หลงทางมา เขียน:
มีการขอร้องเครือโรงหนังไม่ให้ออกฉาย Davinci Code
ผมว่ามันไม่ควรเท่าไหร่นะครับ
เหมือนพวกร้อนตัว กลัวคนจะจับผิดได้ เลยต้องรีบปิดบังซะก่อน
หากความเชื่อคุณดี ผมว่าทำคู่มือส่งโรงหนังไปแจกคนดูดีกว่าครับ
ว่าหนังเรื่องนี้ปิดบังอะไร ดีกว่ามาทำตัวลับๆ ล่อๆ ไปคุยกันในห้องเงียบ ปิดบังผู้คน
แสดงเจตนากลัว แบบเอาการเลยครับ
(ยังดีมี SF ที่มีความฉลาดเลือก รู้จักเอามาฉาย เพราะมันคือนิยาย จะเชื่อหรือไม่คนดูตัดสิน)
มีการขอร้องเครือโรงหนังไม่ให้ออกฉาย Davinci Code ผมว่ามันไม่ควรเท่าไหร่นะครับ
>>> ไม่ไช่ศาสนาคุณนี่! ลองเปนศาสนาคุณมั่งเอาไหมล่ะ? ถ้ามีคนมาเอาคนคนที่คุณเคารพรักมาเหยียบยำให้คนทั้งโลกดู ทั้งๆที่คุณก็รู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงคุณจะพูดไหมว่า "ผมว่ามันไม่ควรเท่าไหร่นะครับ"
เหมือนพวกร้อนตัว กลัวคนจะจับผิดได้ เลยต้องรีบปิดบังซะก่อน
>>> มันเป็นสามันสำนึก เป็นมโนธรรมที่วิญญูชนพึงมี เรารักและภักดีต่อพระเจ้าของเรา เมื่อมีคนมาทำลายศาสนาของเรา จะให้เราอยู่เฉยๆหรอ เราก็ต้องปกป้องให้ถึงทีสุด
หากความเชื่อคุณดี
>>> แล้วคนที่ไม่แข็มแข็งละ คริสตชนใหม่ล่ะ จิตวิญญาณของแต่ละคนไม่ใช่ว่าจะเข้มแข็งเท่ากันเสมอไปนะ
ผมว่าทำคู่มือส่งโรงหนังไปแจกคนดูดีกว่าครับ ว่าหนังเรื่องนี้ปิดบังอะไร
>>> ก็อยากจะทำเหมือนกันค่ะ ถ้าเรามีงบประมาณ
ดีกว่ามาทำตัวลับๆ ล่อๆ ไปคุยกันในห้องเงียบ ปิดบังผู้คน
>>> ออกทีวี ลงหนังสือพิมพ์ อย่างนี้ยังเรียกว่าลับๆล่อๆอีกหรอคะ
แสดงเจตนากลัว แบบเอาการเลยครับ
>>> ใช่ค่ะ เรากลัว และเป็นห่วงคนดูที่ไม่เข้าใจ และแยกแยะไม่ออกว่านี่เป็นนิยาย(ถึงจะชี้แจงแล้วก็ตาม)ที่อาจอิน หรือคล้อยตามได้ โดยเฉพาะศาสนิกชนอื่นหรือแม้แต่คริสตชนใหม่ หรือผู้ที่ยังมีความเชื่อยังไม่เข้มแข็งพอ
จริงๆแล้วเหตุการณ์นี้เราชาวคริสต์รู้อยุ่แล้วว่าสักวันมันต้องเกิดขึ้น พระองค์ทรงเปิดเผยให้เรารู้ตั้งนานแล้ว
"เขาจะเลิกฟังความจริงและจะหันไปฟังเรื่องนิยายต่างๆ" (2 ทิโมธี 4 : 4)"
และพระองค์ก็ทรงแนะแนวทางให้แก่เราว่า
"อย่าใส่ใจกับเทพนิยายอันหาสาระมิได้จงฝึกตนในทางธรรม" (1 ทิโมธี 4 : 7)
ปล.ที่ผ่านมาหนังเรื่ององค์คุลีมาลโวยกันจนหนังแบนได้ ถ้าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย มีความเท่าเทียมเรื่องศาสนาจริง ดาวินซี่โค๊ตก็ต้องแบนเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้โดนหนักกว่าเยอะหลายเท่ามากๆ