+++ การร่วมมิซซาของคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล +++

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:01 am

พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
แปลจากหนังสือ The Holy Mass


ซึ่งแคทาลีน่า รีวาซได้บันทึกคำอธิบายจากพระเยซูเจ้าและแม่พระ
เกี่ยวกับธรรมล้ำลึกในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ


รูปภาพ

พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ

หนังสือเสริมศรัทธาเล่มนี้แปลจาก The Holy Mass ซึ่ง แคทาลีน่า รีวาซได้บันทึกเรื่องราวไว้หลังจากที่เธอได้รับคำอธิบายจากพระเยซูเจ้าและแม่พระในเรื่องธรรมล้ำลึกของมิสซา

ภราดาแดเนียล แกญัง OMI กรรมการผู้ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับข้อความเชื่อและศีลธรรมของอัครสังฆมณฑลเม็กซิโกได้ทำการตรวจสอบและไม่พบข้อความใดที่ขัดต่อข้อความเชื่อและธรรมประเพณีของพระศาสนจักร

โดย พระสังฆราช เรเน่ เฟอร์นันเดซ อปาซา เป็นผู้ลงนามอนุมัติให้ตีพิมพ์เผยแพร่ได้

แคทาลีน่า รีวาซ ผู้เขียนบันทึกนี้เป็นแม่บ้าน มีความรู้แค่ระดับมัธยมต้นและไม่มีพื้นฐานด้านศาสนาหรือเทววิทยาเลย เธอพำนักอยู่ในโกชาบัมบา ประเทศโบลิเวีย ในโกชาบัมบานั้นมีพระรูปพระคริสตเจ้ากันแสงเป็นเลือด แคทาลีน่าเริ่มได้รับสารจากพระเยซูเจ้าและแม่พระในปี 1993 หลังจากที่เธอเปิดใจรับพระเมตตาจากพระและได้กลับใจ

รูปภาพ

ปี 1994 เธอไปแสวงบุญที่คอนเยอร์ส จอร์เจีย ในวาระครบรอบการประจักษ์ของแม่พระปีที่ 13 ระหว่างคุกเข่าถวายตัวอยู่หน้ากางเขนที่โฮลี่ฮิลล์นั้นเธอเริ่มได้รับความเจ็บปวดจากการตรึงกางเขนของพระคริสตเจ้า ซึ่งต่อมาในปี 1996รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ที่มือ เท้าและสีข้างของเธอได้ปรากฏให้เห็น เธอร่ำเรียนมาน้อยแต่ในระหว่างสามปีที่เธอได้รับสารจากเบื้องบนให้จดตามนั้น เธอสามารถ
เขียนหนังสือได้ถึงแปดเล่มหรือราว 4,000-5,000 หน้า โดยไม่มีข้อผิดพลาดด้านเทววิทยา สังคมศาสตร์ ชีวิตมนุษย์ และคำสอนฝ่ายจิตจากพระเป็นเจ้า หนังสือของเธอได้รับการรับรองจากพระสังฆราชท้องถิ่นทุกเล่ม

วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ 4 เมษายน 1999 ทีมงานฟ็อกซ์ได้บันทึกเรื่องราวที่เธอได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์
และได้นำเทปวีดิทัศน์เรื่องพระรูปพระคริสตเจ้ากันแสงเป็นเลือดมาออกอากาศในอเมริกาเหนือ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในช่วงเวลาที่มีผู้ชมมากที่สุด

รูปภาพ

แคทาลีน่าเป็นพยานเรื่องมิสซา
•เพื่อเทิดพระเกียรติมงคลของพระเป็นเจ้าและเพื่อความรอดของผู้ต้องการเปิดใจรับพระองค์
•เพื่อให้เราหลุดพ้นจาก“การรับพระองค์ด้วยความเคยชิน”
•เพื่อให้ความน่าพิศวงของพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ ติดตรึงอยู่ในจิตใจของเราตลอดไป ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:07 am

วันนั้น...เป็นวันเตรียมฉลองสมโภชเทวทูตแจ้งสาร ฉันไปถึงวัดสายไปนิด ตอนที่พระอัครสังฆราชผู้เป็นประธานในพิธีและบรรดาพระสงฆ์ตั้งขบวนออกมาจากห้องสักการภัณฑ์แล้ว แม่พระกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะจับจิตดังนี้

“วันนี้เป็นวันที่ลูกจะได้รับความรู้และแม่อยากให้ลูกเอาใจใส่ให้ดีกับสิ่งที่ลูกจะได้รู้เห็นเป็นพยาน ลูกควรเล่าทุกอย่างที่ลูกจะรู้ผ่านประสบการณ์ในวันนี้ให้ทุกคนฟัง”

เสียงแรกที่ได้ยินเป็นแว่วเสียงประสานที่ไพเราะยิ่งราวกับขับขานอยู่ไกลลิบเสียงเพลงเริ่มดังใกล้เข้ามา แล้วก็เลือนหายไปราวสายลม

รูปภาพ


พระอัครสังฆราชเริ่มพิธีมิสซาแล้ว พอถึงช่วงการสารภาพความผิด แม่พระกล่าวว่า “ลูกจงขอการอภัยจากองค์พระผู้เป็นเจ้าจากส่วนลึกของหัวใจในความผิดบกพร่องทั้งหลายที่ลูกได้กระทำล่วงเกินพระองค์ เพื่อลูกจะได้ร่วมมิสซาอันทรงเกียรตินี้อย่างคู่ควร”

ฉันคิดอยู่แว่บหนึ่ง ‘ฉันอยู่ในสถานะพระหรรษทานแน่ ก็ฉันเพิ่งไปแก้บาปมาเมื่อคืน’

แม่พระตอบ “ลูกคิดหรือว่าลูกไม่ได้ล่วงเกินองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกหลังจากแก้บาปมาเมื่อคืน ให้แม่ทบทวนความจำให้ลูกสักนิดเถิด ตอนลูกเร่งออกจากบ้านจะมาวัด เด็กรับใช้เข้ามาขออะไรบางอย่างจากลูก พอดีลูกกำลังรีบจึงตอบเธอไปด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก ลูกขาดความเมตตา แล้วลูกกลับบอกว่าลูกมิได้ล่วงเกินพระเป็นเจ้ากระนั้นหรือ... แล้วระหว่างทางมาวัด ลูกโดนรถเมล์ขับปาดหน้าเกือบชนลูก ลูกได้แสดงกิริยาที่ไม่สมควรต่อชายคนนั้น แทนที่จะสวดภาวนาและเตรียมตัวเข้ามิสซา ลูกไม่อยู่ในศีลในพร จิตใจขาดความสงบ ไม่รู้จักหักห้ามใจ แล้วลูกกลับมาบอกว่าลูกมิได้ทำร้ายองค์พระผู้เป็นเจ้ากระนั้นหรือ...ลูกมาถึงเอาตอนที่พระสงฆ์ตั้งขบวนเข้าพิธีแล้ว... ลูกกำลังไปร่วมมิสซาโดยไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้าเลย...

