เหลือเวลาอีกประมาณแค่ 5 ปีเหรอ???

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
sdjakapong
โพสต์: 164
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm

ศุกร์ ส.ค. 17, 2012 9:23 pm

เทเรซา มัสโค (Teresa Musco) ชาวอิตาเลี่ยน เป็นผู้ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ เธอเสียชีวิตในปี 1976 เมื่ออายุ 33 ปี

เธอเล่าว่า คุณพ่อปีโอได้ปรากฏมาพบกับเธอและบอกเธอว่า “ฉันคือคุณพ่อปีโอ” ท่านยิ้มขณะพูด “พระเยซูเจ้าทรงส่งฉันมาเพื่อแจ้งข่าวนี้แก่เธอคือ วันหนึ่งเธอจะเป็นเหมือนกับฉัน มองดูซิ....” และด้วยคำพูดเหล่านี้ ท่านได้ยื่นมือออกมาแสดงให้เห็นรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ท่านได้ยกมืออวยพรเธอแล้วก็หายไป

เทเรซาได้เล่าให้ฟังในปี 1951 ว่า แม่พระได้ตรัสกับเธอ “ลูกจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในพระศาสนจักร คริสตชนที่สวดภาวนาจะเหลืออยู่เพียงจำนวนน้อย วิญญาณหลายดวงจะเดินไปสู่นรก ผู้หญิงจะปราศจากความอับอาย ซาตานจะนำคนไปนรกเป็นจำนวนมาก วิกฤตการณ์จะเกิดขึ้นในโลกจนเป็นเรื่องธรรมดา ซาตานจะร้องเพลงแห่งชัยชนะของมัน แต่นั่นจะเป็นเวลาที่เราทุกคนจะได้เห็นองค์พระบุตรของแม่ปรากฏมาบนกลุ่มเมฆและพระองค์จะทรงพิพากษาคนที่ดูหมิ่นเหยียดหยามพระโลหิตอันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ แล้วนั้นดวงหทัยนิรมลของแม่จะได้รับชัยชนะ ลูกสาวของแม่ แม่มาอยู่ที่นี่เพื่อบอกลูกว่า พระบิดาจะทรงส่งโทษทัณฑ์อันยิ่งใหญ่มาสู่มนุษยชาติในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 นี้ เมื่อซาตานได้ขึ้นไปสู่จุดยอดของพระศาสนจักรแล้ว มันจะเชื่อว่าในช่วงเวลานี้มันจะสามารถล่อลวงจิตใจของนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่หลายคนให้คิดว่าถึงเวลาที่พวกเขาจะเข้าแทรกแซงโลกด้วยการใช้อาวุธทรงอานุภาพซึ่งสามารถทำลายมนุษยชาติได้เกือบทั้งหมด ลูกสาวของแม่ จงเตรียมพร้อมสำหรับช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากที่พระบิดาเจ้าจะทรงส่งมายังอิตาลี มีเพียงวิญญาณที่มอบถวายตนเองให้เป็นผู้รับโทษแทนเท่านั้นที่สามารถสัมผัสดวงพระหฤทัยของพระบิดาเจ้าและองค์พระบุตรของแม่ได้อย่างเต็มเปี่ยม นับจากปี 1972 เป็นต้นไปจะเป็นเวลาของซาตาน คาร์ดินัลจะขัดแย้งกับพระคาร์ดินัล และพระสังฆราชจะขัดแย้งกับพระสังฆราช ลูกอยู่ตรงกลางของช่วงเวลาแห่งความยุ่งยาก ยุคสมัยซึ่งต้องการจะอธิบายทุกอย่างด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ และไม่มีใครคิดที่จะให้ความรัก ความอบอุ่นแก่คนที่ยากจนที่สุด แม่ขอบอกลูกว่าโลกได้ออกนอกลู่นอกทางและเสื่อมถอย แม่ได้ปรากฏมาที่โปรตุเกสและได้มอบสาส์นแก่มนุษยชาติ แต่ไม่มีใครได้ยิน ไฟและควันจะทำให้โลกเสื่อมโทรมลง น้ำในมหาสมุทรจะเดือดเป็นไอและไฟ ฟองจะยกตัวสูงขึ้นและท่วมยุโรปและทุกคนจะจมอยู่ภายใต้ลาวาแห่งไฟ ผู้ที่รอดชีวิตจะอิจฉาคนที่ตายไปแล้ว”

