ซาร์นิโคลัสที่ 2 เป็นนักบุญจริงหรือ ?

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5974
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 30, 2014 7:31 pm

จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เปิดฟ้าส่องโลก...โดยคุณนิติ นวรัตน์
...รองศาสตราจารย์ท่านหนึ่งถามว่า ซาร์นิโคลัสของรัสเซียเป็นนักบุญจริงไหม?
ผมเถียงกันที่คณะไม่จบ ไม่รู้ว่าจะไปหาคำตอบได้ที่ไหน
...ถ้าจะย้อนเรื่องนี้ ก็ต้องกลับไปถึงเดือนกรกฎาคม2461 รัฐบาลโซเวียตของเลนินผ่าน
พ.ร.บ.ยึดพระราชทรัพย์ของราชวงศ์โรมานอฟ+สั่งให้ปลงพระชนม์ซาร์ นิโคลัสที่2
ซารีนาอะเล็กซานดรา พร้อมด้วยพระราชโอรสและพระราชธิดาทุกพระองค์ ในกลางดึก
ของราตรีที่ 16 ต่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ชั้นล่างของบ้านอีปาตีฟ พระศพทั้งหมดถูกนำ
ไปเผาทำลายและฝังที่เหมืองร้างในป่าครอปตากี นอกเมืองเยคาเตรินบุร์ก
... เวลาผ่านไป 60 ปี ใน พ.ศ. 2522 สมัยที่ นายเบรจเนฟ เป็นประธานาธิบดีของ
โซเวียต มีนักโบราณคดีไปพบหลุมลับที่ฝังพระศพพระราชวงศ์ที่ป่าครอปตากี และพบ
กะโหลกศีรษะ 3 หัว หัวหนึ่งมีฟันทอง ซึ่งเข้าใจว่าเป็นของซาร์นิโคลัสที่ 2 หลังจากที่
นักโบราณคดีพวกนี้เจอเหตุการณ์ที่ไม่ดีหลายอย่าง จึงกลัวและเอากะโหลกกลับไปฝังคืน
...ยุคนายกอร์บาชอฟเป็นประธานาธิบดี ก็มีข่าวลือว่าพบหลุมลับ ทำให้คนแตกตื่น
เมื่อ 10 เมษายน 2532 นสพ.มอสโกนิวส์ ออกข่าวว่าเจอหลุมลับแล้วจริงๆ รัฐบาล
โซเวียตจึงประกาศให้แนวป่าครอปตากีทั้งหมดเป็นเขตหวงห้าม และสั่งปิดข่าว แถมยัง
สั่งให้รื้อบ้านอีปาตีฟที่ใช้ปลงพระชนม์พระราชวงศ์
...แม้โซเวียตตอนนั้นเป็นคอมมิวนิสต์จ๋า แต่คำสั่งให้รื้อบ้านอีปาตีฟทำให้คนโซเวียต
ไม่ยอม เริ่มมีการนำดอกไม้+ไม้กางเขน+พระบรมฉายาลักษณ์ของราชวงศ์โรมานอฟ
ไปตั้งไว้ที่บริเวณที่คาดว่าเป็นห้องใต้ดินที่พระราชวงศ์ถูกปลงพระชนม์
มีต่อ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5974
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 30, 2014 7:43 pm

...อ้าว อยู่ดีๆเพียงแค่คำสั่งให้รื้อบ้านอีปาตีฟ ทำให้กระแสนิยมกษัตริย์ซึ่งหายไป
จากสังคมโซเวียตมานานหลายสิบปีแล้ว กลับมาฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก ผู้คนโซเวียต
จากส่วนต่างๆของประเทศต่างหลั่งไหลเดินทางไกลไปขอพรและสักการะที่บ้าน
อีปาตีฟกันใหญ่
...ผมคิดเอาเองนะครับ ว่ากระแสนิยมกษัตริย์กลับมาสู่แผ่นดินโซเวียตนี่แหละ
ทำให้นายกอร์บาชอฟซึ่งตอนนั้นเป็นผู้นำและผู้ออกคำสั่งรื้อบ้านอีปาตีฟเห็นแล้วหนาว
และนี่ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำนายกอร์บาชอฟคิดยกเลิกสหภาพโซเวียต
...คนที่โหนกระแสเจ้าในตอนนั้นก็คือ ผู้นำคอมมิวนิสต์คนหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า นายเยลต์ซิล
พอเห็นคนนิยมเจ้าล้นหลาม นายเยลต์ซิน ก็โจมตีคอมมิวนิสต์และโหนกระแส
ทุนนิยมเสรี+เจ้า จนเข้าวินชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐรัสเซีย
( 1 ใน 15 รัฐ ที่ประกอบกันเป็นสหภาพโซเวียต) และเมื่อนายกอร์บาชอฟหมด
อำนาจ นายเยลต์ซินก็ได้เป็นประธานาธิบดีของสหพันธรัฐรัสเซีย
...นายเยลต์ซินเอาใจผู้คนด้วยการสั่งค้นหลุมลับในป่าครอปตากี และก็พบชิ้นกระดูก
วัตถุอื่นในหลุมอีก 800 ชิ้น จากนั้นก็เอาทุกอย่างที่ขุดได้ไปตรวจสอบแยกแยะ และ
ตรวจสอบ DNA จนทราบว่าเป็นของซารีนา พระราชธิดา ทว่าไม่มีกระดูกของ
แกรนด์ดัสเชสอะนัสตาเซียและซาเรวิชอะเล็กเซย์
...พ.ศ.2541 เยลต์ซินทำพิธีบรรจุพระบรมอัฐิ และพระอัฐิซาร์นิโคลัสที่ 2 และพระราชวงศ์
ที่โบสถ์นักบุญแคเทอรีนในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์และปอล ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
...พอถึงยุคที่นายปูตินเป็นประธานาธิบดี พ.ศ. 2543 คริสตจักรรัสเซียนออร์ทอดอกซ์
ก็ได้สถาปนาซาร์นิโคลัสที่ 2 ซารีนาอะเล็กซานดรา พร้อมด้วยพระราชโอรสและพระราชธิดา
ทั้ง 5 พระองค์เป็นนักบุญ เมื่อ 14 สิงหาคม
ด้วยเหตุผลที่ว่า....
...ทั้งที่ทุกพระองค์ทรงถูกเหยียบย่ำ ให้ร้าย และทุกข์ระทม แต่ก็ทรงยืนหยัดในความทุกข์
ทรมานร่วมกัน โดยไม่ทรงยอมแยกพระองค์ออกจากประชาชนและแผ่นดินรัสเซีย........
:s005: :s005:
ตอบกลับโพส