เชิญแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัว
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 05, 2014 6:45 pm
ขอเชิญเพื่อนๆสมาชิกมาแบ่งปันประสบการณ์ที่ประทับใจในการได้รักพระเจ้า
พระเยซูเจ้า พระแม่มารีย์ นักบุญองค์อุปถัมย์ หรืออารักขเทวดา.......
............ ........
....จะขอแบ่งปันเรื่องของคุณ มาลี เชิดชูชัยไพบูลย์ (ยังไม่ได้ล้างบาป)
ซึ่งคุณมาลีได้ขึ้นมาแบ่งปัน ให้คณะพระเมตตาและสัตบุรุตวัดพระวิสุทธิวงค์ ลำไทร ฟัง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม นี้ และได้ลง เรื่องราวที่แบ่งปันนี้ใน จุลสารพระเมตตา
ฉบับ 9/2014
..." สมัยไปวัดแรกๆ ดิฉันไม่ค่อยเข้าโบสถ์หรอกค่ะ พาลูกสาวเดินเก็บขยะแถวหน้าถ้ำ
แม่พระ แต่ก็อธิฐานจิต ขอบุญเป็นตัวกระทำ ครอบครัวเราได้รับความเมตตาจากแม่พระ
อยู่หลายครั้ง"...
..." ดิฉันได้เห็นแม่พระครั้งแรกเมื่อ 20 กว่าปีก่อน แม่ดิฉันให้สามีพาไปเที่ยวบ้านน้าสาว
(จะไปหางานทำ) น้าเขยเค้าเป็นร่างทรงเขาอยู่ห้องพระ มีลูกศิษย์อยู่ด้วย พอเขาเห็นสามีดิฉัน
เขาก็เรียกเข้าไปหา พอสามีเค้าเข้าไปใกล้ๆ เขาเอาปากกาเหล็กมาเขียนบนหัว ทางพุทธ เรียกว่า
"ลงกระหม่อม" ดิฉันนั่งอยู่ข้างหลัง พอน้าเขยเขียน จะบอกว่าสามีเป็นคริสต์ก็ไม่ทันการณ์
ดิฉันเลยนั่งหลับตาแล้วเรียกแม่พระ "อย่าให้เขาเขียน เขียนไม่ได้" ดิฉันเป็นพุทธ ยังไม่ชอบเลย
แต่ที่หัวฉันกลับรู้สึกขยุกขยิกพอลือตาก็เห็นแม่พระจับผ้าคลุมสามีไว้ จู่ๆน้าเขยก็หยุดเขียน
และที่หัวดิฉันก็ไม่รู้สึกขยุกขยิก ดิฉันจึงลืมตาดู น้าเขยพูดว่า "เขาบอกว่าวันอาทิตย์ไปโบสถ์บ้างนะ"
...ในวันที่แบ่งปันพระวาจา ดิฉันถามแม่พระก่อนหน้าแล้วว่าจะให้ลูกพูดเรื่องใดบ้าง จู่ๆ
ดิฉันก็พูดเรื่องนี้ ทั้งๆที่เกิดขึ้นนานมากแล้ว ที่จริงดิฉันอยากเล่าเรื่องลูกชายที่ดิฉันรักมากกว่า
ลูกชายดิฉันพิการซ้ำซ้อน-ดาวน์ซินโดรม หัวใจรั่ว เส้นเลือดหัวใจไปปอดซ้ายและขวาตีบ
ธัยรอยด์ต่ำ สายตาสั้น การได้ยินบกพร่อง แพ้นม แพ้อาหาร ดิฉันเคยถามสามีว่า
" ไหนเธอสอนฉันว่าพระเจ้าสร้างโลก สร้างมนุษย์ แล้วทำไมให้ลูกเป็นอย่างนี้ "เขาก็ไม่พูดอะไร
