+ ประสบการ์ณกับวิญญาณครั้งแรกในชีวิตผม +
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ช่วง 4 วันที่ผ่านมาผมมีงานต้องไปทำที่เชียงใหม่โดยที่เดินทางตั้งแต่วันที่ 18 ตอนเย็น ก่อนไปผมก็ได้จัดเตรียมกระเป๋าเก้บของทุกอย่างแต่ครั้งนี้แปลกประหลาดกว่าครั้งอื่นคือมีแรงบันดาลใจอะไรไม่รู้ ที่ทำให้ผมต้องนำไม้กางเขนที่บรรจุเหรียญของนักบุญเบเนดิกต์(ที่ใช้ในพิธีไล่ผี) และน้ำเสกไปด้วย เพราะปรกติแล้วผมไม่เคยหิ้วไปไหนเลย จะหิ้วไปก็แค่สายประคำเท่านั้น
การเดินทางเริ่มต้นที่สถานีรถไฟสามเสน พอขึ้นรถไฟมาแล้วผมก็สวดขอให้พระเยซูเจ้าไปทำงานกับผมในครั้งนี้ด้วยและผมอุ่นใจมากเมื่อรับรู้ได้ว่าพระองค์ประทับอยู่กับผม ณ ที่นั่นจริงๆ เมื่อรถไฟวิ่งมาได้สัก 2 ชั่วโมงแอร์ก็ดับโดยที่ดับเฉพาะโบกี้ของผมโบกี้เดียว และไฟก็ดับด้วย นั่นหมายถึงโบกี้ของผมนั้นมีแค่พัดลม(เครื่องยนต์ก็ดับ)ทำให้บรรยากาศตอนนั้นอบอ้าวและร้อนมากๆ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ว่านอนไม่หลับก็เลยออกไปยืนตากลมตรงข้อต่อระหว่างโบกี้แล้วก็เงยหน้าไปบนท้องฟ้าเห็ยดวงดาวมากมายที่ไม่สามารถมองไม่เห็นได้ในกรุงเทพ ทำให้ผมนึกถึงผู้ที่สร้างดวงดาวเหล่านั้นขึ้นมาและก็สวดภาวนาอยุ่ในใจมีความสุขมากทีเดียว พอง่วงก็เดินเข้ามาในโบกี้(ที่ร้อนอบอ้าว)แล้วก็หลับ ตื่นขึ้นมาพบว่าอยู่ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่แล้วผมและทีมงานทุกๆคนเพลียมากเพราะเสียเหงื่อไปทั้งตัวอีกทั้งรถไฟดีเลย์ไป 3 ช.ม เพราะอย่างที่บอกโบกี้ของผมไฟดับทำให้เครื่องยนตของ 2 โบกี้ที่เหลือต้องทำงานหนักทำให้ต้องจอดพักเพื่อเอาหัวรถจักรมาลากเป็นระยะๆ พอมาถึงก็มีทีมงานที่เป็น staff ที่มาถึงก่อนมารอรับไปที่พัก โดยที่พวกเราทุกคนได้ไปพักที่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก็ขึ้นรถไฟ ในระหว่างเดินทางนั้นก็มีทีมงานคนนึงที่มาพักอยู่ก่อนหน้านั้นเล่าขึ้นมาว่า
"เนี๊ยะก่อนเข้าอะ ไหว้เจ้าที่ก่อนนะ เพราะเจอมาหลายคนแล้ว"
ผมก็คิดในใจ (เอาแล้วไง เรื่องผีๆสางๆอีกแล้ว- -) พี่เขาเล่าว่าโดนไปหลายคนแล้วเช่น
1. นอนๆอยู่ก็มีเสียงคนคุยกันหน้าห้องแต่พอเปิดไปแล้วก็ไม่มีใคร
2.พี่ที่อยู่ฝ่ายเครื่องเสียงทดสอบอัดเสียง แล้วมีเสียงผู้หญิงหัวเราะแทรกเข้ามา
3.เวลาอาบน้ำ ก็มีเหมือนห้องข้างๆมาอาบด้วยแต่พอเดินผ่านหันไปดูกลับพบว่าพื้นห้องน้ำแห้งสนิท
ฯลฯ
ซึ่งทำให้ผมขนลุกทันที แต่ไม่ใช่ขนลุกเพราะกลัว แต่ขนลุกเพราะนึกได้ว่ามีการดลใจบางอย่างที่ทำให้ต้องเอาน้ำเสกและไม้กางเขนของนักบุญเบเนดิกต์มา ทั้งๆที่ไม่เคยพกไปไหนมาไหนมาก่อน ทำให้ผมวางใจว่าตอนนี้ผมอยู่ภายใต้การปกป้องของพระเป็นเจ้าแน่นอน แต่ในใจนึงประสามนุษย์ที่กลัวผีมากๆอย่างผมก็กลัวแทบดิ้นตาย เมื่อถึงที่พักเราก็ขนของขึ้นไปโดยที่พักนั้นเป็นหอพักของนักศึกษาซึ่งเราก็ได้ขนของขึ้นไปชั้น 4 ซึ่งเป็นที่พักของเรา ระหว่างเดินอยู่ตรงทางเดินนั้นก็มีเสียงดัง แป๊ะ! ซึ่งดังมาก ทำให้มงานที่กำลังขนของต้องหันมาดูว่าเสียงอะไรเพราะทางเดินแคบมากๆและเพดานก็ไม่สูง ทำให้พบกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยตามธรรมชาติ คือมีรองเท้าแตะเก่าๆข้างเดียวข้างหนึ่งตกมาจากไหนไม่รู้มาอยู่ข้างหน้าของน้องคนนึงที่กำลังขนของเดินขึ้นมา ทำให้ทีมงานทุกคนรวมทั้งผมอึ้ง..ขนลุก..พูดไม่ออกไปตามๆกัน โดยเฉพาะน้องคนนั้นที่โดนรองเท้าแตะตกใส่ข้างหน้าถึงกับร้องให้เลยเพราะรองเท้านั้นร่วงผ่านหน้าน้องเค้าลงมาเลยแต่พอแหงนขึ้นไปดูทำให้เห็นว่ามันก็คือเพดานตันทั่วไปนี่เอง พอถึงห้องพักทุกคนก็รีบจัดข้าวของเข้าที่ ส่วนผมไม่รอช้าเลยรีบหยิบไม้กางเขนและน้ำเสกขึ้นมา พรมทั่วห้อง จนทำให้ทีมงานที่เห็นอดแซวไม่ได้ แล้วก็สวด ผมสวดว่า
"ข้าแต่พระเป็นเจ้า โปรดทรงทูตสวรรค์ของพระองค์มาปกป้องพวกลูก ขอให้พระองค์ทรงบันดาลให้ห้องนี้ศักดิสิทธ์" พอเสร็จก็ลงไปกินข้าวกันข้างล่าง แล้วก็เริ่มทำงานกันพอตกเย็นก็กลับมาอาบน้ำนอนปกติ พอตื่นมาก็เป็น
เช้าของวันที่ 2
เริ่มเช้ามาอย่างสบายๆ ก็ลงมากินข้างพร้อมพี่ๆน้องๆ staff ไม่ทันไรเรื่องสยองขวัญก็เริ่มขึ้น พี่ที่พักอยู่ห้องข้างๆก็เริ่มขึ้นว่า "เมื่อคืนใครมร่งเดินอยู่ได้วะ เสียงดังchipหาย ห้องกรูทุกคนนอนไม่เต็มอิ่มกันหมดเลย" ........เกิดความเงียบขึ้น จากนั้นทำให้รู้ว่าทุกห้องในชั้นนั้นได้ยินเสียงคนเดินกันหมดทุกห้องแต่ก็อาจจะเป็นคนเดินไปเข้าห้องน้ำจริงๆก็ได้(เพราะเป็นหอพัก มีห้องน้ำรวมห้องเดียว) แต่สิ่งเกิดขึ้นคือมีห้องผมห้องเดียวที่ไม่เจออะไรเลย เมื่อทุกคนรู้ว่าห้องผมไม่เจออะไรก็เลยบอกว่าแสดงว่าห้องผมใครสักคนหนึ่งมีพระดี ก็มทีพี่ที่แซวผมพูดขึ้นว่า
