ความทรงจำของเทเรซิตา - เมื่อแม่พระประจักษ์มาที่เมืองลิปา

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

จันทร์ มิ.ย. 05, 2017 7:26 pm

ลิปา
(Lipa City , Philippines 1948)
รูปภาพ
บทที่ ก ลิปา

เหตุการณ์ที่เมืองลิปา ประเทศฟิลิปปินส์ นับเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่โด่งดังอีกเหตุการณ์ถึงการเสด็จมาของพระมารดาพระเจ้า โดยทรงประจักษ์มาหาผู้เตรีมสมัครเป็นนักบวชของอารามคาร์เมไลท์ชื่อ ‘เทเรซิตา กัสติลโล’ ด้วยพระนามว่า ‘คนกลางแจกจ่ายพระหรรษทาน’ ที่อารามคาร์แมลประจำเมือง ซึ่งขณะนั้นมีคุณแม่อธิการิณีคือ คุณแม่แมรี่ เซซีเลีย แห่ง พระเยซูเจ้า และมีเหตุการณ์อัศจรรย์อันโด่งดังก็คือปรากฏการณ์ฝนกุหลาบที่พยานหลายคนได้พบเห็น

ซึ่งในการเลือกมานำเสนอต่อท่านผู้อ่านนี้ ผู้เรียบเรียงได้ตัดสินใจใช้ข้อเขียนของเทเรซา กัสติลโลซึ่งได้บันทึกย้อนไปทีหลัง เนื่องจากบันทึกเดิมถูกสั่งให้เผาทำลายไปตั้งนานแล้ว จึงมีความยาวและมีข้อคิดเห็นของเทเรซามาแทรกบ้าง ซึ่งก็นับว่าเป็นประโยชน์ยิ่ง เพราะเป็นผลมาจากการไต่ตรองของผู้ได้รับประจักษ์ ดังนั้นบทความนี่อาจจะยืดเยื้อสักนิด ก็ขอให้ผู้อ่านค่อยๆอ่านและรำพึงไป พร้อมตัดสินใจเองว่าการประจักษ์นี้มาจากสวรรค์หรือไม่ ดังคำพูดของเทเรซาที่ว่า “ดิฉันไม่ขอให้พวกท่านเชื่อเรื่องราวน้อยๆของฉัน ขอเพียงแค่รับฟังมันก็มากแล้วสำหรับตัวดิฉัน”
รูปภาพ
คุณยายเทเรซิตา พึ่งสิ้นใจไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

จันทร์ มิ.ย. 05, 2017 7:31 pm

บทที่ 1 จากที่แห่งความสิ้นหวังสู่สถานที่แห่งความหวัง

หลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลง สังฆมณฑลลิปาซึ่งตกอยู่ในสภาพที่เป็นซากปรักหักพังจากการทำลายของกองทัพญี่ปุ่น ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ภายใต้การนำของพระคุณเจ้าอัลเฟรโด เวร์โซซา พระสังฆราชประจำสังฆมณฑลลิปา และนอกนี้เองในเวลาที่ทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติ คณะภคินีคาร์เมไลท์ก็ได้ตอบรับที่จะมาเปิดอารามหลังใหม่ที่เมืองลิปาตามคำเชื้อเชิญของพระคุณเจ้าเวร์โซซาที่วาดฝันถึงการตั้งอารามหลังนี้ไว้ถึงยี่สิบปี

อารามหลังใหม่ของคณะคาร์เมไลท์ได้รับมอบที่ดินของบ้านเณรเก่า ซึ่งเคยเป็นที่ที่ผู้คนมากมายถูกฆ่าตายด้วยการสังหารหมู่ เพราะเป็นที่ดินของสังฆมณฑล และเมื่อได้รับที่แล้ว ทางคณะซึ่งมาจากกรุงมะนิลาจึงได้จัดสร้างอารามขึ้นในปี ค.ศ.1946 บนที่ดินที่เคยชโลมไปด้วยโลหิต แต่กำลังจะแปรเปลี่ยนเป็นที่ดินแห่งพระหรรษทานนี้ในเร็ววัน
รูปภาพ
พระคุณเจ้าอัลเฟรโด เวร์โซซา
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อังคาร มิ.ย. 06, 2017 1:24 am