รูปภาพ

“ทำไมนะลูกๆถึงได้มากันตอนนาทีสุดท้าย ลูกควรมาถึงวัดให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้ภาวนาวอนขอองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ส่งพระจิตของพระองค์ลงมาประทานความสำรวมใจให้ลูกและชำระลูกให้ปลอดจากจิตของโลก จากความวิตกกังวลจากปัญหาและความวักแวก เพื่อลูกจะได้อยู่กับห้วงเวลาที่แสนศักดิ์สิทธิ์นี้สักชั่วขณะ แต่ลูกมาถึงเอาตอนที่พระสงฆ์จวนเริ่มพิธีแล้ว แล้วลูกร่วมมิสซาอย่างกับเป็นเหตุการณ์ปกติโดยไม่มีการเตรียมจิตใจ เพราะเหตุใดกัน นี่เป็นอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลูกกำลังอยู่ในช่วงที่พระเจ้าสูงสุดประทานพระพรอันใหญ่ยิ่งของพระองค์แก่ลูก แต่ลูกกลับไม่รู้จักเห็นคุณค่าของมิสซา”

ฉันรู้สึกแย่เอามากๆ เพียงไม่กี่เรื่องนี่ก็สมควรขอการอภัยจากพระเป็นเจ้าอย่างยิ่งแล้ว มิใช่เฉพาะความผิดบกพร่องของวันนั้น แต่สำหรับทุกครั้งที่ฉันรอเข้าวัดเอาตอนพระสงฆ์เทศน์จบเหมือนกับคนอื่นๆ ฉันขอโทษพระองค์ ที่บางครั้งฉันไม่ยอมรับรู้ว่าฉันมาร่วมมิสซาทำไม เป็นไปได้ว่าฉันกล้าไปร่วมมิสซาทั้งๆที่วิญญาณอาจเต็มไปด้วยบาปหนัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:13 am

วันนั้นเป็นวันสมโภช พอถึงตอนสวดบทพระสิริรุ่งโรจน์ แม่พระตรัสดังนี้

“จงสรรเสริญพระตรีเอกภาพและถวายพระพรแด่พระองค์ด้วยความรักทั้งหมดที่ลูกมีเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณในฐานะที่ลูกเป็นสิ่งสร้างของพระองค์คนหนึ่ง”


บทพระสิริรุ่งโรจน์คราวนั้นช่างต่างจากเดิมเสียนี่กระไร! ทันใดนั้นฉันเห็นตัวฉันเองในสถานที่สว่างไสวไกลโพ้นเฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้า ฉันโมทนาพระคุณพระองค์ด้วยความรักเต็มเปี่ยม

“ขอสรรเสริญพระองค์ ขอถวายพระพรแด่พระองค์ ขอกราบนมัสการพระองค์ ขอถวายพระเกียรติแด่พระองค์ ขอขอบพระคุณพระองค์เพราะพระองค์ทรงพระเกียรติเลอเลิศ พระเจ้าข้า พระองค์คือพระราชาสวรรค์พระเป็นเจ้า พระบิดา ทรงสรรพานุภาพ”

รูปภาพ

แล้วฉันก็รำลึกถึงพระพักตร์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนของพระบิดา

“ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรแต่องค์เดียวพระเจ้าข้า พระองค์คือพระบุตรพระบิดา ทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า ผู้พลีพระชนม์เพื่อยกบาปของโลก...”

รูปภาพ

และพระเยซูเจ้าประทับเบื้องหน้าฉัน พระพักตร์พระองค์เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา... “ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ผู้เดียวศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ผู้เดียวทรงเป็นเจ้า พระองค์ผู้เดียวสูงสุด ร่วมกับพระจิต...”

พระเจ้าแห่งความรักล้ำเลิศพระองค์ผู้ซึ่งในขณะนั้นทำให้ฉันสะท้านไปทั่วสรรพางค์... แล้วฉันก็วอนขอ
“พระเจ้าข้า โปรดช่วยให้ลูกพ้นจากพยศชั่วทั้งหลาย หัวใจของลูกเป็นของพระองค์ โปรดประทานสันติสุขของพระองค์แก่ลูกเถิด ลูกจะได้สามารถรับประโยชน์อันล้ำเลิศจากศีลมหาสนิท และชีวิตของลูกจะได้บังเกิดผลสูงสุด พระจิตแห่งพระเจ้า โปรดเปลี่ยนสภาพของลูก โปรดทรงงานในตัวลูก โปรดนำทางลูก ข้าแต่พระเจ้า โปรดประทานพระพรแก่ลูกเพื่อลูกจะได้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์ได้ดียิ่งขึ้น!”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:17 am

พอถึง ภาควจนพิธีกรรม แม่พระให้ฉันกล่าวตามดังนี้

“พระเจ้าข้า วันนี้ลูกปรารถนาจะฟังพระวาจาของพระองค์แล้วนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โปรดให้พระจิตของพระองค์ชำระจิตใจของลูก เพื่อให้พระวาจาของพระองค์จำเริญงอกงามขึ้นภายในและบันดาลให้จิตใจของลูกมีแต่เจตนาอันดีงาม”

รูปภาพ

แม่พระตรัส “แม่อยากให้ลูกตั้งใจฟังบทอ่านและบทเทศน์ของพระสงฆ์ให้ดี ระลึกไว้เถิดว่าพระคัมภีร์กล่าวไว้ว่าพระวาจาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าจะไม่กลับมาไร้ผล (เทียบ อสย.55:11) ถ้าลูกเอาใจใส่ บางสิ่งที่ลูกได้ยินมาจะดำรงอยู่กับลูก ลูกควรพยายามรำลึกถึงพระวาจาที่ทำให้ลูกประทับใจเหล่านั้นไปตลอดวัน บางครั้งมีสองข้อ ครั้งอื่นอาจเป็นบทอ่านพระวรสารทั้งหมด หรืออาจเป็นแค่คำเพียงคำเดียว จงชื่นชมกับข้อคิดที่ได้ไปตลอดวันแล้วถ้อยคำนั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของลูกเพราะนั่นเป็นลู่ทางที่เปลี่ยนชีวิตคนเรา โดยการยินยอมให้พระวาจาของพระเป็นเจ้าเปลี่ยนลูก ... ถึงตอนนี้ จงบอกองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าลูกพร้อมจะฟังแล้วบอกพระองค์ว่าลูกอยากให้พระองค์ตรัสในจิตใจของลูกวันนี้”

ฉันขอบคุณพระเป็นเจ้าอีกครั้งที่ให้ฉันมีโอกาสได้ฟังพระวาจาของพระองค์ และฉันวอนขอให้พระองค์ยกโทษให้ฉันด้วยที่ฉันทำใจแข็งมานานหลายปี ทั้งยังสอนลูกๆอีกว่าพวกเขาต้องไปวัดวันอาทิตย์นะเพราะเป็นข้อกำหนดของพระศาสนจักร และไม่ได้บอกลูกๆว่าให้ไปวัดเพราะรักพระและต้องการให้พระเติมเต็มชีวิตเขา ฉันไปร่วมพิธีมิสซาบ่อยมาก ส่วนใหญ่ไปเพราะปฏิเสธไม่ได้ และเพราะเหตุนี้เองฉันจึงเชื่อว่าฉันรอดแน่ แต่จิตใจไม่ได้เข้าถึงพิธีกรรมแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจฟังบทอ่านหรือบทเทศน์ของพระสงฆ์เลย! เป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดนักเมื่อความไม่รู้ ทำให้ฉันต้องเสียเวลาไปนานหลายปีโดยใช่เหตุ! เราไปร่วมมิสซาอย่างฉาบฉวย

