบินและที่พักให้เสร็จ เพราะทุกอย่างจะสะดวก รวดเร็วจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ คุณผู้อ่านกับผมเลยสบายไม่ต้องนั่งรถทรมาน บินเหินฟ้า ไม่ทันจะเคลิ้มหลับก็ถึงจุดหมายปลายทาง
คุณผู้อ่านครับ กินข้าวกินปลา อาบนํ้าอาบท่าลูกแล้วหรือยัง? ภรรยา(สามี) มีเวลาให้อ่านทัวร์ชุดนี้หรือเปล่า?
ทัวร์ชุดนี้เป็นชุดใหญ่สุดในชีวิตของหัวหน้าทัวร์ เป็นสุดยอดอันดับหนึ่งของทัวร์ที่ครอบคลุม เกี่ยวพัน เชื่อมโยงเหตุการณ์ สถานที่ พิธีกรรม บุคคล องค์กร ผู้เกี่ยวข้องกับพระเมตตาในพระศาสนจักรคาทอลิก (เจ้าเก่า) ของเรา
เรื่องมันยาวครับ ต้องมีการพักสายตา ยืดเส้นยืดสาย กินของหวาน หรือเล่นกับลูกเมีย(สามี) ไม่ให้เกิดความรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง จิบนํ้าอัดลมให้แช่มชื่นแจ่มใสคั่นรายการ แล้วติดตามหัวหน้าทัวร์ เพลิดเพลิน สนุกสนาน เปิดตาเปิดใจไปกับเนื้อหาน่าสนใจ อัดแน่นด้วยสาระ คม ชัด ลึก (ระดับชาวบ้าน) อ่านแล้วต้องผงกหัวร้องอ๋อ ว่าถึงบางอ้อแล้ว
หัวหน้าทัวร์จะแนะนำให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกับพระเมตตา ความเป็นมาของพระองค์ อัครสาวกแห่งพระเมตตา และเลขานุการิณีของพระเป็นเจ้า พระสันตะปาปาแห่งพระเมตตา ความหมายของ 3 บทภาวนา สุดยอดของพวกเราคาทอลิก ดำรงชีพในมหาบูชามิสซา สมาธิจิตภาวนาที่นักบุญของเราปฏิบัติกันมา ตลอด 2000 กว่าปี และลุยเมืองแครเคา นั่งรถรางแบบชาวบ้าน ที่ทำมาหากินระดับปานกลาง หรือปลายล่างของสังคม
ก่อนจะเริ่มรายการทัวร์ ผมอยากจะบอกให้คุณผู้อ่านทุกคนได้ทราบว่า พระตรีเอกานุภาพ พระเป็นเจ้าแท้หนึ่งเดียวของเรา และพระแม่มารีย์ทรงมีเมตตาต่อลูกๆ ของพระองค์ในประเทศไทยเป็นพิเศษ ทรงประทานของขวัญให้กับทุกคน โดยเฉพาะคณะพระเมตตาแห่งประเทศไทย คณะสงฆ์พระมหาไถ่เจ้าของอิสระรายเดือน ลูกพ่อลูกแม่ที่เผยแพร่ความรัก ความเมตตาของพระองค์ให้กับชนทุกชนทุกชั้นทุกวรรณะ ทุกสภาพของสังคม ของขวัญนี้คณะนักบวชหญิงพระมารดามารีอาแห่งความเมตตา (CONGREGATION OF THE SISTERS OF OUR LADY OF MERCY) ไม่เคยมอบให้ใคร ผมจะเล่าให้อ่านในลำดับต่อไป (ตอนท้ายของรายการ) ครับ
หลับตาสักครู่ สูดลมหายใจยาวลึก ระบายออกเป็นระบบ แล้วลืมตาชำเลืองมองรอบข้าง ตรวจดูว่าทุกอยางเป็นปกติ ขยับตัวให้เข้าที่ แล้วตามผมมา...