"จะเจอได้ไงก็ น้องปั้มเค้าเอาไม้กางเขนอันเบ่อเร่อ กับน้ำมนต์มาด้วย"
พอพูดจบก็มีพี่คนนึงพูดขึ้นมาว่า
"เป็รคนคริสต์ก็ใช่ว่าจะไม่โดนนะ เพื่อนพี่อะโดนมาแล้ว" ซึ่งจากการที่ผมถามเขาเป็นการส่วนตัวก็พบว่าเพื่อนพี่เค้าคนนี้ได้พูดจาลบหลู่ จาบจ้วงควมเชื่อคนอื่น และท้าทาย ทำให้ผมพอจะเข้าใจเหตุผล และไม่ได้ลดความใว้วางใจในพระเป็นเจ้าของผมลง ต่อจากนั้นเราก็ออกไปทำงานกันตามปกติ และงานวันนี้เลิกดึกเพราะว่าเราต้องไปทำงานกับที่ถนนคนเดินและไนท์บาร์ซ่าด้วย พอกลับมาทุกคนก็เหนื่อยขึ้นห้องนอนกันหมด แต่สำหรับผมแล้วผมค่อนข้างอนามัยนิดนึงอยากอาบน้ำแต่กลัว ก็นั่งทำใจสักพักก็ไปอาบน้ำ(คนเดียว) ยอมรับว่ากลัวมากแตก็นึกถึงพระองค์ตลอดก็เลือกห้องตรงกลางที่สว่างที่สุดก้เข้าไปอาบน้ำ อาบไปกลัวไปสักพักสิ่งที่ทำให้ผมหัวใจเกือบหยุดเต้นคือ ประตูห้องน้ำเกิดอาการสั่นอย่างรุ่นแรง เป็นอาการสั่นแบบที่ไม่ใช่มีคนมาเขย่า แต่สั่นก็คือสั่นเลยเหมือนมือถือสั่นยังไงยังงั้น ผมก็อธิบายไม่ค่อยจะถูก แต่มันสั่นแบบเป็นไปไม่ได้ที่จะสั่นแบบนี้ มันสั่นเหมือนไม่มีน๊อตยึดมันใว้ ด้วยการตกใจที่สุดในชีวิตทำให้ผมอุทานขึ้นมาในใจ "ในนามของพระตรีเอกภาพ!" จากนั้นประตูก็หยุดกึก... ผมขนลุกและตกใจกลัวสุดขีด กระทั่งตอนพิมพ์อยู่ตอนี้ก็ยังเสียววูบ.... ผมท่องเพียงแต่ว่า "ขอพระองค์ทรงปกป้อง คุณแม่(หมายถึงคุณแม่มารีย์)ปั้มกลัวๆๆ" ซ้ำเป็นสิบๆรอบก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปเปิดประตู แล้วไม่ทันไรประตูก็เกิดอาการสั่นแบบบ้าคลั่งขึ้นอีกรอบ ซึ่งคราวนี้แทนที่จะตกใจอย่างเดียวผมเกิดความรู้สึกรำคาณด้วย(คล้ายๆกับผมจะคิดด้วยว่า "จะอะไรกันนักหนาเนี๊ยะ!") ทำให้มือผมลากรูปกางเขนลงไปบนประตูนั้น แล้วอาการสั่นก็หยุดลงแต่คราวนี้หยุดเลย... ผมรอสักพักให้แน่ใจว่ามันจะไม่สั่นอีก(ซึ่งจะรอทำไมก็ไม่รู้ ?) ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตุแล้วแจ๋นออกจากห้องน้ำเข้าห้องนอนทันที เมื่อกลับมาห้องพักผมก็รีบแต่งตัวและสวดๆจนหลับไป พอตื่นขึ้นมาผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง และหลังจากวันนั้นอีก 2 วันที่เหลือก็ไม่มีใครเจออะไรแปลกๆอีกเลย
จบแล้วครับสำหรับเหตุการ์ณของผมถึงตอนนี้ ผมก็ยังคงกลัวผีเหมือนเดิม แต่ผมใว้วางใจพระเป็นเจ้ามากกว่าเดิม รักพระองค์มากกว่าเดิม และเชื่อในประโยคที่ว่า "ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้" มากกว่าเดิม ผมไม่รู้ว่าเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นเรียกว่าอะไร และผมจะไม่ตั้งคำถามเพื่อถามพระเป็นเจ้า เพราะผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นกับผมนั่นคือพระองค์อนุญาติ และพระองค์ไม่เคยประทานสิ่งที่เป็นผลร้ายให้แก่ลูก "ท่านที่เป็นพ่อ ถ้าลูกขอปลา จะให้งูแทนปลาหรือ" สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกทุกๆคนว่า
"พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ และขอให้ทุกคนมองเหตุการ์ณต่างๆในชีวิตว่ามีพระพรอะไรซ่อนอยู่ มากกว่าจะมาตั้งคำถามเพราะคำถามและข้อสงสัยนั้นไม่มีประโยชน์และนำไปสู่ความไม่ใว้วางใจ และความตาย "
การเดินทางเริ่มต้นที่สถานีรถไฟสามเสน พอขึ้นรถไฟมาแล้วผมก็สวดขอให้พระเยซูเจ้าไปทำงานกับผมในครั้งนี้ด้วยและผมอุ่นใจมากเมื่อรับรู้ได้ว่าพระองค์ประทับอยู่กับผม ณ ที่นั่นจริงๆ เมื่อรถไฟวิ่งมาได้สัก 2 ชั่วโมงแอร์ก็ดับโดยที่ดับเฉพาะโบกี้ของผมโบกี้เดียว และไฟก็ดับด้วย นั่นหมายถึงโบกี้ของผมนั้นมีแค่พัดลม(เครื่องยนต์ก็ดับ)ทำให้บรรยากาศตอนนั้นอบอ้าวและร้อนมากๆ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ว่านอนไม่หลับก็เลยออกไปยืนตากลมตรงข้อต่อระหว่างโบกี้แล้วก็เงยหน้าไปบนท้องฟ้าเห็ยดวงดาวมากมายที่ไม่สามารถมองไม่เห็นได้ในกรุงเทพ ทำให้ผมนึกถึงผู้ที่สร้างดวงดาวเหล่านั้นขึ้นมาและก็สวดภาวนาอยุ่ในใจมีความสุขมากทีเดียว พอง่วงก็เดินเข้ามาในโบกี้(ที่ร้อนอบอ้าว)แล้วก็หลับ ตื่นขึ้นมาพบว่าอยู่ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่แล้วผมและทีมงานทุกๆคนเพลียมากเพราะเสียเหงื่อไปทั้งตัวอีกทั้งรถไฟดีเลย์ไป 3 ช.ม เพราะอย่างที่บอกโบกี้ของผมไฟดับทำให้เครื่องยนตของ 2 โบกี้ที่เหลือต้องทำงานหนักทำให้ต้องจอดพักเพื่อเอาหัวรถจักรมาลากเป็นระยะๆ พอมาถึงก็มีทีมงานที่เป็น staff ที่มาถึงก่อนมารอรับไปที่พัก โดยที่พวกเราทุกคนได้ไปพักที่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก็ขึ้นรถไฟ ในระหว่างเดินทางนั้นก็มีทีมงานคนนึงที่มาพักอยู่ก่อนหน้านั้นเล่าขึ้นมาว่า
