+ปาฏิหาร์ย..ของคุณมะม๊าของเรา++

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 12:37 am

คือมีเรื่องเสริมศรัธทามาเล่าอีกแล้วครับเรื่องนี้นานมาแล้วนะแต่มันก็เป็นเรื่องที่ทำให้ผมศรัธทามากขึ้นทีเดียว แต่ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ในเหตุการ์ณ

"คุณแม่ผมเป็นหอบหืด เวลามีอาการจะหายใจไม่ออก (ถ้าใครนึกไม่ออกให้ลองหายใจตอนเป็นหวัดที่มีน้ำมูกเต็มจมูกอะคับ- -)
ทีนี้วันนึงท่านก็เป็นหอบขึ้นมา อาการหนักทีเดียว คุณป้าผมก็โทรเรียกรถพญาบาลมา..แต่ไม่นานนักอาการกลับทรุดหนักอย่างรวดเร็ว
จน....... คิดว่าไม่น่าจะรอดแล้ว คุณป้าเลยโทรเรียกคุณพ่อจากโบสถ์ใกล้ๆมาทำพิธีศีลเจิมคนใข้ แล้วก็เอาสายประคำมา
ใส่ในมือคุณแม่ผมแล้วบอกให้สวด ใจเย็นๆนึกถึงพระอย่างห่วงลูก ให้ฝากทุกอย่างใว้กับพระซะ
ตอนนั้นคุณป้าบอกว่าแม่ผมหน้าซีดมาก ปากนี่สีขาวไม่มีสีชมพูอยู่เลย ยังไม่เสียชีวิต
คุณแม่บอปป้าว่าหายใจไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว! ผ่านไป............ 10 กว่านาที! ที่หายใจไม่ได้ ...คุณแม่ก็เริ่มหายใจได้
แล้วอาการก็ค่อยๆดีขึ้น สักพักคุณป้าก็เริ่มถามคุณแม่

คุณป้า: เป็นยังไงบ้างพี่ตกใจแทบแย่ เห็นไม่หายใจตั้ง 15นาที!
คุณแม่:ก็ค่อยๆดีขึ้น
คุณแม่:ดีนะ ที่คุณพี่คอยรองเพลงกล่อม หนูใจเย็นและสงบขึ้นมากเลย
คุณป้า: พี่ไม่ได้รองเพลงนะ ในเวลานั้นใครจะไปมีกระจิตกะใจร้องเพลงได้ละ!"

สุดท้ายได้ผมคุยกับคุณแม่อีกทีคุณแม่เล่าว่า
"ตอนนั้นแม่ก็คงคิดว่าไม่รอดแน่แล้วเพราะหายใจไม่ได้เลยแม่ฝากลูกใว้กับแม่พระให้แม่พระดูแลและสั่งสอนเพราะผมตอนนั้นเกเร แล้วแม่ก็นึกถึงพระเยซูกับคุณตา
แต่ขณะกำลังสวดๆอยู่นั้นแม่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงฮัมเพลง อายุประมาณ เด็กๆนี่แหละ 15-16 ขวบ จับทำนองไม่ได้
แต่รู้ว่าไพเราะมาก ใจแม่ที่กระวนกระวายหายใจไม่ออกนี่สงบลงทันทีเลย แล้วสักพักก็หายใจได้เสียงนั้นก็หายไป"

คุณแม่ของผมหายใจไม่ได้ 15 นาที หากไม่ได้รับพระเมตตาคงไปจองที่ในสวรรค์ให้ผมและน้องแล้ว ก็เป็นเรื่องเาริมศรัทธาให้พี่ๆน้องๆเพื่อนที่มาอ่านครับผม^^

ทุกครั้งที่ผมนึกถึงเรื่องนี้ผมรู้สึกว่าพระองค์พระเมตตามหาศาลและน่ารักยิ่ง....แต่ผมเองก็ยังทำตัวไม่น่ารักต่อพระองค์ ผมละเบื่อตัวเองจริงๆเลย!
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 7:26 am

ขอบคุณครับ สำหรับเรื่องที่น่าประทับใจเรื่องนี้
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 8:59 am

ประทับใจมาก ๆ ครับ..*no1
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 10:46 am

เยเรมีย์ 17:14
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงรักษาข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะได้หาย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงจะรอด เพราะพระองค์เป็นที่สรรเสริญของข้าพระองค์
B^o^w

ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 1:06 pm

อ่านแล้วรุสึกดีจังค่ะ!
แก้ไขล่าสุดโดย B^o^w เมื่อ ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 1:06 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 1:37 pm

อ่านแล้ว ประทับใจความรักของพระเจ้าที่ทรงพระกรุณาต่อคุณแม่เฮียมากเลยฮะ
เจี๊ยบเลยคิดถึงเรื่องในพระคัมภีร์ใหม่ เรื่องลาซารัส ฮะ


