“มารู้จักพระบิดากันเถอะ”

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Yan Agape
โพสต์: 1238
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

พุธ ม.ค. 08, 2014 8:40 am

สวัสดีครับ ผมได้อ่านหนังสือฉบับบาง (21 หน้า) “การฉลอง 8 วันกลับสู่บ้านพระบิดา” ฉบับภาษาไทยแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ โดยคุณพ่อสุรินทร์ ชุนฟุ้ง อ่านแล้วเกิดความสนใจจนต้อง Googled หาฉบับภาษาอังกฤษอ่าน อ่านจบสองภาษาก็บังเกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าอยากให้คุณผู้อ่านได้สัมผัสถึงความรัก ความเมตตา ความเสียสละของพระบิดาที่มีต่อพวกเรามนุษย์ ลูกของพระองค์ สุดรักในบรรดาสิ่งสร้างของพระผู้ทรงศักดา อมตะนิรันดรสามารถให้กำเนิดก่อเกิดคุณพี่เทวดามวลมนุษย์ ทุกสิ่งในจักรวาลในผลงานของพระองค์ เป็นนายไม่สูงเกินอาจเอื้อมเป็นบิดาผู้ใจอารี เป็นครูผู้ฝึกสอนและเป็นผู้ประเมินผลตรวจสอบ ที่ไม่มีผู้ใดสิ่งใดสามารถหลบหลีกสายพระเนตร

ศูนย์กลางแห่งความเชื่อในพระศาสนาจักรคาทอลิกก็คือ “พระตรีเอกภาพ” สามพระองค์ในพระเป็นเจ้าองค์เดียวกัน พระบิดา พระบุตร พระจิต

พระศาสนจักรสอนพวกเราว่าพระบิดาส่งพระบุตรมาเพื่อพาเรากลับบ้านไปหาพระองค์และยังส่งพระจิตมานำเรา บนหนทางกลับสู่บ้านพระบิดา พระศาสนจักรจัดการสมโภชเฉลิมฉลองปี 1997 เป็นการเทิดพระเกียติยกถวายแด่พระบุตร พระเยซูเจ้า ปี 1998 แด่พระจิต และปี 1999 แด่พระบิดา
นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่าในพื้นที่ทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน (Mediterranean Sea) ของสมัยโบราณ มี 3 ชนชาติประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรือง มีอิทธิพลที่แผ่กระจายในอดีตมาถึงปัจจุบัน
1. โรมัน (Roman): กฎหมาย
2. กรีก (Greek): เฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง
3. ยิว (Jewish): หัวใจ ใหญ่สุดใน 3 ชนชาตินี้เพราะยิวให้ของขวัญล้ำค่าแก่พวกเรามวลมนุษย์ พระเยซูเจ้า พระบุตร พระผู้ไถ่ไงละครับ

ปัจจุบันนี้ พระศาสนจักรคาทอลิกมีประชากร 1.2 พันล้านคน คริสตชนทุกสาขา ทุกนิกายมีจำนวน 2.18 พันล้านคน เกือบ 1 ใน 3 ของประชากรโลก (7,134 พันล้าน)

การไถ่บาปของมวลมนุษย์นี้บังเกิดขึ้นได้ด้วยมนุษย์ 2 คน ชาวยิวมีส่วนร่วมด้วยความเชื่อความวางใจ ความรักต่อพระเป็นเจ้า อย่างสิ้นสุดจิตใจ สิ้นสุดชีวิตและสิ้นสุดวิญญาณ

พระแม่มารีพรหมจารีนิรันดร ผู้มีความกล้าหาญชาญชัยตอบรับคำเชิญของพระเป็นเจ้าให้เป็นพระมารดาของพระองค์ให้กำเนิดพระบุตร พระเยซูเจ้าด้วยพระศักดาของพระจิต เสี่ยงต่อการถูกสบประมาทเหยียดหยามและการลงโทษที่อาจถึงตาย ผิดกฎหมายที่ตั้งท้องนอกสมรส

นักบุญโยแซฟ สายโลหิตของกษัตย์ดาวิด คู่หมั้นของพระแม่มารี ที่เชื่อเทวดาที่อธิบายการตั้งท้องของพระแม่ด้วยพระศักดาของพระจิต ถือศีลพรหมจรรย์ตลอดชีพ เป็นหัวหน้าครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ปกป้อง เลี้ยงดู พระแม่มารี และ พระเยซูเจ้า ทำให้พระองค์เป็นผู้สืบสายโลหิตของกษัตย์ดาวิด สมดังที่ประกาศกได้ทำนายกล่าวถึงมาตลอด