"เนี๊ยะก่อนเข้าอะ ไหว้เจ้าที่ก่อนนะ เพราะเจอมาหลายคนแล้ว"
ผมก็คิดในใจ (เอาแล้วไง เรื่องผีๆสางๆอีกแล้ว- -) พี่เขาเล่าว่าโดนไปหลายคนแล้วเช่น
1. นอนๆอยู่ก็มีเสียงคนคุยกันหน้าห้องแต่พอเปิดไปแล้วก็ไม่มีใคร
2.พี่ที่อยู่ฝ่ายเครื่องเสียงทดสอบอัดเสียง แล้วมีเสียงผู้หญิงหัวเราะแทรกเข้ามา
3.เวลาอาบน้ำ ก็มีเหมือนห้องข้างๆมาอาบด้วยแต่พอเดินผ่านหันไปดูกลับพบว่าพื้นห้องน้ำแห้งสนิท
ฯลฯ
ซึ่งทำให้ผมขนลุกทันที แต่ไม่ใช่ขนลุกเพราะกลัว แต่ขนลุกเพราะนึกได้ว่ามีการดลใจบางอย่างที่ทำให้ต้องเอาน้ำเสกและไม้กางเขนของนักบุญเบเนดิกต์มา ทั้งๆที่ไม่เคยพกไปไหนมาไหนมาก่อน ทำให้ผมวางใจว่าตอนนี้ผมอยู่ภายใต้การปกป้องของพระเป็นเจ้าแน่นอน แต่ในใจนึงประสามนุษย์ที่กลัวผีมากๆอย่างผมก็กลัวแทบดิ้นตาย เมื่อถึงที่พักเราก็ขนของขึ้นไปโดยที่พักนั้นเป็นหอพักของนักศึกษาซึ่งเราก็ได้ขนของขึ้นไปชั้น 4 ซึ่งเป็นที่พักของเรา ระหว่างเดินอยู่ตรงทางเดินนั้นก็มีเสียงดัง แป๊ะ! ซึ่งดังมาก ทำให้มงานที่กำลังขนของต้องหันมาดูว่าเสียงอะไรเพราะทางเดินแคบมากๆและเพดานก็ไม่สูง ทำให้พบกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยตามธรรมชาติ คือมีรองเท้าแตะเก่าๆข้างเดียวข้างหนึ่งตกมาจากไหนไม่รู้มาอยู่ข้างหน้าของน้องคนนึงที่กำลังขนของเดินขึ้นมา ทำให้ทีมงานทุกคนรวมทั้งผมอึ้ง..ขนลุก..พูดไม่ออกไปตามๆกัน โดยเฉพาะน้องคนนั้นที่โดนรองเท้าแตะตกใส่ข้างหน้าถึงกับร้องให้เลยเพราะรองเท้านั้นร่วงผ่านหน้าน้องเค้าลงมาเลยแต่พอแหงนขึ้นไปดูทำให้เห็นว่ามันก็คือเพดานตันทั่วไปนี่เอง พอถึงห้องพักทุกคนก็รีบจัดข้าวของเข้าที่ ส่วนผมไม่รอช้าเลยรีบหยิบไม้กางเขนและน้ำเสกขึ้นมา พรมทั่วห้อง จนทำให้ทีมงานที่เห็นอดแซวไม่ได้ แล้วก็สวด ผมสวดว่า
"ข้าแต่พระเป็นเจ้า โปรดทรงทูตสวรรค์ของพระองค์มาปกป้องพวกลูก ขอให้พระองค์ทรงบันดาลให้ห้องนี้ศักดิสิทธ์" พอเสร็จก็ลงไปกินข้าวกันข้างล่าง แล้วก็เริ่มทำงานกันพอตกเย็นก็กลับมาอาบน้ำนอนปกติ พอตื่นมาก็เป็น
เช้าของวันที่ 2
เริ่มเช้ามาอย่างสบายๆ ก็ลงมากินข้างพร้อมพี่ๆน้องๆ staff ไม่ทันไรเรื่องสยองขวัญก็เริ่มขึ้น พี่ที่พักอยู่ห้องข้างๆก็เริ่มขึ้นว่า "เมื่อคืนใครมร่งเดินอยู่ได้วะ เสียงดังchipหาย ห้องกรูทุกคนนอนไม่เต็มอิ่มกันหมดเลย" ........เกิดความเงียบขึ้น จากนั้นทำให้รู้ว่าทุกห้องในชั้นนั้นได้ยินเสียงคนเดินกันหมดทุกห้องแต่ก็อาจจะเป็นคนเดินไปเข้าห้องน้ำจริงๆก็ได้(เพราะเป็นหอพัก มีห้องน้ำรวมห้องเดียว) แต่สิ่งเกิดขึ้นคือมีห้องผมห้องเดียวที่ไม่เจออะไรเลย เมื่อทุกคนรู้ว่าห้องผมไม่เจออะไรก็เลยบอกว่าแสดงว่าห้องผมใครสักคนหนึ่งมีพระดี ก็มทีพี่ที่แซวผมพูดขึ้นว่า
"จะเจอได้ไงก็ น้องปั้มเค้าเอาไม้กางเขนอันเบ่อเร่อ กับน้ำมนต์มาด้วย"
พอพูดจบก็มีพี่คนนึงพูดขึ้นมาว่า
"เป็รคนคริสต์ก็ใช่ว่าจะไม่โดนนะ เพื่อนพี่อะโดนมาแล้ว" ซึ่งจากการที่ผมถามเขาเป็นการส่วนตัวก็พบว่าเพื่อนพี่เค้าคนนี้ได้พูดจาลบหลู่ จาบจ้วงควมเชื่อคนอื่น และท้าทาย ทำให้ผมพอจะเข้าใจเหตุผล และไม่ได้ลดความใว้วางใจในพระเป็นเจ้าของผมลง ต่อจากนั้นเราก็ออกไปทำงานกันตามปกติ และงานวันนี้เลิกดึกเพราะว่าเราต้องไปทำงานกับที่ถนนคนเดินและไนท์บาร์ซ่าด้วย พอกลับมาทุกคนก็เหนื่อยขึ้นห้องนอนกันหมด แต่สำหรับผมแล้วผมค่อนข้างอนามัยนิดนึงอยากอาบน้ำแต่กลัว ก็นั่งทำใจสักพักก็ไปอาบน้ำ(คนเดียว) ยอมรับว่ากลัวมากแตก็นึกถึงพระองค์ตลอดก็เลือกห้องตรงกลางที่สว่างที่สุดก้เข้าไปอาบน้ำ อาบไปกลัวไปสักพักสิ่งที่ทำให้ผมหัวใจเกือบหยุดเต้นคือ ประตูห้องน้ำเกิดอาการสั่นอย่างรุ่นแรง เป็นอาการสั่นแบบที่ไม่ใช่มีคนมาเขย่า แต่สั่นก็คือสั่นเลยเหมือนมือถือสั่นยังไงยังงั้น ผมก็อธิบายไม่ค่อยจะถูก แต่มันสั่นแบบเป็นไปไม่ได้ที่จะสั่นแบบนี้ มันสั่นเหมือนไม่มีน๊อตยึดมันใว้ ด้วยการตกใจที่สุดในชีวิตทำให้ผมอุทานขึ้นมาในใจ "ในนามของพระตรีเอกภาพ!" จากนั้นประตูก็หยุดกึก... ผมขนลุกและตกใจกลัวสุดขีด กระทั่งตอนพิมพ์อยู่ตอนี้ก็ยังเสียววูบ.... ผมท่องเพียงแต่ว่า "ขอพระองค์ทรงปกป้อง คุณแม่(หมายถึงคุณแม่มารีย์)ปั้มกลัวๆๆ" ซ้ำเป็นสิบๆรอบก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปเปิดประตู แล้วไม่ทันไรประตูก็เกิดอาการสั่นแบบบ้าคลั่งขึ้นอีกรอบ ซึ่งคราวนี้แทนที่จะตกใจอย่างเดียวผมเกิดความรู้สึกรำคาณด้วย(คล้ายๆกับผมจะคิดด้วยว่า "จะอะไรกันนักหนาเนี๊ยะ!") ทำให้มือผมลากรูปกางเขนลงไปบนประตูนั้น แล้วอาการสั่นก็หยุดลงแต่คราวนี้หยุดเลย... ผมรอสักพักให้แน่ใจว่ามันจะไม่สั่นอีก(ซึ่งจะรอทำไมก็ไม่รู้ ?) ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตุแล้วแจ๋นออกจากห้องน้ำเข้าห้องนอนทันที เมื่อกลับมาห้องพักผมก็รีบแต่งตัวและสวดๆจนหลับไป พอตื่นขึ้นมาผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง และหลังจากวันนั้นอีก 2 วันที่เหลือก็ไม่มีใครเจออะไรแปลกๆอีกเลย
