+ ขอเตือนสำหรับคนที่จะไปดู the Mist นะครับ ไม่ปลื้มเลย [Spoil] +

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

ศุกร์ พ.ค. 16, 2008 11:49 am

ไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ต่อมาพูดคุยเรื่องเด็กที่ฆ่าตัวตาย ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนั้น เอ็นต์ไม่ติดมันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต อกหักใช่ว่าจะตาย (ยกเว้นไปฆ่าตัวตายเอง) ทำไมหลายๆครับชอบหาทางออกโดยการฆ่าตัวตาย ซึ่งผมคิดว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกและมีทางแก้ไข เพียงแต่ต้องมีสติและรอเวลาเท่านั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ค. 16, 2008 12:37 pm

ตอบคุณผ่านมา

ทัศนะคติของเราคริสตชนมองภาพยนตร์เรื่องนี้
ก็คือ แอปเปิ้ลอาบยาพิษ ตามความเห็นของคุณHoly ลองอ่านดูนะครับ

การที่เราจะสอนคุณธรรมก็ควรเป็นคุณธรรมบริสุทธิ์
ไม่ใช่มีสิ่งที่ทำให้เกิดความแคลงใจมาเจือปน

อนึ่ง ตอนจบที่สตีเฟนคิงแต่งในหนังสือ ทั้งรถคันนั้นไม่มีใครตายครับ
____________

อ่านข่าวที่คุณหยิบยกแล้ว เกิดความคิดขึ้นมา

"ถ้ารอจนถึงที่สุดแล้ว เกษตรยังไม่รับก็จะฆ่าตัวตายรึเปล่า?"
เอนต์ไม่ติดก็ยังมีทางออกอื่นนะ : xemo031 :

คนยุคสมัยนี้ความยับยั้งชั่งใจต่ำมากเลย

ขอให้วิญญาณดวงนี้ได้พักผ่อนนิรันดรเถิดพระเจ้าข้า :angel:
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 16, 2008 12:47 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ผ่านมา

อาทิตย์ พ.ค. 18, 2008 12:56 pm

เราอ่าน ทุกความคิดเห็นในบอร์ดนี้ แล้วจึงค่อยโพสค่ะ

โดยส่วนตัว สำหรับความคิดเห็นกับหนังเรื่องนี้
คือพอเราดูจบ มันหนัก มันเครียด มันบอกไม่ถูกว่า หนังดีหรือไม่ เราชอบเรื่องนี้หรือไม่
มันกังวลยังไงบอกไม่ถูก  ตั้งแต่ป้าที่เป็นคริสต์ ออกมาบอกถึงความเชื่อผิดๆ เราก็ไม่ชอบแล้ว ใช่ เราเป็นคริสต์ ใครที่มีพฤติกรรมแบบในหนังนั้นเรากังวลอยู่แล้ว แต่เราก็ยังสามารถบอกเืพื่อน บอกคนที่เรารู้จักซึ่งไม่ใช่เป็นคริสตชน  ได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คริสเตียนที่ดี เค้ามีความเชื่อผิดๆ คือ ถ้าเราไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้เราก็บอกเพื่อนๆที่เป็นพุทธไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ในรายละเอียด การบอกว่ามันไม่ใ่ช่อย่างนั้นไม่ใช่อย่างนี้ แต่เราไม่รู้ในรายละเอียดมันเหมือนกับเถียงข้างๆคูๆไม่มีเหตุผล  แล้วหนังก็มีเรื่องเครียดๆ ไปตลอดทั้งเรื่อง เพราะมันกล่าวถึงพฤติกรรมของคน ที่เมื่อถึงคราว จวนตัวทุกคนต้องเอาตัวรอด ผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าเธอต้องออกจากซุปเปอร์นี้ฝ่าหมอกไป เพราะเธอทิ้งลูกไว้ที่บ้าน เธอขอให้มีคนไปเป็นเพื่อนเธอ ไม่มีใครไป พระเอกก็ไม่ไป เพราะพระเอกมีลูกมาด้วย เราก็เครียด ว่า พระเอก ไม่เป็นพระเอกเลย เอาตัวรอด ผู้หญิงคนนั้นก็ออกไป เรายิ่งเครียดใหญ่ ผู้หญิงคนนั้นจะตายไหม ลูกเธอจะตายไหม หนังไม่บอกด้วย เฮ้อ....เครียด


