ไม่เชื่อ ไม่ต้องอ่าน!!! ... กลับใจแล้ว สนิทกับพระ
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
14 ม.ค. 2006
ผมแทบเป็นบ้าไปแล้ว กับสิ่งที่พระเจ้าให้ผมเปลี่ยนแปลง
มันอยากมากกับการเปลี่ยนนิสัยที่เราคุ้นเคยอยู่ในปัจจุบัน
ผมพยายามหาวิธีแก้ไขมัน ... แล้วพระองค์ก็ทรงตอบผ่าน
คนที่ผมรู้จักมากคนหนึ่ง การพูดของพี่เขาทำให้ผมเข้าใจพระองค์
และพระประสงค์ของพระ ... ผมสัมผัสถึงแรงศรัทธาที่พี่คนนี้มีต่อพระมาก
พี่เขาเข้าใจชีวิตผมอย่างลึกซึ้ง ... ขอขอบคุณ
........................
คืนนั้นเอง ผมฝันเห็นตัวเอง สว่างไปทั้งตัว
ในฝันนั้นา ผมนั่งรถไปเที่ยวกัน สักพัก
ผมก็เดินไปหาแม่ผม แม่ผมนั่งอยู่หลังรถเมล์
(แม่ผมเป็นพุทธ) ผมถามแม่ว่า "แม่เป็นอะไรหรือเปล่า"
แม่บอกว่า แม่เจ็บขามาก ลุกยืนไม่ได้ เดินไม่ได้
แต่แม่ก็คิดถึงพระเยซูอยู่นะ ... ผมรู้สึกปลื้มดีใจอย่างไรก็ไม่รู้
....................
15 ม.ค. 2006
วันต่อมา
ในเย็นวันนั้น ผมได้ทำผิดต่อพระเจ้าอีกแล้ว...
ก่อนนอนผมได้รู้สึกสำนึกในความผิดเหล่านี้...
ได้เห็นภาพแม่พระมหาทุกข์ขึ้นในมโนภาพ (ลางๆ) อยู่ แม่พระน้ำตาไหลออกมา...
แม่ครับผมขอโทษครับ ผมได้ฆ่าพระเยซูเจ้า อีกครั้ง ผมร้องไห้ออกมา ออกมามากกว่าทุกครั้ง...
ผมหันไปดูรูปพระเยซูที่ผมถ่ายไว้ในมือถือ รูปนั้นมีลอยเล็กๆ คล้ายกับว่าเป็นน้ำตาของพระเยซู...
พระเยซูเจ้าข้า ลูกทำผิดต่อพระองค์ ลูกทำให้พระองค์ต้องเจ็บช้ำพระทัย ลูกฆ่าพระองค์ ลูกขออภัยจากพระองค์ ได้โปรดอย่าได้ร้องไห้อีกเลย ผมก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกันในครั้งนี้ ผมไม่ได้เห็นความสำคัญของพระองค์เลย พระองค์ได้ใช้รูปภาพของพระองค์เตือนใจในเวลาล่าสุดก่อนที่ผมจะทำผิด แต่ผมก็กลับไม่สนใจกับภาพนี้เลย...
ผมขอได้ไหมครับ ผมเป็นคนที่เหลวแหลกที่สุดในหมู่ทุกๆ คน ผมได้สวดภาวนาถึงพระองค์บ่อยขึ้น ได้โปรดแสดงพระหรรษทานของพระองค์เถิดพระเจ้าข้า โปรดประทานพระหรรษทานการหยั่งรู้เถิดพระเจ้าข้า...
ผมนอนหลับไป...
ผมนอนอยู่ เห็นร่างตัวเองกำลังนอนตะแคงอยู่ สักพักคล้ายกับมีบุคคลหนึ่งเข้ามาในห้องของผม เข้ามาด้านหลังผม แล้วก็เข้ามาในตัวผม ผมหันไปมอง ผมยังคงนอนตะแคงอยู่ แล้วก็มีร่างเด็กวัยรุ่นผู้ชายคนหนึ่งมานั่งข้างๆ บนที่นอนของผม แล้วเขาก็บอกกับผมว่า...
เราคือทูตสวรรค์ของพระเจ้า นายไม่ได้นอนหลับหรอก นายกำลังตื่นอยู่...
ครับ ใช่ผมไม่ได้หลับจริงๆ ผมมองดูไปรอบๆ นี่ก็ห้องผม แล้วเขาก็มานั่งอยู่จริงๆ เขาใส่เสื้อผ้าเหมือนคนปัจจุบัน...
