+ ขอเตือนสำหรับคนที่จะไปดู the Mist นะครับ ไม่ปลื้มเลย [Spoil] +
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
หนังเรื่องนี้ใช้การดำเนินเรื่องอย่างที่เห็นจากโฆษนามาบังหน้า แต่การดำเนินเรื่องที่แท้จริงแล้วกลับสื่อถึงความงมงายไร้สาระของคนที่นับถือศาสนาคริสต์ และสื่อถึงว่าพระเจ้านั้นโหดร้ายบ้าเลือด
หนังเรื่องนี้เริ่มมาจากการทดลองผิดพลาดของรัฐบาลที่สร้างทางเชื่มต่อกับอีกมิตินึงของจักรวาลได้ ทำให้มีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดหลุดออกมาไล่ฆ่ามนุษย์ ทุกคนในหมู่บ้านก็เลยมาหลบภัยอยู่ในร้านค้าสะดวกซื้อที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ปัญหาอยู่ที่ว่าคนนึงในร้านนั้นเป็นคนคริสต์(ไม่ทราบนิกาย)ก็ป่าวประกาศบอกทุกคนว่านี่คือวันพิพากษา พระเจ้าจะทรงลงโทษมนุษย์ และมนุษย์ทุกคนจะต้องยอมรับชะตากรรมในสิ่งที่ตนทำลงไป ว่าแล้วเธอก็ตั้งตัวเป็นหัวหน้า และเที่ยวตัดสินคนอื่นไปทั่ว.. ตรงนี้บทพูดของเธอนานมากๆ ยาวนานเกินการดำเนินเรื่องตามปกติซึ่งดูเหมือนจะจงใจทำให้คนมองว่าคนที่นับถือคริสต์นั้นงมงายบ้าบอและไร้สาระ (ซึ่งตัวละครผู้หญิงที่เป็นคริสต์ในเรื่องก็บ้าบอมีความเชื่อผิดๆด้วยแหละ) ซึ่งผลที่ได้ก็คือคนทั้งโรงหัวเราะกันลั่นเลย ทุกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้มีบทพูดถึงพระเจ้าคนทั้งโรงก็จะหัวเราะกันราวกับคิดว่า "อีผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว พูดเรื่องพระเจ้าอะไรไร้สาระงมงายมาก" แล้วการดำเนินเรื่องก็ราวกับทำให้ดูว่าพระเจ้านั้นโหดร้ายไม่มีตัวตนจริง หรือถ้ามีตัวตนจริงก็คงเกลียดมนุษย์มาก ตอนจบพระเอกโวยวายทิ้งท้ายว่า "God hate us!!" ซ้ำไปซ้ำมา
ไม่คิดว่าจะกลายเป็นหนังแบบนี้ได้เวรกรรม
หนังเรื่องนี้เริ่มมาจากการทดลองผิดพลาดของรัฐบาลที่สร้างทางเชื่มต่อกับอีกมิตินึงของจักรวาลได้ ทำให้มีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดหลุดออกมาไล่ฆ่ามนุษย์ ทุกคนในหมู่บ้านก็เลยมาหลบภัยอยู่ในร้านค้าสะดวกซื้อที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ปัญหาอยู่ที่ว่าคนนึงในร้านนั้นเป็นคนคริสต์(ไม่ทราบนิกาย)ก็ป่าวประกาศบอกทุกคนว่านี่คือวันพิพากษา พระเจ้าจะทรงลงโทษมนุษย์ และมนุษย์ทุกคนจะต้องยอมรับชะตากรรมในสิ่งที่ตนทำลงไป ว่าแล้วเธอก็ตั้งตัวเป็นหัวหน้า และเที่ยวตัดสินคนอื่นไปทั่ว.. ตรงนี้บทพูดของเธอนานมากๆ ยาวนานเกินการดำเนินเรื่องตามปกติซึ่งดูเหมือนจะจงใจทำให้คนมองว่าคนที่นับถือคริสต์นั้นงมงายบ้าบอและไร้สาระ (ซึ่งตัวละครผู้หญิงที่เป็นคริสต์ในเรื่องก็บ้าบอมีความเชื่อผิดๆด้วยแหละ) ซึ่งผลที่ได้ก็คือคนทั้งโรงหัวเราะกันลั่นเลย ทุกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้มีบทพูดถึงพระเจ้าคนทั้งโรงก็จะหัวเราะกันราวกับคิดว่า "อีผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว พูดเรื่องพระเจ้าอะไรไร้สาระงมงายมาก" แล้วการดำเนินเรื่องก็ราวกับทำให้ดูว่าพระเจ้านั้นโหดร้ายไม่มีตัวตนจริง หรือถ้ามีตัวตนจริงก็คงเกลียดมนุษย์มาก ตอนจบพระเอกโวยวายทิ้งท้ายว่า "God hate us!!" ซ้ำไปซ้ำมา
