สารพระเยซูเจ้า ฉบับที่ 91 "รวมตัวของลูกเป็นหนึ่งเดียวกับพ่อเหมือนที่พ่อรวมตัวของพ่อเป็นหนึ่งเดียวกับลูก" จากประกาศยืนยัน

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Yan Agape
โพสต์: 1240
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

เสาร์ ก.พ. 19, 2022 1:35 pm

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอ สารพระบิดา พระเยซูเจ้า พระแม่มารีย์ ฉบับที่ 91 "รวมตัวของลูกเป็นหนึ่งเดียวกับพ่อเหมือนที่พ่อรวมตัวของพ่อเป็นหนึ่งเดียวกับลูก" จากประกาศยืนยันของคุณคาทาลินา ริวาส ("Unite Yourself To Me As I United To You" Testimony of Catalina Rivas CL-91)

ขอบคุณ: Google ศัพท์อังกฤษเป็นไทย

(ดาวน์โหลดสารทุกสารภาษาอังกฤษฟรีได้ที่ www.LoveAndMercy.org สารภาษาไทย แปลและโพสต์หนึ่งสาร/อาทิตย์ รวมทุกสารที่แปล อยู่ที่ www.newmana.com
เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของพระแม่ผู ้เห็นอกเห็นใจฯ ใต้หัวข้อ สารของพระบิดา พระเยซูเจ้า และ พระแม่มารีย์ โพสต์โดย Yan Agape)

รวมตัวของลูกเป็นหนึ่งเดียวกับพ่อเหมือนที่พ่อรวมตัวของพ่อเป็นหนึ่งเดียวกับลูก

CL91 18 มกราคม 1996 พระเยซูเจ้า

พ่อให้คุณค่าในการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกับความเจ็บปวดทรมานต่างๆของพ่อเหนือกว่าการกระทําทุกอย่างของลูก นอกเหนือจากความสวยงามทั้งมวลที่ลูกได้รับจากการร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับคุณงามความดีต่างๆของพ่อ ลูกต้องพินิจพิจารนาว่าความเป็นหนึ่งเดียวที่เกิดขึ้นเพราะความรัก เป็นการพิสูจน์แบบได้ผลว่าคุณงามความดีต่างๆเหล่านี้ที่ลูกได้ประดับตัวของลูกได้ให้ผลหลักที่พ่อปราถนา: ของรักของพ่อในตัวลูก

มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสําหรับพ่อ ถ้าพ่อแสดงให้ลูกรู้ว่า ลูกจะต้องทำตัวอย่างไรเมื่อพ่อรวมตัวลูกเป็นหนึ่งเดียวต่อความเจ็บปวดทรมานต่างๆของพ่อ แบบที่สังเกตุได้ เหนือสิ่งอื่นใด อธิบายให้ลูกรู้ว่าอะไรคือความโศกเศร้าต่างๆของลูก ที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับความโศกเศร้าต่างๆของพ่อ

ลูกพยายามแยกแยะระหว่างความโศกเศร้าแบบธรรมดาและความโศกเศร้าเหนือธรรมดา ลูกแบ่งออกเป็นสองชนิด: ความโศกเศร้าของลูกและความโศกเศร้าของพ่อ สิ่งธรรมดาและเหนือธรรมดา ลูกผิดในการคิดเช่นนั้น

พ่อได้กลายเป็นมนุษย์เพราะพ่อต้องการให้ลูกและทุกคนได้เห็นแบบชัดเจนว่า พ่อเหมือนกับลูก ต้องการประสบความโศกเศร้าแบบธรรมดา และความโศกเศร้าต่างๆส่วนตัวของพ่อ จําได้มั้ยว่าพ่อตัวสั่นเทาเมื่อเดินผ่านขบวนแห่ศพของเมืองนาอิน (ลูกา 7:11-17 พระเยซูเจ้าทรงปลุกบุตรของหญิงม่ายที่เมืองนาอินให้กลับคืนชีพ) จําได้มั้ย
ที่ลาซารัสได้ถูกฝังแล้ว (ยอห์น 11:1-45 การกลับคืนชีพของลาซารัส) จงพินิจพิจารณาถึงฝูงชนที่ติดตามพ่อไปบนเนินเขาแล้วไม่มีอะไรกิน (มัทธิว 14:13-21 พระเยซูเจ้าทรงทวีขนมปังครั้งแรก) จงพินิจพิจารณาถึงเหล่าอัครสาวกที่ต้องการรับสิ่งต่างๆ จงพินิจพิจารณาเป็นพิเศษว่า พ่อทําแบบเจ็บปวดอย่างไรให้แม่ของพ่อ มีลูกคนหนึ่งที่จะเป็นตัวแทนของพ่อ แม้ว่าจะเป็นเหมือนกับวัตถุสิ่งของ เมื่อพ่อได้จากแม่ให้อยู่ตามลำพังในโลก มันเป็นความจริงที่ว่า ในแต่ละการกระทําเหล่านี้ พ่อวางตัวเองในการยืนยันถึงความคิดที่สูงส่ง ความจริงต่างๆของพ่อพระเป็นเจ้า ศักดานุภาพเหนือธรรมชาติ และพันธกิจที่สุดยอด แต่ความจริงก็ยังดํารงอยู่ว่า พ่อทําตัวเหมือนมนุษย์ ก่อนที่พ่อจะทําตัวเหมือนพระเป็นเจ้า และพระผู้ไถ่