นี่คือหนังสือที่เราขอมอบให้ เป็นหนังสือที่เรานำมาด้วย...
ผมหยิบหนังสือขึ้นดู พลิกดูปกหน้า และปกหลัง มีแต่ภาษาคล้ายภาษาอังกฤษ แต่ไม่ใช่ มีราคาด้วย แต่ไม่ใช่ มีตราประทับด้วยจริงๆ ว่ามาจากสวรรค์ ตัวหนังสือทำด้วยวัสดุที่ไม่คุ้นเคยเลยจริงๆ ปกเป็นสีน้ำเงิน เป็นรูปเกี่ยวกับชีวิตบนสวรรค์...
ผมก็เริ่มถามทูตสวรรค์องค์นี้ว่า...
ตัวท่านสูงเท่าไหร่ ตอนอยู่ในสวรรค์...
เราก็สูงเท่าคนทั่วไป เท่าที่กับนายมองเห็นนั่นแหละ...
สวรรค์สวยงามไหมครับ...
สวยงามมาก เราอยู่สุขสบายมาก...
ผมเห็นภาพเป็นทุ่งหญ้าสวยงาม มีแต่ความสงบ ที่หาในโลกไม่ได้ มีผู้คนมากมายในนั้น กำลังทำงานของพวกเขาอยู่...
เราเพิ่งฉลองวันเกิดพระเยซูเจ้าเอง...
ฉลองวันเกิดพระเยซูเจ้าเหรอครับ (ผมงง)...
ใช่เราเพิ่งฉลองวันเกิดพระเยซูเจ้า ครบ 2000 ปี...
แล้วฉลองกันทุกกี่ปีละ...
ฉลองกันทุก 2000 ปี...
งั้นท่านก็เพิ่งมาอยู่ละสิ....
ใช่เราเพิ่งมาอยู่ แต่ก็ 2000 ปีแล้ว...
แสดงว่าท่านไม่เคยเป็นมนุษย์ ในสมัยนี้มาก่อนเลย...
เราไม่เคยเป็นมนุษย์ เราได้มาอยู่สวรรค์เป็นเวลา 2000 ปีแล้ว...
เออ... แล้วพระพุทธเจ้าละ ท่านรู้ไหมว่าพระองค์อยู่ที่ใดในสวรรค์แห่งนี้...
อืม... เราไม่เห็นใครพูดถึงเลย แต่สิ่งนี้เป็นความลับสวรรค์ ไม่มีใครบอกหรือกล่าวถึงเลย...
ผมมองดูทูตสวรรค์องค์นี้ ท่านเป็นคนหน้าออกจีนๆ ขาวๆ อายุเท่าๆ กับคนอายุประมาณ 15
ผมแทบเป็นบ้าไปแล้ว กับสิ่งที่พระเจ้าให้ผมเปลี่ยนแปลง
มันอยากมากกับการเปลี่ยนนิสัยที่เราคุ้นเคยอยู่ในปัจจุบัน
ผมพยายามหาวิธีแก้ไขมัน ... แล้วพระองค์ก็ทรงตอบผ่าน
คนที่ผมรู้จักมากคนหนึ่ง การพูดของพี่เขาทำให้ผมเข้าใจพระองค์
และพระประสงค์ของพระ ... ผมสัมผัสถึงแรงศรัทธาที่พี่คนนี้มีต่อพระมาก
พี่เขาเข้าใจชีวิตผมอย่างลึกซึ้ง ... ขอขอบคุณ
........................
คืนนั้นเอง ผมฝันเห็นตัวเอง สว่างไปทั้งตัว
ในฝันนั้นา ผมนั่งรถไปเที่ยวกัน สักพัก
ผมก็เดินไปหาแม่ผม แม่ผมนั่งอยู่หลังรถเมล์
(แม่ผมเป็นพุทธ) ผมถามแม่ว่า "แม่เป็นอะไรหรือเปล่า"
แม่บอกว่า แม่เจ็บขามาก ลุกยืนไม่ได้ เดินไม่ได้
แต่แม่ก็คิดถึงพระเยซูอยู่นะ ... ผมรู้สึกปลื้มดีใจอย่างไรก็ไม่รู้
....................
15 ม.ค. 2006
วันต่อมา
ในเย็นวันนั้น ผมได้ทำผิดต่อพระเจ้าอีกแล้ว...
