ทำไมท่านไม่เริ่มก่อนล่ะ?

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 9:35 am

ไปเจอมาจาก Lectio Divina ของพระคุณเจ้าประธาน  ศรีดารุณศีล  เอามาฝากค่ะ   : emo045 :

http://www.catholic.or.th/spiritual/hom ... /nov06.doc

ทำไมท่านไม่เริ่มก่อนล่ะ?

รูปภาพ

บาทหลวง Andrea Santoro (ถูกฆ่าตายเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2006) เล่าเรื่องการสนทนาที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนที่ท่านกำลังเรียนภาษาตุรกีว่า 

ข้าพเจ้าพูดว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ เสาร์ พ.ย. 04, 2006 9:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
stellamaris

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 9:58 am

บางทีเราเริ่มก่อนก็จริง แต่คนอื่นเมินเฉย และหลายคนก็เมินเฉยตลอด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 11:24 am

StellaMaris เขียน: บางทีเราเริ่มก่อนก็จริง แต่คนอื่นเมินเฉย และหลายคนก็เมินเฉยตลอด
ก็พยายามต่อไปฮะ ::004::


ปล.พอนึกถึงเพลง  Let There Be Peace on Earth แล้วซึ้งนะ : xemo017 :

มิซซาอังกฤษที่ มหาไถ่ก้มี
stellamaris

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 11:35 am

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน:
StellaMaris เขียน: บางทีเราเริ่มก่อนก็จริง แต่คนอื่นเมินเฉย และหลายคนก็เมินเฉยตลอด
ก็พยายามต่อไปฮะ ::004::


ปล.พอนึกถึงเพลง  Let There Be Peace on Earth แล้วซึ้งนะ : xemo017 :

มิซซาอังกฤษที่ มหาไถ่ก้มี
หมดความพยายามแล้วแหละ หมดไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
raY
โพสต์: 109
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 11:24 am
ที่อยู่: Bkk

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 11:38 am

"คุณธรรม" >>> คุณหน่ะ...ทำ ทำซะ อย่าดีแต่พูด   ::011::

หลายต่อหลายครั้งที่...เก่งแต่พูด พูดมาก... แต่ไม่เคยทำอะไรเลย ไม่เคยเอาจริงเอาจัง หรือทุ่มเทกับสิ่งใด เอาแต่พูด...

จะมีสักกี่ครั้ง ที่ไม่ต้องพูด ไม่พูดมาก หากแต่ได้ลงมือทำอย่างเต็มที่ เพราะรัก รักเท่านั้น ไม่กลัวสิ่งใด จะมีไม๊???

ขอบคุณคำถาม...ที่ต้องตอบด้วยตัวเอง ตัวใครตัวมัน แต่ไม่ต้องพูดออกมานะ ลงมือรักกันเถอะ
 : emo038 :
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 12:23 pm

StellaMaris เขียน:
ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน:
StellaMaris เขียน: บางทีเราเริ่มก่อนก็จริง แต่คนอื่นเมินเฉย และหลายคนก็เมินเฉยตลอด
ก็พยายามต่อไปฮะ ::004::


ปล.พอนึกถึงเพลง  Let There Be Peace on Earth แล้วซึ้งนะ : xemo017 :

มิซซาอังกฤษที่ มหาไถ่ก้มี
หมดความพยายามแล้วแหละ หมดไฟ
ออกจากตัวเองให้ได้ก่อน  คือ  ต้องลืมตัวเอง  อย่าคิดถึงความสุขของตัวเอง  ก็จะทำได้ค่ะ  ถ้าเรายังคิดถึงตัวเองอยู่  มันก็ยากที่จะทำ  เพราะเราจะมัวแต่ห่วงว่า  คนนั้นคนนี้จะชอบเรามั้ย  ห่วงแต่ว่า  เราจะโดดเดี่ยว  มันก็เริ่มลำบากเหมือนกัน  : xemo017 :
stellamaris

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 12:34 pm

Buddy เขียน:
StellaMaris เขียน:
ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน: ก็พยายามต่อไปฮะ ::004::


ปล.พอนึกถึงเพลง  Let There Be Peace on Earth แล้วซึ้งนะ : xemo017 :

มิซซาอังกฤษที่ มหาไถ่ก้มี
หมดความพยายามแล้วแหละ หมดไฟ
ออกจากตัวเองให้ได้ก่อน  คือ  ต้องลืมตัวเอง  อย่าคิดถึงความสุขของตัวเอง  ก็จะทำได้ค่ะ  ถ้าเรายังคิดถึงตัวเองอยู่  มันก็ยากที่จะทำ  เพราะเราจะมัวแต่ห่วงว่า  คนนั้นคนนี้จะชอบเรามั้ย  ห่วงแต่ว่า  เราจะโดดเดี่ยว  มันก็เริ่มลำบากเหมือนกัน   : xemo017 :
Thank you very much  :cheesy:

ตอนนี้ไร้ความรู้สึกไปแล้ว
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 12:41 pm

StellaMaris เขียน: Thank you very much  :cheesy:

ตอนนี้ไร้ความรู้สึกไปแล้ว
ระวังเก็บกดนะ  ถ้าไร้ความรู้สึกน่ะ  : emo045 :