ไม่คิดว่าจะกลายเป็นหนังแบบนี้ได้เวรกรรม
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มี.ค. 01, 2008 3:42 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
หนังเรื่องนี้ใช้การดำเนินเรื่องอย่างที่เห็นจากโฆษนามาบังหน้า แต่การดำเนินเรื่องที่แท้จริงแล้วกลับสื่อถึงความงมงายไร้สาระของคนที่นับถือศาสนาคริสต์ และสื่อถึงว่าพระเจ้านั้นโหดร้ายบ้าเลือด
สำหรับใครที่อยากดูเพื่อความสนุกก็โอเคครับ แต่จะเสียอารมณ์นิดนึง เพราะผมเองก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นหนังแบบนี้ได้เวรกรรม
ส่วน link นี้สำหรับ เวอร์ชั่น spoil
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=7852.0
สำหรับใครที่อยากดูเพื่อความสนุกก็โอเคครับ แต่จะเสียอารมณ์นิดนึง เพราะผมเองก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นหนังแบบนี้ได้เวรกรรม
ส่วน link นี้สำหรับ เวอร์ชั่น spoil
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=7852.0
หากข้าพเจ้าได้มีอโอกาสไป ทัศนา จะนำมาวิจารณ์ เพิ่มเติ่ม หนังแต่ละเรื่องสมารถมองได้หลายแง่ เหมือน เช่นดังที่คนชอบหนัง รักแห่งสยาม มีมากพอๆกับคนที่ตะโกนคำว่าเกลียดออกมา ข้าพเจ้าว่าใจร่มๆก่อน ค่อยพี่น้องๆมา แชร์ความคิดกันดีกว่า
ปล. หนังทุกเรื่องมีข้อดีข้องมันและมีข้อเสียพอๆกันหากเราพยามจะมองแต่ด้านนั้น
ปล. หนังทุกเรื่องมีข้อดีข้องมันและมีข้อเสียพอๆกันหากเราพยามจะมองแต่ด้านนั้น
-
- โพสต์: 626
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
- ที่อยู่: bkk
Oh !! ไร้สาระยิ่งกว่า เดทโน้ต ซะอีกนะเนี่ย
- ดานุ้งพุงระเบิด
- โพสต์: 518
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
- ที่อยู่: อุบลราชธานี
เท่าที่รู้มา Stephen king จะมีทัศนะที่ไม่ดีต่อพระเจ้าครับ (ไม่อยากเอามาโพสเดี๋ยวจะทำให้คนในบอร์ดอารมณ์เสีย ผมอ่านผมยังอารมณ์เสียเลย)
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในเว็บ Christianitytoday มีบทความ ที่ชื่อ Stephen king's redemtion กับ Gospel accroding to stephen king ด้วยเนื้อหาประมาณว่าความเป็นคริสต์ในหนังสือของ Stephen king
( http://www.christianitytoday.com/movies ... ption.html อันนี้พูดถึงในหนังสือ Shawshank's redemtion http://www.christianitytoday.com/ct/200 ... 31.82.html อันนี้ภาพรวม)
ไม่รู้ว่า King จะกลับใจเหมือน Ann rice ที่เคยเขียนแต่นิยายแวมไพร์สยองขวัญแล้วมาทำนิยายเกี่ยวกับพระเยซูรึเปล่า แล้ว The Mist นี่ก็ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1980 (แต่หนังสือเรื่อง Cell ที่พิมพ์ใน 2006 ก็มีตัวละครแบบนี้เหมือนกันครับ เป็นหญิงแก่ ถือไบเบิล ไล่ด่าชาวบ้าน แต่เธอก็มีความเชื่อผิดๆ เหมือนกัน) หนังผมก็ยังไม่ได้ดู แต่แฟรงค์ ดาราบองต์ ผู้กำกับก็ได้ชื่อว่าซื่อตรงกับนิยายของคิงมากคนหนึ่ง เขาอาจจะพยายามตีความธีมด้านมืดในจิตใจมนุษย์ตามนิยายต้นฉบับ แต่ก็ไม่แน่นอนครับเรื่องแบบนี้ เราไม่รู้ใจเขา แล้วผมมาโพสไม่ได้กะแก้ต่างให้คิงด้วยนะครับ แล้วแต่ว่าท่านจะพิจารณายังไงครับ
