ปรีชาญาณมีประโยชน์มากกว่าความรู้ทั้งปวงที่หามาได้
บทที่ 1
ปรีชาญาณมีประโยชน์มากกว่าความรู้ทั้งปวงที่หามาได้
พระเจ้าตรัส
1. คำพูดของเราหวานเหมือนน้ำผึ้งสำหรับผู้ที่รักคำสอนของเรา และถือบัญญัติของเรา
2. แต่เสียงของเราเป็นพายุร้ายแบบถอนต้นสนสีดาแห่งเลบานอนสำหรับผู้ที่ดูหมิ่นคำแนะนำของเรา และคิดว่าตัวเองใหญ่ เขาทำบาปในความรู้ของเขา
3.ความอธรรมมีชัยในความหายนะ แต่ความชอบธรรมมีชัยในสิริมงคลเสมอ
4.คนชั่วยิ่งยกตัวเองก็ยิ่งตกต่ำ ส่วนคนดีมีธรรมยิ่งถ่อมตัวลงก็ยิ่งถูกยกให้สูงขึ้น
5. คนจองหองจะได้ยินเสียงของเรา แต่หาเข้าใจไม่
6. คนสภาพถ่อมตนจะฟังคำสอนของเรา และจะได้รับความบรรเทา
7. ยิ่งคำพูดของเราลงลึกในตัวลูกมากเพียงใด ลูกก็จะยิ่งไตร่ตรองลึกซึ้งได้มากเพียงนั้น
8. ยิ่งนักปราชญ์ที่ไม่เอาพระเจ้าจองหองพองขนมากเพียงใด เขาก็จะยิ่งไม่เห็นการไขแสดงในงานของเรามากเพียงนั้น
9. เขาเท่านั้นจะได้ยินเสียงของเราและได้รับประโยชน์ จะเข้าใจสิ่งที่เราพูดคือคนที่คิดถึงความรู้ของตัวเองน้อย แต่กระหายสัจธรรมนิรันดรและความรู้ของบรรดานักบุญ
10. เมื่อนั้นแหละความรู้ของมนุษย์จะเป็นประโยชน์แก่เขา เพราะความจริงทุกอย่างล้วนเป็นสักขึพยานถึงความดีงามและพระปรีชาญาณของเรา
11. เมื่อนั้นผู้ถ่อมตนจะเป็นผู้รู้ และผู้รู้ที่มีใจซื่อบริสุทธิ์ก็จะเป็นผู้ถ่อมตน
12.ความสุภาพถ่อมตนใหนแสงสว่างแก่สติปัญญามากกว่าความรู้ทางโลกที่หล่อเลี้ยงความจองหองพองขน
13.การศึกษาเล่าเรียนเพื่อรู้อย่างเดียวเป็นสิ่งอนิจจัง ถ้าชีวิตไม่มี
14.การเรียนรู้เพื่อจะได้หน้าให้ตนชมว่าเป็นผู้มีความรู้เป็นความโอ้อวดที่สุด คนเช่นนี้สมองไม่ได้พัก
15.การเรียนรู้เพื่อเอาเปรียบคนใจซื่อ เป็นการหลอกลวงและเป็นความชั่วร้ายของคนหยิ่งจองหอง
16. บุญของผู้ที่เชื่อ เพราะเขาจะเข้าใจความล้ำลึกมากมายของชีวิต และจะไม่ตกเป็นเหยื่อของนักปราชญ์เทียม
17. บุญของผู้ที่มีความรู้และสุภาพถ่อมตน เหตุว่าเขาจะได้ปรีชาญาณแห่งความเชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ ความเชื่อที่ส่องสว่างจิตใจ ใจที่สว่างนี้แหละจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ ที่ประสบปัญหาชีวิต
18.คนที่เชื่อและสอนพี่น้องของเราอย่างสุภาพจะพบความบรรเทาใจในคำสอนของเราและจะได้จิตตารมณ์การดำเนินชีวิตท่ามกลางคำพูดมากมายของเรา
19.ถ้าพระเจ้าแห่งความรู้ทรงพระกรุณาส่องสว่างแก่ลูก ลูกจงทำงานเป็นสาวกแห่งความจริงตามฐานะของลูกเถิด
20.ยิ่งลูกเรียนรู้พระศาสนจักรมากเพียงใด ลูกก็จะยิ่งเป็นคนสุภาพถ่อมตนในการพิพากษาตัดสิน และจะปลอดภัยในการเรียนรู้มากเพียงนั้น
ปรีชาญาณมีประโยชน์มากกว่าความรู้ทั้งปวงที่หามาได้
พระเจ้าตรัส
1. คำพูดของเราหวานเหมือนน้ำผึ้งสำหรับผู้ที่รักคำสอนของเรา และถือบัญญัติของเรา
2. แต่เสียงของเราเป็นพายุร้ายแบบถอนต้นสนสีดาแห่งเลบานอนสำหรับผู้ที่ดูหมิ่นคำแนะนำของเรา และคิดว่าตัวเองใหญ่ เขาทำบาปในความรู้ของเขา
3.ความอธรรมมีชัยในความหายนะ แต่ความชอบธรรมมีชัยในสิริมงคลเสมอ
4.คนชั่วยิ่งยกตัวเองก็ยิ่งตกต่ำ ส่วนคนดีมีธรรมยิ่งถ่อมตัวลงก็ยิ่งถูกยกให้สูงขึ้น
