ว่าด้วยเทวดา(Of the Angelic order)

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 2:08 am

........วันนั้น ผมไปคุยกับเพื่อนคริสตชนรายหนึ่ง ท่านไม่รู้จัก"เชรูบิม(เครูบ)" ผมเลยถามท่านไปว่า ตอนเรียนคำสอนได้มีการเรียนจุดนี้หรือไม่ ปรากฎว่า ท่านไปโทษการสอนคำสอนว่าไม่ได้สอนเน้น แต่แท้จริงแล้ว ท่านไม่ได้อ่านคำสอนให้ถ่องแท้ต่างหาก ดังนั้น คิดว่าคงเป็นประโยชน์แก่พี่น้องคริสตชน หรือผู้สนใจ ที่พึ่งเริ่มศึกษา เพราะในบางครั้งคริสตชนเราก็สวดถึงทวยเทวดา เช่น Angele Dei(ข้าแต่อารักขเทวดา) แต่ยังขาดความเข้าใจว่าท่านเหล่านั้นเป็นใคร? ใครกันเล่าที่ปรากฎแก่นักบุญโจน แห่ง อาร์ก? ใครกันเล่าที่ปรากฎแก่พระนางมารีอาพรหมจารีย์ ?ท่านเหล่านั้นเป็นใคร หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยทำความเข้าใจเบื้องต้นให้ได้
[ดูเพิ่ม Angelus ad Virginem,Angelus,Commemoratio Sancti Gabrielis Archangeli,etc.]
หมายเหตุ  หากผิดพลาดทางข้อมูลประการใดกรุณา ซักถาม เพื่อประโยชน์สูงสุด
รูปภาพ

........................เป็นธรรมดาที่จะมีศัพท์คำว่า “เทวดา” เกิดขึ้นในหลากหลายภาษาและวัฒนธรรม หากจะค้นคว้าทั้งหมดแล้วเป็นการยากที่จะศึกษาและแสวงหาความเชื่อมโยงเป็นองก์รวม เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้เขียนจึงมุ่งสนใจเฉพาะผองเทวดาตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ (นิกายโรมันคาธอลิค) ซึ่งมีปรากฎอยู่บ้างในพระคัมภีร์เก่าและใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการศึกษาลงลึกไปในรายละเอียดทางเทววิทยาแล้ว พบว่า “เทวดาตามขนบคริสต์” มีความเกี่ยวโยงกับ ศาสนาและวัฒนธรรมอื่นๆหลายประการ อาทิ ศาสนาของพวกยิว เป็นต้น ฉะนั้น ในการศึกษาจึงมีความจำเป็นต้องค้นคว้าเพิ่มเติมนอกเหนือคัมภีร์พันธสัญญาเดิมและใหม่ไปบ้าง(แต่ก็ไม่ได้นำงานเขียน Gnostic เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะพระศาสนจักรไม่รับรอง) จึงเรียนมาเพื่อทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อน

........................“เทวดา (Angel)”นั้น เป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากภาษาฮีบรู จากคำว่า Malach, Malachim ซึ่งมีความหมายว่า ผู้แจ้งสาร (Messenger) โดยคำว่าผู้แจ้งสารนั้นปรากฎชัดในพระคัมภีร์หลายต่อหลายครั้ง เช่น ในโยบบทที่ 1 บาทที่ 14 [Job 1:14] หรือในพระวรสารนักบุญลูกา บทที่ 9 บาทที่ 52[Luke 9:52] เห็นได้ชัดว่า เทวดาเป็นผู้ช่วยสื่อสารและกระทำกิจการต่างๆให้ลุล่วงตามพระประสงค์ แม้กระนั้นสถานะของเขาที่ปรากฎในพระคัมภีร์กลับลึกลับและไร้ที่มาที่ไปยิ่ง ยังให้เกิดปริศนามากมายเกี่ยวกับเหล่าเทวดา
[ดู Psalm 104:4, 2Samuel 24:16,2King 19:35, Ravelution 1:20 เพิ่มเติม]

........................หลังจากพระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์และเสด็จขึ้นสรวงสวรรค์ได้ไม่นาน ได้มีสานุศิษย์ผู้ทำการศึกษาเรื่องราวในพระคัมภีร์เก่า โดยเราต้องยอมรับว่าพระคัมภีร์เก่าในขณะนั้นได้รับอิทธิพลจากศาสนายิวมาไม่น้อย(ซึ่งมักเขียนด้วยภาษาฮีบรู)และสานุศิษย์ท่านนั้นได้ค้นคว้าพระคัมภีร์ใหม่(ในขณะนั้นน่าจะยังกระจัดกระจาย) อันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระประวัติของพระเยซูเจ้า จากการศึกษานั้นเอง ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “เทวดา”ถูกจัดทำไว้อย่างเป็นระบบมากขึ้น พวกเราจึงได้รู้จักกับคำว่า “เซราฟิม (Seraphim), เครูบีม (Cherubim) และอื่นๆ”

