@@ นักบุญหญิงทั้งหลาย @@

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 25, 2005 10:19 pm

วันนี้คุณJoke หรือ kitim ในบอร์ดอิสระ
มาปรึกษาว่ากำลังจะรับศีลล้างบาป
ขอให้LL เป็นแม่ทูนหัว

แต่...จิๆๆๆ คุณพ่อดันบอกว่าอายุเท่ากันเลย แค่แก่เดือน
ไม่อยากให้เป็น (อารายฟ่ะ!!! เสียใจอ่ะ)

เอ๊า....แต่ก็นะ เอามาม๊าเราแทน
แต่Joke ยังไม่รู้ว่าจะเอา นักบุญอะไรดี
เลยขอเอาประวัตินักบุญที่น่าสนใจแบบคราวๆ มาลงนะคะ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ม.ค. 25, 2005 10:22 pm

ไม่ลองบอกนิสัยใจคอ และขอให้ คุณแม่อมราตั้งให้ล่ะ ???
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ อังคาร ม.ค. 25, 2005 10:22 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 25, 2005 10:26 pm

นักบุญ โรซา ชาวลีมา ( 1586 - 1617 )
พรหมจารี


รูปภาพ

อีซาแบลลา ฟลอเรส อี เด โอลีวา เป็นบุตรสาวของครอบครัวสเปนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งในประเทศเปรู และการที่เธอได้รับนามว่า "โรซา" ก็เพราะเธอมีใบหน้าที่อิ่มเอิบอยู่เสมอ ตั้งแต่เยาว์วัยเธอได้ลงชื่อสมัครเข้าเป็นนักบวชคณะโดมินีกันชั้นที่สาม เธอได้อุทิศชีวิตของเธอในการดูแลเอาใจใส่คนจนและคนงาน

แต่ในเวลาเดียวกันเธอก็ได้ใช้ชีวิตในการทำการใช้โทษบาปอย่างพิเศษเลยทีเดียว เธอมักจะชอบเรียกตัวเองว่า "ดอกกุหลาบแห่งพระนางมารีย์" เพราะมีความรักความศรัทธาร้อนรนเป็นพิเศษต่อศีลมหาสนิทและต่อพระนางมารีย์ เธอได้รับพระคุณพิเศษทางด้านเพ่งฌาน เป็นต้นในปีท้ายๆ แห่งชีวิตของเธอ

นักบุญ โรซา ได้สิ้นใจที่กรุงลีมา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 1617 อายุได้ 32 ปี หลังจากที่ต้องทนทุกข์ลำบากมากซึ่งทำให้คู่สามีภรรยาที่เธออาศัยอยู่ด้วยนั้นรู้สึกทึ่งมากถึงความอดทนของเธอ นักบุญ โรซา ชาวลีมา ได้เป็นนักบุญองค์แรกของทวีปอเมริกา

การจำลองแบบพระคริสตเจ้า ซึ่งได้เป็นต้นแบบและดลใจให้นักบุญ โรซา ได้เจริญชีวิตเอาแบบอย่างนั้น ได้ทำให้เธอก้าวหน้าในหนทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก จนถึงกับเธอได้ยอมอุทิศชีวิตทั้งครบของเธอแด่พระองค์ ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ตัวอย่างของเธอนี้ได้ส่งกลิ่นหอมฟุ้งขจรขจายไปทั่วโลก

คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ

1. ขอให้การใช้โทษบาปได้ช่วยรักษาความรัก ความเมตตาให้สมบูรณ์แบบ เหมือนหนามที่ได้ ช่วยรักษาดอกกุหลาบ
2. ขอให้เหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านและในชีวิตประจำวันของเราเป็นหนทางที่จะนำเราไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์
3. ขอให้การเป็นพยานของเราเป็นดังเครื่องหอมของพระคริสตเจ้าที่กระจายไปทั่ว
4. ข้าแต่พระสวามีเจ้า โปรดนำทวีปลาตินอเมริกาไปสู่เสรีภาพที่แท้จริงตามจิตตารมณ์คริสตชน
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 25, 2005 10:31 pm