5. คนจองหองจะได้ยินเสียงของเรา แต่หาเข้าใจไม่
6. คนสภาพถ่อมตนจะฟังคำสอนของเรา และจะได้รับความบรรเทา
7. ยิ่งคำพูดของเราลงลึกในตัวลูกมากเพียงใด ลูกก็จะยิ่งไตร่ตรองลึกซึ้งได้มากเพียงนั้น
8. ยิ่งนักปราชญ์ที่ไม่เอาพระเจ้าจองหองพองขนมากเพียงใด เขาก็จะยิ่งไม่เห็นการไขแสดงในงานของเรามากเพียงนั้น
9. เขาเท่านั้นจะได้ยินเสียงของเราและได้รับประโยชน์ จะเข้าใจสิ่งที่เราพูดคือคนที่คิดถึงความรู้ของตัวเองน้อย แต่กระหายสัจธรรมนิรันดรและความรู้ของบรรดานักบุญ
10. เมื่อนั้นแหละความรู้ของมนุษย์จะเป็นประโยชน์แก่เขา เพราะความจริงทุกอย่างล้วนเป็นสักขึพยานถึงความดีงามและพระปรีชาญาณของเรา
11. เมื่อนั้นผู้ถ่อมตนจะเป็นผู้รู้ และผู้รู้ที่มีใจซื่อบริสุทธิ์ก็จะเป็นผู้ถ่อมตน
12.ความสุภาพถ่อมตนใหนแสงสว่างแก่สติปัญญามากกว่าความรู้ทางโลกที่หล่อเลี้ยงความจองหองพองขน
13.การศึกษาเล่าเรียนเพื่อรู้อย่างเดียวเป็นสิ่งอนิจจัง ถ้าชีวิตไม่มี
14.การเรียนรู้เพื่อจะได้หน้าให้ตนชมว่าเป็นผู้มีความรู้เป็นความโอ้อวดที่สุด คนเช่นนี้สมองไม่ได้พัก
15.การเรียนรู้เพื่อเอาเปรียบคนใจซื่อ เป็นการหลอกลวงและเป็นความชั่วร้ายของคนหยิ่งจองหอง
16. บุญของผู้ที่เชื่อ เพราะเขาจะเข้าใจความล้ำลึกมากมายของชีวิต และจะไม่ตกเป็นเหยื่อของนักปราชญ์เทียม
17. บุญของผู้ที่มีความรู้และสุภาพถ่อมตน เหตุว่าเขาจะได้ปรีชาญาณแห่งความเชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ ความเชื่อที่ส่องสว่างจิตใจ ใจที่สว่างนี้แหละจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ ที่ประสบปัญหาชีวิต
18.คนที่เชื่อและสอนพี่น้องของเราอย่างสุภาพจะพบความบรรเทาใจในคำสอนของเราและจะได้จิตตารมณ์การดำเนินชีวิตท่ามกลางคำพูดมากมายของเรา
19.ถ้าพระเจ้าแห่งความรู้ทรงพระกรุณาส่องสว่างแก่ลูก ลูกจงทำงานเป็นสาวกแห่งความจริงตามฐานะของลูกเถิด
20.ยิ่งลูกเรียนรู้พระศาสนจักรมากเพียงใด ลูกก็จะยิ่งเป็นคนสุภาพถ่อมตนในการพิพากษาตัดสิน และจะปลอดภัยในการเรียนรู้มากเพียงนั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 10, 2006 4:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ยก 1:5-8 การอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อมั่น
ท่านใดขาดปรีชาญาณ จงขอปรีชาญาณนั้นจากพระเจ้าเถิด พระองค์ประทานให้ทุกคนด้วยพระทัยกว้างโดยไม่ทรงตำหนิเลย แล้วเขาจะได้รับปรีชาญาณตามที่ขอ แต่เขาต้องขอด้วยความเชื่อ โดยไม่สงสัย เพราะผู้ที่สงสัยนั้นเปรียบเสมือนคลื่นในทะเลที่ถูกลมพัดซัดไปมา คนเช่นนี้จะไม่ได้รับอะไรจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาเป็นคนจิตใจโลเลไม่มั่นคงในกิจการทั้งหลายของเขา
---สิ่งชี้บอกคือ
ยก 3:13-18 ปรีชาญาณแท้และปรีชาญาณเทียม