และสุดยอดของการเสียสละในการไถ่บาปของมวลมนุษย์นี้ก็คือพระบุตร พระเยซูเจ้าที่ทรงน้อมรับพระประสงค์ของพระบิดา เสด็จลงมาจากสวรรค์ บังเกิดเป็นมนุษย์ จากพระแม่มารีด้วยพระศักดาของพระจิตเจ้า

พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า “เราลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อทำตามน้ำใจของเรา แต่มาทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาผู้ทรงส่งเราลงมา และน้ำพระทัยพระบิดาผู้ส่งเรามาคือทุกคนที่พระองค์ทรงมอบหมายให้เรา เราจะไม่ทำให้เสียไปแต่จะทำให้เขาได้กลับคืนชีพใหม่ในวันสุดท้าย” (ยน.6.38-39)

“ในบ้านพระบิดาของเรา มีที่อยู่มากมาย ถ้าไม่มี เราคงได้บอกท่านแล้ว เรากำลังไปเตรียมที่ให้ท่าน เมื่อเราไปเตรียมที่ให้ท่านแล้ว เราจะกลับมารับท่านไปกับเรา ให้ท่านอยู่ในที่ที่เราอยู่ด้วย ...เราเป็นหนทาง สัจจะและชีวิต ไม่มีใครมาหาพระบิดานอกจากผ่านทางเรา” (ยน. 14,23)

ในพิธีบูชามหามิสซาเป็นการถวายสักการบูชาแด่พระเป็นเจ้า พระบิดา และบทสวด “ข้าแต่พระบิดา” เป็นการสวดถึงพระองค์ เป็นบทสวดที่พระบุตร พระเยซูเจ้า ทรงสอนพวกเรา ครอบคลุมถึงความรัก ความเมตตาที่พระบิดาทรงมีต่อพวกเราลูกๆของพระองค์ ดูแลเลี้ยงดู ฝ่ายร่างกายและวิญญาณ และให้พวกเรามีความรัก ความเมตตาต่อผู้อื่น เหมือนพระองค์ทรงรัก ทรงเมตตาพวกเราทุกคนเท่าเทียมกัน

พระบิดาไม่ใช่จะอยู่ในแต่พระธรรมเก่า มีรูปทรงแก่เฒ่าชรา ผมขาวโพลน พระองค์ทรงอมตะ ทรงฤทธิ์ศักดา ไม่แก่ไม่เฒ่า เพราะความแก่ ความเฒ่า ก็คือความเสื่อมสลายของสังขารร่างกาย รูปทรง พระองค์ทรงมีหัวใจ มีความรู้สึก ได้ทรงเปิดเผยให้ประกาศกได้รับรู้

“บุตรย่อมให้เกียรติแก่บิดาของตน และคนใช้ย่อมให้เกียติแก่นายของตน ถ้าเช่นนั้น เราผู้เป็นพระบิดา เกียรติของเราอยู่ที่ไหน? และเราผู้เป็นเจ้านายของพวกเจ้า พวกเจ้าให้เกียรติแก่เราที่ไหน?” (มลค.1, 6)

คุณผู้อ่านครับมาทำความรู้จักกับพระบิดาด้วยการถวายตัวเราแด่พระองค์เหมือนพระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำในงานเทศกาลถวายตัว (Feast of Dedication) พระองค์ทรงสอนเราว่าเมื่อพระองค์ทรงถวายตัวแด่พระบิดา เราก็เช่นกันสามารถถวายตัวได้ด้วยสัจจะ (ยน. 17, 19-21)

“เวลากำลังมาถึง และมาถึงแล้วขณะนี้ เมื่อผู้นมัสการจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตใจและด้วยสัจจะ การนมัสการเช่นนี้แหละที่พระบิดาทรงแสวงหา เพื่อให้มานมัสการพระองค์ พระเป็นเจ้าทรงเป็นจิต คนเหล่านั้นที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตใจและด้วยสัจจะ” (ยน 4, 23-24)