........................บุคคลที่ถือว่าเป็นคนแรกที่จัดลำดับเหล่าเทพนิกรนั้นได้แก่ นักบุญดิโอนิซุสแห่งอาโรพาไกต์(St.Dionysius the Areopagite/St. Denis the martyr) สานุศิษย์แห่งนักบุญเปาโล อัครสาวก (St.Paul Apostle) โดยท่านได้เขียนหนังสือสำคัญไว้หลายเล่ม เล่มที่มีคุณค่าทางเทววิทยาที่สุดเห็นจะเป็น De coelesti hierarchia(The Celestial Hierarchies) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ การศึกษาเกี่ยวกับอัครทูตและเทวดาที่ปรากฎในเอกสาร ม้วนคัมภีร์ต่างๆ ซึ่งท่านได้แบ่งเป็นหลักๆ 3 ชั้น(hierarchy) 9 คณะ(order)[นักตำนานและเทววิทยา บางท่านอาจจะแบ่งไปมากกว่านั้น เกี่ยวกับ พวก illumination ผู้ซึ่งเป็นแสงสว่างจากพระฉาย ซึ่งจะร้อนแรงมาก เพราะในชั้นแค่ Seraphim นี้มีถึง 6 ปีกแล้ว เพื่อป้องแสงศักดิ์สิทธิ์อันร้อนแรง สูงกว่านั้นอาจจะไม่นับเป็นลำดับชั้นได้ เพราะเกินกว่าจะนิยาม]

........................ดังนั้น ในที่นี้ผู้เขียนจะกล่าว แบบ ยกชั้นสูงสุดไว้เป็น Seraphim ซึ่งนั่นจะหมายความว่า เรายังแบ่งกลุ่มเทพนิกรออกเป็น 3 ชั้น (hierarchy) 9 คณะ (order) ดังเดิม [ซึ่งจุดมุ่งหมายผู้เขียน ต้องการให้คริสตชนมีความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นที่ถูกต้องเกี่ยวกับเทวดาเท่านั้น]
[จะทยอยนำมาลงต่อไป-พระเจ้าอวยพร]
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 2:22 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 8:11 am

ขอบคุณสำหรับ การแบ่งปันความรู้นะ แล้วจะรออ่านต่อ ::017::
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 7:31 pm

First Hierarchy (Choir)[ชั้นเอก,ชั้นสูงสุด]
รูปภาพ
1. Seraphim (มาจาก รากศัพท์ภาษาฮีบรู saraph ถ้าแปลเป็น Verb จะแปลว่า เผา ถ้าเป็น Noun จะแปลว่า ไฟ โดยหมายถึงความเร่าร้อน) เป็นผู้มาก่อน เป็นผู้อยู่ล้อมรอบใจกลางแห่งความบริสุทธิ์ที่สุด (ล้อมรอบพระ throneของพระเจ้า) ผู้มีจิตใจภักดี เหล่าเซราฟิมจะเปล่งเสียงสรรเสริญพระเป็นเจ้าตลอดเวลาว่า Holy Holy Holy
[*ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ทรงฤทธิไกร เสนาธิราชอวยชัย บังคมไหว้พระเจ้าสูงสุด] และจากอิสยาห์ 6:2 ทำให้เราทราบอีกว่า เซราฟิมมีหกปีก โดยสองปีกใช้บังหน้า (กันความร้อนแรงจากพระอานุภาพ) และสองปีกใช้คลุมเท้า และสองปีกใช้บิน ไป [Upon it stood the seraphim: the one had six wings, and the other had six wings: with two they covered his face, and with two they covered his feet, and with two they flew.]
รูปภาพ
[หมายเหตุ] รูปลักษณ์ที่เซราฟิมปรากฎร่างที่หกปีกนี้ ไม่ใช่รูปลักษณ์ตายตัวแต่อย่างใด หากกล่าวในแง่สัญลักษณ์รูปลักษณ์ที่มีหกปีกเป็นสัญลักษณ์ (Symbolic) แห่งความนอบน้อม ยำเกรงอำนาจพระเป็นเจ้าอย่างที่สุด (กล่าวคือไม่กล้าแม้นเพียงสบพระพักตร์โดยตรง เขาจะปรากฎองค์ต่อเบื้องพระพักตร์ในลักษณะผู้ยอมจำนนภักดีไม่มีเสื่อมคลาย) แท้จริงแล้วรูปลักษณ์แห่งเหล่าเทวดาทั้งหลายบนสรวงสวรรค์จำแนกได้อีกหลายรูปแบบ อาทิ รูปเทวดาสองปีก เป็นต้น
รูปภาพ
เทวดาในชั้นเซราฟิมนี้ มีหลายองค์มาก แต่จะกล่าวเพียงองค์ที่คริสตชนควรรู้จักเป็นความรู้ไว้
1. Michael [St.Michael, อัครเทวดามีคาแอล]
รูปภาพ
............เป็นชื่อภาษาฮีบรูซึ่งมีหมายความว่า “ผู้เสมือนพระแสงฉายของพระเป็นเจ้า” [ภาษาอังกฤษมักเขียนรวบรัด ว่า who is like God, Who resembles God ครั้นจะแปลว่า ผู้ที่เหมือนพระเจ้า, เสมือนพระเจ้า ก็ดูไม่บังควร เพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนจึงมิมีสิ่งใดเกิดมาเทียบได้ (ดู ยอห์น1:3) เพราะฉะนั้นเพื่อความเข้าใจที่ดีที่สุดให้ลองนึกภาพถึงแสงสว่างขนาดใหญ่ (พระเจ้า) ที่ฉายผ่านทะลุอัครเทวดามีคาแอล หมายถึงผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรเพื่อให้เป็นเสมือนสิ่งแทนองค์นั่นเอง]

