ซับซาฮาราอัฟริกา: ชุมชนมุสลิมทั้งหมดหันมาเชื่อในพระเยซู

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 4:22 am

ซับซาฮาราอัฟริกา: ชุมชนมุสลิมทั้งหมดหันมาเชื่อในพระเยซูเจ้า

By Michele Vu, Christian Post


ประชาชนประมาณ 200,000 คน ในชุมชนมุสลิมของเขตซับซาฮาราอัฟริกา2 ได้หันมาเชื่อในพระเยซูเจ้าภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่นี่เป็นรายงานจากผู้ที่เข้าไปแพร่ธรรมในท่ามกลางชาวมุสลิมบริเวณอัฟริกาตะวันตก


รูปภาพ

Jerry Trousdale (ปัจจุบันเป็น director of 1International Ministries for CityTeam International) ได้เขียนหนังสือชื่อ Miraculous Movements รายงานเรื่องราวของการเผยแพร่ความเชื่อที่ก้าวหน้าอย่างน่าประหลาดใจในท่ามกลางชุมชนมุสลิมในอัฟริกา เขาบรรยายปรากฏการณ์ Miraculous Movements ของพระเจ้าที่ได้เปลี่ยนแปลงจิตใจของชาวมุสลิมเหล่านั้น

รูปภาพ

เจอรี่เขียนเล่าว่า เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงได้บังเกิดขึ้นในท่ามกลางประชากรมุสลิมซึ่งตัวเขาและผู้ร่วมงานได้ทำงานด้านอภิบาลอยู่นั้น เหตุการณ์เหล่านั้นได้แก่

-- พระเป็นเจ้าทรงใช้ชายและหญิงซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดานับพันคนให้มาเป็นผู้ทำงานของพระองค์ในการประกาศความเชื่อ

-- ชาวมุสลิมนับหมื่นคนที่มีความรู้ทางคริสต์ศาสนาแล้ว ได้อุทิศตนในการจำศีลอดอาหารและสวดภาวนาเพื่อการประกาศพระวรสารไปสู่ชุมชนใหม่ๆต่อไป

-- ชุมชนมุสลิมที่ยังไม่เคยมีโบสถ์ในท่ามกลางพวกเขามาก่อนเลย บัดนี้ได้มีโบสถ์ที่สร้างขึ้นมากกว่า 50 โบสถ์แล้ว และบางแห่งมีโบสถ์มากกว่า 100 โบสถ์ ภายในเวลาเพียงสองปีเท่านั้น

-- ในบรรดาผู้ที่เคยเป็นชีค อิหม่าม และนักรบมุสลิม มีประมาณ 20 เปอร์เซนต์ที่กลับกลายมาเป็นผู้นำคริสตชนในเขตของเขา

เจอรี่เล่าว่า “พวกเรามาอยู่ที่อัฟริกาได้ 7 ปีแล้ว และในบรรดาชาวอัฟริกันที่นี่ ซึ่งมีกลุ่มชนที่แตกต่างกัน 81 กลุ่ม จะมีชาวมุสลิมอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ที่ปฏิบัติภารกิจที่โดดเด่นในด้านการอภิบาลและประกาศความเชื่อในท่ามกลางพวกเขา และในบางกลุ่มจากใน 81 กลุ่มนี้ มีประชากรที่เป็นมุสลิมทั้งหมด” เจอรี่ได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า “เรากำลังพูดถึงกลุ่มต่างที่อยู่ในเขตที่ค่อนข้างเข้มงวดในศาสนาอิสลาม ในเขตนี้มีประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามสืบเนื่องกันมานานนับร้อยปีทีเดียว”