เวลาที่เราไปเพราะมีพิธีแต่งงาน มีมิสซาปลงศพ หรือไปเพียงเพื่อออกงานสังคม!เราไม่ได้รู้เรื่องของพระศาสนจักรและศีลศักดิ์สิทธิ์เลย! เรามัวแต่งมสอนตัวเองให้รู้แจ้งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกวัตถุที่ล่วงสูญไปได้ในพริบตา แล้วก็มิได้ต่อชีวิตคนเราให้ยืนยาวออกไปได้สักนาที! แต่เราผู้เรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ผู้เจริญแล้วกลับไม่รู้ในเรื่องที่ทำให้เราได้ลิ้มรสสวรรค์บนแผ่นดินอันเป็นชีวิตนิรันดรต่อภายหลัง!
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:22 am

ครู่ต่อมาถึงภาคถวาย แม่พระให้ฉันสวดตามดังนี้

“พระเจ้าข้า ลูกขอถวายทุกสิ่งที่ลูกเป็น ทุกสิ่งที่ลูกมี ทุกสิ่งที่ลูกสามารถถวายได้ ลูกขอมอบทั้งหมดไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ โปรดรวบรวมสิ่งเหล่านี้พร้อมกับความต่ำต้อยของลูกเถิดพระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ โปรดเปลี่ยนลูกด้วยเดชะพระบารมีของพระบุตรของพระองค์ ลูกอ้อนวอนพระองค์เพื่อครอบครัวของลูก เพื่อผู้มีพระคุณต่อลูกเพื่อผู้แพร่ธรรมของเราแต่ละคน เพื่อทุกคนที่ต่อต้านเรา เพื่อบรรดาผู้ที่มอบตัวเขาไว้ในคำภาวนาที่ด้อยคุณภาพของลูก โปรดสอนให้ลูกมีความไว้วางใจอย่างสิ้นสุดจิตใจก่อนเถิด เพื่อว่าการดำเนินชีวิตของท่านเหล่านั้นจะได้รับความบรรเทา นี่คือวิธีที่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ภาวนา นี่คือวิธีที่แม่อยากให้ลูกทุกคนทำ”

รูปภาพ

ทันใดนั้นมีลักษณะบางอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเริ่มลุกขึ้นยืน ราวกับมีอีกคนแยกออกมาจากด้านข้างของแต่ละคนที่อยู่ในอาสนวิหาร แล้วไม่ทันไรที่นั่นก็เต็มไปด้วยผู้คนอ่อนวัยและงดงาม พวกเขาสวมชุดขาวยาวแล้วเริ่มเคลื่อนไปยังช่องทางเดินตรงไปยังพระแท่น

แม่พระตรัส “ดูให้ดีเถิด พวกเขาคืออารักขเทวดาของแต่ละคนที่อยู่ ณ ที่นี้ นี่เป็นช่วงที่อารักขเทวดาของลูกๆนำของถวายและคำวิงวอนของลูกไปยังแท่นบูชาของพระเจ้า”

รูปภาพ

ฉันถึงกับตะลึง เทวดาเหล่านี้มีใบหน้าที่งดงามเพริศแพร้วยิ่งค่อนไปทางใบหน้าผู้หญิง แต่ทว่าเค้าโครงรูปร่าง มือและส่วนสูงมีลักษณะเป็นชาย เท้าเปล่า ไม่แตะพื้น แต่ราวกับร่อนไปมากกว่า ขบวน
ที่เคลื่อนไปนั้นงดงามมาก บางองค์ถือบางอย่างเหมือนขันทองที่มีอะไรบางอย่างเปล่งแสงสีทองเรื่อๆ

แม่พระตรัส “พวกเขาคืออารักขเทวดาของคนที่ถวายมิสซานี้เพื่อจุดประสงค์ต่างๆ เป็นของคนซึ่งตระหนักรู้ถึงความหมายของมิสซานี้ เขาเหล่านั้นมีของมาถวายพระเจ้า... จงถวายตัวลูกในช่วงนี้ ถวายความทุกข์ ความเจ็บปวด ความหวัง ความเศร้า ความเบิกบานยินดี คำอ้อนวอนต่างๆ จงระลึกไว้เถิดว่ามิสซามีคุณค่ามหาศาล ลูกจึงควรมีน้ำใจดีที่จะถวายและวอนขอ”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:29 am

เทวดาที่อยู่ถัดจากองค์แรกๆมามือเปล่า

แม่พระตรัส “เทวดาเหล่านั้นเป็นอารักขเทวดาของคนที่มาที่นี่แต่ไม่เคยถวายอะไร เขาเหล่านั้นไม่ได้ร่วมส่วนในช่วงพิธีกรรม แล้วก็ไม่มีของบรรณาการที่จะนำมาถวายหน้าแท่นบูชาของพระเจ้า”

รูปภาพ

ท้ายขบวนนั้นมีบรรดาเทวดาที่ออกจะหน้าเศร้ากว่าเพื่อน พนมมือภาวนาแต่หลุบสายตาลงต่ำ “เทวดาเหล่านี้เป็นอารักขเทวดาของคนที่ฝืนใจมาร่วมมิสซานั่นก็คือคนที่ถูกบังคับให้มา คนที่มาเพราะเป็นวันฉลองบังคับแต่ไม่ได้อยากมา เทวดาเหล่านั้นเดินไปยังพระแท่นอย่างเศร้าสร้อยเพราะไม่มีอะไรที่จะนำไปถวายนอกจากคำภาวนาของพวกเขาเองเท่านั้น... อย่าทำให้อารักขเทวดาของลูกเศร้าเสียใจเลยนะ จงวอนขอให้มาก วอนขอเพื่อให้คนบาปกลับใจ เพื่อสันติภาพของโลก เพื่อครอบครัวของลูก เพื่อเพื่อนบ้านของลูก เพื่อผู้ที่ขอคำภาวนาจากลูก จงขอ...ขอให้มาก...แต่มิใช่เพื่อตัวลูกเองเท่านั้น แต่เพื่อผู้อื่นด้วย ...จงระลึกไว้เถิดว่าของถวายที่พระเจ้าโปรดปรานที่สุดคือการที่ลูกถวายตัวของลูกเองเป็นเครื่องบูชา เพื่อว่าเมื่อพระเยซูเจ้าทรงถ่อมองค์ลงมา พระองค์จะได้เปลี่ยนสภาพลูกด้วยเดชะพระบารมีของพระองค์ ตัวลูกเองนั้นมีสิ่งใดจะถวายแด่พระบิดาเจ้าหรือ ไม่มีอะไรเลยนอกจากบาป แต่การถวายตัวลูกร่วมกับบุญกุศลของพระเยซูเจ้าต่างหากที่ทำให้ของถวายนั้นเป็นที่สบพระทัยพระบิดา”

รูปภาพ

ภาพขบวนเทวดาที่แลเห็นนั้นงดงามเหลือจะเปรียบปาน ชาวสวรรค์เหล่านั้นคำนับลงหน้าพระแท่น บางองค์วางของถวายไว้ที่พื้น บางองค์ก้มกราบจนศีรษะเกือบจรดพื้น แล้วทันทีที่พวกเขาเดินไปถึงพระแท่น พวกเขาก็หายวับไปกับตา