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในเว็บ Christianitytoday มีบทความ ที่ชื่อ Stephen king's redemtion กับ Gospel accroding to stephen king ด้วยเนื้อหาประมาณว่าความเป็นคริสต์ในหนังสือของ Stephen king
( http://www.christianitytoday.com/movies ... ption.html อันนี้พูดถึงในหนังสือ Shawshank's redemtion http://www.christianitytoday.com/ct/200 ... 31.82.html อันนี้ภาพรวม)
ไม่รู้ว่า King จะกลับใจเหมือน Ann rice ที่เคยเขียนแต่นิยายแวมไพร์สยองขวัญแล้วมาทำนิยายเกี่ยวกับพระเยซูรึเปล่า แล้ว The Mist นี่ก็ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1980 (แต่หนังสือเรื่อง Cell ที่พิมพ์ใน 2006 ก็มีตัวละครแบบนี้เหมือนกันครับ เป็นหญิงแก่ ถือไบเบิล ไล่ด่าชาวบ้าน แต่เธอก็มีความเชื่อผิดๆ เหมือนกัน) หนังผมก็ยังไม่ได้ดู แต่แฟรงค์ ดาราบองต์ ผู้กำกับก็ได้ชื่อว่าซื่อตรงกับนิยายของคิงมากคนหนึ่ง เขาอาจจะพยายามตีความธีมด้านมืดในจิตใจมนุษย์ตามนิยายต้นฉบับ แต่ก็ไม่แน่นอนครับเรื่องแบบนี้ เราไม่รู้ใจเขา แล้วผมมาโพสไม่ได้กะแก้ต่างให้คิงด้วยนะครับ แล้วแต่ว่าท่านจะพิจารณายังไงครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มี.ค. 01, 2008 5:42 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอค้าน...Death Note ทั้งสามตอนที่ออกมาดีมาก ๆ ๆ ๆMarie Antoinette เขียน: Oh !! ไร้สาระยิ่งกว่า เดทโน้ต ซะอีกนะเนี่ย
ไม่รู้ว่าป้าเคยดูหรือเปล่า แต่ถ้าเคยดู น่าจะได้อะไรจากมันบ้างนะ
มันเป็นหนังสือสอดแทรกปรัชญา และจิตวิทยา ฯลฯ เอาไว้เยอะนะ...
แต่ต้องเครียดกับการดูนิดหน่อย ภาค L ที่ผ่านมาเดินออกจากโรงหนังแล้วมึนๆ เลยเหอะ
ส่วน MIST ไม่ไปดูแน่ๆ ข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบหนังแนวสยองขวัญ (หรือใกล้เคียง)
กลัวไป "อ๊ากกกกกกส์" ในโรงหนังแล้วอายคนข้างๆ ฮ่าๆๆๆ
ไม่มีตังดูรอเช่าเสมอ
ป.ล.ผมชอบคิระ
ป.ล.ผมชอบคิระ
- ~*Little`Child*~
- ~@
- โพสต์: 202
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2007 11:52 pm
ดูมาแล้วคะ รู้สึกแย่ไปเลย....
ออกมากจากโรงหนังอย่างอัดอั้นที่สุด
จริงๆแล้วก็พยายามดูต่อไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่า แล้วแต่ทรรศนะคนดู
แต่ว่าหากได้ดูจริงๆ จะเห็นได้ชัดมากๆเพราะทั้งเรื่องพูดถึงแต่การพิพากษาของพระเจ้า
ว่าวันนั้นคือ วันพิพากษา เราต้องสังเวยด้วยเลือด เพื่อชดใช้บาปของเรา...
ซึ่งตัวละครคนนี้พูดแต่ถึงเรื่องของพระ แล้วก็พูดถึงการต้องยอมรับความผิดของมนุษย์
ที่พระเจ้าต้องลงโทษ...ทำให้คนในเหตุการณ์ฆ่ากันเอง
ทำให้คนดูหนังที่นั่งข้างๆไซน์ หัวเราะดังออกมาบ่อยมาก
เมื่อผู้หญิงคนนั้นในหนังพูดเรื่องของพระ
แล้วเค้าก็เอ่ยว่า คริสต์มันบ้า....
ถ้าได้ดูจะเข้าใจเองคะ ไซน์ไม่ได้ลุกออกมาโวยวายให้เป็นเรื่องเป็นราว
แต่หนังเรื่องนี้ทำให้คนคริสต์ ดูเพ้อเจ้อ มาก มาก มากกกกกกกกกกกกกกก ในสายตาคนอื่นๆ คนต่างศาสนา
อยากให้ลองได้ดูกันนะคะ จะเข้าใจเองว่า
หนังเรื่องนี้มันชัดเจนเกินไป เกินกว่าที่เราจะบอกว่าแล้วแต่ทรรศนะของคน เหมือนการ"จงใจมากกว่า..."