รูปภาพ

“เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นข่าวดี ดูเหมือนพระเป็นเจ้าจะทรงดำเนินงานของพระองค์เหมือนในหนังสือกิจการของอัครสาวก” เจอรี่ ผู้อำนวยการของสำนักงานนี้กล่าว “สานุศิษย์ของพระองค์ได้เกิดขึ้นมากมายเป็นทวีคูณ แม้แต่พระสงฆ์ อิหม่ามและชีคก็หันมาเชื่อในพระเยซูเจ้า ดังนั้นจึงไม่น่าสงสัยเลยว่าอีกไม่นาน เราคงสามารถทำภารกิจของเราให้เสร็จสมบูรณ์ได้ในคนรุ่นนี้เอง”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 4:24 am

ถึงแม้จะมีบางกรณีที่ค่อนข้างจะเจ็บปวดเกิดขึ้นด้วย จากหนังสือของเขาได้เขียนเล่าเรื่องราวของชายผู้ที่เคยเป็นมุสลิมท่านหนึ่ง เขาเป็นนักธุรกิจตาบอดซึ่งประสพเหตุการณ์ที่ไม่สามารถลืมได้ ชายผู้นี้ชื่อ Zamil (ชื่อที่กล่าวในหนังสือเป็นชื่อที่สมมุติขึ้น เพื่อความปลอดภัย) เขาเคยเป็นนักธุรกิจที่ประสพความสำเร็จในชีวิตอีกทั้งเป็นผู้นำที่ได้รับความเคารพนับถือของมัสยิดแห่งหนึ่ง ในคืนหนึ่งเขาฝันไปว่าท่าน อิซา อัล มาซิฮ (พระเยซู พระแมสสิยาห์) ได้ปรากฏแก่เขาและตรัสว่า พระองค์เป็นแสงสว่างของโลก ภายหลังจากที่เขาฝันแล้ว เขาก็มองอะไรไม่เห็นอีกเลย

เขาได้ไปพบกับคริสตชนผู้หนึ่ง และคริสตชนผู้นั้นได้พาเขาไปที่แคมป์สวดภาวนา และทั้งๆที่ได้สวดภาวนาแล้ว สายตาของเขาก็ยังคงมองอะไรไม่เห็น ต่อมาเขาไปพบกับ Mama Nadirah ซึ่งเป็นผู้จัดการของแคมป์สวดภาวนานี้ และเธอได้เป็นผู้ดูแลเขา ครอบครัวของ Zamil ซึ่งรวมทั้งภรรยาของเขาได้ละทิ้งเขาในทันทีที่รู้ว่าเขาได้มาเป็นคริสตชน Zamil ต้องกลายเป็นคนตาบอด ไม่มีบ้าน และสูญเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมดหลังจากที่เขามาเป็นคริสตชน

ภายใต้การดูแลของ Mama Nadirah ซามิล ค่อยๆเรียนรู้พระคัมภีร์และเขาได้เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้าที่ตรัสว่า ให้ศิษย์ของพระองค์ออกไปประกาศข่าวดีของพระองค์แก่ผู้อื่น ทั้งๆที่ซามิล ตาบอด แต่เขาได้บอกกับ Mama Nadirah ว่า เขาตั้งใจจะไปหมู่บ้านอื่นๆและเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าในการประกาศข่าวดีของพระองค์ ทุกๆคนบอกกับเขาด้วยความอ่อนโยนว่า เขาไม่สามารถไปได้หรอก เพราะเขาตาบอด

แต่เช้าวันหนึ่ง ซามิลก็นั่งรถแท็กซี่ไปยังชุมชนมุสลิมที่อยู่ใกล้ๆ ไม่กี่วันต่อมา ซามิลก็โทรศัพท์ถึง Mama Nadirah และบอกเธอว่า เขาอยู่ที่ไหน และต่อมาภายในไม่ถึงหนึ่งเดือนเขาก็โทรศัพท์มาบอกอีกว่า โบสถ์ได้ถูกสร้างขึ้นในชุมชนที่เขามาประกาศพระเยซูเจ้านี้แล้ว และเขากำลังจะกลับบ้าน เพื่อเตรียมตัวจะไปประกาศในชุมชนอื่นต่อไป

