อารีอุส

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
St.paul

พุธ ก.ย. 28, 2005 8:00 pm

ราวค.ศ.318-319 พระสงฆ์องค์หนึ่งในเมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ชื่อ อารีอุส ได้เทศน์สอนความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับพระเยซูเจ้า พระศาสนจักรตัดสินว่าอารีอุสสอนผิด แต่ว่าคำสอนของเขาซึ่งเรียกว่า "ลัทธินิยมอารีอุส" ยังคงแพร่ขยายออกไปเรื่อยๆ

ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคอนสแตนติน คริสตชนรู้สึกปลอดภัยจากการเบียดเบียนและสามารถไตร่ตรองถึงความหมายของความเชื่อ พวกเขาสนใจเป็นพิเศษในภาพลักษณ์ขององค์พระเยซูเจ้า และต้องการรู้อย่างแท้จริงว่าพระเยซูเจ้าคือใคร ความเป็นมนุษย์ของพระองค์เป็นอย่างไร ความคิดเห็นที่แตกต่างของบางคนหลงผิดอย่างมาก ตามคำสอนของพระศาสนจักร

หนึ่งในบุคคลที่มีความหลงผิดคือ อารีอุส ท่านเกิดที่เมืองลิบยา ได้รับการศึกษาในประเทศอียิปต์ รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์อยู่ที่เมืองอเล็กซานเดรีย ใช้ชีวิตแบบนักพรต ปฏิเสธความสะดวกสบาย เป็นนักเทศน์ที่สำคัญและมีความสามารถในการแสดงความคิดเห็นอย่างดีและอย่างมั่นใจ

ราวค.ศ.318-319 อารีอุสเริ่มสอนตามความคิดเห็นที่หลงผิด สอนว่า พระเยซูไม่เป็นพระเจ้า แต่เป็นบุคคลพิเศษ เป็นบุคคลเดียวในโลกที่พระเจ้าทรงสร้าง พระเยซูมีบางสิ่งบางอย่างเหมือนพระเจ้า เว้นแต่ว่าพระองค์สามารถร้องไห้และทุกข์ทรมาน ซึ่งพระเจ้าไม่สามารถ อารีอุสยังบอกอีกว่า "พระเยซูมีบางสิ่งบางอย่างเหมือนมนุษย์ แต่พระองค์ไม่มีวิญญาณแบบมนุษย์"

มีผู้สนใจติดตามความคิดเห็นของอารีอุสหลายคน รวมทั้งนักเทววิทยา พระสงฆ์ และประชาชนในภาคตะวันออก พวกเขาคิดว่ามันเป็นคำสอนที่มีเหตุมีผลและง่ายต่อการเข้าใจ

อย่างไรก็ตาม คริสตชนจำนวนมากต่อต้านคำสอนของอารีอุสทันที พวกเขาเชื่อว่าถ้าพระเยซูไม่เป็นพระเจ้าแท้ ก็ไม่มีทางที่มนุษย์จะได้รับการช่วยให้รอดหรือสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ พระสังฆราชแห่งเมืองอเล็กซานเดรียได้โต้แย้งกับอารีอุส ท่านยกย่องอารีอุสในความพยายามที่จะตรวจสอบคำสอนคริสตชน แต่ท่านกล่าวว่าอารีอุสหลงผิดและจะต้องละทิ้งแนวความคิดของเขาเสีย แต่อารีอุสปฏิเสธที่จะเชื่อฟังพระสังฆราช เขายังคงพยายามทำให้คนอื่นเชื่อว่าคำสอนเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าของเขานั้นถูกต้อง และก็มีหลายคนในเมืองอเล็กซานเดรียและตามส่วนต่างๆ ในอาณาจักรตะวันออกที่สนับสนุนเขา

ในค.ศ.319 เมื่อพระสังฆราชแห่งอียิปต์จัดประชุมซึ่งเรียกว่า "ซีโนด" (Synod) มีพระสังฆราชประมาณ 100 องค์ มาร่วมประชุมกันเพื่อพิจารณาคำสอนของอารีอุส อารีอุสได้อธิบายความเชื่อในศาสนาของเขาอย่างมีวาทศิลป์ ในที่สุดบรรดาพระสังฆราชลงความเห็นว่าอารีอุสและผู้ติดตามทั้ง 14 คน ถูกขับออกจากพระศาสนจักรเพราะคำสอนที่หลงผิดของพวกเขา ซึ่งเรียกว่า "คำสอนนอกรีต" (heresy) อารีอุสจะต้องละทิ้งวัดของเขาหรือยอมทิ้งความเชื่อของเขา