พอถึงช่วงท้ายของบทขอบพระคุณเมื่อผู้มาร่วมชุมนุมกล่าว “ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์”

รูปภาพ

ทุกอย่างที่อยู่เบื้องหลังพระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีก็อันตรธานหายไปในบัดดล นิกรเทวดาจำนวนหลายพันปรากฏองค์เป็นแนวทแยงด้านหลังทางซ้ายมือของพระอัครสังฆราช ทุกองค์สวมชุดยาว คุกเข่าลง พนมมือในท่าภาวนาและก้มศีรษะแสดงความเคารพ ฉันได้ยินเสียงเพลงอันไพเราะเสนาะโสตราวกับมีนิกรเทวดาหลายหมู่เหล่ามาร่วมขับเพลงประสานเป็นเสียงเดียวกับมนุษย์ว่า ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:34 am

ภาคบทขอบพระคุณเป็นช่วงมหัศจรรย์ยิ่ง เบื้องหลังทางขวามือของพระอัครสังฆราชนั้นมีฝูงชนกลุ่มใหญ่ปรากฏกายขึ้นเป็นแนวทแยง พวกเขาสวมชุดยาวสีเฉดอ่อนหลากสี ใบหน้ามีสง่าราศีดูราวกับพวกเขาอยู่ในวัยเดียวกัน พวกเขาคุกเข่าลงด้วยตอนขับร้องศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าจอมจักรวาล...”

แม่พระตรัสดังนี้ “พวกเขาคือบรรดานักบุญและผู้ศักดิ์สิทธิ์ชาวสวรรค์และในท่ามกลางเขาเหล่านั้นคือญาติพี่น้องของลูกที่ได้ชื่นชมพระบารมีพระเป็นเจ้าแล้ว”

รูปภาพ

แล้วฉันก็เห็นแม่พระทางด้านขวาของพระอัครสังฆราชห่างจากท่านก้าวหนึ่ง พระแม่ลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย คุกเข่าอยู่บนพัสตราภรณ์บางใสช่วงโชติเหมือนผืนน้ำที่ใสเหมือนผลึก แม่พระพนมมือ มองมายังพระอัครสังฆราชอย่างสำรวมและอย่างยกย่องให้เกียรติ แม่พระตรัสกับฉันทางจิตจากตรงนั้นโดยมิได้มองมาทางฉัน

“ลูกแปลกใจใช่ไหมที่เห็นแม่อยู่เบื้องหลังพระคุณเจ้า (พระอัครสังฆราช) นี่คือสิ่งที่ควรเป็น... พระบุตรทุ่มเทความรักให้แม่ก็จริง แต่พระองค์มิได้ประทานศักดิ์ศรีให้สองมือแม่สำแดงอัศจรรย์ทุกวันเหมือนอย่างพระสงฆ์ แม่จึงยกย่องพระสงฆ์อย่างยิ่งและให้เกียรติแก่อัศจรรย์ที่พระเป็นเจ้าทรงดำเนินการผ่านพระสงฆ์ซึ่งทำให้แม่จำเป็นต้องคุกเข่าอยู่ตรงนี้เบื้องหลังท่าน” เราบางคนไม่ได้สำนึกด้วยซ้ำไปว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานศักดิ์ศรีและพระหรรษทานแก่พระสงฆ์มากมายขนาด
ไหนในเรื่องนี้

หน้าพระแท่นปรากฏเงาทึมๆของผู้คนที่ชูมือขึ้น แม่พระตรัสดังนี้ “บุคคลเหล่านี้คือวิญญาณในไฟชำระผู้รอรับคำภาวนาจากลูกเพื่อชุบชูวิญญาณ อย่าหยุดสวดให้เขาเหล่านั้น พวกเขาสวดให้ลูกแต่ไม่สามารถสวดให้ตัวเองได้ ลูกนั่นแหละที่ควรสวดให้พวกเขาเพื่อช่วยพวกเขาให้พ้นจากไฟชำระเร็วขึ้น เพื่อจะได้ไปอยู่กับพระเป็นเจ้าและชื่นชมพระองค์ไปตลอดนิรันดร”


รูปภาพ

“ทีนี้ลูกก็เห็นแล้วสินะว่าแม่อยู่ที่นี่ตลอดเวลา ผู้คนพากันไปจาริกแสวงบุญเพื่อแสวงหาแม่ในสถานที่ที่แม่เคยประจักษ์ ก็เป็นเรื่องดีนะ เพราะเขาได้รับพระหรรษทานนานัปการที่นั่น แต่ระหว่างที่แม่มิได้ประจักษ์นั้น ไม่มีที่ไหนที่แม่อยู่มากไปกว่าระหว่างพิธีมิสซา ลูกจะพบแม่ได้เสมอที่เชิงพระแท่นที่กำลังมีพิธีมิสซาที่ฐานของตู้ศีล แม่อยู่ตรงนั้นพร้อมกับเทวดาเพราะแม่อยู่กับพระองค์เสมอ”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:40 am

การได้ชื่นชมพระพักตร์พระแม่ในช่วงที่กล่าวคำว่า “ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์...” อีกทั้งได้เห็นดวงหน้าอื่นๆที่บ่งบอกถึงความสุข พนมมือรอคอยอัศจรรย์ที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างต่อเนื่องนั้นเหมือนได้อยู่ในสวรรค์ไม่มีผิด แล้วฉันก็นึกถึงคนที่วักแวกพูดคุยกันในช่วงเวลานั้น ฉันเสียใจที่ต้องบอกท่านว่าผู้ชายส่วนใหญ่ชอบยืนกอดอกราวกับเขาแสดงความเคารพต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าในระดับเดียวกับที่เขาแสดงความเคารพต่อมนุษย์คนอื่นๆ

แม่พระตรัสดังนี้

“จงบอกทุกคนด้วยว่า มนุษย์ดูยิ่งใหญ่ขึ้นเมื่อเขาคุกเข่าลงเฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้า”

พอถึงบทขอบพระคุณ พระอัครสังฆราชกล่าวบทเสกศีล ท่านเป็นคนร่างสูงปานกลาง แต่ท่านเริ่มสูงขึ้นในบัดดล ท่านเปี่ยมไปด้วยแสงสว่าง มีแสงเหนือธรรมชาติสีทองเรื่อๆโอบคลุมท่านและส่งประกายเจิดจ้าบริเวณใบหน้า ฉันจึงมองไม่เห็นเด่นชัด ฉันเห็นมือท่านตอนที่ท่านยกแผ่นศีล และที่หลังมือของท่านปรากฏรอยตำหนิที่ส่งแสงเจิดจ้าออกมา เป็นพระเยซูเจ้านั่นเอง! เป็นพระองค์เอง
ที่สวมร่างของพระอัครสังฆราชราวกับพระองค์โอบมือท่านไว้ด้วยความรัก ในชั่วขณะนั้นเอง แผ่นศีลเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเป็นแผ่นศีลขนาดมหึมา และในแผ่นศีลนั้นปรากฏพระพักตร์พระเยซูเจ้ากำลังมองมายังประชากรของพระองค์

รูปภาพ

ฉันก้มศีรษะลงโดยสัญชาตญาณ แล้วแม่พระตรัสดังนี้ “อย่ามองลง จงเงยหน้าขึ้นมองพระองค์ พิจารณาพระองค์ สบตาพระองค์ แล้วสวดบทภาวนาของฟาติมาตามแม่ดังนี้