[หมายเหตุ1] “เสมือนพระแสงฉาย” ของพระเป็นเจ้า ขอให้เข้าใจว่า คนละแบบกับ ผู้เป็นแสงสว่างแห่งพระเจ้า หรือ ผู้เป็นแสงฉายแห่งพระเจ้า (หมายตัวอณูแสงนั้นๆ) ในที่นี้ผู้เขียนต้องการให้เข้าใจว่า เป็นการไม่บังควรอย่างไรที่จะเปรียบเทียบเช่นนั้น แล้วหนทางที่จะอธิบายได้ดีที่สุดคืออย่างไร [เพราะเรื่องเทวดาเป็นเรื่องยากอธิบาย ต้องมีความเชื่อและศรัทธาเพราะเป็นเรื่องที่มองไม่เห็น (2โครินธ์ 4:18)]
[หมายเหตุ2] ใน แม่พระยุคใหม่ ฉบับที่ 125 ปีที่ 22 กันยายน - ตุลาคม 2002/2545 นั้น ได้ตีความว่า มีคาแอล หมายความว่า“ใครจะเสมอพระเจ้า”และยกคำกล่าวในวิวรณ์ 12:7(การมีชัยชนะเหนือปีศาจ) ในที่นี้เพื่อมิให้เกิดความสับสนขอให้ทำความเข้าใจว่า “ใครจะเสมอพระเจ้า”นี้มิใช่การเสมอเสมือนแต่เป็นนัยยะของผู้ที่ไม่มีใครเสมอได้ เป็นการตีความโดยใช้ ชื่ออัครเทวดาสรรเสริญพระเจ้าอีกทีหนึ่ง ความหมายไม่ต่างอะไรกับที่ผู้เขียนสื่อสาร เพราะในเมื่อ ผู้เขียนชี้ถึงการที่อัครเทวดามีคาแอลท่านเป็นเสมือนสิ่งแทนองค์แล้ว ก็ย่อมจะไม่มีใครเอาชนะได้เช่นเหตุการณ์ในวิวรณ์บทที่ 12 บาทที่ 7 – 8
อัครเทวดามีคาแอล ปรากฎชัดใน ดาเนียล 12: 1, วิวรณ์ 12:7
[Daniel 12:1]But at that time shall Michael rise up, the great prince, who standeth for the children of thy people.
[Revelation, apocalypses 12:7] And there was a great battle in heaven: Michael and his angels fought with the dragon, and the dragon fought, and his angels.
2. Gabriel [Gavrel, St.Gabriel, อัครเทวดากาเบรียล]

............เป็นชื่อภาษาฮีบรูซึ่งมีหมายความว่า “ผู้เป็นกำลังของพระเจ้า” หรือ “แห่งพระเจ้า (Of GOD)” ซึ่งท่านเป็นอัครเทวดาที่มีบทบาทมากในการจำเริญแห่งกิจการของพระเจ้าบนโลก ท่านทำหน้าที่เป็น “ผู้นำสาร”มาให้แก่มนุษย์ โดยท่านได้ปรากฎองค์ครั้งแรกในคัมภีร์พันธสัญญาเดิม(ดู Daniel 8:13-16,9:21-22) และการปรากฎองค์สำคัญๆดังนี้

............การปรากฎองค์แก่เศคาริยาห์(Zaccharias) ผู้เฒ่า เพื่อแจ้งสาส์นให้ทราบว่า ภรรยาของท่าน (นักบุญเอลีซาเบธ-St.Elizabeth) จะมีบุตรเป็นผู้ชาย โดยท่านยังแจ้งอีกว่าให้ตั้งชื่อบุตรชายนั้นว่า “ยอห์น” ต่อมาเป็นที่ทราบกันดีว่า “ยอห์น” นี้คือ นักบุญยอห์น แบปติสต์ (St.John the Baptist)[อ้าง Luke 1:11-13,19]

............การปรากฎองค์แก่พระนางมารีอาพรหมจารี การปรากฎองค์นี้ถือว่าเป็นการปรากฎองค์ที่สำคัญมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการแจ้งข่าวประเสริฐสูงสุด นั่นคือ “การบังเกิดมาของพระบุตรที่รักของพระเป็นเจ้า”[Luke1:32]และ การที่ยัง อัครเทวดากาเบรียลท่านมาแจ้งสาส์นนี้ ยังผลให้เกิดบท Ave Maria(วันทามารีอา) และยังผลทางอ้อมให้เกิดบทมักญีฟิกัต(เพลงสรรเสริญของพระนางมารีย์)ที่โด่งดังศักดิ์สิทธิ์

............บทวันทามารีอาเกิดขึ้นจาก อัครเทวดากาเบรียลท่านมาปรากฎองค์พร้อมกล่าวกับพระนางมารีอาว่า “Ave Maria, gratia plena Dominus tecum benedicta tu in mulieribus” ต่อมาเมื่อพระศาสนจักรออกพระสมณสาส์นว่าด้วยการนับถือพระนางมารีย์ โดย พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6(Marialis Cultus) บทวันทามารีอาจึงถือเป็น “คารวะกิจของทูตสวรรค์”ด้วย ซึ่งผลแห่งการปรากฎองค์ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะในเมื่อทูตสวรรค์ยังปฏิบัติคารวะกิจ เพราะฉะนั้นจึงยังผลให้เกิด คริสตคารวกิจ (Culte Chretien) ตามมาด้วย