ก่อนนอนผมได้รู้สึกสำนึกในความผิดเหล่านี้...
ได้เห็นภาพแม่พระมหาทุกข์ขึ้นในมโนภาพ (ลางๆ) อยู่ แม่พระน้ำตาไหลออกมา...
แม่ครับผมขอโทษครับ ผมได้ฆ่าพระเยซูเจ้า อีกครั้ง ผมร้องไห้ออกมา ออกมามากกว่าทุกครั้ง...
ผมหันไปดูรูปพระเยซูที่ผมถ่ายไว้ในมือถือ รูปนั้นมีลอยเล็กๆ คล้ายกับว่าเป็นน้ำตาของพระเยซู...
พระเยซูเจ้าข้า ลูกทำผิดต่อพระองค์ ลูกทำให้พระองค์ต้องเจ็บช้ำพระทัย ลูกฆ่าพระองค์ ลูกขออภัยจากพระองค์ ได้โปรดอย่าได้ร้องไห้อีกเลย ผมก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกันในครั้งนี้ ผมไม่ได้เห็นความสำคัญของพระองค์เลย พระองค์ได้ใช้รูปภาพของพระองค์เตือนใจในเวลาล่าสุดก่อนที่ผมจะทำผิด แต่ผมก็กลับไม่สนใจกับภาพนี้เลย...
ผมขอได้ไหมครับ ผมเป็นคนที่เหลวแหลกที่สุดในหมู่ทุกๆ คน ผมได้สวดภาวนาถึงพระองค์บ่อยขึ้น ได้โปรดแสดงพระหรรษทานของพระองค์เถิดพระเจ้าข้า โปรดประทานพระหรรษทานการหยั่งรู้เถิดพระเจ้าข้า...
ผมนอนหลับไป...
ผมนอนอยู่ เห็นร่างตัวเองกำลังนอนตะแคงอยู่ สักพักคล้ายกับมีบุคคลหนึ่งเข้ามาในห้องของผม เข้ามาด้านหลังผม แล้วก็เข้ามาในตัวผม ผมหันไปมอง ผมยังคงนอนตะแคงอยู่ แล้วก็มีร่างเด็กวัยรุ่นผู้ชายคนหนึ่งมานั่งข้างๆ บนที่นอนของผม แล้วเขาก็บอกกับผมว่า...
เราคือทูตสวรรค์ของพระเจ้า นายไม่ได้นอนหลับหรอก นายกำลังตื่นอยู่...
ครับ ใช่ผมไม่ได้หลับจริงๆ ผมมองดูไปรอบๆ นี่ก็ห้องผม แล้วเขาก็มานั่งอยู่จริงๆ เขาใส่เสื้อผ้าเหมือนคนปัจจุบัน...
นี่คือหนังสือที่เราขอมอบให้ เป็นหนังสือที่เรานำมาด้วย...
ผมหยิบหนังสือขึ้นดู พลิกดูปกหน้า และปกหลัง มีแต่ภาษาคล้ายภาษาอังกฤษ แต่ไม่ใช่ มีราคาด้วย แต่ไม่ใช่ มีตราประทับด้วยจริงๆ ว่ามาจากสวรรค์ ตัวหนังสือทำด้วยวัสดุที่ไม่คุ้นเคยเลยจริงๆ ปกเป็นสีน้ำเงิน เป็นรูปเกี่ยวกับชีวิตบนสวรรค์...
ผมก็เริ่มถามทูตสวรรค์องค์นี้ว่า...
ตัวท่านสูงเท่าไหร่ ตอนอยู่ในสวรรค์...
เราก็สูงเท่าคนทั่วไป เท่าที่กับนายมองเห็นนั่นแหละ...
สวรรค์สวยงามไหมครับ...
สวยงามมาก เราอยู่สุขสบายมาก...
ผมเห็นภาพเป็นทุ่งหญ้าสวยงาม มีแต่ความสงบ ที่หาในโลกไม่ได้ มีผู้คนมากมายในนั้น กำลังทำงานของพวกเขาอยู่...
เราเพิ่งฉลองวันเกิดพระเยซูเจ้าเอง...
ฉลองวันเกิดพระเยซูเจ้าเหรอครับ (ผมงง)...
ใช่เราเพิ่งฉลองวันเกิดพระเยซูเจ้า ครบ 2000 ปี...
แล้วฉลองกันทุกกี่ปีละ...
