ทนายโจทก์ชี้ ผู้เขียน "ดาวินชี โค้ด" ส่อพิรุธ!

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร มี.ค. 21, 2006 7:36 pm

ทนายโจทก์ชี้ ผู้เขียน "ดาวินชี โค้ด" ส่อพิรุธ!

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2549 16:49 น.


หลังจากที่ต้องใช้เวลาถึง 3 สัปดาห์ในการไต่สวน สำหรับการฟ้องร้องเกี่ยวกับการขโมยพล็อตเรื่องของแดน บราวน์ในงานเขียนเรื่อง The Da Vinci Code อันสุดโด่งดังของเขา โดยทนายฝ่ายโจทก์ได้แถลงว่าคำให้การของบราวน์นั้นเชื่อถือไม่ได้ และสงสัยว่าทำไมภรรยาของเขาซึ่งเป็นผู้รวบรวมข้อมูลในการเขียนงานดังกล่าวจึงไม่มาร่วมให้การด้วย โดยการพิจารณาคดีจะสิ้นสุดในช่างต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ตามรายงานข่าวจากเอพีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

โดยคดีดังกล่าวเกิดจากการที่ ไมเคิล ไบเจนท์ และ ริชาร์ด ลี สองนักเขียนเจ้าของผลงาน The Holy Blood and the Holy Grail เมื่อปี 1982 ยื่นฟ้องต่อศาลประเทศอังกฤษว่า แดน บราวน์ เจ้าของผลงานอันลือลั่น The Da Vicci Code ได้ละเมิดแนวคิดหลักจากหนังสือของพวกตน โดยเฉพาะเนื้อหาที่อ้างถึงการสมรสระหว่างพระเยซูเจ้ากับและหญิงสาวที่ชื่อแมรี แมกดาลีน รวมทั้งความเชื่อว่าทั้งสองพระองค์ได้ให้กำเนิดเลือดเนื้อเชื้อไขสืบต่อมาอีกด้วย

โดยในการไต่สวนที่ใช้เวลานานถึง 3 สัปดาห์นั้น โจนาธาน เรย์เนอร์ เจมส์ ทนายความของฝ่ายโจทก์ ได้แจ้งต่อศาลว่าบราวน์ได้ละเมิดแนวคิดของหนังสือ The Holy Blood and the Holy Grail จริง แต่ถือเป็นการบกพร่องโดยสุจริต เพราะข้อมูลดังกล่าวเขาได้รับมาจากบรีท บราวน์ ภรรยาของเขาอีกที โดยเน้นด้วยว่าการให้การในขั้นศาลของนักเขียนดังผู้นี้ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาส่อแววพิรุธอย่างมาก

"การให้การของเขาส่อพิรุธอย่างมาก เขาไม่สามารถระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนเกี่ยวกับการได้มาซึ่งแนวคิดนี้ได้เลย เขาระบุปีได้อย่างคลาดเคลื่อน และไม่สามารถบอกได้ด้วยซ้ำว่าเดือนอะไร การให้การของเขาจึงไม่ช่วยอะไรเลย"

โดยทนายฝ่ายโจทก์ยังตั้งข้อสงสัยว่าทำไม บรีท บราวน์ภรรยาของนักเขียนดังจึงไม่เข้าร่วมในการให้ปากคำต่อกรณีดังกล่าว พร้อมเสริมว่าเธอผู้นี้นับเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายคดีครั้งนี้ เพราะเธอคือผู้ที่สามารถชี้ชัดได้ว่าท่อนไหนในเนื้อหาของ The Da Vicci Code ที่นำมาจาก The Holy Blood and the Holy Grail

"เขาแทบจะไม่รู้เลยว่าเธอเอาแนวคิดนี้มาจากไหน และมีเธอเท่านั้นที่สามารถระบุได้ว่ามีจุดใดบ้างที่เธอมีส่วนร่วมในงานชิ้นนี้ ทั้งส่วนของการค้นคว้าและการสร้างสรรค์"

ขณะที่บราวน์ซึ่งบินตรงจากบ้านในเมืองนิวแฮมป์เชียร์เพื่อมาให้การต่อศาล กล่าวยอมรับว่าเขาและภรรยาได้อ่าน The Holy Blood and the Holy Grail ในระหว่างการหาข้อมูลเพื่อแต่ง The Da Vicci Code จริง แต่อ้างว่ามันเป็นหนึ่งในหนังสือ 38 เล่มและเอกสารหลายร้อยชิ้นเท่านั้นที่พวกเขามีอยู่ในมือระหว่างการแต่งหนังสือดังกล่าว และยืนยันอีกว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นหัวใจสำคัญจนเป็นที่มาของผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่องนี้ของพวกเขาเลย

ขณะที่โจนาธาน บอลด์วิน ทนายของฝ่ายจำเลยก็เสริมด้วยว่าผลงานชิ้นนี้ของบราวน์ เกิดมาจากการรวบรวมข้อมูลอันหลากหลายมาสร้างเป็นผลงานที่สุดโดดเด่น

"แนวคิดที่นำมาเขียนในหนังสือเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สามัญอย่างมาก ซึ่งกฏที่ว่าด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์ไม่สามารถครอบคลุมมันได้" ทนายฝ่ายจำเลยแย้ง