[หมายเหตุ1]ใน แม่พระยุคใหม่ ฉบับที่ 125 ปีที่ 22 กันยายน - ตุลาคม 2002/2545 นั้น ได้ตีความในเชิงใช้ ชื่ออัครเทวดาสรรเสริญพระเจ้าอีกทีหนึ่ง โดยให้ความหมายว่า กาเบรียล หมายถึง “พระเจ้าผู้เข้มแข็ง” โดยยกพระวรสารลูกามาอ้างเช่นเดียวกัน ขอให้ทำความเข้าใจว่าว่า “ผู้เป็นกำลังของพระเจ้า”ไม่ต่างอะไรกับ“พระเจ้าผู้เข้มแข็ง”ต่างกันตรงที่ ความหมายที่ผู้เขียนใช้เจาะจงลงไปยัง เทวดานั้นๆเพื่อแสดง “ความมีเอกลักษณ์(Identify)” [จะได้เข้าใจมากขึ้นในรายละเอียด] แท้จริงแล้วไม่ต่างกันดังผู้เขียนอธิบาย
[จะทยอยนำมาลงต่อไป-พระเจ้าอวยพร]
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ จันทร์ ธ.ค. 18, 2006 7:33 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 19, 2006 12:32 am

หืมมมม :huh:

หยุดก่อน ::016::


อัครเทวดา (Archangels) กับ เซราฟิมนี่คนละคณะ

คนละวงศ์ชั้นเลยนะ ::010::


อัครเทวดา หน่ะอยู่ ในวงศ์ที่3  ได้แก่ ปกครอง(Princedom) อัครเทวดา และนิกรเทวดาทั่วไป

ส่วน
เซราฟิม อยู่วงศ์ที่1 ได้แก่ เซราฟิม เครูบิม/เชรูบิม แล้วก็ บัลลังค์(โอฟานิม) นะ ::004::
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ธ.ค. 19, 2006 10:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร ธ.ค. 19, 2006 12:52 am

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน: หืมมมม :huh:

หยุดก่อน ::016::


อัครเทวดา (Archangels) กับ เซราฟิมนี่คนละคณะ

คนละวงศ์ชั้นเลยนะ ::010::


อัครเทวดา หน่ะอยู่ ในวงศ์ที่3  ได้แก่ เจ้านาย(Princedom) อัครเทวดา และนิกรเทวดาทั่วไป

ส่วน
เซราฟิม อยู่วงศ์ที่1 ได้แก่ เซราฟิม เครูบิม/เชรูบิม แล้วก็ บัลลังค์(โอฟานิม) นะ ::004::
นั่นจิ เหมือนว่าท่าน มิคาแอลเป็น อัครเทวดานะงับ
ส่วนชั้นเซราฟิม ผมไม่เคยได้ยินชื่อเทวดาในคณะนี้เลย

ปล. มารออ่าน + รอดูหลังการแก้ข้อมุลครบแล้ว จะเอาไปเผยแพร่ต่อ อิอิ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ธ.ค. 19, 2006 9:19 am

เคยอ่านที่นี่อ่ะนะ

http://bloggang.com/viewblog.php?id=baroque&group=4&date=24-10-2006&blog=1
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 19, 2006 5:11 pm

ขอบคุณสำหรับทุก Reply นะครับ ผมกลับมาให้ความกระจ่างล่ะ
.............ก่อนอื่นผมยังยืนยันนะครับว่า อัครเทวดา(ที่เป็นชื่อยกเกียรติ)ของ ท่านมีคาแอลหรือกาเบรียลที่ผมยกว่าอยู่ชั้น"เซราฟิม"นั้น ยังถือว่าถูกต้อง(คือมีปรากฎในแหล่งศึกษาเกี่ยวกับเทววิทยา)
.............ส่วนที่ต้องขออภัย คือ ความไม่ชัดเจน ในส่วนของท่านกาเบรียล เพราะท่านอยู่ในหลายๆชั้นครับ กล่าวคือผมควรจะทำหมายเหตุไว้ให้ทุกท่านทราบว่า ในทาง Angelology(เทวดาวิทยา) ได้ยกท่านไว้ในชั้นนี้(Seraphim)ด้วย แต่ในบางแหล่งกลับยกท่านไว้ในชั้น เชรูบิม(Cherubim)
เหตุผลทำไมถึงปรากฎอัครเทวดาในชั้นนี้?
.............ชั้นเซเรฟิม ถือว่าเป็นชั้นสูงสุด(สำหรับการนิยามในขอบเขตบทความของผม) ในชั้นนี้จะมีอัครเทวดา(บางองค์) และเทวดาสำคัญ(ที่คริสตชนทั่วไปไม่ค่อยได้ยินชื่อ)อีกหลายองค์ เช่น หัวหน้าชั้น(Cheif)คือSeraphiel เทวดาที่เป็นแสงแห่งแสง(แสงยามอรุณรุ่ง)เป็นผู้ถ่ายทอดลำนำเพลงศักดิ์สิทธิ์แก่เหล่าเซราฟิมเพื่อร้องถวาย ณ เบื้องพระบังลังก์ หรือจะเป็นท่านJehoel (Jahoel,Shemuel,Kemual,Yaoel) ผู้ซึ่งมีจำกัดความว่า"เป็นสื่อแห่งพระนามที่ไม่อาจเอ่ยเป็นภาษามนุษย์ได้"มีผลงานคือเป็นผู้จับกุมเลเวียธาน(Leviathan) โดยท่านมีคาแอลอยู่ในชั้นนี้ในฐานะ Member เท่านั้น(ขออภัยผู้รู้บางท่านสำหรับความเข้าใจที่ว่า ท่าน Michael เป็นหัวหน้าชั้นเซราฟิม เอาเป็นว่าในบางแหล่งท่านเป็น Member นะครับเมื่องั้นการอธิบายจะยาวมากเกี่ยวกับประเด็นที่ว่า "ทำไมมีหัวหน้าหลายคน")
..............หากพิจารณาจากชื่อของท่าน Micha-el(
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ อังคาร ธ.ค. 19, 2006 5:37 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 19, 2006 6:13 pm