นักบุญ เทเรซา แห่ง พระกุมารเยซู
( 1873 - 1897 ) พรหมจารี


รูปภาพ รูปภาพ



เธอเป็นซิสเตอร์ที่อยู่แต่ในอาราม หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า ชีมืดนั่นเอง เรารู้จักเธอในนามดอกไม้น้อยๆ ของพระเยซูเจ้า เธอเกิดวันที่ 2 มกราคม 1873

เธอเป็นลูกคนที่เก้าของนายหลุยส์มาร์ตินและนางเซลลี่มาร์ติน พ่อแม่ที่มีความศรัทธาและความรักต่อพระเป็นเจ้า ทั้งสองคนอยากถวายตัวแด่พระเป็นเจ้าเป็นนักบวชในอาราม พระองค์ไม่ได้เรียกเขาสองคนเป็นนักบวช แต่ทรงประทานพระกระแสเรียกแก่ลูกๆ แทน ลูกสาวห้าคนเป็นนักบวช คนหนึ่งเป็นชีคณะแม่พระเสด็จเยี่ยมและอีกสี่คนเป็นชีมืดที่คอนแวนต์ลิซิเออร์ เทเรซาได้รับการเลี้ยงดูและการอบรมอย่างดีในครอบครัวที่มีบรรยากาศแห่งความเชื่อ บุญกุศลทุกชนิด และแบบอย่างที่ดีงาม เธอได้รับพระกระแสเรียกตั้งแต่ยังเป็นเด็กวัยรุ่น เธอได้รับการศึกษาอบรมจากนักบวชคณะเบเนดิกติน เมื่อเธออายุเกือบสิบห้าปีเธอได้สมัครเป็นชีมืด แม่อธิการได้ปฏิเสธ เทเรซาได้เดินทางไปกรุงโรมกับพ่อของเธอ ผู้ซึ่งมีความเร่าร้อนอยากถวายลูกสาวแด่พระเป็นเจ้าเหมือนลูกสาวอยากเป็นนักบวช เธอได้ไปขออนุมัติจากพระสันตะปาปาเลโอที่สิบสาม ขณะนั้นพระองค์กำลังฉลองบวชเป็นสงฆ์ครบห้าสิบปี พระองค์ประทับใจในความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของเธอแต่ปล่อยให้เป็นไปตามการตัดสินใจของแม่อธิการ ในที่สุดเธอได้รับอนุมัติเป็นนักบวชเมื่อวันที่ 9 เมษายน 1888 ตอนนั้นเธออายุเพียงสิบห้าปี เธอเข้าอารามลิซิเออร์ ที่ซึ่งพี่สาวเธอสองคนได้เป็นชีมืดก่อนเธอ