จบแล้วครับสำหรับเหตุการ์ณของผมถึงตอนนี้ ผมก็ยังคงกลัวผีเหมือนเดิม แต่ผมใว้วางใจพระเป็นเจ้ามากกว่าเดิม รักพระองค์มากกว่าเดิม และเชื่อในประโยคที่ว่า "ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้" มากกว่าเดิม ผมไม่รู้ว่าเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นเรียกว่าอะไร และผมจะไม่ตั้งคำถามเพื่อถามพระเป็นเจ้า เพราะผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นกับผมนั่นคือพระองค์อนุญาติ และพระองค์ไม่เคยประทานสิ่งที่เป็นผลร้ายให้แก่ลูก "ท่านที่เป็นพ่อ ถ้าลูกขอปลา จะให้งูแทนปลาหรือ" สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกทุกๆคนว่า
"พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ และขอให้ทุกคนมองเหตุการ์ณต่างๆในชีวิตว่ามีพระพรอะไรซ่อนอยู่ มากกว่าจะมาตั้งคำถามเพราะคำถามและข้อสงสัยนั้นไม่มีประโยชน์และนำไปสู่ความไม่ใว้วางใจ และความตาย "
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 23, 2006 3:28 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
น่ากลัวจัง แต่ก็รู้สึกดีจังครับ ผมยังไม่เคยเจอจังๆ นะ แต่กรณีของน้องปั๊มนี้อาจเป็นผีปิศาจสมุนของซาตานมาแกล้งก็ได้นะครับ เพราะมันชอบรังควานเราอยู่แล้ว >:( ยิ่งคนที่ใกล้ชิดพระเจ้า มันยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ ถ้าเป็นวิญญาณผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ไม่น่าจะมาทำแบบนี้ได้ อีกอย่างเราก็เคยสวดให้เขาด้วย (ในพิธีมิสซา เราก็มีสวดระลึกถึงพี่น้องที่ได้หลับไป และผู้ที่ล่วงลับไปแล้วทุกคน) เขาน่าจะมาดีมากกว่า ผมว่าน่าจะเป็นสมุนซาตานมาแกล้งมากกว่าครับ ขอขอบพระคุณพระองค์ผู้ทรงน่ารักยิ่ง ::)
แก้ไขล่าสุดโดย Cho เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 23, 2006 7:39 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขนลุก
:o ผมก็เจอเรื่องน่ากลัวที่เชียงใหม่เหมือนกันน๊ะ แต่พระก็สถิตอยู่กับเราเสมอจริงๆ :)
ส่วนตัวไม่กลัวผีเพราะมั่นใจแบบนี้แหละ
2เธสะโลนิกา 3:16
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติ ประทานสันติแก่ท่านทั้งหลายทุกเวลา
และทุกวิถีทาง ขอพระองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่านเถิด
:o ผมก็เจอเรื่องน่ากลัวที่เชียงใหม่เหมือนกันน๊ะ แต่พระก็สถิตอยู่กับเราเสมอจริงๆ :)
ส่วนตัวไม่กลัวผีเพราะมั่นใจแบบนี้แหละ
2เธสะโลนิกา 3:16
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติ ประทานสันติแก่ท่านทั้งหลายทุกเวลา
และทุกวิถีทาง ขอพระองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่านเถิด
แก้ไขล่าสุดโดย Ot@ เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 23, 2006 9:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เพิ่งครั้งแรก... ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็ชิน ;D
ความเชื่อและวางใจเป็นพลังมหาศาลจริงๆ ครับ
ดีใจที่น้องมีความเชื่อมั่นคงกับพระองค์ ขอพระอวยพระพรนะครับ
ความเชื่อและวางใจเป็นพลังมหาศาลจริงๆ ครับ
ดีใจที่น้องมีความเชื่อมั่นคงกับพระองค์ ขอพระอวยพระพรนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Divine Mercy เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 23, 2006 10:24 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ไปนมัสการท่านยายที่ปีนัง พักโรงแรมค่อนข้างทันสมัย ระบบการ์ด คอมหมด
กลางคืน เสียงเคาะประตู เสียงน้ำก๊อกไหล เสียงชักโครก
เดี๊ยวเคาะ เดี๊ยวน้ำก๊อกไหล เดินไปดูก็ไม่มีอะไรอะ
นอนก็เปิดไฟหมด
ไม่หาย
สวดบทเดียวอยู่เลย
ข้าพระเจ้าเชื่อ
เสียงทั้งหลายแหล่ หายหมด :D
กลางคืน เสียงเคาะประตู เสียงน้ำก๊อกไหล เสียงชักโครก
เดี๊ยวเคาะ เดี๊ยวน้ำก๊อกไหล เดินไปดูก็ไม่มีอะไรอะ
นอนก็เปิดไฟหมด
ไม่หาย
สวดบทเดียวอยู่เลย