ยอห์น 11

11:1 มีชายคนหนึ่ง ชื่อลาซารัสกำลังป่วยอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี ซึ่งเป็นชนบทที่มารีย์และมารธาพี่สาวของเธออยู่นั้น
11:2 มารีย์ผู้นี้คือหญิงที่เอาน้ำมันหอมชโลมพระองค์ และเอาผมของนางเช็ดพระบาทของพระองค์ ลาซารัสน้องชายของเธอกำลังป่วยอยู่
11:3 ดังนั้นพี่สาวทั้งสอง จึงให้คนไปเฝ้าพระเยซูทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า ผู้ที่พระองค์ทรงรักนั้นกำลังป่วยอยู่"
11:4 แต่เมื่อพระเยซูทรงได้ยินแล้วก็ตรัสว่า "โรคนั้นจะไม่ถึงตาย แต่เกิดขึ้นเพื่อเชิดชูพระเกียรติของพระเจ้า เพื่อให้พระบุตรของพระเจ้าทรงได้รับเกียรติเพราะโรคนั้น"
11:5 พระเยซูทรงรักมารธาและน้องสาวของเธอและลาซารัส
11:6 ครั้นพระองค์ทรงได้ยินว่าลาซารัสป่วยอยู่ พระองค์จึงทรงพักอยู่ที่ที่พระองค์ทรงอยู่นั้นอีกสองวัน
11:7 หลังจากนั้นพระองค์ก็ตรัสกับพวกสาวกว่า "เราเข้าไปในแคว้นยูเดียกันอีกเถิด"
11:8 พวกสาวกทูลพระองค์ว่า "พระอาจารย์เจ้าข้า เมื่อเร็วๆนี้ พวกยิวหาโอกาสเอาหินขว้างพระองค์ให้ตาย แล้วพระองค์ยังจะเสด็จไปที่นั่นอีกหรือ"
11:9 พระเยซูตรัสตอบว่า "วันหนึ่งมีสิบสองชั่วโมงมิใช่หรือ ถ้าผู้ใดเดินในตอนกลางวันเขาก็จะไม่สะดุด เพราะเขาเห็นความสว่างของโลกนี้
11:10 แต่ถ้าผู้ใดเดินในตอนกลางคืนเขาก็จะสะดุด เพราะไม่มีความสว่างในตัวเขา"
11:11 พระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงตรัสกับเขาว่า "ลาซารัสสหายของเราหลับไปแล้ว แต่เราไปเพื่อจะปลุกเขาให้ตื่น"
11:12 พวกสาวกทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า ถ้าเขาหลับอยู่เขาก็คงจะหายดี"
11:13 พระเยซูตรัสถึงความตายของลาซารัส แต่พวกสาวกคิดว่าพระองค์ตรัสถึงการนอนหลับพักผ่อน
11:14 ฉะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเขาตรงๆว่า "ลาซารัสตายแล้ว
11:15 เพื่อเห็นแก่ท่านทั้งหลายเราจึงยินดีที่เรามิได้อยู่ที่นั่น เพื่อท่านจะได้เชื่อ เราไปหาเขากันเถิด"
11:16 โธมัสที่เรียกว่า แฝดจึงพูดกับเพื่อนสาวกว่า "พวกเราไปกับพระองค์ด้วยเถิด เพื่อจะได้ตายด้วยกันกับพระองค์"
11:17 ครั้นพระเยซูเสด็จมาถึง ก็ทรงทราบว่าเขาเอาลาซารัสไปไว้ในอุโมงค์ฝังศพสี่วันแล้ว
11:18 หมู่บ้านเบธานีอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม ห่างกันประมาณสามกิโลเมตร
11:19 พวกยิวหลายคนได้มาหามารธาและมารีย์ เพื่อจะปลอบโยนเธอเรื่องน้องชายของเธอ
11:20 ครั้นมารธารู้ข่าวว่า พระเยซูกำลังเสด็จมาเธอก็ออกไปต้อนรับพระองค์ แต่มารีย์นั่งอยู่ในเรือน
11:21 มารธาทูลพระเยซูว่า "พระองค์เจ้าข้า ถ้าพระองค์อยู่ที่นี่น้องชายของข้าพระองค์ก็คงไม่ตาย
11:22 ถึงแม้เดี๋ยวนี้ข้าพระองค์ก็ทราบว่าสิ่งใดๆที่พระองค์จะทูลขอจากพระเจ้า พระเจ้าจะทรงโปรดประทานแก่พระองค์"
11:23 พระเยซูตรัสกับนางว่า "น้องชายของเจ้าจะฟื้นขึ้นมาอีก"
11:24 มารธาทูลพระองค์ว่า "ข้าพระองค์ทราบแล้วว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอีกในวันสุดท้าย เมื่อคนทั้งปวงจะฟื้นขึ้นมา"
11:25 พระเยซูตรัสกับเธอว่า "เราเป็นเหตุให้คนทั้งปวงเป็นขึ้นและมีชีวิต ผู้ที่วางใจในเรานั้น ถึงแม้ว่าเขาตายแล้วก็ยังจะมีชีวิตอีก
11:26 และทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่ตายเลย เจ้าเชื่ออย่างนี้ไหม"