เจอรี่เขียนเล่าว่า “Mama Nadirah (เธอเป็นหญิงหม้าย) ได้ทำให้ชายนักธุรกิจที่ประสพความสำเร็จให้กลายเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า ชายมุสลิมที่ตาบอดหลังจากได้เห็นแสงสว่างของโลก นี่เป็นอัศจรรย์ประการหนึ่งในหลายๆเรื่องซึ่งเกิดขึ้นทุกๆวันที่นี่ อันทำให้เกิดการปฏิบัติงานของผู้ติดตามพระคริสต์รุ่นใหม่ในทั่วทุกมุมโลก”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 4:28 am

เจอรี่ เทราสเดล แสดงความสำนึกในพระอานุภาพของพระเป็นเจ้าที่ทรงสำแดงให้เห็นในปรากฏการณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ท่ามกลางชาวมุสลิมในอัฟริกา เขายังให้ความคิดเห็นบางอย่างเกี่ยวกับโครงการประกาศข่าวดี ซี่งน่ากระทำด้วยวิธีการดังนี้

1. ดำเนินงานอย่างช้าๆในตอนแรกเพื่อที่จะไปต่ออย่างรวดเร็วในภายหลัง – พระเยซูเจ้าทรงเลือกศิษย์ตามวิธีการของพระองค์ เพื่อเตรียมพวกเขาให้ทำงานไปทั่วโลก

2. มุ่งไปยังกลุ่มคนเล็กๆก่อนเพื่อจะชนะใจคนจำนวนมาก – พระเยซูเจ้าทรงสั่งสอนศิษย์ 12 คนเป็นพิเศษเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องมุ่งความสนใจในคนเพียง สามสี่คนเป็นพิเศษในระยะแรกก่อน

3. ให้ความเอาใจใส่ต่อคนทั้งครอบครัวหรือทั้งกลุ่ม ไม่ใช่ต่อคนเพียงบางคน
– พระคัมภีร์พระธรรมใหม่กล่าวว่าคนในครอบครัวทุกคนได้กลับใจมาสู่ความเชื่อ

4. ประกาศข่าวดีในสถานที่และในเวลาที่ผู้คนพร้อมที่จะฟังเท่านั้น – พระเป็นเจ้าจะทรงเตรียมสถานที่และเวลาให้สำหรับการประกาศข่าวดีต่อประชาชนในครอบครัวหรือชุมชนของพวกเขา

5. เริ่มประกาศด้วยเรื่องการเนรมิตสร้างโลกก่อน ไม่ใช่เริ่มด้วยพระคริสต์ - ชาวมุสลิมต้องการการเริ่มต้นด้วยพระคัมภีร์ปฐมกาลเพื่อจะได้เห็นถึงความเหมือนและความแตกต่างระหว่างคัมภีร์โกหร่านและพระคัมภีร์ไบเบิลซึ่งบรรยายเกี่ยวกับพระเจ้า

6.การประกาศเป็นเรื่องของการค้นพบและการเชื่อ ไม่ใช่การสอนและความรู้

7. ให้ประชาชนเป็นยอมรับเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าก่อนแล้วเขาจึงจะเปลี่ยนศาสนา ไม่ใช่เปลี่ยนศาสนาก่อนแล้วจึงเป็นศิษย์ – พระเยซูเจ้าทรงเลือกคนธรรมดาและให้พวกเขาเดินไปพร้อมกับพระองค์ในขณะที่พระองค์ทรงเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าให้พวกเขารู้ และไม่ช้าพวกเขาก็จะมาถึงจุดที่จะต้องตัดสินใจว่าจะติดตามพระเยซูเจ้าหรือไม่ นี่เป็นรูปแบบการมาเป็นศิษย์ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการยอมรับเป็นศิษย์ก่อนและจะนำไปสู่การเปลี่ยนศาสนา ตัวอย่างของเอวาในหนังสือปฐมกาลที่เล่าไว้นั้น เธอต้องการความรู้แทนที่จะเชื่อฟังพระเป็นเจ้าและนั่นนำเธอไปสู่การทำบาป