ข้าพระเจ้าเชื่อ
เสียงทั้งหลายแหล่ หายหมด :D
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
- - แปลกนะ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดี ที่เจอผีแต่ก็รู้สึกอิจฉานะ(ไม่ใช่อิจฉาที่เจอผีนะ) อิจฉาในความไว้ใจในพระเจ้า และประสบป์การณ์แห่งศรัทธา(ซึ่งบางทีผมก็รู้สึกลังเลใจเหมือนกันทีจะเรียกพระองค์)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 23, 2006 12:07 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งเราเลยครับ
ขอบพระคุณพระเจ้าและพระแม่มารีย์ครับ
ขอบพระคุณพระเจ้าและพระแม่มารีย์ครับ
- -*-St.GrEGoRY-*-
- โพสต์: 309
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 2:06 pm
เพิ่งครั้งแรก... ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็ชิน
เห็นด้วยครับ
เห็นด้วยครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เยี่ยมไปเลยปั๊ม ๆ
กล้าหาญมากจ๊ะ
พี่คิดว่าก็อาจจะเป็นวิญญาณที่นั่น หรือ อาจจะเจ้าที่ร้ายๆ
มาออกฤทธิ์ออกเดชเราละมั๊ง
เพราะปั๊มเอาน้ำเสกสาดเสกทั่วห้อง
ทำให้ห้องปั๊มปลอดภัยจนคนอื่น ๆ โจษจัน
เป็นegoของเขารึเปล่าที่จะต้องให้ทุกคนรู้ฤทธิ์เขา
เขาอาจจะรู้สึกเสียหน้าที่ออกฤทธิ์ออกเดชกับลูกของพระเจ้าในห้องนั้นไม่ได้
เราฉวยโอกาสที่ปั๊มห้าวหาญไปอาบน้ำคนเดียว
ทั้ง ๆ ที่คนอื่นนอนเลย (อาจจะเพราะปอดแหก)
เรากะจะสำแดงเดช อิ อิ
จริงๆ แล้วถ้าเจออีก....พี่เสนอว่า
นอกจากจะขอพระเจ้าให้คุ้มครองเราแล้ว
ให้ปั๊มสวดอุทิศให้วิญญาณเล่านี้ ให้มีสันติในวิญญาณด้วยนะจ๊ะ
(ในกรณีที่นึกได้)
ปกติ ทุกครั้งที่พี่ไปนอนรงแรมต่างจังหวัด
นอกจากจะเสกห้องแล้ว ก่อนนอนพี่จะสวดให้วิญญาณทุกดวง
ที่อยู่ที่นั่น แค่บท-2บท
เพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณของพวกเขา ให้มีสันติ
ต่างคนต่างอยู่ ไม่มารบกวนทุกคนที่มาพัก
ลองเอาไปทำดูนะจ๊ะ :D
กล้าหาญมากจ๊ะ
พี่คิดว่าก็อาจจะเป็นวิญญาณที่นั่น หรือ อาจจะเจ้าที่ร้ายๆ
มาออกฤทธิ์ออกเดชเราละมั๊ง
เพราะปั๊มเอาน้ำเสกสาดเสกทั่วห้อง
ทำให้ห้องปั๊มปลอดภัยจนคนอื่น ๆ โจษจัน
เป็นegoของเขารึเปล่าที่จะต้องให้ทุกคนรู้ฤทธิ์เขา
เขาอาจจะรู้สึกเสียหน้าที่ออกฤทธิ์ออกเดชกับลูกของพระเจ้าในห้องนั้นไม่ได้
เราฉวยโอกาสที่ปั๊มห้าวหาญไปอาบน้ำคนเดียว
ทั้ง ๆ ที่คนอื่นนอนเลย (อาจจะเพราะปอดแหก)
เรากะจะสำแดงเดช อิ อิ
จริงๆ แล้วถ้าเจออีก....พี่เสนอว่า
นอกจากจะขอพระเจ้าให้คุ้มครองเราแล้ว
ให้ปั๊มสวดอุทิศให้วิญญาณเล่านี้ ให้มีสันติในวิญญาณด้วยนะจ๊ะ
(ในกรณีที่นึกได้)
ปกติ ทุกครั้งที่พี่ไปนอนรงแรมต่างจังหวัด
นอกจากจะเสกห้องแล้ว ก่อนนอนพี่จะสวดให้วิญญาณทุกดวง
ที่อยู่ที่นั่น แค่บท-2บท
เพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณของพวกเขา ให้มีสันติ
ต่างคนต่างอยู่ ไม่มารบกวนทุกคนที่มาพัก
ลองเอาไปทำดูนะจ๊ะ :D
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
พี่จิงครับแล้วจะขอให้วิญญาณนั้นกลับไปนรกได้ไหมครับไม่ก็ขับไล่ให้ออกไปจากห้องแล้วลงนรกไปซะ (ถ้าเป็นวิญญาณที่ดีมันคงไม่มาหลอกหลอนคนอื่นหรอกมั้งครับ) เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่จะมาพักทีหลัง
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
จะว่าไปเรื่องผี นี่เอกก็เคยสงสัยนะว่า ชีวิตคนเราพระเจ้ากำหนดไว้แล้วดังนั้นพระองค์ย่อมรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เราจะตาย ดังนั้นก็น่าที่จะมีการส่งทูตสวรรค์มารอรับเพื่อไปฟังคำพิพากษารายบุคคลนี่ครับ(ตามที่ผมทราบมาจะมีการพิพากษารายบุคคลและพิพากษารวม ที่ไม่แน่ใจเพราะห่างคำสอนมานาน - -") แล้วทำไมจึงมีวิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณที่มาคอยทำร้ายผู้อื่นอยู่อีกล่ะครับ (จะเป็นไปได้ไหมที่เวลาเจอวิญญาณพวกนี้จะสวดขอท่านมิคาแอลให้มากำจัดมันไปซะ)
ปล. การไล่วิญญาณนี่อาศัยความเชื่ออย่างเดียวหรือเปล่าครับ หรือจะต้องเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ด้วยจึงจะทำได้ (เพราะผมมันบาปหนานัก เลยกลัวและไม่กล้าขอพระเจ้า แหะๆ)
ปล. การไล่วิญญาณนี่อาศัยความเชื่ออย่างเดียวหรือเปล่าครับ หรือจะต้องเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ด้วยจึงจะทำได้ (เพราะผมมันบาปหนานัก เลยกลัวและไม่กล้าขอพระเจ้า แหะๆ)
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
คือ...พี่ไม่รู้ว่าวิญญาณนั้นมันมาจากนรกรึเปล่า
อาจจะเป็นแค่วิญญาณร้าย วิญญาณหลงทาง วิญญาณเจ้าที่??