โดยในการไต่สวนโดยบอลด์วินนั้น ไบเจนท์ซึ่งเป็นหนึ่งในฝ่ายโจทก์ได้ออกมายอมรับว่าคำฟ้องร้องของเขาหลายอย่างมีข้อผิดพลาด โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ว่าบราวน์ได้ใช้ "ข้อสันนิฐานที่คล้ายกันต่อเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์" ที่มาจากผลงานของพวกเขาต้องตกไป

ขณะที่ทนายฝ่ายโจทก์ยังกล่าวอย่างน้อยใจว่าลูกความของเขาเป็น "พยานที่เสียเปรียบในทุกๆ ทาง"

"เขาถูกขู่จนหงอด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่นี้ และต้องก้มหน้ายอมรับคำตัดสินต่างๆ จากผู้พิภากษาโดยไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย" เรย์เนอร์ เจมส์เปรย

ในการสรุปสำนวนครั้งนี้ ผู้พิภาพษาปีเตอร์ สมิธ ได้ให้คณะลูกขุนพิจารณาก่อนที่เวลาในการพิจารณาคดีจะสิ้นสุดลงในวันที่ 13 เมษายนที่จะถึงนี้

ถ้าชัยชนะในการดำเนินคดีครั้งนี้ตกเป็นของสองนักเขียนไบเจนท์และลี อาจจะมีคำสั่งศาลในการยับยั้งการฉาย The Da Vinci Code ฉบับภาพยนตร์ในวันที่ 19 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ก็ได้ ขณะที่ทางโซนี พิคเจอร์ บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ดังกล่าวยืนยันว่าจะทำการฉายตามหมายกำหนดเดิม

อย่างไรก็ดี แม้ว่าในการดำเนินคดีครั้งนี้ ผู้แพ้คดีจะต้องเผชิญหน้ากับการถูกฟ้องร้องด้วยมูลค่าถึง 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 70 ล้านบาท) แต่ปัจจุบันการเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ ของคดีนี้ ได้ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับอานิสงส์ไปตามๆกัน ทั้งตัวหนังที่จะฉายในอีก 2 เดือนข้างหน้า ,ฉบับปกอ่อนที่กำลังจะจำหน่ายอีกครั้งในวันที่ 28 มีนาคม ส่วนไบเจนท์ซึ่งขณะนี้ผลงาน The Holy Blood and the Holy Grail ของเขากำลังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ก็กำลังจะมีผลงานใหม่ที่ชื่อว่า The Jesus Papers ออกมาในสัปดาห์หน้าอีกด้วย

http://www.manager.co.th/Entertainment/ ... 0000038404

---ซาตานมันเอาหมดทุกทางจริงๆแฮะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nihil
~@
โพสต์: 1763
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 4:36 pm
ที่อยู่: Pax
ติดต่อ:

อังคาร มี.ค. 21, 2006 7:57 pm

พี่ปอไป post ลิงค์ให้คนที่ไม่เข้าใจมาอ่านความจริงที่เว็บผู้จัดการเสมอเลยนะครับ *ok

อ่านแล้วอยากหัวเราะ ที่ว่าถูกขู่จนหงอ เฮอะ ตัวเองทำอะไรไว้ย่อมรู้ดี เผลอ ๆ อาจจะชอบใจด้วยที่ทำให้มีโอกาสโปรโมทหนังสือมากขึ้น ขอให้เจอฟ้องผิดเถอะ :( เมืองไทยน่าจะแบนหนังเรื่องนี้จัง ทีเรื่องอื่นกระทบนิดกระทบหน่อยจับแบนไม่ให้ฉาย ทีเรื่องแบบนี้ดันฉายได้สบาย

อ่านสุดท้ายแล้วสะดุดตาชื่อหนังสือ The Jesus papers หวังว่าคงไม่ใช่ผลงานลวงดลกอีกนะ เฮ้อ :(
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร มี.ค. 21, 2006 10:54 pm

ที่รู้ๆตัวอย่างหนังที่ฉายที่ MBK เอกเห็นคนไปยืนดูกันเยอะนะแถมมีคุยกันว่าน่าดู (บางคนบอกเป็นการเปิดเผยความลับ) โอย ตูจะบ้า >:(
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ มี.ค. 22, 2006 12:14 am

ขอให้พระเจ้าทรงเปิดหูเปิดตาประชาชนชาวไทย
ให้รู้จักแยกแยะความจริง กับนิยาย ด้วยเถิด อาแมน
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ มี.ค. 22, 2006 12:14 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ot@
~@
โพสต์: 989
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:44 pm

พุธ มี.ค. 22, 2006 5:50 pm

มาฟ้องร้องกันเรื่องราวใหญ่โต ตอนที่หนังจะเข้า
กิจฉากันเอง+สร้างกระแส
ต้องยอมรับว่ามารเก่งด้านกลยุทธการตลาดจริงๆ :P
ภาพประจำตัวสมาชิก
NKL
โพสต์: 189
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 01, 2005 7:32 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. มี.ค. 23, 2006 1:51 am

โธ่ ซาตานกินรวบหมดทุกทางจริง

การตลาดยิ่งกว่าจบจากมหาลัยดังๆซะอีก
ตอบกลับโพส