“ข้าแต่พระเจ้า ลูกเชื่อในพระองค์ ลูกนมัสการพระองค์ ลูกวางใจในพระองค์ และลูกรักพระองค์ ลูกกราบขอสมาโทษแทนคนที่ไม่เชื่อในพระองค์ ไม่นมัสการพระองค์ ไม่วางใจในพระองค์ และไม่รักพระองค์... แล้วบอกพระองค์ตอนนี้ว่าลูกรักพระองค์มากแค่ไหน แล้วขอให้ลูกถวายบังคมต่อจอม
กษัตริย์”


รูปภาพ

ฉันบอกพระองค์ตามนี้และราวกับพระองค์ทรงมองจากแผ่นศีลขนาดใหญ่มาที่ฉันคนเดียว แต่ฉันทราบมาว่าพระองค์ทรงมองแต่ละคนในลักษณะเดียวกันนี้ด้วยความรักเต็มเปี่ยม ฉันซบหน้าลงจรดพื้นเหมือนกับที่เทวดาและผู้ศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ทำ พอท่านอัญเชิญแผ่นศีลลง แผ่นศีลก็กลับเป็นขนาดเท่าเดิมฉันน้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่อาจกลั้นความอัศจรรย์ใจไว้ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:43 am

พระอัครสังฆราชกล่าวเสกเหล้าองุ่นต่อทันที ช่วงที่กล่าวอยู่นั้นปรากฏสายฟ้าแลบจากเบื้องบนและพื้นหลัง กำแพงกับเพดานโบสถ์หายลับไปทุกอย่างมืดสนิท เหลือแต่แสงโชติช่วงจากพระแท่น

รูปภาพ

ทันใดนั้น ฉันเห็นภาพพระเยซูถูกตรึงกางเขนลอยอยู่กลางอากาศ ฉันเห็นพระองค์แค่ครึ่งองค์ถึงบริเวณใต้ทรวงอก มีมือขนาดใหญ่และทรงพลังประคองลำแสงที่ไขว้กันนั้นอยู่ จากด้านในของลำแสงที่โชติช่วงนั้นมีแสงเล็กๆเหมือนกับนกพิราบที่ส่งประกายเจิดจรัสกระพือปีกบินไปรอบโบสถ์ แล้วมาเกาะอยู่ที่บ่าซ้ายของพระอัครสังฆราชที่ยังเห็นเป็นพระเยซูเจ้าอยู่ ที่ฉันแยกแยะออกก็เพราะพระเกศายาวสลวยของพระองค์ รอยแผลที่เปล่งแสงที่เห็นได้ชัดของพระองค์และพระวรกายของพระองค์ แต่ฉันมองไม่เห็นพระพักตร์พระองค์ เหนือขึ้นไปคือพระเยซูถูกตรึงกางเขน พระเศียรเอนลงไปทางไหล่ขวา ฉันสามารถพิจารณาพระพักตร์ ส่วนแขนที่ถูกโบยและเนื้อหนังที่เหวอะหวะ ทรวงอกด้านขวามีรอยแผลพระองค์บาดเจ็บ มีเลือดทะลักออกมาทางซีกซ้ายและซีกขวาเหมือนกับสายธารระยิบระยับ ดูเหมือนลำแสงพุ่งออกมาเป็นสายไปทางสัตบุรุษแล้วเคลื่อนไปทางขวาแล้วก็ทางซ้าย ฉันทึ่งกับปริมาณเลือดที่ไหลชโลมจอกกาลิกษ์ ฉันนึกว่าเลือดจะไหลล้นออกมาอาบพระแท่น แต่กลับไม่มีสักหยดที่กระเซ็นออกมา ในช่วงนั้นเอง แม่พระตรัส

“นี่คืออัศจรรย์เหนืออัศจรรย์ทั้งหลาย แม่เคยบอกลูกแล้วว่าองค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ถูกจำกัดด้วยเวลาและสถานที่ พอถึงช่วงบทขอบพระคุณนั้นผู้มาร่วมพิธีได้ถูกนำไปยังเชิงเขากัลวารีโอในเวลาที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน”

ใครเล่าจะคาดคิดได้ เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่เราทุกคนไปอยู่ที่นั่นจริงในห้วงเวลาที่พวกเขาตรึงกางเขนพระเยซูเจ้า แล้วพระองค์กำลังวอนขอให้พระบิดาประทานอภัยให้เราแต่ละคนที่ได้ทำบาปด้วย มิใช่เฉพาะคนที่ประหารพระองค์เท่านั้น “พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” นับจากวันนั้นมา ฉันได้แต่ขอให้ทุกคนคุกเข่าและพยายามทุ่มเทจิตใจให้กับสิทธิพิเศษที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบให้เรานี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:47 am

พอถึงตอนที่เราเริ่มจะสวดบทข้าแต่พระบิดา องค์พระผู้เป็นเจ้าเริ่มตรัสเป็นครั้งแรก

“ช้าก่อน เราต้องการให้ลูกสำรวมจิตใจสวดอย่างจริงจัง ในช่วงเวลานี้จงระลึกถึงคนที่เคยมุ่งร้ายต่อลูกในช่วงชีวิตของลูก เพื่อว่าลูกจะได้กอดเขาไว้แนบอกและบอกเขาอย่างจริงใจว่า

“เดชะพระบารมีของพระเยซูเจ้า ฉันยกโทษให้คุณและขอให้คุณประสบสันติสุข เดชะพระบารมีของพระเยซูเจ้า ฉันขอให้คุณยกโทษให้ฉันและขอให้คุณอวยพรให้ฉันประสบสันติสุข”

ถ้าคนคนนั้นคู่ควรจะได้รับความสงบสุขนั้น เขาก็จะได้รับและรู้สึกดีขึ้น ถ้าหากว่าคนคนนั้นไม่สามารถเปิดใจรับสันติสุขได้ สันติสุขนั้นก็จะกลับมาอยู่ในจิตใจของลูก แต่เราไม่ต้องการให้ลูกรับหรือมอบสันติสุขให้ใครถ้าลูกให้อภัยไม่ได้และไม่ได้ซาบซึ้งถึงสันติสุขในจิตใจแต่แรก”


รูปภาพ

พระองค์ตรัสต่อ “จงรอบคอบในสิ่งที่ลูกทำ ถ้าลูกกล่าวตามบทข้าแต่พระบิดาว่า ‘โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น’ถ้าลูกสามารถให้อภัยแต่ยังฝังใจอยู่ ก็เหมือนกับที่บางคนกล่าวไว้ ลูกกำลังวางเงื่อนไขกับการให้อภัยของพระเป็นเจ้า ลูกกำลังบอกว่า พระองค์ยกโทษให้ลูกเท่าที่ลูกสามารถยกโทษให้คนอื่นก็พอ”

ฉันไม่รู้จะแจกแจงความเจ็บปวดของฉันได้อย่างไรเมื่อสำนึกได้ว่าเราทำร้ายองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำร้ายตัวเราเองได้มากมายขนาดไหนจากการผูกใจเจ็บ เก็บความรู้สึกที่ไม่ดีไว้ อคติมองเห็นแต่ข้อบกพร่องของคนอื่นแล้วก็ขุ่นเคืองง่ายเกินเหตุฉันให้อภัยแล้ว ฉันให้อภัยแล้วจากใจจริง และขอให้ทุกคนที่ฉันเคยทำให้เสียใจโปรดยกโทษให้ฉันด้วยเพื่อฉันจะได้ซาบซื้งถึงสันติสุขขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ประธานในพิธีกล่าว “...โปรดให้พระศาสนจักรสงบราบรื่น มีสามัคคีธรรม...”