11:27 มารธาทูลพระองค์ว่า "เชื่อพระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าที่เสด็จมาในโลก"
11:28 เมื่อเธอทูลดังนี้แล้ว เธอก็กลับไปเรียกมารีย์น้องสาว กระซิบว่า "พระอาจารย์เสด็จมาแล้ว และทรงเรียกเจ้า"
11:29 เมื่อมารีย์ได้ยินแล้วเธอก็รีบลุกขึ้นไปเฝ้าพระองค์
11:30 ฝ่ายพระเยซูยังไม่เสด็จเข้าไปในหมู่บ้าน แต่ยังประทับอยู่ ณ ที่ซึ่งมารธาพบพระองค์นั้น
11:31 เมื่อพวกยิวที่อยู่กับมารีย์ในเรือนกำลังปลอบโยนเธออยู่ เห็นมารีย์รีบลุกขึ้นเดินออกไป เขาทั้งหลายจึงตามเธอไป นึกว่าเธอจะไปร้องไห้ที่อุโมงค์
11:32 ครั้นมารีย์มาถึงที่ซึ่งพระเยซูประทับอยู่และเห็นพระองค์แล้ว จึงกราบลงที่พระบาทของพระองค์ทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า ถ้าพระองค์ประทับอยู่ที่นี่ น้องชายของข้าพระองค์ก็คงไม่ตาย"
11:33 เมื่อพระเยซูทรงเห็นเธอร้องไห้ และพวกยิวที่มากับเธอก็ร้องไห้ด้วย พระองค์ก็ทรงสะเทือนพระทัยและทรงเป็นทุกข์
11:34 พระองค์ตรัสว่า "พวกเจ้าเอาศพเขาไปไว้ที่ไหน" เขาทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า เชิญเสด็จมาดูเถิด"
11:35 พระเยซูทรงพระกันแสง {ราชาศัพท์ แปลว่า ร้องไห้}
11:36 พวกยิวจึงกล่าวว่า "ดูซิพระองค์ทรงรักเขาเพียงไร"
11:37 แต่บางคนก็พูดว่า "ท่านผู้นี้ทำให้คนตาบอดมองเห็น จะทำให้คนนี้ไม่ตายไม่ได้หรือ"
11:38 พระเยซูทรงสะเทือนพระทัยอีกจึงเสด็จมาถึงอุโมงค์ฝังศพ อุโมงค์นั้นเป็นถ้ำ มีหินก้อนหนึ่งวางปิดปากไว้
11:39 พระเยซูตรัสว่า "จงเอาหินออกเสีย" มารธาพี่สาวของผู้ตายจึงทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า ป่านนี้ศพมีกลิ่นเหม็นแล้ว เพราะว่าเขาตายมาสี่วันแล้ว"
11:40 พระเยซูตรัสกับเธอว่า "เราบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่า ถ้าเจ้าเชื่อเจ้าก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า"
11:41 พวกเขาจึงเอาหินออก พระเยซูทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นตรัสว่า "ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ ที่พระองค์ทรงโปรดฟังข้าพระองค์
11:42 ข้าพระองค์ทราบว่าพระองค์ทรงฟังข้าพระองค์อยู่เสมอ แต่ที่ข้าพระองค์กล่าวอย่างนี้ก็เพราะเห็นแก่ประชาชนที่ยืนอยู่ที่นี่ เพื่อเขาจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา"
11:43 เมื่อพระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงเปล่งพระสุรเสียง ตรัสว่า "ลาซารัสเอ๋ย ออกมาเถิด"
11:44 ผู้ตายนั้นก็ออกมา มีผ้าพันมือและเท้า และที่หน้าก็มีผ้าพันอยู่ด้วย พระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "จงแก้ผ้าที่พันออกเสีย แล้วปล่อยเขาเถิด"
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ot@
~@
โพสต์: 989
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:44 pm

ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 6:59 pm

ดีจังเลยนะครับ ;D
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ ก.พ. 26, 2005 9:06 am

Jeab Agape เขียน: 11:26 และทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่ตายเลย เจ้าเชื่ออย่างนี้ไหม"
เป็นประโยคที่พระองค์ทรงเน้นย้ำกับพวกเราเสมอ
ขอบพระคุณพระองค์
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ ก.พ. 26, 2005 10:31 pm

เยี่ยมเลยเจ๊ทาๆ
น่าประทับใจ *no1
ตอบกลับโพส