วิญญาณมีห่วง วิญญาณอาฆาต
คือถ้าเป็นวิญญาณอย่างนั้น เขาก็อาจจะยังคุยกันได้งัย
ถ้าให้วิญญาณสงบ ไม่ร้ายกาจ
ไปไล่เขาลงนรก ...ของเราน่ะมันนรกนิรันดรนะ
ในกรณีที่ไม่ใช่ปีศาจจากนรก....ก็ไม่ต้องไล่ไปนรกหรอกมั๊ง ให้โอกาสเขางัย...
อาจจะเป็นแค่วิญญาณร้าย วิญญาณหลงทาง วิญญาณเจ้าที่??
วิญญาณมีห่วง วิญญาณอาฆาต
คือถ้าเป็นวิญญาณอย่างนั้น เขาก็อาจจะยังคุยกันได้งัย
ถ้าให้วิญญาณสงบ ไม่ร้ายกาจ
ไปไล่เขาลงนรก ...ของเราน่ะมันนรกนิรันดรนะ
ในกรณีที่ไม่ใช่ปีศาจจากนรก....ก็ไม่ต้องไล่ไปนรกหรอกมั๊ง ให้โอกาสเขางัย...
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
อืม.............MichaelPaul เขียน: จะว่าไปเรื่องผี นี่เอกก็เคยสงสัยนะว่า ชีวิตคนเราพระเจ้ากำหนดไว้แล้วดังนั้นพระองค์ย่อมรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เราจะตาย ดังนั้นก็น่าที่จะมีการส่งทูตสวรรค์มารอรับเพื่อไปฟังคำพิพากษารายบุคคลนี่ครับ(ตามที่ผมทราบมาจะมีการพิพากษารายบุคคลและพิพากษารวม ที่ไม่แน่ใจเพราะห่างคำสอนมานาน - -") แล้วทำไมจึงมีวิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณที่มาคอยทำร้ายผู้อื่นอยู่อีกล่ะครับ (จะเป็นไปได้ไหมที่เวลาเจอวิญญาณพวกนี้จะสวดขอท่านมิคาแอลให้มากำจัดมันไปซะ)
ปล. การไล่วิญญาณนี่อาศัยความเชื่ออย่างเดียวหรือเปล่าครับ หรือจะต้องเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ด้วยจึงจะทำได้ (เพราะผมมันบาปหนานัก เลยกลัวและไม่กล้าขอพระเจ้า แหะๆ)
กะว่าจะตอบ....แต่...
เรามาตอบหลังไมค์ดีกว่า
คำตอบพี่มัน อตร. ;D
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
สวดขอทูตสวรรค์ให้มารับเค้าไปได้ไหมครับ (ส่วนทูตสวรรค์จะพาไปไหนก็แล้วแต่พระเจ้า) เพราะผมคิดว่า หากคนอื่นที่ใจอ่อนหรือเป็นโรคหัวใจเจอแบบนี้เข้าไปอาจจะตายได้ และจะทำให้วิญญาณนั้นมีบาปขึ้นอีก
ปล. ตกลงการขับไล่วิญญาณนี่อาศัยแค่ความเชื่อหรืออาศัยความศักดิ์ในการประพฤติด้วยครับ
ปล. ตกลงการขับไล่วิญญาณนี่อาศัยแค่ความเชื่อหรืออาศัยความศักดิ์ในการประพฤติด้วยครับ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ครับผม (พรุ่งนี้สอบ วิธีพิจารณาความอาญา อิอิ เลยนอนดึกเพิ่งท่องประมวลเสร็จเลยมาดูเว็ปหน่อย ;D~@Little lamb@~ เขียน:อืม.............MichaelPaul เขียน: จะว่าไปเรื่องผี นี่เอกก็เคยสงสัยนะว่า ชีวิตคนเราพระเจ้ากำหนดไว้แล้วดังนั้นพระองค์ย่อมรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เราจะตาย ดังนั้นก็น่าที่จะมีการส่งทูตสวรรค์มารอรับเพื่อไปฟังคำพิพากษารายบุคคลนี่ครับ(ตามที่ผมทราบมาจะมีการพิพากษารายบุคคลและพิพากษารวม ที่ไม่แน่ใจเพราะห่างคำสอนมานาน - -") แล้วทำไมจึงมีวิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณที่มาคอยทำร้ายผู้อื่นอยู่อีกล่ะครับ (จะเป็นไปได้ไหมที่เวลาเจอวิญญาณพวกนี้จะสวดขอท่านมิคาแอลให้มากำจัดมันไปซะ)
ปล. การไล่วิญญาณนี่อาศัยความเชื่ออย่างเดียวหรือเปล่าครับ หรือจะต้องเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ด้วยจึงจะทำได้ (เพราะผมมันบาปหนานัก เลยกลัวและไม่กล้าขอพระเจ้า แหะๆ)
กะว่าจะตอบ....แต่...
