วันนี้ (3 ก.พ. 57) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโฮเซ่ อีวาน หนุ่มประมงซึ่งหากุ้งและล่าฉลาม ชาวเอลซัลวาดอร์ ได้ถูกขนานนามให้กลายมนุษย์มหัศจรรย์แห่งแปซิฟิก หลังจากสามารถรอดชีวิตโดยการรอนแรมอยู่บนเรือไฟเบอร์กลาสติดเครื่องยนต์ไร้ใบพัดขนาด 7.3 เมตร กลางมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเวลานานถึง 14 เดือน หลังเดินทางออกจากเม็กซิโกเมื่อปลายปี 2012 พร้อมเพื่อนอีก 1 คนที่เสียชีวิตกลางทะเล เป็นระยะทางกว่า 12,500 กิโลเมตร
"อีวาน" ใช้เวลาอยู่กลางมหาสมุทรมากกว่า 1 ปี พร้อมกับอ่านคัมภีร์ไบเบิลหวังว่าจะมีชีวิตรอด กระทั่งได้รับความช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจการยามฝั่ง ภายหลังจากเรือของเขาได้ลอยมาเกยที่เกาะเอบอนอะทอลล์ ซึ่งเป็นแนวปะการังทางตอนใต้ของหมู่เกาะมาร์แชล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งดูเหมือนเขาไม่มีอาการอะไรและถูกนำตัวไปตรวจร่างกายยังโรงพยาบาลในกรุงมาจูโร
ขณะที่ นักศึกษาด้านมานุษยวิทยาชาวนอร์เวย์ที่กำลังทำการวิจัยบนเกาะเอบอนอะทอลล์ กล่าวว่า ขณะนี้อาการของเขายังไม่ดีนัก ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการเอาตัวรอดในทะเลของเขายังไม่ระบุได้แน่ชัดเนื่องจากชายผู้นี้พูดได้เพียงภาษาสเปนเท่านั้น แต่ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การรอดชีวิตครั้งนี้ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันคือความจริง โดยระหว่างที่ใช้ชีวิตกลางมหาสมุทรรอดชีวิตมาได้ด้วยการรับประทานเต่า นก และปลาที่จับด้วยมือเปล่าเพื่อประทังชีวิต อีกทั้งดื่มเลือดเต่าเมื่อฝนไม่ตก ขณะที่บนเรือของเขามีเต่า 1 ตัว ตอนที่เรือจอดบนชายฝั่งเกาะเอบอนอะทอลล์
ยังดีที่อย่างน้อยก็ยังบอกว่า ผู้รอดชีวิตอ่านไบเบิ้ล
แต่หากอ่านข่าวจากแหล่งที่มา จะเห็นได้ว่า ข่าวไทยได้มองข้ามสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งก็คือเบื้องหลังการอัศจรรย์นี้ ดังจะเห็นได้ผ่านคำพยานของนาย โฮเซ่ ผู้รอดชีวิตที่ว่า
He contemplated suicide, 'but I couldn't do that,' he said. 'I prayed instead. I believed that God would protect me.
He said: 'I thank God and I thank the birds I caught to eat. I caught fish and at times I drank my own urine to have liquid.
Asked how he had kept his sanity, he said: 'When you need to eat, when you need to drink, you keep your mind alive. And you pray. I prayed to God all the time. I prayed to stay alive.'
และคำพยานอีกมากมาย เพราะในปากของเขาเต็มไปด้วยคำโมทนาพระคุณ แม้จะประสบภยันตรายเช่นนี้ก็ตาม
เห็นได้ว่า พระเจ้าทรงเมตตาต่อบุตรของพระองค์เสมอ และเห็นถึงความสำคัญของความเชื่อวางใจในพระองค์ และการอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ
สำหรับผม ผมว่าเขาไม่ใช่มนุษย์มหัศจรรย์ แต่เขาเป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีพระเจ้ามหัศจรรย์ดูเเลอยู่
ข่าวนี้เตือนสติผมอีกครั้งหนึ่งว่า
1ธส 5:16-18 จงชื่นชมยินดีเสมอ. จงอธิษฐานเสมออย่าเว้น. จงขอบพระคุณสำหรับทุกสิ่ง เพราะนี่แหละ เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ที่มีต่อท่านทั้งหลาย ในพระคริสต์เยซู.
ปล.อิมมานูเอล
_________________
อ้างอิงจาก
http://news.springnewstv.tv/42871/
http://www.dailymail.co.uk/news/article ... paign=1490
ขอบคุณพระเจ้า เพราะพระองค์พระทัยดี เขาได้อยู่ในพระเมตตาของพระองค์