เธอรู้ในการเป็นชีมืดเธอไม่อาจประกอบกิจการใหญ่โต "ความรักพิสูจน์ตัวด้วยการกระทำ แล้วฉันจะแสดงความรักอย่างไร? ฉันถูกห้ามทำกิจการใหญ่โต วิธีเดียวที่ฉันสามารถพิสูจน์ความรักของฉันคือ การโปยดอกไม้และดอกไม้เหล่านี้คือการพลีกรรมเล็กๆ น้อยๆ ทุกชนิด ไม่ว่าการมอง การพูดจา หรือการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่ฉันสามารถแสดงความรัก" เธอทำพลีกรรมทุกครั้งที่เธอมีโอกาส ไม่ว่าจะเล็กขนาดไหนก็ตาม เธอยิ้มให้กับเพื่อนนักบวชที่เธอไม่ชอบ เธอรับประทานอาหารตามที่คนตักให้โดยไม่บ่น ด้วยเหตุนี้ คนมักให้อาหารที่เหลือหรือที่ไม่มีใครอยากกินแก่เธอ ครั้งหนึ่งเธอถูกกล่าวหาว่าเธอได้ทำแจกันแตก เธอไม่ได้ทำและไม่มีความผิด แต่เธอคุกเข่าลงขออภัยโทษ การพลีกรรมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ทรมานเธอทางด้านจิตใจยิ่งกว่าการพลีกรรมใหญ่ๆ เพราะไม่มีใครมองเห็นหรือรับรู้กิจการดีของเธอนอกจากพระเป็นเจ้าเท่านั้น เธอกังวลว่าเธอจะบรรลุความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตได้อย่างไร เธอไม่ต้องการเป็นเพียงคนดีเท่านั้น เธอต้องการเป็นนักบุญ เธอคิดต้องมีวิธีสำหรับคนที่ดำรงชีวิตซ่อนเล้นอย่างเธอ "ฉันมีความปรารถนาอยากเป็นนักบุญ เมื่อฉันเปรียบเทียบตัวเองกับนักบุญหลายองค์ ฉันพบข้อแตกต่างระหว่างภูเขาที่มียอดสูงหายเข้าไปในกลีบเมฆ กับเมล็ดทรายที่อยู่บนพื้นดินถูกคนเหยียบย่ำ แทนที่จะท้อใจ ฉันบอกตัวเองว่า พระเป็นเจ้าคงไม่ปรารถนาให้ฉันทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และถึงแม้ฉันเป็นเพียงความเล็กน้อย ฉันก็ยังบรรลุเป้าหมายของการเป็นนักบุญได้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ฉันจะทำกิจการใหญ่โต ดังนั้นฉันยอมรับความเป็นตัวของฉันเอง ที่มีข้อบกพร่องนับไม่ถ้วน แต่ฉันจะต้องหาให้พบวิธีไปสวรรค์ซึ่งจะเป็นทางเล็กๆ สั้นๆ ตรงไปเมืองสวรรค์ และเป็นเส้นทางใหม่"

"เราอยู่ในยุคแห่งการประดิษฐ์ เราไม่ต้องก้าวขึ้นบันไดเป็นชั้นๆ ในบ้านของคนที่ร่ำรวยมีลิฟต์ และฉันตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวในกาหาลิฟต์ที่พาฉันไปหาพระเยซูเจ้า เพราะฉันตัวเล็กเกินไปที่จะปีนขึ้นบันไดชันๆ ไปสู่ความดีครบครัน ดังนั้นฉันได้ค้นหาในพระวารสารเกี่ยวกับชีวิตที่ฉันอยากเป็น และอ่านคำเหล่านี้: "ใครก็ตามที่ตัวเล็กๆ ให้มาหาเรา" แขนของพระเยซูเจ้าเองเป็นลิฟต์พาฉันเข้าสวรรค์ และดังนั้นไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องโตขึ้น ฉันต้องเป็นตัวเล็กๆ ต่อไปและต้องเล็กลงไปเรื่อยๆ "

เธอกังวลเกี่ยวกับพระกระแสเรียกของเธอ: "ฉันรู้สึกในตัวฉันมีพระกระแสเรียกของพระสงฆ์และของอัครสาวก การเป็นมรณะสักขีเป็นความฝันตอนฉันเป็นเด็ก และความฝันนี้เติบโตพร้อมกับตัวฉัน พิจารณาถึงพระกายศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ของพระศาสนจักร ฉันปรารถนาเห็นตัวเองอยู่ในอวัยวะทุกส่วนของพระกายศักดิ์สิทธิ์นั้น ความมีใจเมตตากรุณาเป็นกุญแจพาฉันไปพบพระกระแสเรียกของฉัน ฉันเข้าใจพระศาสนจักรมีดวงใจและดวงใจนี้ร้อนรนด้วยความรัก ฉันเข้าใจความรักบรรจุพระกระแสเรียกทุกชนิด ความรักเป็นทุกสิ่ง ความรักโอบอุ้มกาลเวลาและสถานที่ สรุป ความรักชั่วนิรันดร! ในความยินดีเหลือล้น ฉันร้องออกมา: โอ้ พระเยซูเจ้า พระองค์เป็นองค์ความรักและพระกระแสเรียกของข้าพเจ้า ในที่สุดข้าพเจ้าได้ค้นพบพระกระแสเรียกของข้าพเจ้าคือองค์ความรักนั่นเอง!"