พันธะสัญญาได้มอบรูปแบบแก่เราแล้วครับ เช่นงานฉลองพลับพลา (Feast of Tabernacle) และงานฉลองถวายตน (Feast of Dedication), (ลนต, 23, 33-43/ครน.7,1-9/ มคบ 4, 59/มคบ 2, 1-18)

งานฉลองทั้งสองโอกาสประกอบด้วยการเตรียมตัว 7 วันและทำการฉลองในวันที่ แปด ด้วยการชุมนุมภาวนา เรียกว่า ฉลองอัฐมวาร เป็นฉลองพระบิดาเจ้าแห่งมวลมนุษยชาติ ให้รู้จัก รัก รับใช้ และถวายเกียติแด่พระองค์เพราะพระองค์ไม่เพียงแต่ประทับอยู่ในหีบพันธะสัญญา ในวัด ในตู้ศีลเท่านั้น พระองค์จะทรงประทับอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกคนที่ได้รับการชำระและถวายตนแด่พระองค์

การฉลองอัฐมวารนี้ ถ้าทำเป็นทางการจะจบลงด้วยวันอาทิตย์แรกของเดือนที่ 8 (สิงหาคม) แต่ทำได้ตลอดทั้งปีในรูปแบบของ 8 วัน เป็นแบบส่วนตัวเรียบง่าย: (1) ร่วมมิสซาตลอด 8 วัน (2) แก้บาปวันใดวันหนึ่งก็ได้ใน 8 วัน (3) รับศีลด้วยวิญญาณบริสุทธิ์และใจสะอาด *(4) สวดบทถวายตัวตามแบบสวดเฉพาะทั้งหมดสำหรับถวายตัวแด่พระบิดาเจ้า

โรมันคาทอลิกทุกคนมีบุญที่รักเคารพ ศรัทธาต่อพระแม่มารี พระมารดาของพระเป็นเจ้า แม่พาเรามาหาพระเยซูเจ้า พระบุตร พระเยซูเจ้าพาเรามาหาพระบิดา และเชิญพระจิตให้ทรงนำทาง ประทานความสว่าง ช่วยเหลือพวกเราในการเดินทางกลับบ้านของพระบิดาเจ้า

ในความเงียบสงบลึกของวิญญาณ เป็นที่ประทับของพระเป็นเจ้า ทุกคนเกิดมาด้วยพระพรอันนี้ ภายในตัวเราทุกคนมีพระบัลลังก์ที่พระเป็นเจ้าทรงสร้าง แต่พระบัลลังก์นี้ได้ถูกฝัง ได้ถูกปนปลอม
และได้ถูกครอบคลุมด้วยกระแสเสียงของโลก

เพื่อเราจะได้ค้นพบที่อันลึกลับและประเสริฐนี้อีกให้เราภาวนาว่า “ลูกรักพระองค์ พระบิดาเจ้า และลูกถวายตัวแด่พระองค์”


กราบขอบพระคุณพระบิดา พระบุตร พระจิต พระแม่มารี คุณพ่อโจแซฟ

ขอบคุณ: Fr. Michael O’ Carroll C.S.SP.
St. Andrews Production
คุณพ่อสุรินทร์ ชุนฟุ้ง

ขอบใจ: น้องนิพนธ์ น้องเล็ก (พิมพ์ ตรวจสำนวน)

* ลิงค์ God Our Father, Consecration and Feast Day for The Father of All Mankind, ดาว์นโหลดได้ สนใจฉบับแปลภาษาไทย ติดต่อ ผู้เขียนหรือ Post Email Address จะส่งให้เป็นรายบุคคลเพราะฉบับภาษาไทยไม่มี ลิงค์ให้ดาว์นโหลด

http://www.sdbv.org/html/consecration__ ... for_t.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Catholic_Church
http://www.pewforum.org/2011/12/19/glob ... nity-exec/
http://en.wikipedia.org/wiki/World_population
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

พฤหัสฯ. ม.ค. 09, 2014 1:40 am

ขออนุญาตแบ่งปันเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ :s002:

ยน 14:6-9
พระเยซูตรัสแก่เขาว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง(alētheia) และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาเว้นไว้มาทางเรา ถ้าท่านทั้งหลายได้รู้จักเราแล้ว ท่านก็คงจะได้รู้จักพระบิดาของเราด้วย ตั้งแต่นี้ไปท่านก็รู้จักพระองค์และได้เห็นพระองค์" ฟีลิบจึงทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า ขอสำแดงพระบิดาให้ข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นข้าพเจ้าจึงจะพอใจ" พระเยซูตรัสว่า "ฟีลิบเอ๋ย เราได้อยู่กับท่านนานแล้วเช่นนี้ และท่านยังไม่รู้จักเราหรือ ผู้ที่ได้เห็นเราก็ได้เห็นพระบิดา เหตุไฉนท่านจึงว่า 'ขอสำแดงพระบิดาให้ข้าพเจ้าทั้งหลายเห็น?'