อารีอุสย้ายไปอยู่ที่เมืองนิโคเมเดีย ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในอาณาจักรตะวันออก ยูเซบิอุส พระสังฆราชของเมืองนั้นสนับสนุนอารีอุส ต่อมาเมืองนี้เองกลายเป็นศูนย์กลางของ "ลัทธินิยมอารีอุส" การโต้แย้งทางเทววิทยายังคงดำเนินอยู่และแพร่ขยายออกไป ซึ่งส่งผลกระทบกระเทือนอย่างมากต่อสันติภาพในระหว่างคริสตชน

จากhttp://www.catholic.or.th/
แก้ไขล่าสุดโดย St.paul เมื่อ ศุกร์ ต.ค. 14, 2005 11:32 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Divine Mercy

อังคาร ต.ค. 04, 2005 1:28 am

น่ากลัวมากที่มีคำสอนแบบนี้เกิดขึ้น

แต่ก็ถือว่าพระเป็นเจ้าทรงประทานการทรงนำ

และพระญาณสอดส่องของพระองค์ที่ให้เรา

ดำเนินมาบนเส้นทางความเชื่อที่ถูกต้อง... อัลเลลูยา...อาแมน
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

พุธ ต.ค. 05, 2005 11:14 pm

ต้นไม่ดีย่อมให้ผลดี ต้นไม่เลวย่อมให้ผลเลว :)
Junior Boy
โพสต์: 659
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
ที่อยู่: I believe in God...

เสาร์ ต.ค. 08, 2005 8:18 pm

คำสอนของอารีอุส แปลกๆ ชอบกลนะครับ :-\
St.paul

ศุกร์ ต.ค. 14, 2005 11:30 am

การโต้แย้งกับพวกนิยมอารีอุสก่อให้เกิดการแตกแยกในพระศาสนจักร จักรพรรดิ คอนสแตนตินเรียกบรรดาพระสังฆราชมาร่วมสังคายนาที่เมืองนีเชอาเกี่ยวกับเรื่องหลักคำสอน บรรดาพระสังฆราชตัดสินว่าคำสอนของลัทธินิยมอารีอุสผิด และบอกว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็น "พระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้ มิได้ถูกสร้าง ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติ"

การโต้เถียงระหว่างพวกนิยมอารีอุสกับผู้คัดค้านได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และได้คุกคามพระศาสนจักรจนก่อให้เกิดความแตกแยกและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองในจักรวรรดิ จักรพรรดิคอนสแตนตินเชื่อว่า การปกป้องเอกภาพของพระศาสนจักรเป็นหน้าที่ที่พระเจ้าทรงมอบให้ในฐานะเป็นจักรพรรดิ ด้วยการแนะนำของพระสังฆราชโฮซิอุส แห่งคอร์โดวา ที่ปรึกษาด้านเทววิทยา จักรพรรดิคอนสแตนตินทรงเรียกประชุมสังคายนาที่เมืองนีเชอา อยู่ใกล้เมืองคอนสแตนติโนเปิ้ล เป็นเมืองที่จักรพรรดิไปพักผ่อนเป็นประจำ การประชุมครั้งนี้ถูกเรียกว่าเป็นสังคายนาสากล มีการชุมนุมกันของบรรดาพระสังฆราชจากพระศาสนจักรทั่วโลก

มีพระสังฆราชมากกว่า 300 องค์มาร่วมประชุมครั้งนี้ พระสังฆราชเกือบทั้งหมดจากภาคตะวันออกที่พูดภาษากรีกมาเข้าร่วม และอีกประมาณ 15 องค์จากภาคตะวันตกที่พูดภาษาลาติน เป็นกลุ่มที่ใหญ่มากสำหรับวัดแห่งเมืองนีเชอา จักรพรรดิจึงอนุญาตให้ใช้พระราชวังของพระองค์สำหรับจัดการประชุม

สังคายนาเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ.325 โดยจักรพรรดิคอนสแตนตินเป็นประธานเปิดด้วยพระองค์เอง ในสุนทรพจน์เปิดการประชุม พระองค์ทรงเรียกร้องให้บรรดาพระสังฆราชแสวงหาสันติภาพและความสามัคคีปรองดองกันภายในพระศาสนจักร

การโต้เถียงได้ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จากที่พวกนิยมอารีอุสเสนอความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับพระคริสตเจ้า บรรดาพระสังฆราชส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของพวกนิยมอารีอุส ดังนั้นบรรดาพระสังฆราชพยายามหาข้อตกลงกันในคำแถลงที่ประกาศถึงความเชื่อแท้จริงของพระศาสนจักร ที่ประชุมสังคายนายืนยันว่า "พระเยซูคริสตเจ้าทรงมีพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา" ส่วนคำอธิบายอื่นๆ บอกว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า เหมือนพระบิดาเป็นพระเจ้า พระเยซูไม่ได้ทรงถูกสร้าง แต่ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนการเริ่มต้นสิ่งสร้างทั้งหลาย

ทุกวันนี้ใน "บทข้าพเจ้าเชื่อ" ยังคงใช้ข้อความอธิบายถึงพระเยซูเจ้าที่ออกมาจากสังคายนาที่เมืองนีเชอา ว่า "ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า ทรงเป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง ทรงเป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้ มิได้ถูกสร้างแต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา"

บรรดาพระสังฆราชบรรลุถึงความเห็นร่วมกันของที่ประชุมส่วนใหญ่ สังคายนาถูกเรียกเพราะเห็นถึงอันตรายจากการแตกแยกอย่างรุนแรง และเพื่อยืนยันถึงความเป็นเอกภาพในพระศาสนจักร

ในเวลาต่อมาพวกนิยมอารีอุสไม่กล้าต่อต้านสังคายนาเมืองนีเชอาอย่างเปิดเผย และเป็นจริงเหมือนสิ่งที่จักรพรรดิคอนสแตนตินได้พูดว่า "อะไรก็ตามที่ถูกตัดสินโดยพระสังฆราช 300 องค์ ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้นอกจากเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ด้วยว่าพระจิตเจ้าที่ประทับอยู่กับบุคคลเหล่านั้นทำให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เอง"
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 18, 2005 1:29 pm

ก็เพราะแบบนี้ไงครับ จึงจำเป็นต้องมีศูนย์กลางในการกำหนดข้อความเชื่อ และสภาพระคาร์ดินัล พิจารณาคำสอนที่จะประกาศเป็นหลักข้อเชืออย่างถูกต้อง ตามอำนาจการทรงนำของพระจิตเจ้าที่สถิตในพระศาสนจักรคาทอลิก อันเป็นศูนย์กลางในการสืบทอดอำนาจจากนักบุญเปโตร สันตะปาปาองค์แรกที่ได้รับการแต่งตั้งโดยพระเยชู ไม่งั้นก็คงเละตุมเปะ แค่เรื่องอาริอุส ก็เห็นแล้วว่านอกความเห็นในเรื่องหลักข้อเชื่อที่ไม่ผ่านการรับรองผ่านจากอำนาจพระศาสนจักรคาทอลิก หลงทางและเละเทะขนาดไหน โดยส่วนตัว หากข้อความเชื่อต่างๆและการปฎิบัติของคริสตชน รวมทั้งการตีความพระคัมภีร์ หากไม่ผ่านเป็นคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก ผมมองข้ามหมดครับ(ถือเป็นโฆฆะ) ผ่านทางพระศาสนจักรและถึงเราโดยพระสงฆ์ ดีที่สุดและถูกต้องล้านเปอร์เซนต์ ไม่หลงทางตกนรกแน่นอน บริสุทธิ์และไม่ตกขอบ รับรองโดยพระจิตเจ้าที่สถิตในพระศาสนจักร ผ่านบอกคำสอนถึงเราโดยพระสงฆ์ที่มีศีลบวช ประกอบจิตใจด้วยศีลศักด์สิทธิ์ บริสุทธิ์ถูกต้องในทุกอย่างล้านเปอร์เซนต์ ข้อผิดพลาดเกิดจากมนุษย์ในองค์กรเพียงอย่างเดียว

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ตอบกลับโพส