ในปี 1896 เธอได้ไอออกมาเป็นเลือด โดยไม่ได้บอกใครเธอยังคงทำงานต่อไปจนกระทั่งเธอเจ็บหนัก หนึ่งปีหลังจากนั้นทุกคนรู้ว่าเธอไม่สบาย สุขภาพของเธอทรุดลง เธอไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน และรู้ว่าเธอจะต้องตายในวัยสาว พี่สาวปอลลีน ได้ขอร้องเธอเขียนเรื่องราวต่างๆ ที่เธอยังจำได้ในสมุดบันทึกประจำวันของอาราม

ความเจ็บปวดของเธอรุนแรงมากจนเธอพูดว่าถ้าไม่มีความเชื่อเธอคงจบชีวิตของเธอไปนานแล้ว แต่เธอพยายามยิ้มแย้มแจ่มใสและร่าเริงตลอดเวลาจนหลายคนคิดว่าเธอแกล้งไม่สบาย ความใฝ่ฝันอันเดียวของเธอคืองานของเธอหลังจากที่เธอจากโลกนี้ไปแล้ว ช่วยเหลือคนที่อยู่บนแผ่นดินนี้ เธอพูด: "ฉันจะกลับมาใช้โลกนี้เป็นสวรรค์ของฉัน" เธอสิ้นใจวันที่ 30 กันยายน 1897 อายุ 24 ปี เธอคิดว่าเป็นพระพรของพระเป็นเจ้าที่เธอสิ้นใจในอายุนั้น เธอมีความรู้สึกอยู่เสมอว่าเธอมีพระกระแสเรียกของพระสงฆ์ และพระเป็นเจ้าอนุญาตให้เธอสิ้นใจในอายุที่เธอได้รับศีลอนุกรมถ้าเธอเกิดมาเป็นผู้ชาย

หลังจากเธอหมดลมหายใจแล้ว ทุกสิ่งในคอนแวนต์ดำเนินไปตามปกติ พี่สาวปอลลีน ได้รวบรวมสิ่งต่างๆ ที่เธอได้เขียนไว้เป็นหนังสือเล่มหนึ่ง และได้ส่งไปแจกตามอารามต่างๆประมาณ 2,000 เล่ม วิธีเล็กๆของเธอ: การวางใจในพระเยซูเจ้าและการพลีกรรมเล็กๆ น้อยๆ ประจำวัน ทำให้เธอเป็นคนศักดิ์สิทธิ์และบรรลุความดีครบครัน ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากคริสตชนทั่วไป และจากคนที่ต้องการแสวงหาความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตสามัญชน ในปี 1925 เธอได้รับแต่งตั้งเป็นนักบุญ

นักบุญเทเรซาแห่งลิซิเออร์ เป็นองค์อุปถัมภ์การแพร่ธรรมในต่างแดน ไม่ใช่เพราะเธอเคยเดินทางไปยังดินแดนต่างๆ แต่เพราะเธอมีความรักพิเศษต่อการแพร่ธรรม บทภาวนาและจดหมายของเธอสนับสนุนงานแพร่ธรรม นี่เป็นสิ่งเตือนใจเราทุกคนว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำสุดความสามารถในชีวิตประจำวันสามารถบำรุงรักษาและขยายพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าได้

ให้เราภาวนา นักบุญเทเรซา กรุณาสอนเราเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และทำทุกสิ่งถวายพระเกียรติและพระสิริโรจนาแด่พระเป็นเจ้า อาแมน

บทสวดของนักบุญเทเรซาขอพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า

โอ้ พระเยซูเจ้า ในพระมหาทรมานอันเศร้าระทมขมขื่นของพระองค์ พระองค์กลายเป็นมนุษย์ที่น่าสมเพชที่สุด เป็นมนุษย์มหาทุกข์ ข้าพเจ้าเคารพบูชาพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ครั้งหนึ่งพระพักตร์นี้ฉายแสงแห่งความสวยงาม และความอ่อนหวานน่ารักแห่งพระเทวภาพของพระองค์ แต่เดี๋ยวนี้ได้กลายเป็นใบหน้าของคนที่เป็นโรคเรื้อน อย่างไรก็ตาม แม้พระพักตร์ของพระองค์ได้เสียโฉม ข้าพเจ้ายังจำได้ความรักซึ่งไม่มีขอบเขตของพระองค์ ข้าพเจ้ามีความปรารถนาอย่างร้อนรนที่จะรักพระองค์ และอยากให้มนุษย์ทั้งมวลรักพระองค์ น้ำตาที่เอ่อล้นในเบ้าตาของพระองค์เปรียบเหมือนไข่มุกมีค่ามหาศาลที่ข้าพเจ้าต้องการสะสม เพื่อซื้อวิญญาณของคนบาปผู้น่าสงสารซึ่งตีค่าไม่ได้

โอ้ พระเยซูเจ้า ขอให้พระพักตร์น่าเคารพบูชาของพระองค์ครอบครองดวงใจข้าพเจ้า ข้าพเจ้าวิงวอนพระองค์ โปรดจารึกพระพักตร์ของพระองค์ลงบนตัวข้าพเจ้า และจุดไฟในดวงใจข้าพเจ้าให้เร่าร้อนด้วยความรักต่อพระองค์ วันหนึ่งข้าพเจ้าจะได้เชยชมพระพักตร์รุ่งเรืองของพระองค์ในสวรรค์ อาแมน

บทสวดขอให้คนบาปและคนกำลังจะสิ้นใจ

จงสรรเสริญ อวยพระพร รัก บูชา และถวายพระสิริโรจนาแด่พระนามศักดิ์สิทธิ์ยิ่งและน่าเคารพบูชาอย่างยิ่งของพระเป็นเจ้าตลอดกาล ในสวรรค์ บนแผ่นดิน และใต้พิภพ โดยทุกสิ่งที่พระองค์ได้สร้าง และโดยพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสตเจ้าในศีลมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ยิ่งบนพระแท่น อาแมน

ข้าแต่พระบิดา พระองค์สถิตชั่วนิรันดร ข้าพเจ้าถวายพระองค์พระพักตร์อันน่าเคารพบูชาของพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ เพื่อพระเกียรติและพระสิริโรจนาแห่งพระนามของพระองค์ สำหรับขอให้ คนบาปกลับใจและคนใกล้ตายเอาวิญญาณรอดไปสวรรค์ เทอญ

โอ้ พระเยซูเจ้า โดยบุญกุศลจากพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ โปรดเมตตาเราและทั้งโลกเทอญ

(สามจบ)

นพวารนักบุญเทเรซา

สวดสองบทนี้ 24 ครั้ง:

l. สิริพึงมีแด่พระบิดา . . . . .
2. นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู ช่วยวิงวอนเทอญ

นพวารนี้จะสวดเวลาใดก็ได้ แต่ถ้าทำได้ ขอให้สวดระหว่างวันที่ 9 และ 17 ของแต่ละเดือน เพราะเป็นช่วงเวลาที่คริสตชนทั่วโลกพร้อมใจกันทำนพวารขอความช่วยเหลือจากนักบุญเทเรซา

ประวัติของนพวารนักบุญเทเรซา

คุณพ่อ Putigan คณะเยซูอิต เริ่มนพวารครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 1925 ท่านขอความช่วยเหลือจากนักบุญหนึ่งอย่าง เป็นเวลา 9 วันติดต่อกันท่านสวดบทสิริพึงมีวันละ 24 จบขอบพระคุณพระตรีเอกภาพที่ได้ประทานความช่วยเหลือและพระหรรษทานต่างๆ แก่นักบุญเทเรซาระหว่างที่เธอใช้ชีวิตในโลกเป็นเวลา 24 ปี คุณพ่อได้ขอนักบุญเทเรซา ถ้าเธอได้ฟังนพวารนี้ขอให้ท่านได้รับดอกกุหลาบสดเด็ดจากต้น วันที่ 3 ของนพวารคนหนึ่งที่คุณพ่อไม่รู้จักถามหาท่านและมอบดอกกุหลาบสวยสดงดงามให้ท่านหนึ่งดอก