บทที่ 2 เทเรซิตา
รูปภาพ
ในความนบนอบที่รักต่อความรักอันร้อนรนของแม่พระ(เทเรซิตาเรียกแม่พระด้วยภาษาอังกฤษว่า ‘มามา แมรี่’-ผู้เรียบเรียงขออนุญาตแปลว่า แม่พระ) ดิฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะจดบันทึกถึงสิ่งที่ดิฉันสามารถจะจดจำได้มากที่สุดหลัง 40 ปีที่ต้องปิดปากเงียบสนิท ดังนั้น ก่อนอื่นใดเลย ดิฉันจึงขอวอนพวกท่านอย่างถ่อมตนให้โปรดเข้าใจและวางใจดิฉัน ดิฉันไม่ขอให้พวกท่านเชื่อเรื่องราวน้อยๆของฉัน ขอเพียงแค่รับฟังมันก็มากแล้วสำหรับตัวดิฉัน ดิฉันไม่อาจจะรับประกันได้ถึงรายละเอียดต่างๆที่เกิดขึ้นกับดิฉันที่อารามคาร์เมลจะปรากฏในบันทึกนี้ มีสารบางประการที่ดิฉันเปิดเผยไม่ได้ นอกนี้นับย้อนไปก็กว่า 40 ปีแล้วที่เรื่องนี้ ‘ผ่านมา’ และอายุอานามของดิฉันเองก็กำลังมุ่งไปอย่างรวดเร็วสู่ความจริง ที่ว่าดิฉันกำลังจะถูกรวมอยู่ในรายชื่อของ ‘พลเมืองอาวุโส’
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อังคาร มิ.ย. 06, 2017 11:56 am

12 กันยายน ค.ศ.1948

เมื่อเวลาประมาณสิบเจ็ดนาฬิกา ดิฉันเดินอยู่ในสวน(ซึ่งไม่ใหญ่มากนักเพราะอารามพึ่งตั้งมาใหม่ๆ)พลางสวดสายประคำไป ขณะที่สวดถึงธรรมล้ำลึกข้อที่ 3 ดิฉันก็เดินผ่านเถาองุ่นที่เริ่มสั่น ทั้งๆที่ขณะนั้นไม่มีลมพัดมาเลย ดิฉันจึงคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นตะกวดยักษ์หรือไม่ก็งูที่ทำมันตามลักษณะการสั่น

แต่ทันใดนั้นเองดิฉันก็พลันได้ยินเสียงสตรีคนหนึ่งพูดกับดิฉันว่า
“อย่ากลัวเลยลูกน้อยของแม่” ดิฉันจึงรีบคุกเข่าลง พลางหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที ด้วยความหวังว่าจะได้เห็นพระนาง หลังจากนั้นเสียงนั้นยังพูดต่อว่า “จูบพื้นและปฏิบัติตามสิ่งที่แม่สั่ง ลูกน้อยของแม่ จงกินหญ้า”(บางทีคำสั่งนี้อาจเป็นการทดสอบความเรียบง่ายและความนบนอบของฉัน) “แม่ปรารถนาให้ลูกมาหาแม่ที่จุดนี้เป็นเวลาสิบห้าวันติดต่อกัน” ดิฉันลุกขึ้นด้วยความประหลาดใจ ดิฉันมีความสุขที่ได้ยินเสียงของพระนางอีกครั้ง กลับกันดิฉันก็มีความสงสัยเกี่ยวกับการได้รับพระหรรษทานนี้ ดิฉันพยายามจะสวดต่อ แต่ก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ สิ่งอยู่ในใจของฉันมีเพียงเสียง เสียงอันอ่อนหวานที่บอกดิฉันและดิฉันไม่อาจช่วยได้ ทำได้แต่ถามตัวฉันเองว่า “ทำไมต้องเป็นลูก”

ด้วยความนบนอบต่อคำแนะนำของคุณแม่อธิการของดิฉัน ดิฉันจึงได้ไปพบท่านและเล่าถึงสารให้ท่านฟัง ท่านก็ได้บอกให้ดิฉันไปนอนในขั้นแรกและไม่ต้องกังวลใดๆทั้งสิ้น เย็นวันนั้น ขณะดิฉันคุกเข่าสวดบทภาวนายามค่ำของดิฉัน สันติภายในก็มาถึงดิฉัน มันดูราวกับว่าดิฉันกำลังอยู่ในอ้อมแขนของแม่พระ ดุจเด็กน้อยที่มั่นใจในความรักและการดูแลของมารดา คิดเช่นนั้นแล้ว ดิฉันก็ล้มตัวนอนไป.
รูปภาพ
บริเวณที่แม่พระประจักษ์ในปัจจุบัน
ตอบกลับโพส