8. ผู้สั่งสอน จะต้องทำให้ผู้คนค้นพบและเชื่อฟังความจริงในพระคัมภีร์ตั้งแต่เริ่มแรก

9. ใช้เวลายาวนานเพื่อเตรียมศิษย์ของพระเยซูเจ้าที่เข้มแข็ง และกระตุ้นเร่งเร้าจิตใจของพวกเขา

10. คาดหวังที่จะไปยังสถานที่ยากลำบากที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 4:32 am

“บ่อยครั้งทีเดียวที่ ผู้อภิบาลสนใจที่จะประกาศข่าวดีในลักษณะของการตลาด (mass marketing) โดยการสร้างผู้บริโภคให้มากพอที่จะขับเคลื่อนดวามต้องการ เขาเหวี่ยงแหออกไปอย่างกว้างขวาง คาดหวังว่าจะได้ปลามากมาย ทำให้พระวรสารถูกลดคุณค่าลงเป็นเพียงเครื่องมือของการเปลี่ยนศาสนาแทนที่จะทำให้เกิดความเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า อาศัยความหวัง (ไม่ใช้การวางแผน)” เจอรี่ เขียนเล่าต่อไปว่า “พระวาจาสุดท้ายของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงสั่งบรรดาศิษย์ให้ไปสั่งสอนแก่ทุกชนชาติและทำให้พวกเขามาเป็นศิษย์ของพระองค์....’จงสอนพวกเขาให้ปฏิบัติตามทุกอย่างที่เราได้บอกท่านไว้’ (มท. 29: 19-20)”

“เรื่องที่น่าอายสำหรับพวกเราคือชาวมุสลิมในบรรดากลุ่มที่แตกต่างกันนั้นได้มอบถวายชีวิตของพวกเขาแด่พระเยซูเจ้าในอัตราที่รวดเร็วกว่าการเจริญเติบโตของพระศาสนจักรในอเมริกาเหนือเสียอีก และสิ่งนี้เกิดขึ้น ไม่ใช่ด้วยการเผยแพร่พระวรสารไปเรื่อยๆตามที่ต่างๆ แต่ด้วยการมุ่งความสนใจตั้งแต่วันแรกในการสร้างศิษย์ของพระเยซูเจ้าที่เชื่อฟังซึ่งตั้งใจที่จะติดตามพระเยซูเจ้าและเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระองค์ นี่คือเส้นทางเดินซึ่งชาวมุสลิมนับหมื่นนับแสนของอัฟริกาได้มาสู่พระเยซูเจ้า”



-----------------------------------------------

หมายเหตุ

1. International Ministries for CityTeam International เป็นองค์กรอาสาสมัคร ของเอกชนชาวอเมริกันซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างที่พักอาศัยให้แก่ผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย กิจการเริ่มต้นในสหรัฐก่อนแล้วจึงขยายงานไปนอกประเทศโดยเฉพาะที่อัฟริกา และมีการส่งมิชชันนารีเข้าไปด้วย

2. ประเทศในทวีปแอฟริกาที่อยู่ใต้เขตทะเลทรายซาฮารา หรือดินแดนที่อยู่ต่ำกว่าลุ่มแม่น้ำไนล์ของอียิปต์ ถือว่าเป็นเขตซับซาฮารา (sub-Saharan) ที่มีหลายประเทศรวมอยู่ด้วย และประเทศในเขตซับซาฮาร่าได้ชื่อว่ายากจนที่สุดในโลก เนื่องจากภูมิประเทศจะไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในด้านต่างๆ

ประเทศในเขตซับซาฮาราแบ่งออกเป็นสองกลุ่มตามภาวะอากาศ คือกลุ่มแรกมีภูมิประเทศแบบร้อนชื้นในเขตร้อน และอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ระหว่างเส้นศูนย์สูตรที่อากาศร้อนจัด หากประเทศใดไม่มีภูมิประเทศติดกับทะเลหรือมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ก็จะอยู่ในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ไม่เหมาะกับการทำการเพาะปลูก