ที่หมู่บ้านคานา (ยอห์น 2:1-12 งานมงคลสมรสที่หมู่บ้านคานา) พ่อได้บอกแม่ของพ่อว่า เวลาของพ่อยังมาไม่ถึง อย่างไรก็ตาม พ่อเห็นใจกับความจําเป็นที่งานมงคลสมรสนั้นได้จบลงตามปราถนาของเจ้าภาพ พ่อได้ทําตามสิ่งที่ไม่จําเป็น แต่พ่อทําเพราะความสงสารที่พ่อได้ประสบจากการเห็นความฉุกเฉินว้าวุ่นของครอบครัวของเจ้าบ่าว

ด้วยเหตุฉนี้ ในการประพฤติตัวของพ่อ พ่อได้ทะนุถนอมความรู้สึกต่างๆเหล่านั้น และความโศกเศร้าต่างๆที่มนุษย์ที่ซื่อตรงได้ประสบพบกับความเจ็บปวด ความต้องการ และพ่อได้ทําแบบมีจุดประสงค์ ให้ลูกได้รับรู้ว่า ในหลักฐานที่พร้อมมูล พ่อเป็นมนุษย์แท้จริงเหมือนกับลูก

ด้วยเหตุฉนี้ ลูกก็ควรที่จะกระทําแบบนี้ และรวมสิ่งต่างๆเหล่านั้นของลูกเป็นหนึ่งเดียวกับพ่อ เหมือนที่พ่อรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกับลูก ผู้คนไม่ได้คิดมากกับสิ่งนี้ เขาเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมดา และลืมสิ่งธรรมดา ในทางตรงกันข้าม ผู้ใดก็ตามที่ไม่ปล่อยให้สิ่งธรรมดาหลุดลอยไปแบบไม่สนใจ เขาผู้นั้นจะมีคุณค่าต่อสิ่งเหนือธรรมดาที่พ่ออธิบายไว้แล้ว ไม่เป็นทํานองเดียวกับผู้ที่ปล่อยสิ่งธรรมดา แล้วจะมีคุณค่าต่อสิ่งเหนือธรรมดา

พ่ออยู่ที่นี่ พร้อมกับโศกเศร้าต่างๆของพ่อในลูก ความโศกเศร้าที่แท้จริงแล้วก็คือ การร่วมรับความเจ็บปวดต่างๆของพ่อ ที่พ่อได้รับและมีผลของความโศกเศร้าทางวิญญาน เพื่อการไถ่กู้ของมนุษยชาติ สิ่งที่พวกลูกเรียกว่าเป็นความทรงจํานั้น ไม่ใช่ของมนุษย์ แต่เป็นการกรีดสลัก ที่พ่อได้วางไว้ล่วงหน้าในสติปัญญาของลูก การไตร่ตรอง และ
การกระทําในระดับของความโศกเศร้าของพ่อนั้น ไม่ใช่สิ่งธรรมชาติ ที่มันจะปรับตัวเข้ากับความเป็นมนุษย์ของลูก มันเป็นผลของความปราถนาของพ่อ นอกจากความทรงจําแล้ว ลูกจะประสบกับความโศกเศร้า แบบฉับพลันทันที ที่มาจากการกระทําบางอย่างในบางโอกาส และสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การกระทำของมนุษย์ แต่เป็นสิ่งต่างๆของพ่อพระเป็นเจ้า ดังนั้น ปราศจากการใช้สิ่งใดๆ พ่อทํางานแบบโดยตรงในตัวลูก อย่าเกิดความสงสัยข้องใจ เพราะมันเป็นอําเภอใจของพ่อ ที่เป็นหนึ่งเดียวกับความโศกเศร้าของพ่ออย่างแจ่มชัด