เทเรซาได้รับสาส์นนี้ในปี 1951 และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในอีก 12 ปีต่อมาคือในปี 1963 หนังสือพิมพ์เยอรมันนีชื่อ Neues Europa ได้ลงคำทำนายที่คล้ายๆกันนี้ซึ่งอ้างว่า เป็น ความลับข้อที่สามของฟาติมา (แตกต่างจากสาส์นที่รับรอง) -- มีข้อความที่คล้ายๆกันคือ “น้ำในมหาสมุทรจะเดือดเป็นไอ และพระสังฆราชจะขัดแย้งกับพระสังฆราช คาร์ดินัลจะขัดแย้งกับคาร์ดินัล ในโรมจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”

สาส์นนี้ยังไปคล้ายกับสาส์นที่อากิตะ เมื่อแม่พระประจักษ์แก่ซิสเตอร์ อักเนส คัทสึโกะ ซาซากาวา ในปี 1973 ประมาณ 20 ปีหลังจากคำทำนายของเทเรซา และ 12 ปีหลังจากหนังสือพิมพ์ Neues Europa ได้ลงบทความ

ยังมีกรณีที่น่าสนใจอีกกรณีหนึ่ง เป็นสตรีคาทอลิกที่เกิดในอิรัก เธอชื่อ นาซรีน โจนิ Nasreen Jouni อายุ 51 ปี เราได้ไปสัมภาษณ์เธอเมื่อสัปดาห์นี้นี่เอง

นาซรีน เติบโตในคูเวตภายใต้การดูแลของนักบวชหญิง เธอมาอยู่ที่สหรัฐในปี 1980 ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ Hesperia, California เธอเล่าว่า เมื่อตอนเป็นเด็ก แม่พระเคยมาพบเธอในความฝันและบอกให้เธอทราบถึงเหตุการณ์ที่จะมีผลกระทบต่อครอบครัวของเธอ ได้แก่ความตายของบุคคลหนึ่งและก็ได้เป็นจริง ในปี 1969พระสงฆ์ท่านหนึ่งได้ให้รูปภาพของพระสงฆ์อิตาเลี่ยนองค์หนึ่งแก่เธอซึ่งเธอได้เขียนจดหมายไปถึงพระสงฆ์องค์นั้น คือคุณพ่อปีโอ และคุณพ่อได้เขียนจดหมายกลับมาถึงเธอในอีก 3 เดือนต่อมา ท่านบอกเธอว่า “เช่นเดียวกับกรณีของเทเรซา มัสโค เรายินดีที่ได้ติดต่อกับเยาวชนเช่นเธอ และเมื่อเธอเติบโตขึ้น เธอจะรู้ว่า เราเป็นใคร เพราะจะมีความเชื่อมโยงระหว่างเราทั้งสอง”

ความเชื่อมโยงนั้นก็คือรอยแผลศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง ซึ่งเกิดกับเธอเป็นครั้งแรกหลังจากเธอได้รับรูปภาพของแม่พระทรงประจักษ์แก่ Myrna Nazzour ชาวซีเรียที่ได้รับรอยแผลเช่นเดียวกัน (รูปภาพนั้นได้หลั่งน้ำมันออกมามากจนทำให้ผ้าเช็ดหน้าของเธอเปียกชุ่มทั้งผืน – นาซรีนบอกกับเรา)

ในปี 1991 แม่พระทรงประจักษ์แก่นาซรีนพร้อมด้วยมงกุฎสองวง วงหนึ่งเป็นมงกุฎหนาม อีกวงหนึ่งเป็นมงกุฎดอกไม้ แม่พระทรงให้เธอเลือกและเธอตอบแม่พระว่า “ลูกขอเลือกมงกุฎหนามในโลกนี้และเมื่อลูกตายลูกขอมงกุฎดอกไม้”