แล้วจากนั้น “ขอให้สันติสุขของพระคริสตเจ้าสถิตกับท่านทั้งหลายเสมอ”

รูปภาพ

ทันใดนั้น ฉันเห็นว่าในบรรดาคนที่กอดกันอยู่นั้น (ไม่ทุกคน) มีแสงแรงกล้ามาแทรกตรงกลางระหว่างเขา ฉันรู้ว่านั่นคือพระเยซูเจ้า ฉันโผเข้ากอดคนที่อยู่ถัดจากฉันได้อย่างสะดวกใจ ฉันสามารถสัมผัสอ้อมกอดขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้จริงๆ เป็นพระองค์นั่นเองที่กอดฉันเพื่อมอบสันติสุขของพระองค์ให้แก่ฉัน เพราะในขณะนั้น ฉันสามารถให้อภัยและขจัดความขุ่นใจต่อคนอื่นสำเร็จ นั่นคือสิ่งที่พระเยซูเจ้าปรารถนาเพื่อแบ่งปันห้วงเวลาแห่งความชื่นชมยินดีร่วมกัน พระองค์กอดเราและมอบสันติสุขของพระองค์ให้แก่เรา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:50 am

พอถึงช่วงที่พระสงฆ์รับศีลมหาสนิท ฉันถึงได้เห็นพระสงฆ์ทุกองค์ที่อยู่ถัดจากพระอัครสังฆราช พอพวกท่านรับศีลมหาสนิท

แม่พระตรัสดังนี้ “นี่เป็นช่วงเวลาที่จะภาวนาให้แก่ประธานในพิธีและพระสงฆ์ที่ร่วมพิธี จงสวดภาวนาพร้อมกับแม่ดังนี้ ‘พระเจ้าข้า โปรดอวยพรพวกท่าน โปรดบันดาลให้พวกท่านศักดิ์สิทธิ์โปรดช่วยเหลือพวกท่าน โปรดรักพวกท่าน โปรดดูแลพวกท่านและค้ำจุนพวกท่านด้วยความรักของพระองค์ โปรดทรงระลึกถึงพระสงฆ์ทุกองค์ทั่วโลก โปรดภาวนาให้แก่วิญญาณผู้ถวายตัวทั้งหลาย’ ...”

พี่น้องที่รัก ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เราควรภาวนาให้พระสงฆ์เพราะพวกท่านคือพระศาสนจักรเช่นเดียวกับเราผู้เป็นฆราวาส บ่อยครั้งที่ฆราวาสอย่างเราๆเรียกร้องจากพระสงฆ์มากเหลือเกิน แต่เรากลับสวดให้พวกท่านไม่ได้ เราควรเข้าใจว่าพระสงฆ์ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนเหมือนกับเรา และพวกท่านต้องการให้เราเข้าใจพวกท่าน พวกท่านต้องการความรักความเมตตาและความเอาใจใส่จากเรา เพราะพวกท่านได้อุทิศชีวิตของท่านให้เราแต่ละคนเหมือนกับที่ท่านได้ถวายตัวแด่พระเยซูเจ้าแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้ประชากรที่ทรงมอบหมายไว้กับพระสงฆ์สวดภาวนาให้พระสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ สักวันหนึ่งเมื่อเราอยู่อีกโลกหนึ่งแล้ว เราจะเข้าใจสิ่งน่าพิศวงที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำมาด้วยการมอบพระสงฆ์ให้มาช่วยเหลือวิญญาณของเราให้รอด

ผู้คนเริ่มลุกจากที่นั่งไปรับศีล ถึงช่วงเวลายิ่งใหญ่แห่งการพบกันแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับฉันว่า “รอสักนิด เราอยากให้ลูกดูบางอย่าง...”


รูปภาพ

ฉันเงยหน้าขึ้นมอง เห็นผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มของเราที่ไปแก้บาปก่อนเข้ามิสซา กำลังรับศีลด้วยปาก พอพระสงฆ์วางแผ่นศีลลงบนลิ้นของเธอนั้น มีแสงสีขาวออกทองแผ่กำจายเข้าสู่ตัวเธอ โอบด้านหลังแล้วแผ่มาที่ไหล่แล้วก็ที่ศีรษะของเธอ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “วิธีนี้แหละที่ทำให้เราปลื้มใจที่ได้โอบกอดวิญญาณหนึ่งผู้มารับเราด้วยหัวใจที่ใสสะอาด” พระสุรเสียงของพระองค์เหมือนคนที่กำลังเบิกบานใจ

ฉันตะลึงเมื่อเห็นเพื่อนคนนี้เดินกลับที่โดยมีแสงรอบตัวเธอและองค์พระผู้เป็นเจ้าโอบกอดเธออยู่ ฉันฉุกนึกถึงความมหัศจรรย์ที่เราพลาดไปหลายต่อหลายครั้งเพราะเราเดินไปรับพระเยซูเจ้าทั้งๆที่เรายังมีบาปเบาหรือบาปหนัก เรามักแก้ตัวว่าไม่มีพระสงฆ์ฟังสารภาพบาปในช่วงที่กำหนดไว้ ปัญหากลับไม่ได้อยู่ตรงนั้น หากอยู่ที่เราปล่อยใจให้ตกอยู่ในความชั่วอีกเหมือนเดิม ผู้หญิงมักเข้าร้านเสริมสวยส่วนผู้ชายก็ไปตัดผมเสียก่อนไปงานรื่นเริงฉันใด เราก็ควรพยายามมองหาพระสงฆ์เพื่อขจัดความสกปรกออกจากวิญญาณเราก่อนไปรับศีลฉันนั้น เราไม่ควรบุ่มบ่ามไปรับพระเยซูเจ้าเมื่อจิตใจของเราเต็มไปด้วยความอัปลักษณ์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:55 am

พอฉันเดินไปรับศีลมหาสนิท พระเยซูเจ้าบอกฉันว่า “อาหารค่ำมื้อสุดท้ายคือช่วงเวลาที่เราได้ใกล้ชิดลูกของเรามากที่สุด ระหว่างช่วงเวลาแห่งความรักนั้น เราได้ตั้งสิ่งซึ่งมนุษย์มองว่าเป็นการกระทำที่พิเรนทร์ที่สุดและทำให้เราเป็นผู้ถูกจองจำเพราะความรัก เราได้ตั้งศีลมหาสนิท เราอยากอยู่กับลูกต่อไปจวบจนสิ้นยุคเพราะเรารักลูกเกินกว่าจะทนให้ลูกๆที่เรารักยิ่งกว่าชีวิตนั้นต้องอยู่อย่างไร้ที่พึ่ง”