แล้วสุดท้ายก่อนที่หนังจะจบ พระเอกยังออกมาตะโกนอีกว่า "God He hate us!!!"
เหมือนว่า พระองค์ไม่เคยเคียงข้างมนุษย์หรอก พระองค์ไม่ช่วยใคร
ราวกับว่าหนังจะบอกว่า...คนที่เชื่อในพระเจ้า งมงาย
แต่นี่อาจจะมาจากความคิดของไซน์ ไซน์อาจจะมองร้ายมากเกินไป...คนอื่นอาจจะไม่คิดขนาดนั้น
ถ้าไซน์คิดมากไปก็ขอโทษนะคะ.... แต่ไม่อยากให้ใครมอง พระเจ้า ของมนุษย์ทุกคนเลวร้ายแบบนั้น
เหมือนการทิ้งระเบิดก่อนจะจบเรื่อง และค่อนข้างสั่นคลอนใจหลายคนนะคะ
เพราะไซน์ไปดูกับเพื่อนที่อยากจะเป็นคริสตชน เค้ายังบอกว่า รู้สึกแปลกๆ(แต่เค้าเชื่อในพระองค์คะ)
ไซน์จึงไม่อยากให้คนอื่นๆที่ได้ดูมีความวางใจในพระลดลง หากไปเจอคนที่กำลังท้อแท้ รู้สึกไม่ถึงพระในขณะนั้นจริงๆ
อาจจะเป็นการต่อยอดให้พวกเค้าไปเลย
ขอพระองค์โปรดทรงเมตตา...
สวดให้คนสร้าง คนทำ และคนดูทั่วโลก และคริสตชนของพระศาสนจักรชาวเรานะคะ
อย่าให้ความเชื่อในพระองค์สูญหายไป
พระเจ้าอวยพรคะ
ออกมากจากโรงหนังอย่างอัดอั้นที่สุด
จริงๆแล้วก็พยายามดูต่อไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่า แล้วแต่ทรรศนะคนดู
แต่ว่าหากได้ดูจริงๆ จะเห็นได้ชัดมากๆเพราะทั้งเรื่องพูดถึงแต่การพิพากษาของพระเจ้า
ว่าวันนั้นคือ วันพิพากษา เราต้องสังเวยด้วยเลือด เพื่อชดใช้บาปของเรา...
ซึ่งตัวละครคนนี้พูดแต่ถึงเรื่องของพระ แล้วก็พูดถึงการต้องยอมรับความผิดของมนุษย์
ที่พระเจ้าต้องลงโทษ...ทำให้คนในเหตุการณ์ฆ่ากันเอง
ทำให้คนดูหนังที่นั่งข้างๆไซน์ หัวเราะดังออกมาบ่อยมาก
เมื่อผู้หญิงคนนั้นในหนังพูดเรื่องของพระ
แล้วเค้าก็เอ่ยว่า คริสต์มันบ้า....
ถ้าได้ดูจะเข้าใจเองคะ ไซน์ไม่ได้ลุกออกมาโวยวายให้เป็นเรื่องเป็นราว
แต่หนังเรื่องนี้ทำให้คนคริสต์ ดูเพ้อเจ้อ มาก มาก มากกกกกกกกกกกกกกก ในสายตาคนอื่นๆ คนต่างศาสนา
อยากให้ลองได้ดูกันนะคะ จะเข้าใจเองว่า
หนังเรื่องนี้มันชัดเจนเกินไป เกินกว่าที่เราจะบอกว่าแล้วแต่ทรรศนะของคน เหมือนการ"จงใจมากกว่า..."
แล้วสุดท้ายก่อนที่หนังจะจบ พระเอกยังออกมาตะโกนอีกว่า "God He hate us!!!"
เหมือนว่า พระองค์ไม่เคยเคียงข้างมนุษย์หรอก พระองค์ไม่ช่วยใคร
ราวกับว่าหนังจะบอกว่า...คนที่เชื่อในพระเจ้า งมงาย
แต่นี่อาจจะมาจากความคิดของไซน์ ไซน์อาจจะมองร้ายมากเกินไป...คนอื่นอาจจะไม่คิดขนาดนั้น
ถ้าไซน์คิดมากไปก็ขอโทษนะคะ.... แต่ไม่อยากให้ใครมอง พระเจ้า ของมนุษย์ทุกคนเลวร้ายแบบนั้น
เหมือนการทิ้งระเบิดก่อนจะจบเรื่อง และค่อนข้างสั่นคลอนใจหลายคนนะคะ
เพราะไซน์ไปดูกับเพื่อนที่อยากจะเป็นคริสตชน เค้ายังบอกว่า รู้สึกแปลกๆ(แต่เค้าเชื่อในพระองค์คะ)
ไซน์จึงไม่อยากให้คนอื่นๆที่ได้ดูมีความวางใจในพระลดลง หากไปเจอคนที่กำลังท้อแท้ รู้สึกไม่ถึงพระในขณะนั้นจริงๆ
อาจจะเป็นการต่อยอดให้พวกเค้าไปเลย
ขอพระองค์โปรดทรงเมตตา...