หนังเรื่องนี้มันสร้างมาแล้ว มันฉายแล้ว มีคนดูทั่วโลกแล้ว การที่เราแบนมัน ไม่ดูมัน เราไม่สามารถจะแก้ความเข้าใจผิดให้คนที่ไปดูมาแล้วได้
่หนังเรื่องนี้หนัก ดูแล้วเครียด มีคนถามเราว่าเรื่องนี้ดีไหม เราก็ได้แต่บอกว่า หนังเครียด  หลายๆคนก็เลยไม่ดู(คือ แถวบ้าน ชอบซื้อ DVD หรือ CD แล้วเอามาแลกเปลี่ยนกันดู)ก็ดี คนแถวบ้านก็จะได้ไม่รู้สึกไม่ดีกับคริสต์ (ซึ่งก็มีเราเพียงครอบครัวเดียว)  แต่ก็มีบางคนดู บางคนมาพูดคุยเรื่องหนัง ก็ดี เราำได้บอกเค้าได้ว่า คริสต์ ไม่ได้เป็นแบบในหนังนะ บางคนดู แต่ไม่ได้มาพูดคุยกับเราถ้าเรามีโอกาสเราก็จะได้บอกเค้าได้  แต่ถ้าเค้าไม่ถาม เค้าไม่ได้รังเกียจเรา ไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับเรา ก็ยิ่งดีใหญ่ที่เขาเข้าใจ และแยกออกว่าอะไรคือ หนัง อะไรคือ ชีวิตจริง  แต่ถ้าเค้าเข้าใจผิดแล้วเค้าไม่ถามไถ่ เหมือนอย่างที่เจอมาในโรงที่นั่งติดกัน แล้วเค้าว่า คริสต์มันบ้า...... เราก็หลีกให้ไกลๆกับคนแบบนี้ดีกว่าค่ะ

จริงค่ะ แอปเปิ้ลมีพิษ แค่บอก คนบางคนก็เชื่อ แล้วไม่กิน เค้าก็โชคดี แต่คนบางคนไม่เชื่อนี่ซิ ปัญหา เพราะแอปเปิ้ลมีพิษ มันมีออกมาแล้ว สำหรับเราเราจำเป็นต้องรู้ว่าลูกไหนมีพิษ แล้วเราก็บอกว่ามีพิษ มีอย่างไร กินตรงไหนมีพิษ มันมีหลายคนที่ไม่เชื่อ หลายคนต้องคิดว่าเราจะเก็บแอปเปิ้ลไว้กินเอง เราจึงมีหน้าที่อีกอย่างคือส่งคนที่กินแอปเปิ้ลมีพิษไปโรงพยาบาลค่ะ

ถ้ามีคนถามเราว่าหนังเรื่องนี้ดีไหม เราจะตอบว่า หนังเครียดนะ ดูแล้วต้องคิดให้มากเข้าไว้ ไม่ใช่หนังบันเทิงเริงรมย์นะ จะไปดูหนังเพื่ออะไร ถ้าต้องการคลายเครียด อย่าดู 
ถ้าคนในบอร์ดนี้ถาม เราจะตอบว่า หนังดีมากค่ะ เพราะหนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดกับเรามากมายเหลือเกิน

สำหรับเราเราไม่ชอบให้แบนหนัง แบนหนังสือ ห้ามดู ห้ามอ่านค่ะ ก็มันมีออกมาแล้ว มันขายแล้ว คนเป็นจำนวนมาก ได้ดู ได้อ่านแล้ว เราว่าถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง เราควรดู ควรอ่าน แล้วมาถกกันว่า หนัง(หนังสือ)นั้นมีข้อดี ยังไง มีข้อเสียยังไง เรามารู้กันเอาไว้เพื่อ เอาไปแก้ความเข้าใจผิดๆกับคนอื่นๆดีกว่า เหมือนเรื่องดาวินชี่โค้ท ตอนที่มีข่าว ว่าคริสตชน เผาหนังสือ เพื่อนๆเรามาถามกันใหญ่ว่า ทำไมคริสต้องทำอย่างนั้น มันเป็นนิยายไม่ใช่หรือ หรือมันเป็นเรื่องจริง เพื่อนๆที่ถามเราเราบอกกับเค้าได้ เราอธิบายกับเค้าได้ แต่คนที่ไม่ถามนี่ซิน่ากลัว เค้าจะยิ่งเข้าใจคริสตชนผิดไปใหญ๋


สำหรับคนในนี้หลายๆคนบอกไม่อยากดู ก็ไม่เห็นเป็นอะไร หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรดีจนต้องดูให้ได้ทุกคนสักหน่อย แต่สำหรับคนที่ดูแล้วน่าจะได้มาคุยกันดีกว่า ว่าดูแล้ว ชอบไม่ชอบอย่างไร คนที่ชอบก็ต้องว่าดี มันดีอย่างไร ดีตรงไหน คนที่ไม่ชอบก็ออกมาบอกว่าไม่ดีตรงไหน อย่างไร คนที่อ่านก็ตัดสินใจเอาว่า ควรไปดูหรือไม่ ไม่อยากดู ก็ไม่ต้องดู ไม่เสียเงินด้วย 

เราอยากอ่านความคิดเห็นกับหนังเรื่องนี้ในบอร์ดพันทิป ที่มีคนในนี้ทำลิงช์ให้ แ่ต่พอเราเปิดเข้าไปดู มันอ่านไม่ได้แล้วเพราะมันคงนานแล้ว
เราไม่ชอบดูหนังตอนเข้าโรง เพราะมันแพง ไปดูเสียเงินอย่างน้อย 500 บาท ทั้งค่ารถไปดู ค่าน้ำ ค่าขนม สู้ซื้อเป็น ซีดี ดีวีดี ไม่ได้ ซื้อแล้วแบ่งกันดูได้หลายครอบครัว

ในตอนแรกเราไม่คิดว่าจะมีคนคิดไม่ดีกับคริสต์ เพราะหนังเรื่องนี้ด้วย เพราะคนรอบข้างเรา เพื่อนบ้านเรา เพื่อนๆเรา ไม่เคยแสดงออกว่า เขาจะเหมารวมว่าเราซึ่งเป็นคริสต์ จะเป็นแบบในหนังได้ แต่เรามาอ่านบอร์ดนี้ทำให้เราคิดได้ว่าต้องมีบางคนคิดไม่ดีกับเรา เพราะหนังเรื่องนี้ ซึ่งก็จะเป็นการดีที่เราจะได้เตรียมตัวเตรียมใจรับสถานะการณ์ เพื่อแก้ความเข้าใจผิด


เขียนมาซะยาว จะมีคนมาอ่านไหมน้อ....................เรื่องนี้มันตกประเด็นไปตั้งนานแล้ว
^plai^
โพสต์: 59
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 08, 2008 6:08 pm
ที่อยู่: -
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ค. 23, 2008 5:49 pm

ช่ายๆไม่มีเงินดู ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
NKL
โพสต์: 189
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 01, 2005 7:32 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 25, 2008 10:44 pm

ผมดูหนังอย่างเป็นกลางครับ เรื่องไหนสนุกก็ว่าสนุก เรื่องไหนไม่สนุกก็ว่าไม่สนุก

เวลาดูผมจะปล่อยใจดูไปโดยไม่เอาความเชื่อ อคติ หรืออะไรมาบัง เพื่อรับรู้ความสนุกของชิ้นงานศิลป์
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

อาทิตย์ พ.ค. 25, 2008 11:22 pm

มาอ่าน
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

อังคาร พ.ค. 27, 2008 5:12 pm

รอดู Meet the sparta ดีฝ่า  : xemo028 :