ฉลองกันทุก 2000 ปี...
งั้นท่านก็เพิ่งมาอยู่ละสิ....
ใช่เราเพิ่งมาอยู่ แต่ก็ 2000 ปีแล้ว...
แสดงว่าท่านไม่เคยเป็นมนุษย์ ในสมัยนี้มาก่อนเลย...
เราไม่เคยเป็นมนุษย์ เราได้มาอยู่สวรรค์เป็นเวลา 2000 ปีแล้ว...
เออ... แล้วพระพุทธเจ้าละ ท่านรู้ไหมว่าพระองค์อยู่ที่ใดในสวรรค์แห่งนี้...
อืม... เราไม่เห็นใครพูดถึงเลย แต่สิ่งนี้เป็นความลับสวรรค์ ไม่มีใครบอกหรือกล่าวถึงเลย...
ผมมองดูทูตสวรรค์องค์นี้ ท่านเป็นคนหน้าออกจีนๆ ขาวๆ อายุเท่าๆ กับคนอายุประมาณ 15
แก้ไขล่าสุดโดย bomzaiya เมื่อ พุธ ม.ค. 18, 2006 7:36 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เห็นตั้งหัวข้อกระทู้แล้วก็ ... อืม.. ตีความได้ ๒ แบบ คือ ท้าทายให้อ่าน กับ ขี้งอน ไม่รู้เป็นแบบไหน ;D
บางเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์เข้ามาวนเวียนในจิตใจมากๆ บางครั้งก็ทำให้เราไม่ไปไหนเหมือนกันนะคะ เหมือนย่ำอยู่กับที่
ขอแสดงความคิดเห็นนิดนะคะ ไหนๆก็ตั้งกระทู้แล้ว ..... ถ้าได้คำตอบแล้วจะทำให้เราสนิทกับพระเป็นเจ้าขึ้นมั้ยคะ
พระเป็นเจ้าไม่เคยยอกย้อน พระองค์ตรงไปตรงมา อาจเป็นความคิดเราที่วนเวียนอยู่ในหัว ย้ำคิดย้ำทำ เหมือนถูก fool around
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่ความเห็นนะคะ ความสัมพันธ์ระหว่างบอมกับพระเป็นเรื่องส่วนตัวที่บางครั้งเข้าใจกันแค่ ๒ คน ;)
บางเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์เข้ามาวนเวียนในจิตใจมากๆ บางครั้งก็ทำให้เราไม่ไปไหนเหมือนกันนะคะ เหมือนย่ำอยู่กับที่
ขอแสดงความคิดเห็นนิดนะคะ ไหนๆก็ตั้งกระทู้แล้ว ..... ถ้าได้คำตอบแล้วจะทำให้เราสนิทกับพระเป็นเจ้าขึ้นมั้ยคะ
พระเป็นเจ้าไม่เคยยอกย้อน พระองค์ตรงไปตรงมา อาจเป็นความคิดเราที่วนเวียนอยู่ในหัว ย้ำคิดย้ำทำ เหมือนถูก fool around
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่ความเห็นนะคะ ความสัมพันธ์ระหว่างบอมกับพระเป็นเรื่องส่วนตัวที่บางครั้งเข้าใจกันแค่ ๒ คน ;)
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ดีแล้วคะ
จดบันทึกไว้นะคะ *no1
เป็นประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
มันจะมีประโยชน์กับคุฯและคนรอบข้าง ก็เป็นได้
จดบันทึกไว้นะคะ *no1
เป็นประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
มันจะมีประโยชน์กับคุฯและคนรอบข้าง ก็เป็นได้
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
หากสิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้น มีประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ของผมกับพระ
Let do it!
หากสิ่งใดก็ตามที่ทำให้ผม ห่างไกลจากพระ
Leave it away
หากสิ่งใดที่ทำให้ผมพ้นหนทางจากโลกนี้ได้
Let us GO!
ชีวิตนี้ขอบากบั่น โดยมีพระเจ้าเคียงข้าง
มีแม่พระไว้คอยปลอบประโลมใจ และหนุนความเชื่อ
มีทูตสวรรค์ และอารักขเทวดา เป็นเพื่อนและผู้ให้กำลังใจ
---------------
เท่านี้ ผมคงไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว....
Let do it!
หากสิ่งใดก็ตามที่ทำให้ผม ห่างไกลจากพระ
Leave it away
หากสิ่งใดที่ทำให้ผมพ้นหนทางจากโลกนี้ได้
Let us GO!