คุณพ่อ Putigan เริ่มนพวารครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมในปีเดียวกันและขอดอกกุหลาบสีขาวเป็นสัญลักษณ์ว่านักบุญเทเรซาได้ฟังคำวิงวอนของท่าน วันที่ 4 ของนพวารซิสเตอร์พยาบาลคนหนึ่งนำดอกกุหลาบสีขาวมามอบให้ท่าน:

"นักบุญเทเรซาได้ส่งดอกไม้นี้มาให้คุณพ่อ" แปลกใจมาก คุณพ่อถามว่า: "แล้วซิสเตอร์ได้ดอกไม้มาจากไหน?" ซิสเตอร์ตอบว่า: "ขณะที่หนูกำลังออกจากวัดหนูเดินผ่านแท่นที่มีภาพนักบุญเทเรซาน่ารักแขวนอยู่ ดอกกุหลาบดอกนี้หล่นลงมาที่เท้าหนู หนูต้องการใส่ดอกไม้นี้กลับเข้าที่เดิม แต่มีเสียงดลใจบอกให้หนูเอามาให้คุณพ่อ"

คุณพ่อ Putigan ได้รับความช่วยเหลือต่างๆที่ท่านได้ขอจากดอกไม้น้อยๆ แห่งพระเยซูเจ้า ท่านได้สัญญาเผยแพร่นพวารนักบุญเทเรซา เพื่อให้คริสตชนเกิดความศรัทธาและถวายเกียรติแก่นักบุญ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ม.ค. 25, 2005 11:00 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 25, 2005 10:48 pm

นักบุญแบร์นาแด๊ต ( พรหมจารี )
ค.ศ. 1844-1879


รูปภาพ


เธอเกิดที่เมืองลูดส์ประเทศฝรั่งเศสวันที่ 7 มกราคม 1844 เป็นบุตรสาวของนายฟรังซิส และ นางหลุยส์ โซเบรู แบร์นาแด๊ต ผู้ซึ่งเป็นพ่อแม่ที่ยากจน เธอรับศีลล้างบาปในชื่อ มารีย์ เบอร์นาด เธอมีร่างกายบอบบาง และป่วยเป็นโรคหืดอย่างรุนแรง

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1858 ขณะที่เธอ น้องสาว และเพื่อนกำลังหาฟืน เธอได้เห็นแม่พระประจักษ์ที่ถ้ำ ซึ่งมีชื่อว่า เมสาเบล บนฝั่งแม่น้ำเกฟ ใกล้เมืองลูดส์ สตรีสวยงามมากยืนอยู่บนเมฆเหนือต้นกุหลาบ แต่งกายชุดสีชาวและสีฟ้า ได้ยิ้มให้แบร์นาแด๊ต แล้วทำสำคัญมหากางเขนด้วยสายประคำสีงาช้างและสีทอง แบร์นาแด๊ตคุกเข่าลง ควักสายประคำออกมา และเริ่มสวดลูกประคำ เมื่อเธอบอกให้คนรู้ถึงแม่พระประจักษ์ เธอตกอยู่ในภัยอันตรายอย่างใหญ่หลวง ฝูงชนก็มาชุมนุมกัน ณ ที่ๆ เธอได้เห็นแม่พระตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 4 มีนาคม เจ้าหน้าที่บ้านเมืองพยายามข่มขู่เธอให้ตกใจ เพื่อเธอจะได้ถอนคำพูด แต่เธอก็ยังยืนกรานเรื่องแม่พระประจักษ์ให้เธอ

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ น้ำได้ไหลขึ้นมาบนพื้นถ้ำ และเป็นน้ำมหัศจรรย์ ที่รักษาคนป่วยและคนพิการได้