สวดให้คนสร้าง คนทำ และคนดูทั่วโลก และคริสตชนของพระศาสนจักรชาวเรานะคะ
อย่าให้ความเชื่อในพระองค์สูญหายไป
พระเจ้าอวยพรคะ
-
- โพสต์: 363
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 12, 2008 10:21 pm
- ที่อยู่: World
อย่างนั้นก็ไม่น่าดูอย่างยิ่ง -*-
- A G N E A U
- โพสต์: 97
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 10:22 pm
แว้กกกก~*Little`Child*~ เขียน: ทำให้คนดูหนังที่นั่งข้างๆไซน์ หัวเราะดังออกมาบ่อยมาก
เมื่อผู้หญิงคนนั้นในหนังพูดเรื่องของพระ
แล้วเค้าก็เอ่ยว่า คริสต์มันบ้า....
- TheOffspring
- โพสต์: 102
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 26, 2006 6:54 pm
- ที่อยู่: Hope of Chiang Mai
- ติดต่อ:
แล้วอย่างเรื่อง จัมเปอร์ (Jumper) ล่ะครับ
ที่พาลาดินชอบพูดว่า "พลังวิเศษแบบนี้ พระเจ้าเท่านั้นที่สมควรมี"
แล้วก็ไล่ฆ่าพวกจัมเปอร์
...อันนี้คิดว่าไงอ่ะครับ :huh:
ที่พาลาดินชอบพูดว่า "พลังวิเศษแบบนี้ พระเจ้าเท่านั้นที่สมควรมี"
แล้วก็ไล่ฆ่าพวกจัมเปอร์
...อันนี้คิดว่าไงอ่ะครับ :huh:
-
- โพสต์: 626
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
- ที่อยู่: bkk
เรียกชั้นป้า เด๋วก้อมีเฮหรอกnecromancer เขียน:ขอค้าน...Death Note ทั้งสามตอนที่ออกมาดีมาก ๆ ๆ ๆMarie Antoinette เขียน: Oh !! ไร้สาระยิ่งกว่า เดทโน้ต ซะอีกนะเนี่ย
ไม่รู้ว่าป้าเคยดูหรือเปล่า แต่ถ้าเคยดู น่าจะได้อะไรจากมันบ้างนะ
มันเป็นหนังสือสอดแทรกปรัชญา และจิตวิทยา ฯลฯ เอาไว้เยอะนะ...
แต่ต้องเครียดกับการดูนิดหน่อย ภาค L ที่ผ่านมาเดินออกจากโรงหนังแล้วมึนๆ เลยเหอะ
ส่วน MIST ไม่ไปดูแน่ๆ ข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบหนังแนวสยองขวัญ (หรือใกล้เคียง)
กลัวไป "อ๊ากกกกกกส์" ในโรงหนังแล้วอายคนข้างๆ ฮ่าๆๆๆ
ครือออ ทั้งชีวิตนี้บอกกับตัวเองว่า จะไม่ดูหนังเกาหลี ญี่ปุ่นอีกแล้วววว
ดูทีไร ไม่เคยจับใจความได้ซะที
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มี.ค. 01, 2008 8:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ใจแคบครับ...TheOffspring เขียน: แล้วอย่างเรื่อง จัมเปอร์ (Jumper) ล่ะครับ
ที่พาลาดินชอบพูดว่า "พลังวิเศษแบบนี้ พระเจ้าเท่านั้นที่สมควรมี"
แล้วก็ไล่ฆ่าพวกจัมเปอร์
...อันนี้คิดว่าไงอ่ะครับ :huh:
ปล.ชอบเดทโน้ตนะ แต่ไม่ชอบ "L Change the world" เพราะมันหลุดคอนเซปไปหน่อย
- ดานุ้งพุงระเบิด
- โพสต์: 518
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
- ที่อยู่: อุบลราชธานี
ได้อ่านบทวิจารณ์หนังเรื่องนี้จากคนคนหนึ่ง ในเว็บข่าวหนัง ที่มีชื่อเหมือนกับอัศวินแห่งสงครามอวกาศแล้วแบบเซ็งมาก ไม่เข้าใจคำสอนแล้วอยากจะพูดต่อว่าพระเจ้า
เเบนมัน...