เจ็บปวดได้  เป็นเรื่องธรรมดา  แต่เราจะเจ็บน้อยที่สุดถ้าเราถ่อมใจมากที่สุด  แต่ไม่ให้เจ็บเลยไม่ได้หรอก  ยังไงเราก็ยังเป็นคน  ขอให้ทนได้เท่านั้น  ไม่ใช่ทนเพื่อตัวเอง  แต่ทนเพื่อพระค่ะ  : xemo017 :
stellamaris

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 1:25 pm

ความเย็นเฉยของคนยุคนี้ทั้งที่ไม่เป็นคริสต์และเป็นคริสต์ ปล่อยพลังไอกระแสความเย็นมาควบแน่นและกดทับเส้นประสาทความรู้สึกของเราจนไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วแหละ

ตอนนี้ไม่ได้เก็บกดอะไรหรอก คือเฉยชาไปแล้วน่ะ เวลาเห็นคนอื่นเย็นเฉยเมินเฉย ก็มองอย่างสนใจว่าดีนะ คนยุคนี้เป็นอย่างนี้ไปหมด เป็นกันไปได้แม้แต่คนที่เป็นคริสตศาสนิกชน  :angel:  :afro:  :grin:
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 10:37 pm

ถ้างั้นเราก็ต้องมาทำให้โลกมีความรักที่ร้อนรนขึ้น  ทางศีลมหาสนิท  : emo045 :

รูปภาพ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 11:16 pm

ฝ่ายเราที่เป็นคริสเตียน จึงหนุนจิตชูใจให้ ไปนมัสการประจำ และมีกลุ่มภาวนา ศึกษาพระคัมภีร์ กลุ่มกิจกรรมต่างๆ
เพื่อเสริมสร้างความเชื่อ เสริมศรัทธากัน เพื่อไม่อยากให้เราเฉยเมย หรือเย็นชา แต่กระตุ้นให้ชีวิตพระเยซูคริสต์
สวมทับในชีวิตพวกเรา                 

คงคล้ายๆ ที่พี่บัดดี้ บอกว่า เสริมศรัทธาโดยเฝ้าศีล กระมังคร้าบ :rolleyes:
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ พ.ย. 04, 2006 11:21 pm

Jeab Agape เขียน: ฝ่ายเราที่เป็นคริสเตียน จึงหนุนจิตชูใจให้ ไปนมัสการประจำ และมีกลุ่มภาวนา ศึกษาพระคัมภีร์ กลุ่มกิจกรรมต่างๆ
เพื่อเสริมสร้างความเชื่อ เสริมศรัทธากัน เพื่อไม่อยากให้เราเฉยเมย หรือเย็นชา แต่กระตุ้นให้ชีวิตพระเยซูคริสต์
สวมทับในชีวิตพวกเรา                   

คงคล้ายๆ ที่พี่บัดดี้ บอกว่า เสริมศรัทธาโดยเฝ้าศีล กระมังคร้าบ :rolleyes:
ทำยังไงก็ได้จ้า ให้ความรักของพระคริสต์ร้อนรนในตัวเรา  : emo045 :
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อาทิตย์ พ.ย. 05, 2006 8:40 am

งั้นก็ต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อนครับ : emo038 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
fizzy vippie
โพสต์: 371
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am

อาทิตย์ พ.ย. 05, 2006 8:21 pm

อยากให้คิดกันว่า ...
อย่างน้อยเราก็พยายามให้ส่วนของเราอย่างเต็มที่แล้ว
แม้จะไม่ได้เห็นความแตกต่างใดๆในสังคมหรือ
ในท่ามกลางคนที่เราอยากให้เค้ารู้สึกว่าเราปราถนาดี
แต่ก็ให้ภูมิใจว่าเราได้ทำหน้าที่ลูกของพระแล้ว
มนุษย์อาจจะไม่สนใจ แต่ว่า พระทรงรับรู้ว่า
เราได้ทำสิ่งดีดี ในนามของพระองค์ แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว

คนที่เขาทำไม่ดีกับเรา ก็รับรู้และสวดให้เขาไป
มัวแต่ไปโกรธ ไปท้อ เราเองจะเสียเวลาและเสียสุขภาพจิต
ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ "ลูกของพระ" ไปอย่าได้ท้อ
คนไม่สนใจและพระผู้เป็นเจ้าทรงรับรู้ ความพยายามของเรา
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

จันทร์ พ.ย. 06, 2006 12:12 am

เราต้องทำให้เต็มที่ สละน้ำใจของตัวเองให้เต็มที่ รักเขาก่อน เข้าใจเขาก่อน เพราะถ้าเราทำอย่างดีที่สุดแล้วด้วยความเต็มใจและตั้งใจ พระเป้นเจ้าจะเติมเต็มในส่วนที่ขาดเอง  อย่าลืมว่าเราต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัย และเราต้องสละน้ำใจของตนเองรับน้ำพระทัยของพระ

อยากไปคาดหวังผลของมัน ไม่ว่าดีหรือร้ายกับความรู้สึกของเราสักแค่ไหน เพราะมันคือสิ่งที่เป้นไปตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
BARKER BARBER
โพสต์: 226
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 8:34 pm
ที่อยู่: XAVIER HALL / PRISONMINISTRY

อังคาร พ.ย. 07, 2006 9:53 am

เห็นด้วยกับพี่ จอมนาง ครับ
                                         
                                          "เราต้องสละน้ำใจของตัวเองรับน้ำพระทัยของพระ" 
                                          "ไม่ว่าดีหรือร้ายกับความ รู้สึกของเราแค่ใหน"
ตอบกลับโพส