นับว่า มุมมองที่น้องนำเสนอนับว่าน่าสนใจมาก

เพราะ คำสอนของพระศาสนจักร


ถือว่า ลูซิเฟอร์ เคยเป็น อัครเทวดา

ในขณะที่ ถ้า เราศึกษาจากพันธะสัญญาเดิม

อิสยาห์ ได้กล่าวถึง เครูบ ซึ่งล่วงหล่นจากสวรรค์ คือดาวประจำรุ่ง นั่นก็คือลูซิเฟอร์เช่นดัยวกัน


_____________

จากที่พี่ฟังน้องและผนวกกับความคิด ที่เคยได้รับมาก็คือ


ระดับชั้นของเทวดา มิได้เหมือน การจัดบรรดาศักดิ์ต่างๆของมนุษย์


เทวดา ยิ่งอยู่วงศ์สูงเท่าใด ก็จะยิ่งใกล้ชิดพระเจ้า

แต่     ยิ่งอยู่วงศ์ต่ำเท่าใด ก็จะกลับยิ่งใกล้ชิดมนุษย์


ฉะนั้น นั่นหมายความว่า

วงศ์ชั้นเทวดา มิได้หมายถึงความสูงส่งของเทวดา

แต่หมายถึง  รูปแบบหน้าที่ ในความสัมพันธ์ต่อพระเจ้าและมนุษย์


ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ เทวดา1องค์ จะมี หน้าที่ต่างๆ

ก็คือการอยู่ในชั้นต่างๆด้วย  (ใช่มั้ย ::014::)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Evangelium
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 11:03 pm

อังคาร ธ.ค. 19, 2006 7:11 pm

Book of Revelation (4:8)
"And the four living creatures, each of them with six wings, are full of eyes all around and within, and day and night they never cease to sing 'Holy, holy, holy, is the Lord God Almighty who was and is and is to come!".
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 19, 2006 11:30 pm

แน่นอนว่า!!!!
ระดับชั้นแห่งเทพนิกรนั้น ต่างจากการจัดบรรดาศักดิ์แบบมนุษย์โดยสิ้นเชิง(แต่เรื่องการยกยศทหารมากล่าวนั้น หวังเพียงให้แยกแยะและทำความเข้าใจชัดเจน ในฐานะมนุษย์ต่อมนุษย์เพื่อให้เข้าใจเบื้องบนอย่างมีเอกภาพ)
เอาล่ะ!!!อีกท่านในชั้น Seraphim ท่านสุดท้ายในชั้นนี้ที่คริสตชนควรรู้เป็นพื้นฐาน ก่อนจะต่อในชั้น Cherubim โอกาสหน้า
3.Uriel[Auriel,Oriel,อัครเทวดายูรีเอล]เป็นชื่อภาษาฮีบรูซึ่งมีหมายความว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ อังคาร ธ.ค. 19, 2006 11:34 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 20, 2006 12:42 am

เสริม

Uriel อ่านว่า ยูเรียล

ในส่วน นามของท่านที่แปลว่า "พระเจ้าทรงเป็นแสงสว่าง"

ประกอบกับ ความเชื่อหลักของคริสตชน ที่เชื่อว่า

พระเจ้าทรงเป็นแสงสว่าง ที่นำพาวิญญาณที่ล่วงลับ (เพลง Lux Aeterna ดู คำแปลเพลงมิซซาปลงศพ)
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=1275.0


จึงมีความเชื่อว่า ท่าน คือแสงสว่างของพระเจ้าที่คอยนำพาผู้ล่วงลับ

และ เป็น ผู้พาแม่พระสู่สวรรค์ ในวันอัสสัมชัญ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ เม.ย. 21, 2007 5:15 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ ธ.ค. 20, 2006 9:32 am

อ่า รบกวน จ.ข.ก.ท. ช่วยเขียนเป็นบทความที่ไม่ใช่เชิงโต้ตอบทีได้ไหมครับจะนำไปเผยแพร่ต่อในเว็ปอื่นๆ ^^
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 20, 2006 9:43 am

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: อ่า รบกวน จ.ข.ก.ท. ช่วยเขียนเป็นบทความที่ไม่ใช่เชิงโต้ตอบทีได้ไหมครับจะนำไปเผยแพร่ต่อในเว็ปอื่นๆ ^^
ถ้าเอาไปเผยแพร่ อย่าลืม ให้ credit ชื่อ เจ้าของบทความ และเว็บเราด้วยละ ::004::

ปล. เจอมาอีกเว็บนึงน่าสนใจดี^^

http://www.pocketonline.net/board/view. ... &page=last

อนึง บทความ คำนำหนังสือ
"เทวดาเพื่อนของเรา"จัดพิมพ์โดยอารามกาปูชิน เขียนโดย คุณพ่อ ไพบูลย์ อุดมเดช C.Ss.R.