ชีวิตนี้ขอบากบั่น โดยมีพระเจ้าเคียงข้าง
มีแม่พระไว้คอยปลอบประโลมใจ และหนุนความเชื่อ
มีทูตสวรรค์ และอารักขเทวดา เป็นเพื่อนและผู้ให้กำลังใจ
---------------
เท่านี้ ผมคงไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว....
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
อ่านความเห็นของคุณ bomzaiya แล้วผมรุ้สึกว่าคุณ bomzaiya มีบางอย่างที่เหมือนผม ในทางด้านความรู้สึกความสัมพันธ์กับพระเป็นเจ้า ถ้าเป็นไปได้ลอง Add MSN มาคุยกันครับ :D
Jaykata@hotmail.com
Jaykata@hotmail.com
-
- โพสต์: 24
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 13, 2005 1:53 pm
- ที่อยู่: bangkok
ดีแล้วค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
princess of wands เขียน: อ่านความเห็นของคุณ bomzaiya แล้วผมรุ้สึกว่าคุณ bomzaiya มีบางอย่างที่เหมือนผม ในทางด้านความรู้สึกความสัมพันธ์กับพระเป็นเจ้า ถ้าเป็นไปได้ลอง Add MSN มาคุยกันครับ :D
Jaykata@hotmail.com
;D ;D ใจตรงกันเลย พี่ก็รู้สึกแบบปั๊มเหมือนกัน และแนะนำให้เขาคุยกับปั๊มก่อนหน้านี้แล้วด้วย
-
- โพสต์: 659
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
- ที่อยู่: I believe in God...
ไม่มีใครว่าบ้าหรอกครับ ผมเองก็เคยฝันแบบนั้นเหมือนกันครับ
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
ถึงน้องปั๊มนะคับ เมื่อวันศุกร์ตอนบ่าย ได้โทรไปที่บ้านปั๊ม
รู้สึกว่าแม่ปั๊มจะรับสาย ฝากเบอร์ไว้ให้โทรกลับ
ถ้าอย่างไรก็โทรกลับหาพี่ (บอม) ด้วยนะ
05-9207220
หรือจะฝากเบอร์ไว้ก็ได้
ไว้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับพระเจ้า และแม่พระ
รู้สึกว่าแม่ปั๊มจะรับสาย ฝากเบอร์ไว้ให้โทรกลับ
ถ้าอย่างไรก็โทรกลับหาพี่ (บอม) ด้วยนะ
05-9207220
หรือจะฝากเบอร์ไว้ก็ได้
ไว้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับพระเจ้า และแม่พระ
ผมก็ฝันประหลาดเหมือนกันเมื่อคืนที่ผ่านมา
ฝันว่าได้เจอรูปปั้นแม่พระจากที่แห่งหนึ่งเดินออกมาหาผม
และผมก็ตกใจเข้าไปกอดแม่พระจนไปถึงข้างริมน้ำผมก็สังเกตุดูว่าทำไมรูปปั้น
เดินได้ก็นึกในใจอาจเป็นอย่างในที่ยุโรปก็ได้แต่พอไปถึงริมน้ำพระแม่ก็ลอย
ตัวออกจากผมผมก็ถามว่าจะไปหาพระแม่เหนือน้ำนี้ได้ยังไงและลักษณะที่ปราก
ฎคล้ายกับตอนที่อยู่กับแบแนแด็ดต่างกับตอนแรกผมก็ตกใจหลังจากนั้นท่าน
ตรัสว่าในใจเจ้ายังมีอะไรที่กลัวอีกอะไรประมาณเนี้ยผมก็ตกใจตื่นนอนแล้วก็
ตะลึงกับฝันเมื่อคืนมากทำไมพระองค์ทำผมตกใจใครพอจะเคยเจอฝันแบบนี้มั่ง
ครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวผม
ฝันว่าได้เจอรูปปั้นแม่พระจากที่แห่งหนึ่งเดินออกมาหาผม
และผมก็ตกใจเข้าไปกอดแม่พระจนไปถึงข้างริมน้ำผมก็สังเกตุดูว่าทำไมรูปปั้น
เดินได้ก็นึกในใจอาจเป็นอย่างในที่ยุโรปก็ได้แต่พอไปถึงริมน้ำพระแม่ก็ลอย