เเบน
บอยคอต
Anti
ควํ่าบาตร
....
มัน
อยู่เฉยๆไม่ชอบ
อยู่เฉยๆไม่ว่า
เอาความเชื่อของคนอื่นไปล้อเล่น
...เพื่อ???
ปีศาจหัวเราะงอหงาย
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า :evil:
เเบน
บอยคอต
Anti
ควํ่าบาตร
....
มัน
อยู่เฉยๆไม่ชอบ
อยู่เฉยๆไม่ว่า
เอาความเชื่อของคนอื่นไปล้อเล่น
...เพื่อ???
ปีศาจหัวเราะงอหงาย
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า :evil:
Marie Antoinette เขียน:เรียกชั้นป้า เด๋วก้อมีเฮหรอกnecromancer เขียน:ขอค้าน...Death Note ทั้งสามตอนที่ออกมาดีมาก ๆ ๆ ๆMarie Antoinette เขียน: Oh !! ไร้สาระยิ่งกว่า เดทโน้ต ซะอีกนะเนี่ย
ไม่รู้ว่าป้าเคยดูหรือเปล่า แต่ถ้าเคยดู น่าจะได้อะไรจากมันบ้างนะ
มันเป็นหนังสือสอดแทรกปรัชญา และจิตวิทยา ฯลฯ เอาไว้เยอะนะ...
แต่ต้องเครียดกับการดูนิดหน่อย ภาค L ที่ผ่านมาเดินออกจากโรงหนังแล้วมึนๆ เลยเหอะ
ส่วน MIST ไม่ไปดูแน่ๆ ข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบหนังแนวสยองขวัญ (หรือใกล้เคียง)
กลัวไป "อ๊ากกกกกกส์" ในโรงหนังแล้วอายคนข้างๆ ฮ่าๆๆๆ
ครือออ ทั้งชีวิตนี้บอกกับตัวเองว่า จะไม่ดูหนังเกาหลี ญี่ปุ่นอีกแล้วววว
ดูทีไร ไม่เคยจับใจความได้ซะที
คือก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่คิดๆ ไปน่ะหนังมันต้องการสื่อยังงั้นหรือเปล่า
แต่ส่วนตัวจะมีคติว่า ศิลปะทุกชิ้นทุกประเภทมีคุณค่าในตัวของมันเอง
ก็เลยพยายามหา ฮ่าๆๆๆ
เดตโน๊ตข้าพเจ้าว่าโอเคย์ (เเอบชอบ)
เเต่เรื่องนี้...อ่านะ
ถึงว่าทำไมคิงแกเขียนเเต่ละเรื่องได้ น่ากลั๊วน่ากลัวจับจ๊ายจับใจ ก็เเต่ละอย่างที่แกคิด ก็น่ากลั๊วน่ากลัวเหมือนกัน
เเต่เรื่องนี้...อ่านะ
ถึงว่าทำไมคิงแกเขียนเเต่ละเรื่องได้ น่ากลั๊วน่ากลัวจับจ๊ายจับใจ ก็เเต่ละอย่างที่แกคิด ก็น่ากลั๊วน่ากลัวเหมือนกัน
เหมือนคนคนหนึ่ง เห็นเพื่อนบ้านหัดเล่นกีต้าร์แล้วดันเพราะTheOffspring เขียน: แล้วอย่างเรื่อง จัมเปอร์ (Jumper) ล่ะครับ
ที่พาลาดินชอบพูดว่า "พลังวิเศษแบบนี้ พระเจ้าเท่านั้นที่สมควรมี"
แล้วก็ไล่ฆ่าพวกจัมเปอร์
...อันนี้คิดว่าไงอ่ะครับ :huh:
ก็เลยไล่ฆ่าเพื่อนบ้าน
แล้วบอกว่า "ความสามารถแบบนี้ นักดนตรีอาชีพจริง ๆ เท่านั้นที่สมควรมี"
- ~KaThaRoS~
- โพสต์: 792
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
- ที่อยู่: Bkk
- ติดต่อ:
หนังดีๆสร้างสรรค์ๆมันขายไม่ออก
หนังแย่ๆ มันสร้างเงินมหาศาล
หนังแย่ๆ มันสร้างเงินมหาศาล
- ^_^GOD Is LoVe^_^
- โพสต์: 16
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ย. 14, 2007 9:49 pm
- ที่อยู่: bangkok
โอเค จาไม่ดูเลย....