จากพระวจนะข้างต้น เราก็เห็นได้ว่า นอกจากทางพระบุตรแล้ว ไม่มีทางไปถึงพระบิดา และ จะรู้จักพระบิดาได้ ก็โดยทางพระบุตรของพระองค์ทางเดียวเท่านั้น เหตุใดจึงพูดว่ารู้จักพระบิดาได้โดยพระบุตร
เราคุ้นเคยดีกับคำว่า "รู้หน้าไม่รู้ใจ" มนุษย์เราเห็นหน้ากัน เราก็ไม่อาจรู้จักเขาได้ ไม่อาจรู้นิสัยเขาได้ จะทำความรู้จัก ต้องมีการสื่อสาร พูดคุยกัน ต้องอาศัยคำพูด เช่นเดียวกัน พระเจ้าพระบิดาทรงเปิดเผยพระองค์โดยสิ่งสร้างต่างๆแล้วก็จริง แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับการที่พระองค์ทรงส่งพระบุตร ผู้เป็นพระวาทะของพระองค์เองแก่เรา เพื่อให้เรารู้จักพระองค์โดยพระวาทะนั้น และโดยพระวาทะ เราก็จะได้ทำความรู้จักกับพระองค์อย่างบริบูรณ์ เพราะความสมบูรณ์ทุกประการล้วนอยู่ในพระบุตร

ยน 1:1
เมื่อเดิมนั้นพระวาทะเป็นอยู่แล้ว และพระวาทะนั้นได้อยู่กับพระเจ้า และพระวาทะนั้นเป็นพระเจ้า

คุณผู้อ่านครับมาทำความรู้จักกับพระบิดาด้วยการถวายตัวเราแด่พระองค์เหมือนพระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำในงานเทศกาลถวายตัว (Feast of Dedication) พระองค์ทรงสอนเราว่าเมื่อพระองค์ทรงถวายตัวแด่พระบิดา เราก็เช่นกันสามารถถวายตัวได้ด้วยสัจจะ (ยน. 17, 19-21)
จากพระวจนะใน ยอห์น 17:19-25 หากเราลองไปอ่านดูก็จะเห็นถึงพระประสงค์ของพระองค์ว่าทรงต้องการให้เราเป็นเช่นไร คำตอบคือทรงต้องการให้เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อย่างที่พระองค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระบิดา พระองค์แนบสนิทเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างไร เราผู้เชื่อก็เป็นเช่นนั้น พระองค์ไม่ได้เป็นสองแล้วมาแนบสนิทเป็นหนึ่ง หากแต่เป็นพระเจ้าพระองค์เดียวมาแต่แรก ความเป็นหนึ่งนี้ไม่ใช่ทำขึ้นมา แต่เป็นพระธรรมชาติของพระองค์อยู่แล้ว ในทางกลับกัน ความไม่เป็นหนึ่งทุกประการไม่ได้มาจากพระองค์ หากแต่มาจากมาร มันทำให้มนุษย์แยกจากพระเจ้าที่สวนเอเดน ให้มนุษย์แตกแลกกันเอง ที่หอบาเบล และแบบเล็งแห่งกรุงบาบิโลน(รากศัพท์จากบาเบล) ก็ไม่ได้มาจากพระองค์ สักวันหนึ่งคงจะล่มสลายครับ