ใครบ้างคิดว่าตนฉลาดและมีปรีชาญาณ จงแสดงความฉลาดและปรีชาญาณนั้นอย่างอ่อนโยนด้วยการกระทำและความประพฤติดี แต่ถ้าใจของท่านขมขื่นด้วยความอิจฉาริษยา และมีความทะเยอทะยาน จงอย่าโอ้อวดและอย่ามุสาต่อต้านความจริง ปรีชาญาณเช่นนี้มิได้มาจากเบื้องบน แต่เป็นปรีชาญาณตามธรรมดาโลก ตามแบบวัตถุนิยมและตามแบบปีศาจ ที่ใดมีความอิจฉาริษยาและความทะเยอทะยาน ที่นั่นย่อมมีแต่ความวุ่นวายและความชั่วร้ายนานาชนิด ส่วนปรีชาญาณที่มาจากเบื้องบน ประการแรกเป็นสิ่งบริสุทธิ์ แล้วจึงก่อให้เกิดสันติ เห็นอกเห็นใจ อ่อนน้อม เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา บังเกิดผลที่ดีงาม ไม่ลำเอียง ไม่เสแสร้ง ผู้ที่สร้างสันติย่อมเป็นผู้หว่านในสันติ และจะเก็บเกี่ยวผลเป็นความชอบธรรม
ท่านใดขาดปรีชาญาณ จงขอปรีชาญาณนั้นจากพระเจ้าเถิด พระองค์ประทานให้ทุกคนด้วยพระทัยกว้างโดยไม่ทรงตำหนิเลย แล้วเขาจะได้รับปรีชาญาณตามที่ขอ แต่เขาต้องขอด้วยความเชื่อ โดยไม่สงสัย เพราะผู้ที่สงสัยนั้นเปรียบเสมือนคลื่นในทะเลที่ถูกลมพัดซัดไปมา คนเช่นนี้จะไม่ได้รับอะไรจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาเป็นคนจิตใจโลเลไม่มั่นคงในกิจการทั้งหลายของเขา
---สิ่งชี้บอกคือ
ยก 3:13-18 ปรีชาญาณแท้และปรีชาญาณเทียม
ใครบ้างคิดว่าตนฉลาดและมีปรีชาญาณ จงแสดงความฉลาดและปรีชาญาณนั้นอย่างอ่อนโยนด้วยการกระทำและความประพฤติดี แต่ถ้าใจของท่านขมขื่นด้วยความอิจฉาริษยา และมีความทะเยอทะยาน จงอย่าโอ้อวดและอย่ามุสาต่อต้านความจริง ปรีชาญาณเช่นนี้มิได้มาจากเบื้องบน แต่เป็นปรีชาญาณตามธรรมดาโลก ตามแบบวัตถุนิยมและตามแบบปีศาจ ที่ใดมีความอิจฉาริษยาและความทะเยอทะยาน ที่นั่นย่อมมีแต่ความวุ่นวายและความชั่วร้ายนานาชนิด ส่วนปรีชาญาณที่มาจากเบื้องบน ประการแรกเป็นสิ่งบริสุทธิ์ แล้วจึงก่อให้เกิดสันติ เห็นอกเห็นใจ อ่อนน้อม เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา บังเกิดผลที่ดีงาม ไม่ลำเอียง ไม่เสแสร้ง ผู้ที่สร้างสันติย่อมเป็นผู้หว่านในสันติ และจะเก็บเกี่ยวผลเป็นความชอบธรรม
Thanks Holy to shows His Great Word. God bless you!
The best way to find inner experiences is that we are to surrender to the God power. Never sit in ego that,
The best way to find inner experiences is that we are to surrender to the God power. Never sit in ego that,
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ยึดตัวเองให้น้อยลง ยึดพระเจ้าให้มากขึ้น
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
;D ;D เอามาทบทวนอีกครั้งคะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
จริงครับ อ่านแล้วรู้สึกว่าใช่เลยครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เห็ยจริงด้วยทุกประการคะ
ขอบคุณเจ๊ฟิมที่เอาขึ้นมาอีกรอบนะก๊าบ ;)
ขอบคุณเจ๊ฟิมที่เอาขึ้นมาอีกรอบนะก๊าบ ;)
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
ชอบนะอันนี้
ถ้าไม่มีใจสุภาพ ถ่อมตัว ก็ไม่อาจเรียกได้ว่ามีปรีชาญาณ
อ่านแล้วคิดถึงพระบรมราโชวาทของในหลวง ตอนรับปริญญาเลย
คนที่มีความรู้แต่ไม่เอาความรู้ไปช่วยคนอื่น หรือสร้างประโยชน์ใดแก่สังคม ก็ไม่เรียกว่าเป้นบัณฑิต อะไรประมาณเนี้ย
ถ้าไม่มีใจสุภาพ ถ่อมตัว ก็ไม่อาจเรียกได้ว่ามีปรีชาญาณ
อ่านแล้วคิดถึงพระบรมราโชวาทของในหลวง ตอนรับปริญญาเลย
คนที่มีความรู้แต่ไม่เอาความรู้ไปช่วยคนอื่น หรือสร้างประโยชน์ใดแก่สังคม ก็ไม่เรียกว่าเป้นบัณฑิต อะไรประมาณเนี้ย