ตัวออกจากผมผมก็ถามว่าจะไปหาพระแม่เหนือน้ำนี้ได้ยังไงและลักษณะที่ปราก
ฎคล้ายกับตอนที่อยู่กับแบแนแด็ดต่างกับตอนแรกผมก็ตกใจหลังจากนั้นท่าน
ตรัสว่าในใจเจ้ายังมีอะไรที่กลัวอีกอะไรประมาณเนี้ยผมก็ตกใจตื่นนอนแล้วก็
ตะลึงกับฝันเมื่อคืนมากทำไมพระองค์ทำผมตกใจใครพอจะเคยเจอฝันแบบนี้มั่ง
ครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวผม
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
พี่ว่าคุณแม่คงเตือนให้วางใจในพระเจ้ามากกว่านี้นะครับ สำหรับตัวน้องเองและหลายๆคน ;)S.PAULVS เขียน: บางทีก่อนนอนก็ไม่ได้สวดต่อหน้าพระรูปท่านอาจเตือนผมให้สวดต่อหน้ารึเปล่าครับ
ไม่ใช่หรอกครับสาระสำคัญอยู่ที่คำพูดของแม่นั่นแหละ และพระไม่ได้ทำให้คุณตกใจ แต่คุณตกใจเอง เวลาอยู่ในความฝัน พฤติกรรมที่เรากระทำในฝัน หรือความรู้สึกของเราในฝัน อาจไม่ใช่สารที่พระจะสื่อ แต่มันอาจเป้นแค่ธรรมชาติที่บกพร่องของเราเอง ดูเฉพาะที่พระองค์ทรงตรัสและทรงกระทำเป็นหลักครับS.PAULVS เขียน: บางทีก่อนนอนก็ไม่ได้สวดต่อหน้าพระรูปท่านอาจเตือนผมให้สวดต่อหน้ารึเปล่าครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 26, 2006 3:21 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
ถึงอย่างไรก็ดี ผมไม่มีความคิดหรือตัดสินอะไรทั้งนั้นหลังจากได้รับการดลใจHoly เขียน:ไม่ใช่หรอกครับสาระสำคัญอยู่ที่คำพูดของแม่นั่นแหละ และพระไม่ได้ทำให้คุณตกใจ แต่คุณตกใจเอง เวลาอยู่ในความฝัน พฤติกรรมที่เรากระทำในฝัน หรือความรู้สึกของเราในฝัน อาจไม่ใช่สารที่พระจะสื่อ แต่มันอาจเป้นแค่ธรรมชาติที่บกพร่องของเราเอง ดูเฉพาะที่พระองค์ทรงตรัสและทรงกระทำเป็นหลักครับS.PAULVS เขียน: บางทีก่อนนอนก็ไม่ได้สวดต่อหน้าพระรูปท่านอาจเตือนผมให้สวดต่อหน้ารึเปล่าครับ
แต่สิ่งที่ผมได้คือการเปลี่ยนแปลง และความเข้าใจ
ความรักที่มีต่อพระเจ้ามากขึ้น ความเกรงใจ ที่มีต่อพระองค์มากขึ้นทุกวัน
....
อย่าตีความหมายความฝันกันเลย...
แต่งภาวนาอย่าให้ขาดสาย เพราะความฝัน
เป็นเพียงสิ่งที่ออกมาจากใจ และสิ่งที่กำลังจะรับเข้ามาในใจ
...
อย่างผม สามารถรับรู้ได้ดีในยามฝัน
แต่ก็ยากเหลือเกิน ในเวลาอื่นๆ ...
พระองค์รู้ว่าเรามีจุดใดที่เหมาะสมกับเรา...
....
อยากให้ทุกๆคนหันมามองหัวใจ..
ตัดประสบการณ์เชิงความรู้..
ตัดเหตุและผล...
กลับสู่จุดเดิม จุดที่เราเป็นเด็ก ..เล็กๆ ในสายตาของพระเจ้า
...
เพราะความสงสัย และการตีความ ทำให้เรา
ผิดพลาดจากพระองค์ไปเยอะ...
แต่การที่เชื่อแบบเด็กๆ และหวังให้พระองค์ช่วยเรานั้น
เป็นหนทางที่ถูกต้องและมั่นคงทีเดียว
พระองค์จะทรงปั่นแต่งเราเพิ่มอีก...
...
.....
แก้ไขล่าสุดโดย bomzaiya เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 27, 2006 8:37 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.