พระเมตตา (THE DIVINE MERCY)
พระเยซูเจ้าพระเป็นเจ้า พระผู้ไถ่ของมวลมนุษย์ทรงปรากฏพระองค์ให้นักบุญมารีอา โฟสตินา โควัลสกา (SAINT MARIA FAUSTINA KOWALSKA) เลขานุการิณี ผู้มีการศึกษาแค่ 3 ปี และอัครสาวกหญิงแห่งพระเมตตาของพระองค์ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1931 (79 ปีที่ผ่านมา) ทรงพระภูษาสีขาว พระหัตถ์ขวายกขึ้นในลักษณะประทานพร พระหัตถ์ซ้ายแตะที่ทรวงอก เหนือพระหฤทัยศักดิ์สิทธ์ ซึ่งมีแสงสว่างเจิดจ้าพุ่งกระจายออกมาเป็นสองแฉกสองสี อันประกอบไปด้วยสีแดงโลหิต และสีขาวเหมือนนํ้าใสสะอาด สว่างไสวด้วยพระฤทธานุภาพ บารมีของพระผู้สร้างจักรวาล เจ้าชีวิตของทุกชีวิต สรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง ทรงรัก ทรงเมตตา ทรงปรารถนาให้รู้จักพระองค์ ให้เชื่อ ให้รัก ให้วางใจ ขอความช่วยเหลือด้านวิญญาณ ด้านการงานการศึกษา ชีวิตสมรส การดิ้นรนต่อสู้ชีวิตและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่ถูกกดขี่ ลิดรอนด้วยกรอบประเพณี เชื้อชาติ ศาสนา สภาวะด้านการศึกษา ฐานะในสังคมที่มนุษย์สร้างเป็นกําแพงขวางกั้นเหยียดหยันกันเอง ทรงมีพระประสงค์ให้มนุษย์ดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์ แบ่งปันความรักความเมตตาต่อลูกๆ ของพระองค์และของพระแม่มารีอา ให้มีสันติสุขในจิตใจ ให้โลกมีความสงบร่มเย็น แล้วก็ร่วมชีวิตนิรันดรกับพระองค์ พระแม่มารีอา เทวดาชาวสวรรค์ เมื่อการเดินทางในโลกนี้ได้สิ้นสุดลง พระเป็นเจ้าองค์แห่งความรัก ความเมตตา ทรงบอกให้ท่านนักบุญจดจำพระฉายาลักษณ์นี้แล้วให้จิตรกรวาด พร้อมกับเขียนประโยค “พระเยซูเจ้าข้า ลูกวางใจในพระองค์” (JESUS, I TRUST IN YOU) ให้กราบไหว้ เคารพ สวดขอทุกอย่าง เพราะรูปนี้จะเป็นสื่อ เป็นภาชนะรองรับพระเมตตา พระหรรษทานของพระองค์
พระองค์ทรงต้องการให้ท่านนักบุญเริ่มก่อนในอารามที่ท่านประจำอยู่ แล้วให้ขยายออกไปทั่วโลก
อันพระเมตตาของพระองค์นี้ มีมาตั้งแต่ทรงสร้างมนุษย์คนแรก คู่แรก หลายยุคหลายสมัยบันทึกไว้ในพระธรรมเก่า และพระธรรมใหม่ พระวรสาร บทอ่านประจำวัน ที่ผมจะยกตัวอย่างให้ผู้อ่านได้รับทราบระลึกถึงในพระเมตตาอันไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาของพระผู้ทรงฤทธิ์ ผู้ดำรงชีพตลอดนิรันดร
1. พระเมตตาที่นำอิสระมาให้ (มก. 5:1-20)
เมื่อพระเป็นเจ้าพระบุตร พระผู้ไถ่ทรงลงเรือข้ามทะเลสาบแล้วดำเนินผ่านละแวกพื้นที่ของเกราซินิส (GERASENES) ก็มีหนุ่มผู้หนึ่งที่ถูกภูตผีปีศาจ และจิตชั่วร้ายสิงอยู่ วิ่งถลาลงทรุดตัว กราบขอร้องไม่ให้ไล่ล่าทำร้ายพวกมันพระเยซูเจ้า ทรงบังเกิดความเมตตา สงสารบุรุษผู้นั้นซึ่งถูกทรมาน ทนทุกข์สุดลำเค็ญ พระองค์ทรงขับไล่จิตชั่วปีศาจให้ออกจากตัวเขา แล้วบอกให้กลับไปอยู่กับครอบครัว บอกญาติพี่น้องให้รับทราบว่าพระเป็นเจ้าได้ทรงทำอะไรให้มากมายขนาดไหน และทรงมีเมตตาต่อเขาอย่างไร
2. พระเมตตานำมาซึ่งการบำบัดรักษา (มธ. 20:29-34)
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงดำเนินออกจากเมืองเยริโค (JERICHO) ก็มีคนตาบอดสองคน ตะโกนเรียกหาพระองค์ “บุตรของดาวิด โปรดมีความสงสารต่อเราเถิด!” ฝูงชนที่ติดตามพระองค์ รู้สึกรำคาญ หนวกหู ตวาดพวกเขาให้หยุดตะโกน แต่ยิ่งบอกเหมือนยิ่งยุ ตะโกนดังกว่าเก่าสุดลำคอ พระเป็นเจ้าทรงรู้สึกตื้นตันพระทัย เกิดความสงสารเห็นอกเห็นใจ ทรงทำอัศจรรย์บำบัดตาให้สามารถมองเห็นเป็นปกติ สองหนุ่มสุดแสนจะปลาบปลื้มร้องสรรเสริญเทิดพระเกียรติแล้วก็เดินตามพระองค์ไปต้อยๆ
3. พระเมตตาเปลี่ยนแปลงชีวิต (ลก.19:1-10)
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงดำเนินเข้าเมืองเยริโค (JERICHO) ก็มีหัวหน้าสรรพกรผู้เก็บภาษีโหดชื่อซัคเคียส (ZACCHAEUS) ตัวเตี้ยมะขามข้อเดียว วิ่งผ่านฝูงชนที่แห่กันมาชมพระบารมี ปีนต้นไม้ข้างทางต้องการจะเห็นพระเป็นเจ้า พระเยซูเจ้าทรงเรียกให้ลงจากต้นไม้ เพราะพระองค์จะไปพักที่บ้านของเขาคนบาป ซัคเคียสสุดปลื้ม พระหรรษทานเปี่ยมล้นหัวใจ ประกาศก้องขอยกทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งให้คนยากจน คืนทรัพย์คืนเงินให้ผู้ที่ถูกรีดไถ พระเป็นเจ้าทรงรู้สึกประทับใจ กล่าวชมแล้วเอ่ยว่า “บุตรแห่งมนุษย์มาเพื่อค้นหาและกอบกู้สิ่งที่หายไป”
พระเมตตาของพระเป็นเจ้าเปรียบเสมือนมหาสมุทร กว้างใหญ่ไพศาล ไม่อาจจะหยั่งวัดคำนวณถึงความลึก เกินสติปัญญาจินตนาการของมนุษย์ครับ