ชอบอ่ะTheOffspring เขียน: แล้วอย่างเรื่อง จัมเปอร์ (Jumper) ล่ะครับ
ที่พาลาดินชอบพูดว่า "พลังวิเศษแบบนี้ พระเจ้าเท่านั้นที่สมควรมี"
แล้วก็ไล่ฆ่าพวกจัมเปอร์
...อันนี้คิดว่าไงอ่ะครับ :huh:
ชอบ Jumper
แต่รู้สึกเสียเซลฟ์ตรง
อยู่ดีๆ มันก็ Pause ไปเฉยๆ
แบบ...ไม่ใช่จบภาคนะ ....หยุดไว้เฉยๆ เลยอ่ะแบบ...
"แกล้งกันชัดๆ"
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณที่เตือนครับ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ร่วมกันบอกเพื่อนๆ พี่น้องอย่าไปดู แต่อย่าไปบอกว่ามันดูถูกศาสนาบอกไปว่าไม่สนุกไม่รู้เรื่อง จบ
ความจริงแล้ว... ผมชอบ The Mist นะครับ
เพราะโดยตัวหนังเอง ก็สื่อให้เห็น ถึงสังคมจริงๆของมนุษย์
สตีเฟ่นคิงเอง ก็เขียนหนังสือออกมา แสดงถึงธรรมชาติของเราได้ดี
แน่นอนว่า ในสังคม ย่อมมีคนอยากเป็นฮีโร่ มีคนเคร่งศาสนา มีคนมีประสบการ์ณ มีผู้ที่มีความสามารถแต่ไม่กล้าแสดงออก
และแน่นอนว่า บางครั้ง สิ่งที่เราทำ ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป
อย่างถ้าเกิดใครได้ดูมาแล้วเนี่ย จะเห็นว่า ตัวละครหญิงคนหนึ่งนั้น
มีฉากหนึ่งภาวนาถึงพระเจ้า อ้อนวอนขอให้ตััวเธอนั้น ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
ในขณะที่ การกระทำของเธอต่อคนอื่นๆนั้น ไม่ใช่เลย
ก็เป็นแค่สังคมของมนุษย์นั่นแหละครับ เมื่อคนเรามีอำนาจ ย่อมหลงลืมตัวตนของตนเองไป
และเมื่อคนเราสับสน ก็ต้องการที่พึ่งทางใจ
The Mist นั้น ตั้งคำถาม ว่าถ้าคนเราตีความพระคำภีร์ไปตามใจตนเองอย่างนั้น แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
และยังตั้งคำถาม ในทุกๆสิ่งที่ตัวละครทำ ว่ามันถูกต้องแล้วหรือ
ผมดู ผมเองก็อึดอัดเล็กน้อย ที่มีการพูดถึงพระคำภีร์ แต่ออกแนวตลกเสียมากกว่า ที่ตัวละครเคร่งศาสนานั้น เอาแต่พูดถึงพระคำภีร์ แต่ไม่ได้ทำตัวอย่างที่คริสชนควรเป็น
แต่ก็ทำให้เรามีโอกาสที่พระเจ้าประทานมาให้เราได้พิสูจน์ว่า คริสชนนั้นควรปฏิบัติตนอย่างไร
The Mist เอง ก็ไม่ได้ใจร้าย ถังขนาดนั้น
ถ้าลองโยนทุกอย่างที่เป็นอคติทิ้งไป จะเห็นว่าไม่มีเรื่องใดที่เป็นกังวลเลย
ผมคิดว่า Golden Compass ยังน่ากลัวเสียกว่าอีก เพราะเราเห็นความรุนแรงแก้ปัญหาทุกอย่างได้ และจิตวิญญาณเราไม่ได้อยู่ในร่างกาย แถมทุกอย่างยังสร้างมาจากผงคลีดิน และมีโลกใหม่ที่เราไม่ต้องทนอยู่ใต้อำนาจของผงคลีดินอีกนะครับ
เพราะโดยตัวหนังเอง ก็สื่อให้เห็น ถึงสังคมจริงๆของมนุษย์
สตีเฟ่นคิงเอง ก็เขียนหนังสือออกมา แสดงถึงธรรมชาติของเราได้ดี
แน่นอนว่า ในสังคม ย่อมมีคนอยากเป็นฮีโร่ มีคนเคร่งศาสนา มีคนมีประสบการ์ณ มีผู้ที่มีความสามารถแต่ไม่กล้าแสดงออก
และแน่นอนว่า บางครั้ง สิ่งที่เราทำ ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป
อย่างถ้าเกิดใครได้ดูมาแล้วเนี่ย จะเห็นว่า ตัวละครหญิงคนหนึ่งนั้น