ดังนั้น มันจึงเป็นความกระจ่างแจ้ง เทียมเท่ากับความเจ็บปวดทรมานของพ่อ ในสภาพธรรมชาติปัจจุบัน หรือในสภาพเหนือธรรมชาติ ด้วยเหตุผลนั้น จงอย่าละทิ้งสิ่งใดๆ ที่พ่อเสนอให้ลูก เพราะทุกสิ่งคือความปรารถนาของพ่อ จงอย่ายึดติดกับสิ่งสร้างใดๆ เพราะพ่อพระเป็นเจ้า ขับเคลื่อนพวกเขา จงอย่าพะวักพะวงกับสิ่งของ ของมนุษย์ ของลูก หรือ ของผู้อื่น เพราะลูกได้รับสิ่งเหล่านั้นทั้งมวล เพื่อให้ลูกมีการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวที่ยิ่งใหญ่มากกว่า

นี่คือโรงเรียนแห่งความเจ็บปวดทรมาน และในโรงเรียนนี้ ลูกจะก้าวหน้า จงเรียนจากพ่อ จากครูของลูก ที่อนุญาตให้ลูก ในแต่ละครั้ง ประสบความรักของพ่อว่า พ่อรักลูกมากปานใด ลูกของพ่อเอ๋ย เร่งเข้าหาหนังสือเล่มที่สอง ลูกไม่ได้บรรจุสิ่งที่จําเป็น ความสนใจในการเผยแพร่มัน ต้องให้พ่อลืม ความเร่งรีบ ห่วงใย ของลูก หรือไร?

UNITE YOURSELVES TO ME AS I AM UNITED TO YOU

CL-91 18-Jan-96 Jesus

I value in you the union to My sufferings more than any other of your works. Because apart from all of the beauty you acquire upon uniting yourself to My merits, you must consider that the unity produced because of love is very effective proof that the same merits with which you adorn yourself have produced the main fruit that I wished for: My Love in you.

It will be best for Me to show you how you must behave when I unite you noticeably to My sorrows and above all, explain to you which are your sorrows that unite you to My sorrows.

You try to make a distinction between normal sorrows and above normal sorrows. You make two categories: your sorrows and My sorrows; common things and extraordinary things. You are wrong in thinking like that.

I became man precisely because you and everyone had to see that I, like you, wanted to experience the common sorrows as well as My personal ones. Remember My trembling upon passing the funeral procession of Naim; remember Lazarus already buried; reflect on the crowd that followed Me to the mount and had nothing to eat; reflect on the apostles' condescension about their material needs. Reflect, especially, how I took great pains to give My Mother a son that would take My place, even if materially, since I was leaving Her alone in the world. It is true that in each of these actions I based Myself on affirming high concepts, Divine truths, supernatural power, and My ultimate mission; yet the truth remains that I acted as man before I acted like God, as Redeemer.

In Cana I told My Mother that My hour had not yet come; nevertheless, sympathizing with the need for the banquet to have the desired ending, I complied with something that was not very necessary, but I did it because of the pity I experienced in seeing the urgency of the husband's family.

So then, in My behavior I nourished those feelings and therefore those sorrows that all honest men experience facing pain and needs, and I did it on purpose, to make known to you, in full evidence, My real being of a man like you.

Consequently, you too should act this way and unite them to Me as I was united to you. One does not think too much of this; one believes more in extraordinary things, and forgets the ordinary. On the other hand, he who does not allow the ordinary things to pass inadvertently will become worthy of the extraordinary and not vice versa.

And I am here, with My sorrows in you, My sorrow which are an actual participation of pains suffered by Me, and resulting spiritual anguishes for human Redemption. What you call memory is not a human thing but rather like an engraving that I have previously placed in your mind. To reflect and to act in the plain of My sorrows is not a natural thing for it adapts to your humanity only as a result of My Desire. But besides memory, you will experience sudden sorrows, due to occasional deeds, and these are not human deeds but things truly divine. And then if, without making use of anything, I work directly in you, do not entertain any doubts because it is clearly My Will in union with My sorrows.

Thus it is left clear as much as it concerns suffering for Me, be it now in the natural state or in the supernatural. For that reason, do not leave out anything of what I offer you, because everything is desired by Me. Do not affirm yourself in the creatures, because the Creator moves them. Do not linger over human things, yours or somebody else's, because you receive them all to give you greater union.

This is the school of suffering and in this school you progress. Learn from Me, from your Teacher who allows you each time to better experience how much He loves you…

Please, My children, accelerate on the second book, you are not putting in it the necessary interest to spread it quickly. Will I have to forget about your urgent concerns?
ตอบกลับโพส