พอเช้าวันต่อมา ดิฉันเก็บดอกอัญชัญอยู่ ในใจก็สวดวันทามารีย์ ทั้งๆที่เป็นพุทธอยู่ เหมือนมีคนพูด
เสียงนั้นเป็นผู้หญิง "แล้วคุณรู้จักสุขไหม รู้จักทุกข์ไหม รู้จักลำบากหรือยัง เราให้คุณได้รู้จัก-
และเห็นใจผู้อื่น รู้แล้ว เราก็พาเขากลับ "
ตอนที่ลูกเสียไปใหม่ๆ มีคนข้างบ้านเขาเห็นมีผู้หญิงจุงมือลูกเราเดินไป เขาเรียก
" น้องอู๋บ้านหนูอยู่นี่ หนูจะไปไหน " แล้วผู้หญิงก็หันมา เขาเล่าว่าสวยมาก คงพาไปทีดีดี
พอเช้าวันที่ฝังลูกชาย คนข้างบ้านคนนี้ก็ไปด้วย สามีดิฉันพาเขาเดินดูวัด พอเขาไปเห็น
รูปแม่พระ เขาก็พูดขึ้นว่า "ผู้หญิงคนนี้แหละ ที่พาน้องอู๋ไป " เขามารู้จากสามีดิฉันว่านี่คือแม่พระ
ดิฉันพบสิ่งมหัศจรรย์มามาก จนวันหนึ่งดิฉันปักผ้ารูปแม่พระอุ้มพระกุมารเยซูไปให้คุณพ่อเสก
ดุณพ่อถามว่า "เมื่อไรจะเรียนคำสอน" ดิฉันตอบคุณพ่อว่าดิฉันเป็นพุทธ คุณพ่อบอกว่า
" พระเรียกแล้วนะ มาเรียนซะ" แล้วคุณพ่อก็ย้ายไปวัดปากลัด ดิฉันจึงไม่รู้จะปรึกษาใครได้
เพราะเคยถวายสัจจะไว้ กลุ้มมาก กลัวด้วย ไม่รู้จะไปทางไหน ได้แต่ถามจากรูปพระเยซู
" ช่วยบอกลูกด้วย" อยู่มาวันหนึ่ง ทางวัดได้จัดรถไปฉลองวัด มีพระสังฆราช
(องค์ใหญ่ ตัวใหญ่) มาเป็นประธาน ท่านพูดว่า "คนเราจะนับถือศาสนาอะไรอยู่ที่ตัวเรา
หรือคนรอบข้าง ญาติพี่น้อง" ดิฉันแน่ใจว่าพระให้คำตอบแล้ว ยิ่งได้อ่านหนังสือ
สารและความศรัทธาต่อพระเมตตา หน้า 2 " อย่ากลัวเลย เราอยู่กับลูกเสมอ "
ดิฉันได้คำตอบแล้ว ขอคุณพ่อเรียนคำสอน ดิฉันดีใจที่ได้รับใช้พระองค์
......ลงชื่อ มาลี เชิดชูชัยไพบูลย์.....
พระเยซูเจ้า พระแม่มารีย์ นักบุญองค์อุปถัมย์ หรืออารักขเทวดา.......
............ ........
....จะขอแบ่งปันเรื่องของคุณ มาลี เชิดชูชัยไพบูลย์ (ยังไม่ได้ล้างบาป)
ซึ่งคุณมาลีได้ขึ้นมาแบ่งปัน ให้คณะพระเมตตาและสัตบุรุตวัดพระวิสุทธิวงค์ ลำไทร ฟัง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม นี้ และได้ลง เรื่องราวที่แบ่งปันนี้ใน จุลสารพระเมตตา
ฉบับ 9/2014
..." สมัยไปวัดแรกๆ ดิฉันไม่ค่อยเข้าโบสถ์หรอกค่ะ พาลูกสาวเดินเก็บขยะแถวหน้าถ้ำ
แม่พระ แต่ก็อธิฐานจิต ขอบุญเป็นตัวกระทำ ครอบครัวเราได้รับความเมตตาจากแม่พระ
อยู่หลายครั้ง"...