ก็มีออนไลน์อยู่นะ

http://www.issara.com/article/angelcath.html
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ธ.ค. 20, 2006 11:43 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Big_TC29
โพสต์: 333
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 17, 2006 12:34 am
ที่อยู่: ในรู

พุธ ธ.ค. 20, 2006 7:27 pm

แบบว่า ลูซิแฟร์ เคยเป็นเทวดาในชั้นไหนอ่ะครับ อยากรู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 20, 2006 7:32 pm

bigect07 เขียน: แบบว่า ลูซิแฟร์ เคยเป็นเทวดาในชั้นไหนอ่ะครับ อยากรู้
เครูบ และอัครเทวดา
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 20, 2006 11:52 pm

ถึงคุณ Immanuel (MichaelPaul)บทความเชิงโต้ตอบของผมที่ว่าด้วยการตอบประเด็นที่สงสัย ค่อนข้างจะใช้หลักการตอบแบบวิชาการ ถ้าขัดเกลาสำนวนก็ใช้ได้ทีเดียว แต่ที่เขียนมาในกระทู้เป็นการเขียนที่สามารถนำไปเผยแพร่ได้ เพราะมีหัวข้อและหมายเหตุค่อนข้างชัด(แต่ควรมีเครดิตไว้)
ถึงพี่ยศิยล "เทวดาเพื่อนของเรา" มีออนไลน์ด้วย จะเป็นการดีสำหรับคนที่จะ Click เข้าไปอ่านแต่สำนวนอาจจะต่างกันบ้าง ตามการสะกดเป็นภาษาไทยครับ
ส่วนประเด็น ลูซิแฟร์(Lucifer)จะกล่าวในตัวอย่างเทวดาในชั้นนี้ต่อไป
CHERUBIM
รูปภาพ
2. Cherubim (Cherub, เครูบ, เชรูบิม, เครูบิม) คำนี้ หากสืบที่มาจากรากคำคือ
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 21, 2006 12:01 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ ธ.ค. 24, 2006 12:06 am

เทวดาในชั้นเชรูบิมนี้ มีหลายองค์มาก แต่จะกล่าวเพียงองค์ที่คริสตชนควรรู้จักเป็นความรู้ไว้
............1.Raphael [St.Raphael, อัครเทวดาราฟาแอล]เป็นชื่อภาษาฮีบรูซึ่งมีหมายความว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
NKL
โพสต์: 189
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 01, 2005 7:32 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ธ.ค. 24, 2006 3:28 am

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน: นับว่า มุมมองที่น้องนำเสนอนับว่าน่าสนใจมาก

เพราะ คำสอนของพระศาสนจักร


ถือว่า ลูซิเฟอร์ เคยเป็น อัครเทวดา

ในขณะที่ ถ้า เราศึกษาจากพันธะสัญญาเดิม

อิสยาห์ ได้กล่าวถึง เครูบ ซึ่งล่วงหล่นจากสวรรค์ คือดาวประจำรุ่ง นั่นก็คือลูซิเฟอร์เช่นดัยวกัน


_____________

จากที่พี่ฟังน้องและผนวกกับความคิด ที่เคยได้รับมาก็คือ


ระดับชั้นของเทวดา มิได้เหมือน การจัดบรรดาศักดิ์ต่างๆของมนุษย์


เทวดา ยิ่งอยู่วงศ์สูงเท่าใด ก็จะยิ่งใกล้ชิดพระเจ้า

แต่     ยิ่งอยู่วงศ์ต่ำเท่าใด ก็จะกลับยิ่งใกล้ชิดมนุษย์


ฉะนั้น นั่นหมายความว่า

วงศ์ชั้นเทวดา มิได้หมายถึงความสูงส่งของเทวดา

แต่หมายถึง  รูปแบบหน้าที่ ในความสัมพันธ์ต่อพระเจ้าและมนุษย์


ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ เทวดา1องค์ จะมี หน้าที่ต่างๆ

ก็คือการอยู่ในชั้นต่างๆด้วย  (ใช่มั้ย ::014::)
แปลว่าเหล่าเทวดาที่พวกเรารู้จักกันดี อย่างมีคาเอล หรือ ท่านกาเบรียล ได้รั้งตำแหน่งหลายๆตำแหน่งไว้เพื่อทำภารกิจหลายรูปแบบ ว่างั้น
poloplow
โพสต์: 402
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 11, 2006 11:01 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 24, 2006 2:53 pm

หุหุ  เพิ่งมาเห็นกระทู้นี้  มีสาระดี ๆ มากเลยครับ(ถึงจะจำไม่หมดก็เถอะ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
โกจ๋อ
.
.
โพสต์: 1048
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:37 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 24, 2006 4:43 pm