เรามาตอบหลังไมค์ดีกว่า
คำตอบพี่มัน อตร. ;D
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
สอบเสร็จแล้วโทรมาคุย อิอิ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ปั้มว่าเป็นจิตแถวนั้นอะครับ(หรือที่เรียกว่าเจ้าที่) ไม่น่าจะใช่มาร เพราะมารมันฉลาด.....ถ้ามันรู้ว่ามาหลอนแล้วปั้มจะรักพระเจ้ามากขึ้น จะศรัทธามากขึ้นมันไม่มาหรอก น่าจะเป็นจิตเจ้าที่แถวนั้นอะครับที่พอมีคนมาไหว้บูชามากๆเข้าก็เลยมี e go ขึ้นมาอยากให้ทุกคนเคารพเกรงกลัวหมดแต่ไม่ใช่สำหรับวิญญาณของผม เพราะพระเยซูได้ซื้อวิญญาณผมไปด้วยโลหิตและความรักของพระองค์แล้ว ดังนั้นไม่ว่าใครหน้าไหนก็มาเอาไปไม่ได้ ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวจนแทบขาดสติ แต่ยังไงก้ไม่ไหว้เด็ดขาด
เรื่องจิตตามธรรมชาติที่พบในพระคัมภีร์มีหลายตอนดังนี้
กจ 16:16-24
วันหนึ่ง ขณะที่เรากำลังเดินไปยังสถานที่อธิษฐานภาวนา ทาสหญิงคนหนึ่งมาพบเรา นางเป็นคนทรง ทำนายอนาคตได้ ทำให้นายของนางมีรายได้มากมายจากการทำนาย ทาสหญิงคนนี้ติดตามเปาโลและพวกเราพลางตะโกนว่า
เรื่องจิตตามธรรมชาติที่พบในพระคัมภีร์มีหลายตอนดังนี้
กจ 16:16-24
วันหนึ่ง ขณะที่เรากำลังเดินไปยังสถานที่อธิษฐานภาวนา ทาสหญิงคนหนึ่งมาพบเรา นางเป็นคนทรง ทำนายอนาคตได้ ทำให้นายของนางมีรายได้มากมายจากการทำนาย ทาสหญิงคนนี้ติดตามเปาโลและพวกเราพลางตะโกนว่า
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
พี่เอกคับ ดูดิอย่างปั้มเนี๊ยะนะศักดิสิทธ์ - -"
ปั้มเพียงเชื่อและวางใจว่า "เราคือลูกแม่พระ และพ่อของเราคือพระบิดา พ่อแม่คนไหนถ้าลูกตัวเองโดนรังแกก็ย่อมต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว" ปั้มเชื่อแค่นี้อะครับ และตอนนี้ปั้มก็ขอเป็นพยานด้วยครับว่ามันเป็นความจริง
วางใจในพระเป็นเจ้าและพระแม่มารีย์ เพราะพระองค์และพระแม่สมควรได้รับการใว้วางใจจากลูกๆ ลองคิดดูว่า คุณพ่อคุณแม่คนไหนถ้าโดนลูกๆของตัวเองไม่ใว้ใจละก็คงจะเสียใจน่าดูเลยนะครับ ;)
ปั้มเพียงเชื่อและวางใจว่า "เราคือลูกแม่พระ และพ่อของเราคือพระบิดา พ่อแม่คนไหนถ้าลูกตัวเองโดนรังแกก็ย่อมต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว" ปั้มเชื่อแค่นี้อะครับ และตอนนี้ปั้มก็ขอเป็นพยานด้วยครับว่ามันเป็นความจริง
วางใจในพระเป็นเจ้าและพระแม่มารีย์ เพราะพระองค์และพระแม่สมควรได้รับการใว้วางใจจากลูกๆ ลองคิดดูว่า คุณพ่อคุณแม่คนไหนถ้าโดนลูกๆของตัวเองไม่ใว้ใจละก็คงจะเสียใจน่าดูเลยนะครับ ;)
ถ้าลมหายใจเข้า ออก ของเรานึกถึงแต่พระคริสต์
ความกลัวจะมาจากที่ไหนได้
วิญญาณก็คือ วิญญาณ เราก็เป็นวิญญาณแต่มีร่างกาย
ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว เมื่อพระเจ้าอยู่กับเจ้า
แล้วเราก็จะรู้ว่าควรทำอย่างไรกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้
มันมาจากไหน มันมาทำไม แล้วมันจะไปอย่างไร เราจะรู้และทำได้อย่างถูกต้อง
ความกลัวจะมาจากที่ไหนได้
วิญญาณก็คือ วิญญาณ เราก็เป็นวิญญาณแต่มีร่างกาย
ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว เมื่อพระเจ้าอยู่กับเจ้า
แล้วเราก็จะรู้ว่าควรทำอย่างไรกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้
มันมาจากไหน มันมาทำไม แล้วมันจะไปอย่างไร เราจะรู้และทำได้อย่างถูกต้อง
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
แหม....แต่ถ้าคนมันกลัว
คิดแบบนั้นมันก็ไม่ใช่ง่าย ๆ นะคะ
เหมือนคนกลัวหนอน กว่างู ก็รู้ว่ามันทำอะไรไม่ได้
แต่แค่เห็นก็ขนลุก
คนที่กลัวผี ไม่ใช่ว่าไม่วางใจในพระเจ้าหรืออะไร
อาจจะเป็นเพราะการถูกหรอกผีตอนเด็ก ๆ ทำให้ฝั่งใจ
อันนี้confirm จากตัวเองคะ
เคยเจอคนผีเข้า LL ไม่กลัวเรา มั่นใจว่าพระเจ้าจะคุ้มครองเรา
แต่เวลาอยู่มืด ๆ คนเดียว หรืออยู่มืด ๆ ในที่ ๆ ไม่คุ้นเคย
ก็มีอารมณ์กลัวผีมาหลอกเหมือนกัน
แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ไว้ใจพระเจ้าคะ
คิดแบบนั้นมันก็ไม่ใช่ง่าย ๆ นะคะ
เหมือนคนกลัวหนอน กว่างู ก็รู้ว่ามันทำอะไรไม่ได้
แต่แค่เห็นก็ขนลุก
คนที่กลัวผี ไม่ใช่ว่าไม่วางใจในพระเจ้าหรืออะไร
อาจจะเป็นเพราะการถูกหรอกผีตอนเด็ก ๆ ทำให้ฝั่งใจ
อันนี้confirm จากตัวเองคะ
เคยเจอคนผีเข้า LL ไม่กลัวเรา มั่นใจว่าพระเจ้าจะคุ้มครองเรา
แต่เวลาอยู่มืด ๆ คนเดียว หรืออยู่มืด ๆ ในที่ ๆ ไม่คุ้นเคย
ก็มีอารมณ์กลัวผีมาหลอกเหมือนกัน
แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ไว้ใจพระเจ้าคะ
พระคริสต์ พิชิตซาตาน!