วันที่ 25 มีนาคม แบร์นาแด๊ตได้ประกาศว่า แม่พระได้บอกเธอว่า พระนางคือการปฏิสนธินิรมลทิน และต้องการให้สร้างวัดหลังหนึ่งที่นั่น เจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ปิดกั้นน้ำพุจากฝูงชนและชะลอการสร้างวัด แต่ข่าวการประจักษ์และสิ่งมหัศจรรย์ที่ติดตามมาได้แพร่สะพัดจนถึงพระกรรณของพระนางยูยีน พระมเหสีของพระเจ้านะโปเลียนที่ 3 และการสร้างวัดก็ได้รับอนุมัติให้ดำเนินต่อไป ฝูงชนได้มาชุมนุมกันใหม่อย่างแน่นขนัด ปราศจากการรบกวนของพวกที่ต่อต้านนักบวชและศาสนา

ในปี 1866 แบร์นาแด๊ตได้ไปอยู่กับคณะนักบวชหญิงแห่งนอเตอร์ดามในเมืองเนเวอร์ เธอได้เป็นนักบวชฝึกหัด และได้รับการกดขี่ข่มเหงอย่างทารุณโหดร้ายจากนวกจารย์ ผู้ควบคุมนักบวชใหม่ การกระทำอันไร้ความเมตตาปราณีได้จบสิ้นลง เมื่อเธอพบว่าแบร์นาแด๊ตได้ป่วยหนัก เป็นโรคที่รักษาไม่หายและเจ็บปวดทรมานมาก เธอสิ้นใจที่เมืองเนเวอร์วันที่ 16 เมษายน 1879 และก่อนตายเธอยังคงยืนยันการประจักษ์ของแม่พระ

ลูดส์กลายเป็นเมืองที่คริสตชนทั่วโลกไปแสวงบุญ ลำธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ผลิตน้ำสัปดาห์ละ 27,000 แกลลอน ตั้งแต่วันที่แม่พระได้ประจักษ์แก่แบร์นาแด๊ต เธอมิได้มีส่วนร่วมในการสร้างวัด และได้ดำรงชีวิตอย่างเงียบๆ ที่เมืองเนเวอร์ พระสันตะปาปาปิโอที่ 11 ได้แต่งตั้งเธอเป็นบุญราศีในปี 1925 และนักบุญในปี 1933 ศพของเธอไม่เน่าเปื่อย นอนอยู่ในโลงแก้ว เหมือนเจ้าหญิงนิทรา

แม่พระได้ให้แบร์นาแด๊ตเห็นทั้งหมด 17 ครั้ง พระนางได้ขอให้เธอสวดให้คนบาปทั้งหลาย (คนที่ตกนรก คือ คนที่ตัวเองไม่สวด และไม่มีใครสวดอุทิศให้) และทำกิจใช้โทษบาปแทนคนบาป แรกๆ ไม่มีคนเชื่อว่าแม่พระได้ประจักษ์มา เธอต้องทุกข์ใจมาก แล้ววันหนึ่งแม่พระได้บอกให้เธอขุดดินบนพื้นถ้ำ น้ำได้ไหลออกมา วันรุ่งขึ้นลำธารน้ำได้ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มหัศจรรย์มากมายได้เกิดขึ้นเมื่อคนตักน้ำไปใช้ เมื่อแบร์นาแด๊ตได้รับศีลบวชเป็นซิสเตอร์แล้ว เพื่อนนักบวชได้ถามเธอว่า การที่แม่พระได้ให้ความสนใจแก่เธอเป็นพิเศษ เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นบุคคลสำคัญหรือไม่? แบร์นาแด๊ตได้ตอบว่า "ฉันไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย! ฉันเปรียบเหมือนไม้กวาดด้ามหนึ่ง เมื่อคนใช้งานเสร็จแล้ว เขาก็เอาไม้กวาดด้ามนั้นไว้หลังประตู แม่พระได้เลือกฉัน เพราะฉันเป็นคนที่ไม่มีความรู้เลย" เธอช่างเปี่ยมด้วยฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพ! (นักบุญยอห์นเวียนเนย์ องค์อุปถัมภ์พระสงฆ์พูดว่า "ฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพเป็นพื้นฐานของฤทธิ์กุศลทุกชนิด เปรียบเหมือนสายโซ่ที่ร้อยลูกประคำ ถ้าเอาโซ่ออก ลูกประคำจะหล่นกระจัดกระจาย" ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราไม่มีฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพ เราจะไม่มีฤทธิ์กุศลอะไรเลย เพราะฉะนั้นปิศาจพยายามล่อลวงมนุษย์ให้หลงกลอุบายของมัน เพื่อมันจะได้ทำลายฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพ แล้วมนุษย์คนนั้นก็จะตกอยู่ในอำนาจมืดของมันตลอดไป)