..." ดิฉันได้เห็นแม่พระครั้งแรกเมื่อ 20 กว่าปีก่อน แม่ดิฉันให้สามีพาไปเที่ยวบ้านน้าสาว
(จะไปหางานทำ) น้าเขยเค้าเป็นร่างทรงเขาอยู่ห้องพระ มีลูกศิษย์อยู่ด้วย พอเขาเห็นสามีดิฉัน
เขาก็เรียกเข้าไปหา พอสามีเค้าเข้าไปใกล้ๆ เขาเอาปากกาเหล็กมาเขียนบนหัว ทางพุทธ เรียกว่า
"ลงกระหม่อม" ดิฉันนั่งอยู่ข้างหลัง พอน้าเขยเขียน จะบอกว่าสามีเป็นคริสต์ก็ไม่ทันการณ์
ดิฉันเลยนั่งหลับตาแล้วเรียกแม่พระ "อย่าให้เขาเขียน เขียนไม่ได้" ดิฉันเป็นพุทธ ยังไม่ชอบเลย
แต่ที่หัวฉันกลับรู้สึกขยุกขยิกพอลือตาก็เห็นแม่พระจับผ้าคลุมสามีไว้ จู่ๆน้าเขยก็หยุดเขียน
และที่หัวดิฉันก็ไม่รู้สึกขยุกขยิก ดิฉันจึงลืมตาดู น้าเขยพูดว่า "เขาบอกว่าวันอาทิตย์ไปโบสถ์บ้างนะ"
...ในวันที่แบ่งปันพระวาจา ดิฉันถามแม่พระก่อนหน้าแล้วว่าจะให้ลูกพูดเรื่องใดบ้าง จู่ๆ
ดิฉันก็พูดเรื่องนี้ ทั้งๆที่เกิดขึ้นนานมากแล้ว ที่จริงดิฉันอยากเล่าเรื่องลูกชายที่ดิฉันรักมากกว่า
ลูกชายดิฉันพิการซ้ำซ้อน-ดาวน์ซินโดรม หัวใจรั่ว เส้นเลือดหัวใจไปปอดซ้ายและขวาตีบ
ธัยรอยด์ต่ำ สายตาสั้น การได้ยินบกพร่อง แพ้นม แพ้อาหาร ดิฉันเคยถามสามีว่า
" ไหนเธอสอนฉันว่าพระเจ้าสร้างโลก สร้างมนุษย์ แล้วทำไมให้ลูกเป็นอย่างนี้ "เขาก็ไม่พูดอะไร
พอเช้าวันต่อมา ดิฉันเก็บดอกอัญชัญอยู่ ในใจก็สวดวันทามารีย์ ทั้งๆที่เป็นพุทธอยู่ เหมือนมีคนพูด
เสียงนั้นเป็นผู้หญิง "แล้วคุณรู้จักสุขไหม รู้จักทุกข์ไหม รู้จักลำบากหรือยัง เราให้คุณได้รู้จัก-
และเห็นใจผู้อื่น รู้แล้ว เราก็พาเขากลับ "
ตอนที่ลูกเสียไปใหม่ๆ มีคนข้างบ้านเขาเห็นมีผู้หญิงจุงมือลูกเราเดินไป เขาเรียก
" น้องอู๋บ้านหนูอยู่นี่ หนูจะไปไหน " แล้วผู้หญิงก็หันมา เขาเล่าว่าสวยมาก คงพาไปทีดีดี
พอเช้าวันที่ฝังลูกชาย คนข้างบ้านคนนี้ก็ไปด้วย สามีดิฉันพาเขาเดินดูวัด พอเขาไปเห็น
รูปแม่พระ เขาก็พูดขึ้นว่า "ผู้หญิงคนนี้แหละ ที่พาน้องอู๋ไป " เขามารู้จากสามีดิฉันว่านี่คือแม่พระ
ดิฉันพบสิ่งมหัศจรรย์มามาก จนวันหนึ่งดิฉันปักผ้ารูปแม่พระอุ้มพระกุมารเยซูไปให้คุณพ่อเสก
ดุณพ่อถามว่า "เมื่อไรจะเรียนคำสอน" ดิฉันตอบคุณพ่อว่าดิฉันเป็นพุทธ คุณพ่อบอกว่า
" พระเรียกแล้วนะ มาเรียนซะ" แล้วคุณพ่อก็ย้ายไปวัดปากลัด ดิฉันจึงไม่รู้จะปรึกษาใครได้
เพราะเคยถวายสัจจะไว้ กลุ้มมาก กลัวด้วย ไม่รู้จะไปทางไหน ได้แต่ถามจากรูปพระเยซู
" ช่วยบอกลูกด้วย" อยู่มาวันหนึ่ง ทางวัดได้จัดรถไปฉลองวัด มีพระสังฆราช
(องค์ใหญ่ ตัวใหญ่) มาเป็นประธาน ท่านพูดว่า "คนเราจะนับถือศาสนาอะไรอยู่ที่ตัวเรา
หรือคนรอบข้าง ญาติพี่น้อง" ดิฉันแน่ใจว่าพระให้คำตอบแล้ว ยิ่งได้อ่านหนังสือ
สารและความศรัทธาต่อพระเมตตา หน้า 2 " อย่ากลัวเลย เราอยู่กับลูกเสมอ "
ดิฉันได้คำตอบแล้ว ขอคุณพ่อเรียนคำสอน ดิฉันดีใจที่ได้รับใช้พระองค์
......ลงชื่อ มาลี เชิดชูชัยไพบูลย์.....