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน:
bigect07 เขียน: แบบว่า ลูซิแฟร์ เคยเป็นเทวดาในชั้นไหนอ่ะครับ อยากรู้
เครูบ และอัครเทวดา
แต่เว็บที่เจให้มาบอกอยู่ชั้น เซราฟิมนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

จันทร์ ธ.ค. 25, 2006 1:32 am

โกจ๋อ เขียน:
ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน:
bigect07 เขียน: แบบว่า ลูซิแฟร์ เคยเป็นเทวดาในชั้นไหนอ่ะครับ อยากรู้
เครูบ และอัครเทวดา
แต่เว็บที่เจให้มาบอกอยู่ชั้น เซราฟิมนะ
บางเว็บมั้ง รู้สึกเค้ามีที่อ้างอิงไม่เหมือนกัน

ปล. ซามาเอล(ซาตาน) หน่ะอยู่ เซราฟ


ปลล. นี่พูดกันที่ข้อมูล ที่ไม่ได้มาจากพระคัมภีร์นะ อย่ายึดติดมาก
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 28, 2006 9:36 pm

Lucifer
รูปภาพ
............Lucifer ท่านนี้เป็นรายที่สำคัญยิ่ง (จริงไหม) แต่ชื่อ Lucifer นี้หาได้มาจากภาษาฮีบรูเฉกเหล่าเชรูบิมอื่นไม่ คำว่า
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 09, 2007 2:40 pm

3.Samael(Samael, Satanil, Samil, Satan, Seir, Salmael)
รูปภาพ
................เป็นชื่อภาษาฮีบรูซึ่งมีหมายความว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ อังคาร ม.ค. 09, 2007 4:22 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:49 pm

เอ ในเรื่องการขึ้นสวรรค์ของโมเสส

มิได้มาจาก การยื้อแย่งศพของโมเสส โดยอัครเทวดามิคาเอล กับปีศาจหรอกหรือ?

(อิงยูดา 1:9)....ซึ่งอ้างถึง อธิกธรรม Assumption of Mosesด้วย
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:57 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 09, 2007 5:17 pm

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน: เอ ในเรื่องการขึ้นสวรรค์ของโมเสส

มิได้มาจาก การยื้อแย่งศพของโมเสส โดยอัครเทวดามิคาเอล กับปีศาจหรอกหรือ?

(อิงยูดา 1:9)....ซึ่งอ้างถึง อธิกธรรม Assumption of Mosesด้วย
ขอบคุณที่มาช่วยเสริมครับ!!! ทีนี้มาลงรายละเอียดกับคำว่า "ยื้อแย่งศพ" เสียหน่อย จริงๆเรียกว่ายื้อแย่ง"จิตวิญญาณ(soul)"จะดีกว่า[มันไม่เชิงยื้อแย่งหรอกนะ 3 ต่อ 1 คงแย่งลำบาก] และ ปีศาจ(devil-diabolo) ในที่นี้คัมภีร์ยิวชัดกว่าคือ Samael โดยที่ไม่ได้มีอัครเทวดามีคาแอล(Michahel archangelus)องค์เดียวยังประกอบด้วย อัครเทวดากาเบรียล(Gabriel),แซกซาเกล[Zagzagel-เทวดาแห่งปัญญา,เซราฟิมผู้ส่องสว่างในพุ่มไม้ที่ไม่ไหม้ไฟ(Exodus3:2)]และที่ผมกล่าวว่า"จะนำพาวิญญาณโมเสสไป"เนื่องจาก Samael กล่าวกับพระเจ้าก่อนเลยว่า "ขอให้พระองค์ทรงอนุญาตให้ข้า(Samael)นำวิญญาณโมเสสออกจากร่างเถิด"เพียงแต่ใน Old Hebrew Midrash Rabbah Text ได้กล่าวว่า Samael เองก็ไม่กล้าที่จะเอ่ย(ขอวิญญาณ)โมเสส ในขณะที่โมเสสเองรู้แล้วว่า เขา(Samael)มา[ใน Torah จะเขียนว่าไม่กล้าเข้าใกล้]ครั้นวาระสุดท้ายของโมเสสมาถึง โมเสสได้ภาวนาถึงหลายสิ่ง รวมถึงคำภาวนาที่ว่า "Please do not hand me over into the power of the Angel of Death"เมื่อสวดดังนี้แล้ว พระสุรเสียงศักดิ์สิทธิ์ได้ตรัสตอบว่า"อย่ากลัวเลย!เราอยู่กับเจ้า" จากนั้นโมเสสจึงลุกยืนขึ้น เทวดาทั้งสาม(ดังกล่าวข้างต้น)จึงลงมา Bless โมเสส.......(จากนั้นคงทราบกันนะครับว่าเป็นอย่างไร)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Stephen
โพสต์: 117
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 07, 2006 2:07 pm

อังคาร ม.ค. 09, 2007 8:11 pm

มนุษย์ผู้มีพระจิตเจ้าและดำเนินชีวิตด้วยฤทธิ์กุศล กับ Lucifer ใครมีอำนาจมากกว่ากัน ครับ
หากเราต้องปะทะกับมันตรงๆ  ::016::  ::016::
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 09, 2007 8:27 pm