การที่เราจะเป็นหนึ่งได้เช่นพระองค์กล่าว ผมท้าครับ ต่อให้เปิดสัมนาความเป็นหนึ่งอีกกี่หมื่นรอบ ก็ไม่มีทางเป็นหนึ่งกันหรอกครับ เพราะความเป็นหนึ่งไม่ใช่ของทำมือ แต่ต้องมาจากพระเจ้า
เคล็ดลับอยู่ที่ เราต้องอยู่ในพระบุตร และพระบุตรอยู่ในเรา(ท้ายที่สุดก็ต้องไปที่พระบุตรอยู่ดี)อย่างเดียวกันกับที่พระบุตรอยู่ในพระบิดา แล้วพระบิดาในพระบุตร (แต่ไม่ใช่เราจะไปมีเทวสภาพร่วมกับพระองค์นะครับ เราก็ยังเป็นคน แต่แนบสนิทกับพระองค์) เราอยู่ในพระองค์ ก็จะถูกกักขัง จะทำอะไรตามใจไม่ได้ โอหังไม่ได้ มีทิฏฐิไม่ได้ ทำบาปไม่ได้ เห็นแก่ตัวไม่ได้ ฯลฯ ตัวตนคนเก่าต้องถูกขจัด อย่างท่านเปาโลกล่าวเสมอว่าท่านเป็นทาสของพระคริสต์ เช่นนี้ จึงจะเป็นหนึ่งได้ เช่นนี้ จึงเรียกว่าได้รู้จักพระบิดา
“เวลากำลังมาถึง และมาถึงแล้วขณะนี้ เมื่อผู้นมัสการจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตใจและด้วยสัจจะ การนมัสการเช่นนี้แหละที่พระบิดาทรงแสวงหา เพื่อให้มานมัสการพระองค์ พระเป็นเจ้าทรงเป็นจิต(pneuma) คนเหล่านั้นที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตใจ(pneuma)และด้วยสัจจะ(alētheia)” (ยน 4, 23-24)
หากเราดูจากภาษาเดิม ก็จะเห็นได้ว่า การนมัสการพระบิดา ต้องอาศัย พระจิต และยังอาศัยพระบุตรผู้ทรงเป็นความจริงด้วยเช่นกัน เพราะหากไม่ได้รับการไถ่โดยพระบุตร และโดยพระจิตในเรา เราก็มิอาจเรียกพระเจ้าว่า "อับบา พ่อจ๋า" ได้อย่างสนิทชิดเชื้อ(รม8:15,กท4:6) และโดยพระบุตรหัวปีนี้เอง ที่นำเราซึ่งเป็นบุตรทั้งหลายนมัสการ เรียก "อับบา พ่อจ๋า"ได้
พันธะสัญญาได้มอบรูปแบบแก่เราแล้วครับ เช่นงานฉลองพลับพลา (Feast of Tabernacle) และงานฉลองถวายตน (Feast of Dedication), (ลนต, 23, 33-43/ครน.7,1-9/ มคบ 4, 59/มคบ 2, 1-18)
พอดีคุณ Yan Agape ยกเรื่องเทศกาลฉลองพลับพลา หรือตั้งทับอาศัย หรืออยู่เพิง ขึ้นมาพูด จะเรียกว่าอะไรก็ตาม แต่เทศกาลนี้ ให้ภาพที่น่าสนใจภาพหนึ่ง ซึ่งเกือบทุกคนก็จะละเลย ก็คือ รายละเอียดของเครื่องบูชาในวันเตรียมทั้งเจ็ดวัน บันทึกใน กันดารวิถี บทที่ 29 ข้อ 12 ถึง 32 พระคำพระองค์ไม่เคยบันทึกอะไรไร้สาระเลย ทุกสิ่งมีความหมาย
โดยจะสรุปได้ดังนี้
วันที่หนึ่ง วัว 13 แกะตัวผู้ 12 ลูกแกะหนึ่งขวบ 14 แพะผู้ 1 และอื่นๆ
วันที่สอง วัว 12 แกะตัวผู้ 12 ลูกแกะหนึ่งขวบ 14 แพะผู้ 1 และอื่นๆ
วันที่สาม วัว 11 แกะตัวผู้ 12 ลูกแกะหนึ่งขวบ 14 แพะผู้ 1 และอื่นๆ
วันที่สี่ วัว 10 แกะตัวผู้ 12 ลูกแกะหนึ่งขวบ 14 แพะผู้ 1 และอื่นๆ
วันที่ห้า วัว 9 แกะตัวผู้ 12 ลูกแกะหนึ่งขวบ 14 แพะผู้ 1 และอื่นๆ
วันที่หก วัว 8 แกะตัวผู้ 12 ลูกแกะหนึ่งขวบ 14 แพะผู้ 1 และอื่นๆ
วันที่เจ็ด วัว 7 แกะตัวผู้ 12 ลูกแกะหนึ่งขวบ 14 แพะผู้ 1 และอื่นๆ