รูปภาพ

แผ่นศีลที่ฉันรับคราวนั้นมีรสชาติต่างไปจากเดิมเหมือนกับเลือดผสมกำยานที่ซาบซึมไปทั่วสรรพางค์ ฉันสัมผัสรู้ถึงความรักที่เปี่ยมล้นจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ฉันเดินกลับที่ไปคุกเข่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส “ฟังสิ...” ต่อมาสักพักฉันเริ่มได้ยินคำภาวนาในใจของผู้หญิงที่นั่งอยู่แถวหน้าที่เพิ่งไปรับศีลมา สิ่งที่เธอภาวนาในใจอยู่ประมาณว่า ‘พระเจ้าข้า นี่ก็ใกล้สิ้นเดือนแล้ว ลูกยังไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าส่งรถกับค่าเล่าเรียนของลูกๆเลย พระองค์ต้องหาทางช่วยลูกนะ... ได้โปรดเถิด อย่าให้สามีของลูกเมาหัวราน้ำแบบนี้ ลูกชักจะทนไม่ไหวแล้ว ลูกคนสุดท้องก็ต้องเรียนซ้ำชั้นแน่ถ้าพระองค์ไม่ช่วย เขาต้องสอบอาทิตย์นี้แล้ว ...แล้วก็โปรดอย่าลืมเพื่อนบ้านของเราที่ต้องย้ายออกไปรายนั้นด้วย โปรดให้เธอย้ายออกทันที ลูกทนเธอไม่ได้อีกแล้ว...”

พระอัครสังฆราชกล่าว “ให้เราภาวนา” แล้วบรรดาพระสงฆ์ก็ยืนขึ้นสวดบทภาวนาปิดพิธี


พระเยซูเจ้าตรัสอย่างเศร้าสร้อย “ลูกสังเกตคำภาวนาของเธอไหมไม่มีช่วงไหนเลยที่เธอบอกว่าเธอรักเรา เธอไม่ขอบคุณเราสักนิดที่เรามอบพระพรให้เธอด้วยการลดความเป็นพระเจ้าของเราลงมาสู่ความเป็นมนุษย์ที่น่าสงสารของเธอเพื่อยกย่องเธอขึ้นมาหาเรา ไม่มีคำพูดแม้สักคำว่า ‘ขอบพระคุณพระองค์พระเจ้าข้า’ นี่เป็นบทร่ำวิงวอนเหมือนกับของลูกๆแทบทุกคนที่มารับเรา”

รูปภาพ

“เรายอมตายก็เพราะรัก และเราได้กลับคืนชีพแล้ว เราเฝ้าคอยลูกแต่ละคนเพราะรักและเรายังอยู่กับลูกก็เพราะรัก... แต่ลูกมิได้รู้สำนึกเลยว่าเราต้องการความรักจากลูก จำไว้เถิดว่าเราเป็นผู้มาวอนขอความรักในวาระที่สูงส่งสำหรับวิญญาณนี้”

พวกท่านรู้หรือไม่ว่าพระองค์ผู้เป็นองค์ความรักกำลังอ้อนวอนขอความรักจากเรา แล้วเราไม่ได้มอบความรักแด่พระองค์ มิหนำซ้ำ เรายังเลี่ยงที่จะพบองค์ความรักผู้พลีชีวิตเป็นเครื่องบูชานิรันดรเพียงเพราะความรัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 8:57 am

ตอนที่ประธานในพิธีกล่าวอวยพร แม่พระตรัส “จงตั้งใจให้ดี...ลูกทำเครื่องหมายแบบเก่าแทนที่จะทำสำคัญมหากางเขน จงระลึกไว้ว่าการอวยพรคราวนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ลูกจะได้รับจากพระสงฆ์ ลูกไม่รู้หรอกว่าลูกจะอยู่หรือจะตายเมื่อออกจากวัดไปแล้ว ลูกไม่รู้หรอกว่าลูกจะมีโอกาสรับพระพรจากพระสงฆ์องค์อื่นอีกหรือไม่ มือผู้ถวายตัวแด่พระเป็นเจ้าแล้วกำลังมอบพระพรให้ลูกเดชะพระนามพระตรีเอกภาพ ด้วยเหตุนี้ จงทำสำคัญมหากางเขนด้วยความเคารพราวกับเป็นการทำสำคัญมหากางเขนครั้งสุดท้ายในชีวิตของลูก”

คนจำนวนมากมายขาดวัดวันอาทิตย์ด้วยข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เช่น พวกเขามีลูก2-10 คน เลยมาวัดไม่ได้ แล้วคนเราจัดการกับสิ่งที่เขายึดมั่นกันอย่างไร เขาเอาลูกๆมาด้วย หรือไม่ก็ผลัดกันเข้ามิสซาคนละเวลา เรามักมีเวลาให้กับการศึกษาหาความรู้ การทำงาน การหาความสำราญ การพักผ่อนเสมอ แต่เราไม่มี เวลาแม้แต่มาร่วมมิสซาในวันอาทิตย์ พระเยซูเจ้าขอให้ฉันอยู่กับพระองค์อีกสัก 2-3 นาทีหลังมิสซาเลิก พระองค์ตรัสว่า “หลังมิสซาจบแล้วอย่าเพิ่งรีบไป จงอยู่เป็นเพื่อนเราสักครู่หนึ่ง แล้วให้เราได้อยู่กับลูก...”

รูปภาพ

ฉันเคยได้ยินมาว่าองค์พระผู้เป็นเจ้ายังอยู่กับเราอีก 5-10 นาทีหลังรับศีลฉันเลยถือโอกาสถามพระองค์เรื่องนี้ “พระเจ้าข้า จริงๆแล้วพระองค์อยู่กับพวกเรานานแค่ไหนหลังรับศีลมหาสนิท”

พระองค์ตอบว่า “เราอยู่กับลูกตลอดเวลาที่ลูกต้องการให้เราอยู่นั่นแหละ ถ้าหากลูกพูดคุยกับเราตลอดวัน เรารับฟังลูกเวลาที่ลูกพูดกับเราระหว่างทำงานบ้าน เราอยู่กับลูกตลอดเวลา ลูกนั่นแหละเป็นฝ่ายที่จากเราไปเมื่อเลิกมิสซา หรือเมื่อวันฉลองบังคับสิ้นสุดลง ลูกถือวันของพระเจ้าก็จริง และตอนนี้ก็หมดหน้าที่ของลูกแล้ว ลูกไม่ได้คิดหรอกว่าเราอยากมีส่วนร่วมกับชีวิตครอบครัวของลูก อย่างน้อยก็ในวันนั้น”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 9:06 am

“มนุษย์กำหนดแผนการของวัน ของสัปดาห์ ของภาคเรียน ของการพักร้อน และอื่นๆของตน เขารู้ว่าวันไหนจะพัก วันไหนจะไปดูหนังหรือไปงานรื่นเริง หรือไปเยี่ยมคุณย่า-คุณยายหรือเยี่ยมลูกหลาน พบเพื่อนฝูง หรือไปหาความสำราญมีกี่ครอบครัวกันที่อย่างน้อยๆเดือนละครั้งคุยกันว่า ‘วันนี้เราควรเป็นฝ่ายไปหาพระเยซูเจ้าในตู้ศีลบ้าง’ แล้วทั้งครอบครัวก็มาเฝ้าศีลเพื่อพูดคุยกับเรา มีสักกี่คนกันที่มานั่งตรงหน้าเราและสนทนาพูดคุยกับเรา เล่าสารทุกข์สุกดิบตั้งแต่พบกันครั้งก่อนให้เราฟัง เพื่อปรับทุกข์ เพื่อขอสิ่งที่เขาต้องการจากเรา เพื่อให้เรามีส่วนร่วมในเรื่องเหล่านี้ มีสักกี่ครั้งกัน”

รูปภาพ


“เราล่วงรู้ทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งความลับที่ฝังลึกอยู่ในความคิดจิตใจของลูกแต่เราชอบให้ลูกเล่าความเป็นไปในชีวิตให้เราฟัง เราพอใจที่ลูกให้เรามีส่วนร่วมเหมือนกับสมาชิกในครอบครัวของลูกคนหนึ่ง เหมือนเพื่อนสนิทของลูกคนหนึ่งโอ้มนุษย์ช่างสูญเสียพระหรรษทานไปมากมายกระไรหนอเมื่อเขาไม่มีพื้นที่ให้เราอยู่ในชีวิตของเขา!”