Stephen เขียน: มนุษย์ผู้มีพระจิตเจ้าและดำเนินชีวิตด้วยฤทธิ์กุศล กับ Lucifer ใครมีอำนาจมากกว่ากัน ครับ
หากเราต้องปะทะกับมันตรงๆ  ::016::  ::016::
.......ถ้าถามถึงอำนาจนั้น "Lucifer" มากกว่ามนุษย์ครับ แต่ถ้าถามถึงการปะทะกับ Lucifer ตรงๆ มนุษย์ผู้มีพระจิตเจ้าและดำเนินชีวิตด้วยฤทธิ์กุศล(ความเกรง Luke 12:4-7, ความเชื่อ2 Corinthians 4:16-18) ย่อมมีการปกป้องที่ดี(จากพระบิดา,พระบุตร,พระจิต) หรือก็มีอีกทางคือ การถูกปะทะที่เป็นไปภายใต้น้ำพระทัย(เพื่อการลองใจ-Hebrew 11:17)[กรณีที่มีปีศาจมาผจญ ดู กระทู้ Michel(Emily rose)เพิ่ม]...."เขา(Lucifer)มีอำนาจมากกว่าเรา(มนุษย์) แต่ไม่อาจเท่าพระเจ้า(ที่ทรงพระสิริรุ่งโรจน์)เหนือเรา(ผู้รับใช้)"
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พุธ ม.ค. 10, 2007 7:49 am

พูดถึงZagzagael แล้ว

อ่านเจอในเว็บไซต์นึง ของต่างประเทศ ระบุว่า ท่าน อยุ่ชั้น supernals

http://www.steliart.com/angelology_angelic_orders.html


ในเว็บไซต์ดังกล่าวบอกว่า มี Heriearchy  ที่สูงกว่า seraphim เสียอีก

ประกอบด้วย  Supernals, Celestials และ  Illuminations


อยาก ทราบว่า 3ชั้นที่กล่าวมานี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร?

แล้วทำไม ในคำสอนพระศาสนจักร ถึงไม่กล่าวถึง3ชั้นนี้เลยละ :huh:
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ม.ค. 11, 2007 10:47 pm

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน: พูดถึงZagzagael แล้ว

อ่านเจอในเว็บไซต์นึง ของต่างประเทศ ระบุว่า ท่าน อยุ่ชั้น supernals

http://www.steliart.com/angelology_angelic_orders.html


ในเว็บไซต์ดังกล่าวบอกว่า มี Heriearchy  ที่สูงกว่า seraphim เสียอีก

ประกอบด้วย  Supernals, Celestials และ  Illuminations


อยาก ทราบว่า 3ชั้นที่กล่าวมานี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร?

แล้วทำไม ในคำสอนพระศาสนจักร ถึงไม่กล่าวถึง3ชั้นนี้เลยละ :huh:
...........ผมได้กล่าวไปแล้วว่า[นักตำนานและเทววิทยา บางท่านอาจจะแบ่งไปมากกว่านั้น เกี่ยวกับ พวก illumination ผู้ซึ่งเป็นแสงสว่างจากพระฉาย ซึ่งจะร้อนแรงมาก เพราะในชั้นแค่ Seraphim นี้มีถึง 6 ปีกแล้ว เพื่อป้องแสงศักดิ์สิทธิ์อันร้อนแรง สูงกว่านั้นอาจจะไม่นับเป็นลำดับชั้นได้ เพราะเกินกว่าจะนิยาม]เพราะฉะนั้น ไม่แปลกใจที่ปรากฎท่านในชั้น(Heriearchy)นั้น เฉกเช่นที่ปรากฎท่านมีคาแอลในชั้น Supernals ด้วย สำหรับที่มาผมคิดว่าคุณยศิโยนน่าจะค้นคว้าเพิ่มเติมได้ไม่ยาก สำหรับคำถามว่าทำไม ในคำสอนพระศาสนจักร ถึงไม่กล่าวถึง3ชั้นนี้ เพราะว่า พระศาสนจักรได้ทำการศึกษาทางเทววิทยาอย่างระมัดระวัง เนื่องจาก การศึกษาของ St.Dionysius the Areopagite ยังให้เกิดยุคของ "Celestial Magick"ตามมา พระนักเทววิทยาในยุคต่อมา เช่น St.Gregory the great,St.Thomas จึงทำการศึกษาและเผยแผ่อย่างระมัดระวัง(ข้อมูลทั้งหมดพระศาสนจักรย่อมทราบ อยู่แค่จะพูดหรือไม่พูด)........การสอนเทววิทยา(Theology)ของคริสตชนยังเป็นไปในวงแคบคือมักยึดตาม St.Dionysius (หรือบางคนอาจไม่รู้จักเลย) ไม่ได้ปรับข้อมูลให้ใหม่เหมือนแขนงของนักเทวดาวิทยา(Angelologist) ที่มีการศึกษาทางจิตวิญญาณเพิ่มเติมด้วย
St.paul

ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 12:56 pm

ขอโทษนะMan of Macedonia เป็นไรมากปะครับ
กะเทวดาเนี่ยฝังใจหรอครับตั้งกระทู้เรื่องนี้บ่อยมากเลย :emotion_057:
ตอบกลับโพส