หนังฮาๆ ม่ายเครียด!!!! ::015::

ส่วนเดอะมิซส์นี่ เอาเหอะ ศาสนาเรามันโดนย่ำมาไม่รู้เท่าไหร่ ถือซะว่าทดสอบศรัทธาของผู้เชื่อแล้วกัน

ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระเจ้า  :angel:  ขอผู้ชม(ที่สติสตางค์ยังอยู่กับสมอง)แยกเเยะออกด้วยว่ามันหนังไม่ใช่เรื่องจริง
Cecilia_PEAR
โพสต์: 202
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:23 pm
ที่อยู่: 1506/504 ซ.7/ม.สราลี เทพารักษ์ สป. // อาสนวิหาอัสสัมชัญ
ติดต่อ:

เสาร์ ก.ย. 13, 2008 2:33 pm

"อืมมม...เราก้อดูแล้วล่ะหนังเรื่องนี้

ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง มันก็มันส์ดีอ่ะเรื่องนี้ คือมันระทึกใจดี...

และแต่ถ้ามองอีกด้าน...คือเราก้อเป็นคาทอลิกอ่ะนะ

ถูก...หนังเรื่องนี้ทำให้ผู้ชมมองว่าพระเจ้านั้นทรงโหดร้าย ลงโทษมนุษย์ และอาจทำให้ดูว่าคนที่นับถือคริสต์นั้นดูบ้าบองมงาย

ซึ่งมันไม่ดีเลย...เราก้อไม่อยากให้ใครมามองพระองค์ที่เรารักนั้นโหดร้าย จริงๆพระองค์รักมนุษย์จะตายไป และที่ในหนังอ่ะ

ถ้าดูดีๆล่ะก้อคือ มันจะแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นศรัทธาในพระเจ้าอย่างมากกกกกกกเลย (ถึงแม้บางทีอาจจะดูผิดๆอ่านะ)

...แต่ที่สำคัญ...ประทับใจตอนจบ

จริงๆคนเป็นพระเอก ก็หมายได้หมายความว่าจะเป็นแง่ดีของหนังเสมอไป...

...คือเราจะเห็นได้เลยว่า ผู้ที่เชื่อและวางใจในพระองค์ จะไม่มีความพินาศ เพราะดูดิว่าคตนที่อยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต และตัดสินใจจะเชื่อในพระองค์นั้น...รอดหมด

โดยที่พวกพระเอก...เชื่อตัวเอง พึ่งตัวเอง ตัดสินใจปฏิเสธหนทางที่จะเชื่อและวางใจในพระองค์นั้น...สุดท้ายก็ต้องมาตาย ด้วยหนทางของตนเอง(หนทางที่มนุษย์คิด)

...ดูดิ คนในซุปเปอร์มาร์เก็ตตั้งเยอะตั้งแยะ มีแค่หน้าต่างกระจกกั้น ไอ้ตัวร้ายนั่นจะเข้ามาจับกินที่ละคนเมื่อไหร่ก็ได้...แต่ทุกคนปลอดภัย เพราะเชื่อในพระองค์

พวกพระเอก...ยึดถือตัวเอง มั่นใจในตัวเอง พยายามช่วยตัวเองและพวกตัวเองให้รอด ด้วยความสามารถของตัวเอง(ซึ่งเป็นแค่มนุษย์เล็กๆคนนึง) ...สุดท้าย...เป็นไง

ถ้าเป็นเรานะ...เราจะนั่งสวดอยู่เงียบๆในซูเปอร์มาร์เก็ตนั่นแหละ...ตายก้อตายดิ...ให้รู้ไป...ถึงไงพระองค์ก้อจะอยู่ข้างๆเรา..............................................=) : xemo026 : : xemo026 : : xemo026 :
KuRapiKa
โพสต์: 383
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 30, 2008 10:49 am
ติดต่อ:

จันทร์ ก.ย. 22, 2008 12:10 am

ดูแล้วเหมือนกันครับ

แต่ดูแล้วรู้สึกหดหู่
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

จันทร์ ก.ย. 22, 2008 9:19 am

ดูจัมพ์เปอร์ดีฝ่า  ::015::  แต่ขนาดแอ๊คชั่นไซไฟมันก็อดพาดพิงถึงพระเจ้าไม่ได้เนอะ ::010::

"พระเจ้าเท่านั้น ที่ควรจะไปได้ทุกที่ ไม่ใช่แก"

ว่าแต่พาลาดินเนี่ย จริงๆแล้วมันเป็นชื่อของอะไรเหรอครับ :huh:
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.ย. 22, 2008 12:06 pm

พาลาดินส์
นานตราบเท่าที่มีพวกโดดล่องหนในโลกนี้ ก็มีกลุ่มคนหนึ่งที่เป็นพวกล่า ซึ่งเรียกตัวเองว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.ย. 22, 2008 12:08 pm

มีกฏการล่องหนด้วย  : xemo029 :

โดดล่องหน - ปรากฏการณ์พิเศษ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาในโลกเรายังมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีความสามารถพิเศษในการหายตัวจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ หรือที่เรียกว่า "โดดล่องหน" พวกเขาใช้ความสามารถนี้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ในการหลบหนีศัตรูหรือเปลี่ยนแปลงอดีต

ความสามารถในการโดดล่องหนนี้เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมที่มีมาหลายต่อหลายศตวรรษแล้ว และผู้คนเหล่านี้ก็มีอิสระในการพาตัวเองไปที่ไหนในโลก เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ

ประสบการณ์และอารมณ์มีบทบาทสำคัญในการโดดล่องหน การโดดแต่ละครั้งต้องอาศัยสภาพจิตใจที่พร้อม เพราะมันอาจเกิดอันตรายใหญ่หลวงได้ มนุษย์พันธุ์พิเศษกลุ่มนี้จะเริ่มหายตัวได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และยิ่งมีการฝึกฝนบ่อยขึ้น การโดดก็จะทำได้คล่องแคล่วขึ้น อย่างไรก็ตามแม้แต่ผู้ที่มีทักษะดีที่สุดก็อาจก่อความเสียหายให้สภาพแวดล้อมรอบตัวได้ ถ้าตอนโดดอยู่ในภาวการณ์คับขัน มีความโกรธ หรือมีอารมณ์รุนแรง

เมื่อคนโดดล่องหนจากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง มันเป็นเหมือนการเจาะช่องของมิติเวลา สิ่งที่เห็นได้จากการโดดล่องหนคือรอยเงา ซึ่งจะล่องลอยอยู่ในอากาศประมาณ 2-3 วินาที เหมือนควันบุหรี่

รอยเงานี้จะเป็นอันตรายต่ออะไรก็ตามที่พยายามจะสัมผัสมัน เช่นลูกปืนที่ระเบิดใกล้ๆ รอยเงาก็จะส่งผลร้ายแรงชนิดที่คาดไม่ถึง นั่นคือเหตุผลที่พวกพาลาดินส์ [นักล่า] ไม่กล้าใช้อาวุธทั่วๆ ไปใกล้ตัวพวกโดดล่องหน

แต่รอยเงานี้ก็เป็นประโยชน์สำหรับพวกโดดล่องหนในการตามตัวคนอื่นๆ ที่โดดหายไป เพราะเขาจะหายตัวไปที่ไหนในโลกก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ

กฎของการโดดล่องหน

1) ผู้โดดล่องหนจะหายตัวไปได้เฉพาะในที่ที่เคยไปมาก่อนหรือที่ที่มองเห็นเท่านั้น
2) ผู้โดดล่องหนสามารถนำสิ่งของติดตัวไปได้ แต่ต้องเป็นของที่ไม่ได้ยึดติดอยู่กับพื้น
3) ผู้โดดล่องหนจะไม่สามารถหายตัวไปได้ถ้าตัวถูกยึดติดกับพื้นหรือถูกมัดอยู่กับสิ่งของที่ติดกับพื้น
4) ปัจจัยสำคัญ 4 ประการที่มีผลต่อการโดดล่องหน
ตอบกลับโพส