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
Ot@ เขียน: พี่แอลแอลกลัวปี๋~~~~
เห็นด้วยนะครับ บางคนเขาไม่ได้จะไม่ไว้ใจในพระเจ้า แต่ก็มีความอ่อนแอในตัวเอง
เจ๊ทาตอบได้ดีจริงๆ ;)
กลัวสิ......ยิ่งไอ้คนปี๋ทะเลยิ่งกลัว อิอิอิ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
~@Little lamb@~ เขียน:Ot@ เขียน: พี่แอลแอลกลัวปี๋~~~~
เห็นด้วยนะครับ บางคนเขาไม่ได้จะไม่ไว้ใจในพระเจ้า แต่ก็มีความอ่อนแอในตัวเอง
เจ๊ทาตอบได้ดีจริงๆ ;)
กลัวสิ......ยิ่งไอ้คนปี๋ทะเลยิ่งกลัว อิอิอิ
*no1 มาให้ 10 คะแนนเต็มคะ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
เมื่อสักครู่ ได้คุยกับรุ่นน้องที่พักอยู่ห้องเดียวกันทาง MSN น้องเค้าเล่าว่าหลังจากที่พวกเรากลับกันแล้ว ก็มีทีมงานอีกชุดไปทำงานต่อแล้วก็เจอเรื่องราวเขย่าขวัญกันถ้วนหน้าเว้นแต่ห้อง 414 ที่ผมเคยพักและได้เสกน้ำเสกแล้ว ทำให้ห้องนั้นแน่นไปด้วยผู้คน(เห็นเค้าเล่าว่านอนอัดกัน 20 กว่า คน) และในห้องน้ำที่ผมทำเครื่องหมายกางเขนที่ประตูห้องน้ำตอนที่มันสั่นนั้นก็ไม่มีใครเจออะไรอีกเลย
แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้น่ายินดีอะไรนักเมื่อเทียบกับสิ่งที่ตามมาคือ... มีพี่คนนึงพูดว่า "รู้งี้นับถือคริสต์ซะก็ดี" ทำให้น้องคนนี้ที่คุยกับผมทาง MSN และคนอื่นๆที่พักอยู่ก็พลอยสนใจไปด้วย
ก็อยากให้พี่ๆน้องๆที่นี่สวดภาวนาให้พวกเขาเริ่มที่จะแสวงหาพระองค์โดยอาศัยเหตุการ์ณนี้ด้วยนะครับ และดีไม่ดีอาจจะอาศัยเหตุการ์ณนี้ห้อง 414 ที่แสนจะปลอดภัยห้องเดียวในชั้น 4 นี้เป็นเหตุที่ทำให้คนอื่นได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า และพระสิริของพระองค์และกล่าวขานต่อๆไป ขอให้ช่วยสวดภาวนาเผื่อด้วยครับ
ผมคิดว่าแผนการของพระเป็นเจ้าในครั้งนี้เป็นแบบนี้ครับ
ดลใจให้ผมนำน้ำเสกและกางเขนไป > ผมเสกน้ำเสก และโดนแซวใหญ่โต > ถ้าไม่โดนแซวจนคนล้อไปทั่วก็ไม่มีใครรู้ว่าผมเสกแล้ว > ปลอดภัยอยุ่ห้องเดียว > คนกล่าวขวัญไปทั่วว่าห้องนี้ไม่โดน > แล้วก็ไม่โดนจริงๆ > คนรู้ว่าห้องนี้เสกแล้วเพราะว่าผมโดนแซวไปทั่ว > คนรู้จักพระนาม และ ฤทธิ์อำนาจของพระองค์
ซึ่งจากแผนการ์ณนี้แล้วผมขอเป็นพยานว่ามีเพียงพระองค์พระเป็นเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่ทรงมีฤทธิ์และปรีชาญาณที่จะวางแผนการเหล่านี้ได้
แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้น่ายินดีอะไรนักเมื่อเทียบกับสิ่งที่ตามมาคือ... มีพี่คนนึงพูดว่า "รู้งี้นับถือคริสต์ซะก็ดี" ทำให้น้องคนนี้ที่คุยกับผมทาง MSN และคนอื่นๆที่พักอยู่ก็พลอยสนใจไปด้วย
ก็อยากให้พี่ๆน้องๆที่นี่สวดภาวนาให้พวกเขาเริ่มที่จะแสวงหาพระองค์โดยอาศัยเหตุการ์ณนี้ด้วยนะครับ และดีไม่ดีอาจจะอาศัยเหตุการ์ณนี้ห้อง 414 ที่แสนจะปลอดภัยห้องเดียวในชั้น 4 นี้เป็นเหตุที่ทำให้คนอื่นได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า และพระสิริของพระองค์และกล่าวขานต่อๆไป ขอให้ช่วยสวดภาวนาเผื่อด้วยครับ
ผมคิดว่าแผนการของพระเป็นเจ้าในครั้งนี้เป็นแบบนี้ครับ
ดลใจให้ผมนำน้ำเสกและกางเขนไป > ผมเสกน้ำเสก และโดนแซวใหญ่โต > ถ้าไม่โดนแซวจนคนล้อไปทั่วก็ไม่มีใครรู้ว่าผมเสกแล้ว > ปลอดภัยอยุ่ห้องเดียว > คนกล่าวขวัญไปทั่วว่าห้องนี้ไม่โดน > แล้วก็ไม่โดนจริงๆ > คนรู้ว่าห้องนี้เสกแล้วเพราะว่าผมโดนแซวไปทั่ว > คนรู้จักพระนาม และ ฤทธิ์อำนาจของพระองค์
ซึ่งจากแผนการ์ณนี้แล้วผมขอเป็นพยานว่ามีเพียงพระองค์พระเป็นเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่ทรงมีฤทธิ์และปรีชาญาณที่จะวางแผนการเหล่านี้ได้
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
*no1 เยี่ยมกู๊ด
ขอพระนามของพระเจ้าจงแผ่ไปทั่วพิภพ
ขอพระนามของพระเจ้าจงได้รับการสรรเสริญเป็นนิตย์
ปล.
ปั๊ม ๆ มีโอกาสก็สอนเขาให้เข้าใจเรื่องพระเจ้านะจ๊ะ
อย่าให้เขาเห็นพระเราเป็นแค่เครื่องรางของคลัง
ขอพระนามของพระเจ้าจงแผ่ไปทั่วพิภพ
ขอพระนามของพระเจ้าจงได้รับการสรรเสริญเป็นนิตย์
ปล.
ปั๊ม ๆ มีโอกาสก็สอนเขาให้เข้าใจเรื่องพระเจ้านะจ๊ะ
อย่าให้เขาเห็นพระเราเป็นแค่เครื่องรางของคลัง
-
- โพสต์: 659
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
- ที่อยู่: I believe in God...
อาจจะเป็นการเรียกลูกๆพระองค์ให้มาหาพระองค์อีกวิธีนึงรึเปล่าครับ