ในระหว่างเวลาสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่เธอสวดภาวนา ได้มีเลือดไหลออกมาบนหน้าผากของเธอ และหยดลงมาถึงมือและเท้าของเธอ ปีต่อๆมาก็จะเกิดปรากฏการณ์นี้อีกโดยเริ่มเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์หรือในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์จนถึงเวลาบ่ายสามโมง นาซรีนเล่าว่า “ฉันรู้สึกเจ็บปวดสาหัสมาก เหมือนมีตะปูทิ่มแทงที่มือทั้งสอง และบ่าของฉันเหมือนจะหลุดเนื่องจากแบกกางเขน แม่พระทรงประทับยืนอยู่ใกล้ๆขณะที่ฉันจ้องมองไม้กางเขน และเราอยู่ที่เนินเขาของหมู่บ้านที่เก่าแก่มาก ฉันมองไม่เห็นใครเลยที่อยู่รอบๆ แต่พวกเขาเล่าให้ฉันฟังว่า ฉันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดในระหว่างถูกตรึงกางเขนและพวกเขาเห็นเลือดไหลออกมา”

“ฉันขออธิบายพระลักษณะของพระเยซูเจ้าว่า เหมือนในรูปพระเมตตา พระเกศาของพระองค์เป็นสีน้ำตาล พระเนตรสีเขียวออกฟ้า เมื่อฉันจ้องที่พระเนตรของพระองค์ ฉันมองเห็นตัวเองอยู่ข้างใน พระองค์สูงประมาณ 6 ฟุต และพระสุรเสียงนุ่มนวล”


“แม่พระทรงมีรูปร่างเล็กกว่า ฉันไม่เคยเห็นพระนางสัมผัสพื้นดินเลย พระนางมีพระเกศาหยักเป็นลอนและพระเนตรเป็นสีฟ้าเหมือนสีน้ำทะเล พระพักตร์สีขาวอมชมพู และพระนางมีเสียงเหมือนเด็ก”

นาซรีนได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์จนถึงปี 1996 และได้หยุดไปเป็นเวลา 5 ปีโดยไม่ทราบสาเหตุ และได้รับอีกจนมาถึงเวลานี้ เธอยังมีประสพการณ์แผ่นศีลปรากฎบนลิ้นของเธอต่อหน้าประจักษ์พยานด้วย

นาซรีนเล่าว่า ผู้สังเกตการณ์จากวาติกันมาเยี่ยมเธอเป็นครั้งคราว เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1993 เมื่อพระสงฆ์และแม่ชีมาหาเธอและมาดูน้ำมัน

นาซรีนได้รับสาส์นจากพระเยซูเจ้าเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2012 ปีนี้เวลา 4.00 น. พระองค์ตรัสว่า

“ลูกสาวของเรา เรารู้ว่าลูกอ่อนแอ และเรารู้ว่า หากปราศจากเราลูกจะไม่สมบูรณ์ตลอดเวลา ลูกจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ อย่าวิตกไปเลย เราจะดูแลลูกเอง เราจะดูแลลูกจนกว่างานของเราจะสำเร็จไป ถ้วยกาลิกษ์แห่งพระเมตตาของเราเต็มปริ่มแล้ว ลูกสาวเอ๋ย เมื่อแม่ของเราปรากฏมาที่ฟาติมาในเดือนพฤษภาคม 1917 นั้น พระนางตรัสว่า ปีศาจได้ขอต่อหน้าพระบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ ให้มันประจญล่อลวงโลกเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี และเวลานั้นจะสิ้นสุดลงในปี 2017 มันจะไม่มีอำนาจปกครองโลกอีกต่อไป เพราะเราจะมาในสันติภาพและสันติสุขของเรา เพราะเราคือสันติสุขและความรัก เราขอพูดกับโลกทั้งโลกว่า ‘พระนางได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า นี่ไม่ใช่อวสานของโลก แต่เป็นอวสานของยุคสมัย – ยุคสมัยของซาตาน ซึ่งจะตามมาด้วยเหตุการณ์สำคัญๆ และโลกต้องเตรียมพร้อมตามวิธีที่พระนางจะทรงเปิดเผยให้ทราบในปีที่จะมาถึงนี้”

http://palangjai.0fees.net/Prophesy_nasreen.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

ศุกร์ ส.ค. 17, 2012 10:51 pm

เพิ่งอ่านก่อนหน้านี้เมื้อนี้เลย เรื่องเดียว น่าสนใจมากๆเลย :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ส.ค. 18, 2012 10:00 am