เห็นอะไรพิเศษไหมครับ จำนวนวัวที่ลดลง วันละตัว พระเจ้าทรงเล่นตลกหรอครับ ไม่เลย เรารู้ดีว่าวัวเป็นสัตว์ที่นอบน้อม และเป็นเครื่องบูชา อันเล็งถึงตัวพระคริสต์เป็นเครื่องบูชา แล้วตัวเลขจำนวนวัวหละ หมายถึงอะไร หากเรานำเลข 13 ถึง 7 มาบวกกันจะได้เลข 70 อันหมายถึงประชาชาติ ซึ่งปรากฏในพระคริสตธรรมคัมภีร์ครั้งแรกในหนังสือ ปฐมกาลบทที่ 10 ท่านๆลองไปนั่งนับดูนะครับ ว่าลูกหลานโนอาห์ ครบ 70 หรือเปล่า
ซึ่งนั่นก็ให้เราเห็นอีกเช่นกันว่า ธาตุแท้ของเทศกาลอยู่เพิงคือพระคริสต์ พระบุตรหัวปี พี่ใหญ่ของเรา ซึ่งพระเจ้าเปิดเผยตั้งแต่พันธสัญญาเดิมแล้วว่าจะกอบกู้ประชาชาติโดยทางพระบุตร

ยน 1:14
พระวาทะนั้นได้บังเกิดเป็นเนื้อหนัง และได้อาศัย(skēnoō=ตั้งเพิง,เต๊นท์,พลับพลา,กระโจม)อยู่กับเรา และเราได้เห็นสง่าราศีของพระองค์เหมือนสง่าราศีซึ่งบุตรองค์เดียวได้จากพระบิดา บริบูรณ์ไปด้วยคุณและความจริง


ผมเล่าซะยืดยาว ขอสรุปสั้นๆละกันครับว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะทำความรู้จักกับพระบิดา คงไม่มีทางอื่นนอกจากทางพระบุตรของพระองค์ เราต้องอยู่ในพระองค์ เป็นหนึ่งกับพระองค์ ถวายตัวเช่นพระองค์ นมัสการโดยพระองค์ มีพระองค์เป็นศูนย์กลางชีวิตของเราในทุกเรื่องครับ
เพื่อเราจะได้ค้นพบที่อันลึกลับและประเสริฐนี้อีกให้เราภาวนาว่า “ลูกรักพระองค์ พระบิดาเจ้า และลูกถวายตัวแด่พระองค์”
อาเมน
ปล.อิมมานูเอล
Yan Agape
โพสต์: 1238
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

จันทร์ ก.พ. 03, 2014 4:27 am

2 กุมภาพันธ์ 2014: ฉลองถวายพระเยซูเจ้าแด่พระบิดา/The Presentation of the Lord

:s002:
Yan Agape
โพสต์: 1238
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

อาทิตย์ มิ.ย. 21, 2020 3:08 am

สวัสดีครับ วันนี้เป็นวันพ่อ: อาทิตย์ 21 มิถุนายน 2020
รัก เคารพ คิดถึง ขอบคุณ ให้อภัย เลี้ยงดู ช่วยเหลือด้วยความกตัญญู ไม่มีท่านเราก็ไม่ได้เกิด

อย่าลืม รัก เคารพ คิดถึง ขอบคุณ แสดงความกตัญญูต่อพระบิดาของพวกเรามวลมนุษย์ด้วยนะครับ ไม่มีพระองค์เราก็ไม่ได้เกิดจากคุณพ่อคุณแม่ของเรา

สุดยอดของความเป็นพ่อ ให้ชีวิต ให้ทุกสิ่งที่เราเป็นเรามี รักถึงขนาดส่งพระเยซูเจ้าพระบุตรสุดรักของพระองค์มาไถ่กู้ให้มีส่วนร่วมชีวิตนิรันดรถ้าดําเนินตามรอยพระบาทของพระองค์และของพระแม่มารีย์สุดยอดของความเป็นแม่ของพวกเรามวลมนุษย์

มาทำความรู้จักกับพระบิดาของเราอีกครั้งในวันพ่อนะครับ
ตอบกลับโพส