รูปภาพ

“เราต้องการช่วยสิ่งสร้างของเราให้รอด เพราะในช่วงที่เปิดประตูสู่สวรรค์นั้นท่วมล้นไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน... ระลึกไว้เถิดว่าไม่มีแม่คนไหนที่เอาเนื้อของนางเองมาเลี้ยงลูกของตนหรอก เราบรรลุถึงความรักระดับสูงที่สุดแล้วเพื่อถ่ายทอดบุญกุศลของเรามายังลูกทุกคน”

“มิสซาคือตัวเราเองที่ยืดชีวิตของเราออกไป มิสซาเป็นเครื่องบูชาของเราบนไม้กางเขนท่ามกลางพวกลูก ปราศจากบุญกุศลแห่งชีวิตและโลหิตของเราแล้วลูกมีอะไรที่จะนำมาถวายเฉพาะพระพักตร์พระบิดาเล่า ไม่มีเลย มีแต่ความน่าเวทนาและบาป...”

รูปภาพ

“ลูกสมควรจะมีคุณสมบัติที่ดีและน่าชื่นชมเหนือกว่าเทวดาและอัครเทวดาเพราะว่าเทวดาไม่มีโอกาสได้ชื่นชมยินดีกับการรับเราเป็นอาหารหล่อเลี้ยงวิญญาณอย่างที่ลูกได้รับ พวกเขาดื่มจากพุน้ำได้หยดเดียว แต่ลูกที่มีพระหรรษทานในการรับเรานั้นมีทั้งมหาสมุทรให้ดื่มกิน”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 9:08 am

อีกเรื่องที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเอ่ยถึงด้วยความปวดร้าวนั้นเกี่ยวข้องกับคนที่มาพบพระองค์ด้วยความเคยชิน คนที่หมดความเลื่อมใสยำเกรงในการพบพระองค์แต่ละครั้ง ความจำเจเปลี่ยนให้บางคนเย็นเฉยจนเขาไม่มีอะไรใหม่ๆมาเล่าให้พระเยซูเจ้าฟังเวลาเขารับพระองค์ พระองค์ตรัสด้วยว่าวิญญาณผู้ถวายตัวจำนวนไม่น้อยหมดความร้อนรักพระองค์แล้ว ทำให้กระแสเรียกของเขาเป็นเพียงอาชีพๆหนึ่ง เป็นอาชีพที่ไม่มีอะไรจะให้อีกแล้วเว้นแต่ในสิ่งที่คนเรียกร้อง แต่เป็นการให้ที่ไร้ความรู้สึก...

รูปภาพ

แล้วพระองค์เอ่ยถึงผลที่ควรเกิดจากการที่เรารับศีลมหาสนิทแต่ละครั้ง มีคนที่รับพระองค์ทุกวันแต่ไม่ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตเลย เขาใช้เวลาสวดภาวนานานหลายชั่วโมง เขาสร้างผลงานหลายอย่าง แต่ชีวิตกลับไม่ได้เปลี่ยนสภาพ บุญกุศลที่เราได้รับในมิสซาควรส่งผลให้เรากลับใจและมีความรักความเมตตาต่อบรรดาพี่น้องของเรา เราผู้เป็นฆราวาสมีบทบาทสำคัญในพระศาสนจักร เราไม่มีสิทธิ์เงียบเสียงเพราะพระได้ส่งเราออกไปประกาศพระวรสารในฐานะที่เราทุกคนได้รับศีลล้างบาปแล้ว เราไม่มีสิทธิ์ซึมซับรับความรู้นี้ไว้คนเดียวโดยไม่แบ่งปันให้ผู้อื่น แล้วปล่อยให้พี่น้องของเราต้องอดตายในขณะที่เรามีอาหารเหลือเฟืออยู่ในมือ เราควรไปเยี่ยมเยียนคนเจ็บหนักที่หมดทางเยียวยาแล้วช่วยเขาด้วยการสวดสายประคำพระเมตตาและสวดภาวนาให้เขาหลุดพ้นจากกับดักและการประจญล่อลวงของปีศาจคนใกล้ตายทุกคนล้วนมีความกลัว ขอเพียงเรากุมมือเขาและพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับความรักของพระเยซูเจ้าและแม่พระ เกี่ยวกับความมหัศจรรย์ที่รอคอยเขาอยู่ในสวรรค์เคียงข้างบรรดาผู้ล่วงลับเพื่อบรรเทาใจเขา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 9:10 am

ช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ในเวลานี้ทำให้เราไม่อาจนิ่งดูดายได้ เราควรให้พระสงฆ์ของเรายื่นมือเข้าไปช่วยในส่วนที่เขาไปไม่ถึง แต่สำหรับเรื่องนี้เราต้องการความกล้าหาญ เราควรรับพระเยซูเจ้า เราควรดำรงชีวิตกับพระเยซูเจ้า เราควรหล่อเลี้ยงตัวเราเองด้วยพระเยซูเจ้าเสียก่อน

รูปภาพ

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะเพิ่มสิ่งเหล่านี้ให้ (มธ.6:33) พระองค์ตรัสทั้งประโยค หมายถึงการแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าทุกวิถีทางและเท่าที่ทำได้ แล้วรอรับทุกสิ่งนอกเหนือจากนี้! เพราะพระองค์เป็นผู้เดียวที่เอาใจใส่ในความต้องการที่เล็กน้อยที่สุดของเรา

ขอขอบคุณพี่น้องที่ให้โอกาสฉันทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมานี้ได้อย่างลุล่วงฉันรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำตามคำมั่นสัญญาของพระองค์ ที่ว่า “มิสซาของลูกจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป” และขอให้ท่านรักพระองค์ด้วยเวลาที่ท่านรับพระองค์ในศีลมหาสนิท!

ขอพระเป็นเจ้าอวยพรท่าน

รูปภาพ

แคทารีน่า รีวาซ
ฆราวาสแพร่ธรรม
Eucharistic Heart of Jesus
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

พุธ พ.ย. 21, 2012 11:33 am

ขอพระคริสตเจ้าทรงพระเจริญเทอญ
ขอบคุณครับพี่ Holy :s015:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 2:08 pm

จะร่วมจิตร่วมใจในเวลามิสซามากยิ่งขึ้น เป็นบทความที่ดีมากๆ :s007:
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

พุธ พ.ย. 21, 2012 9:47 pm

:s002: :s002: :s002:
ตอบกลับโพส