สวดภาวนา และพลีกรรมมากๆ...
ดังที่พระแม่ได้เตือนทุกครั้งที่แม่ได้ประจักษ์มา
คำภาวนาการพลีกรรมของผู้ชอบธรรมทะลุฟ้า ดังชาวเมืองนินะเวย์
... :s005: :s005: :s005: .....
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

เสาร์ ส.ค. 18, 2012 10:12 am

นีนะเวห์
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ส.ค. 18, 2012 10:37 am

ขอบใจน้อง Sun...ค่ะ
นินะเวห์
.. :s024: ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

เสาร์ ส.ค. 18, 2012 11:32 am

นีนะเวห์ :s021:
sdjakapong
โพสต์: 164
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm

เสาร์ ส.ค. 18, 2012 4:56 pm

ผมอยากให้ทุกคนได้อ่านในลิงค์ข้างล่างนี้ด้วยครับ
http://palangjai.0fees.net/MedjugorjeNews.html

ถ้าได้อ่านแล้ว เดือนกันยายนที่จะถึงนี้อาจจะเป็นการตัดสินได้ว่า วาติกันจะบรรจบกับพระนางมารีย์หรือไม่

ในบทความเขียนไว้ว่า

“ดังนั้น เราจึงตระหนักว่า พระเป็นเจ้าทรงมอบความวางใจให้แก่พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกในความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในการประกาศรับรองการประจักษ์ของพระนางมารีย์ อำนาจที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้แก่พระศาสนจักรนี้มีความหมายว่า การตอบว่า “ไม่” ต่อพระนางมารีย์นั้นเป็นการพูด “ไม่” แทนมนุษย์ทุกคนด้วย และเพราะเหตุนี้ ประตูก็จะถูกปิด ความหมายจะเป็นเช่นเดียวกัน ถ้าพระศาสนจักรยอมรับว่าพระนางมารีย์ทรงประจักษ์มาจริง ก็จะเท่ากับมนุษย์ทุกคนยอมรับพระนางด้วย และประตูก็จะเปิดออกเพื่อให้ความช่วยเหลือที่พระเป็นเจ้าทรงประสงค์จะประทานให้ผ่านทางพระนางมารีย์สามารถมายังโลกได้”

viewtopic.php?f=2&t=17676
ในลิงค์ข้างบนการรับรองเมดจูำกอเรจ์น่าจะเสร็จสิ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

สวดภาวนาเพื่อการนี้ด้วยนะครับ อีกไม่กี่วันแล้วนะ ที่พระศาสนาจักรจะประกาศจุดยืนเพื่อตอบรับหรือไม่
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ส.ค. 18, 2012 6:13 pm

ค่ะ อาจารย์ Sun..
นีนะเวห์ อย่างนี้ ใช่ป่าว จานขา..
.... :s013: ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

เสาร์ ส.ค. 18, 2012 6:25 pm

: emo045 : ::011:: ฮี่ๆ ล้อเล่นเฉยๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ส.ค. 19, 2012 12:54 pm

แม่พระประจักษ์มาหลายครั้ง เตือนมนุษย์ให้สวดภาวนาพลีกรรมมากๆ
แม่รักและห่วงใยลูกของแม่เสมอ ....
แม่พระประจักษ์มาที่เมดจูกอเรย์ นานมากที่สุด ตั้งแต่ปี 1981 มีคนไปแสวงบุญ
กันมากมาย และมีอัศจรรย์เกิดขึ้นมากมาย มีคนกลับใจมากมาย เช่นกัน มีคน
ไปแสวงบุญกลับมาแล้วศรัทธามากขึ้นเปลี่ยนแปลงชีวิต เจริญชีวิตอยู่ในศิลใน
พระพร...
.....ร่วมภาวนาเพื่อให้โรมรับรอง การประจักษ์มาของแม่พระที่เมคจูกอเรย์....
..... :s005: :s005: :s005: ....
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

อาทิตย์ ส.ค. 19, 2012 5:54 pm

:s027:
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2012 11:25 pm

ถ้าพระองค์ตรัสเช่นนั้นก็จะเป็นเช่นนั้น แต่ว่าวันและเวลาที่แท้จริงที่จะทรงเด็จมานั้นไม่มีใครทราบได้ ทราบแต่พระบิดาองค์เดียว
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

ศุกร์ ส.ค. 24, 2012 6:17 am

:s002:
ตอบกลับโพส