มีฉากหนึ่งภาวนาถึงพระเจ้า อ้อนวอนขอให้ตััวเธอนั้น ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
ในขณะที่ การกระทำของเธอต่อคนอื่นๆนั้น ไม่ใช่เลย
ก็เป็นแค่สังคมของมนุษย์นั่นแหละครับ เมื่อคนเรามีอำนาจ ย่อมหลงลืมตัวตนของตนเองไป
และเมื่อคนเราสับสน ก็ต้องการที่พึ่งทางใจ
The Mist นั้น ตั้งคำถาม ว่าถ้าคนเราตีความพระคำภีร์ไปตามใจตนเองอย่างนั้น แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
และยังตั้งคำถาม ในทุกๆสิ่งที่ตัวละครทำ ว่ามันถูกต้องแล้วหรือ
ผมดู ผมเองก็อึดอัดเล็กน้อย ที่มีการพูดถึงพระคำภีร์ แต่ออกแนวตลกเสียมากกว่า ที่ตัวละครเคร่งศาสนานั้น เอาแต่พูดถึงพระคำภีร์ แต่ไม่ได้ทำตัวอย่างที่คริสชนควรเป็น
แต่ก็ทำให้เรามีโอกาสที่พระเจ้าประทานมาให้เราได้พิสูจน์ว่า คริสชนนั้นควรปฏิบัติตนอย่างไร
The Mist เอง ก็ไม่ได้ใจร้าย ถังขนาดนั้น
ถ้าลองโยนทุกอย่างที่เป็นอคติทิ้งไป จะเห็นว่าไม่มีเรื่องใดที่เป็นกังวลเลย
ผมคิดว่า Golden Compass ยังน่ากลัวเสียกว่าอีก เพราะเราเห็นความรุนแรงแก้ปัญหาทุกอย่างได้ และจิตวิญญาณเราไม่ได้อยู่ในร่างกาย แถมทุกอย่างยังสร้างมาจากผงคลีดิน และมีโลกใหม่ที่เราไม่ต้องทนอยู่ใต้อำนาจของผงคลีดินอีกนะครับ
เห็นชอบครับMa-Se เขียน: มีฉากหนึ่งภาวนาถึงพระเจ้า อ้อนวอนขอให้ตััวเธอนั้น ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
ในขณะที่ การกระทำของเธอต่อคนอื่นๆนั้น ไม่ใช่เลย
ก็เป็นแค่สังคมของมนุษย์นั่นแหละครับ เมื่อคนเรามีอำนาจ ย่อมหลงลืมตัวตนของตนเองไป
และเมื่อคนเราสับสน ก็ต้องการที่พึ่งทางใจ
The Mist นั้น ตั้งคำถาม ว่าถ้าคนเราตีความพระคำภีร์ไปตามใจตนเองอย่างนั้น แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
และยังตั้งคำถาม ในทุกๆสิ่งที่ตัวละครทำ ว่ามันถูกต้องแล้วหรือ
ผมดู ผมเองก็อึดอัดเล็กน้อย ที่มีการพูดถึงพระคำภีร์ แต่ออกแนวตลกเสียมากกว่า ที่ตัวละครเคร่งศาสนานั้น เอาแต่พูดถึงพระคำภีร์ แต่ไม่ได้ทำตัวอย่างที่คริสชนควรเป็น
แต่ก็ทำให้เรามีโอกาสที่พระเจ้าประทานมาให้เราได้พิสูจน์ว่า คริสชนนั้นควรปฏิบัติตนอย่างไร
The Mist เอง ก็ไม่ได้ใจร้าย ถังขนาดนั้น
ถ้าลองโยนทุกอย่างที่เป็นอคติทิ้งไป จะเห็นว่าไม่มีเรื่องใดที่เป็นกังวลเลย
ขอบพระคุณที่พูดในสิ่งที่ข้าพเจ้าอยากสื่อออกมา แต่ไม่กล้า
ด้วยจิตคารวะ
ข้าพเจ้ายังยืนยันจุดยืนเดิมคือ
ศิลปะทุกชนิดมีความงามและคุณค่าในตัวของมันเอง
เพียงแต่เราต้องหาให้เจอ...ว่ามันอยู่ตรงไหน
และแน่นอนว่าความงามและคุณค่านั้นย่อมเป็น positive
แม้แต่ รหัสลับดาวินซี่ ข้าพเจ้าก็คิดว่าเป็นหนังที่มีความงามและศิลปะซ่อนอยู่
ข้าพเจ้าชอบด้วยซ้ำ...
จงเปิดใจพิจารณาศิลปะเหล่านั้นด้วยใจที่ปราศจากอคติ
แล้วบางทีแทนที่เราจะโกรธ เรากลับจะหัวเราะไปเลยด้วยซ้ำ