สภาพภูมิประเทศของซับซาฮาราเป็นตัวบ่งชี้ทำให้เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศมีฐานะยากจน แต่ในเวลาเดียวกันความยากจนไม่ได้เกิดขึ้นจากภูมิประเทศเพียงอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นเพราะการบริหารนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลแต่ละประเทศ, การปกครอง ที่มีการคอร์รัปชันสูง, ความขัดแย้งระหว่างชนเผ่าต่างๆในประเทศที่มีประชากรหลายเชื้อชาติอยู่รวมกัน และยังมีประเทศที่ตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของชาติตะวันออก เมื่อได้รับเอกราชแล้วไม่สามารถพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป ซึ่งทางสหประชาชาติหรือยูเอ็นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องวางแผนเร่งพัฒนาภูมิประเทศเหล่านี้ เนื่องจากมีประชากรจำนวนมากถึง 700.3 ล้านคน ยังมีฐานะยากจนหรือมีรายได้ต่ำกว่าวันละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงทศวรรษ 1960 ชาติต่างๆในเขตซับซาฮารามีฐานะยากจนต้องได้รับความช่วยเหลือจากนานาประเทศ ซึ่งมูลค่าการช่วยเหลือจากต่างชาติมายังประเทศในกลุ่มซับซาฮารามีมากถึง 625,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ปี 1960 เป็นต้นมา แต่ความช่วยเหลือจากนานาชาติไม่ทำให้เศรษฐกิจของซับซาฮาราพัฒนาเติบโตดีขึ้น ซึ่งการศึกษาของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ยูนิเวอร์ซิตี พบว่าในปี 1976-2000 การค้าระหว่างประเทศของซับซาฮาราอยู่ที่ 1% ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ประชาชนในเขตซับซาฮารา ยังมีผู้ที่ติดเชื้อเอดส์มากด้วย ในปี 2010 ผู้ที่ติดเชื่อเอดส์มีประมาณ 22.9 ล้านคน

http://www.palangjai.0fees.net/SubSahara.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 12:41 pm

ขอบคุณพระเจ้า
:s005: :s005:
magicgreen
โพสต์: 361
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 08, 2012 8:57 pm

อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 1:47 pm

แล้วพระองค์ก็ทรงกระทำให้มนุษย์เห็นว่า พระอาณาจักรของพระองค์จะไม่มีวันเสื่อมสลายและพระวาจาของพระองค์จะแพร่ไปกว้างไกลสี่มุมโลก ลูกขอสรรเสริญสรรพานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ :s002:
(ลูกวอนขอพระองค์โปรดประทานแสงสว่างแก่ชาวมุสลิมที่รักพระองค์แต่ไม่ได้ทำอย่างที่พระองค์ทรงสอนให้ทำ ให้พวกเขาได้รับแสงสว่างและกลับใจโดยเร็วเทอญ :s002: )
แก้ไขล่าสุดโดย magicgreen เมื่อ อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 3:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 3:11 pm

:s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 5:07 pm

:s015:
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

อาทิตย์ พ.ย. 25, 2012 10:50 pm

AMEN
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

จันทร์ พ.ย. 26, 2012 8:51 am

Aman :s002:
sdjakapong
โพสต์: 164
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm

จันทร์ พ.ย. 26, 2012 8:43 pm

www.palangjai.0fees.net ฝากบอกผู้ดูแลเว็บนี้ด้วยครับ ผมเข้าไม่ได้มันฟ้องว่าไม่ปลอดภัย ยังไงก็ฝากช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ อยากเข้าไปอ่านใจแทบขาด :s015: :s015:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Joseph visit
โพสต์: 12
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 07, 2011 9:23 pm

พุธ พ.ย. 28, 2012 12:06 am

ตามมาดู
ตอบกลับโพส