สี่ปีหลังจากแม่พระได้บอกแบร์นาแด๊ตว่า พระนางเป็นการปฏิสนธินิรมลทิน พระสันตะปาปาปิโอที่ 9 ได้ประกาศเป็นข้อความเชื่อ: เรื่องการปฏิสนธินิรมลทินของพระนางพรหมจารีมารีอา และนักบุญแมกซิโกลบีได้พูดถึงการปฏิสนธินิรมลทินของแม่พระดังนี้:

"เราต้องแสวงหาความรู้ เข้าใจความหมาย ที่เมืองลูดส์แม่พระทรงเรียกตัวเองว่า: "ฉัน คือ การปฏิสนธินิรมลทิน" พระนางไม่ได้บอกเราว่า พระนางได้ปฏิสนธินิรมลทิน แต่ว่า พระนางทั้งครบเป็นการปฏิสนธินิรมลทิน ถ้าเราพูดว่า สิ่งหนึ่งขาว เรายอมรับว่า สิ่งนั้นมีสีขาวอยู่จำนวนหนึ่ง และเวลาผ่านไปสามารถเปรอะเปื้อนได้ แต่เมื่อเราพูดว่า: "โดยตัวของมันเอง สิ่งหนึ่งเป็นความขาว" เราเข้าใจว่า สิ่งนั้นต้องขาวอย่างถาวร จะไม่มีการเปลี่ยนสีอีกเลย จะไม่มีวันเปรอะเปื้อน และจะเป็นสีขาวอยู่วันยังค่ำ พระนางมารีอา ผู้ปฏิสนธินิรมลทินตลอดกาล จะไม่ตกอยู่ในอำนาจของซาตานเป็นอันขาด ตามที่พระเยซูคริสตเจ้าตรัสว่า: "เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต" พระนางบอกให้เรารู้ว่า พระนางเป็นการปฏิสนธินิรมลทิน เราจะได้เข้าใจว่า ลำพังตัวเราเอง เราไม่สามารถมีการเกิดอย่างบริสุทธิ์ หรือความบริสุทธิ์ นอกจากเรามีส่วนร่วมในการปฏิสนธินิรมลทินของพระนางเท่านั้น . . . . . "

ให้เราภาวนา

นักบุญแบร์นาแด๊ต ผู้เปี่ยมด้วยพระสิริมงคล ท่านได้เป็นนักบุญ เพราะท่านเป็นแบบอย่างแห่งความยากจน ความสุภาพ ความนบนอบ ความอดทน และความบริสุทธิ์ ไม่ใช่เพราะท่านมีบุญได้เห็นแม่พระ 17 ครั้ง ท่านได้ต่อสู้กับความทุกข์ทรมานและโรคภัยไข้เจ็บอย่างอดทน ไม่เคยบ่นแม้แต่คำเดียว

โปรดช่วยเราเลียนแบบฤทธิ์กุศลของท่าน โปรดสอนเรารักและรับใช้ราชินีแห่งลูกประคำ ให้เราสวดลูกประคำอย่างศรัทธา ทุกวัน พร้อมกับรำพึงถึงชีวิต มหาทรมาน และการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสตเจ้า ถือความยากจน และแบกกางเขนในชีวิตนี้อย่างอดทน อาแมน


ตอนนี้ศพของท่านวางอยู่ในโลงแก้ว ยังไม่เน่าค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ม.ค. 25, 2005 11:02 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 25, 2005 10:50 pm

Prod Pran เขียน: ไม่ลองบอกนิสัยใจคอ และขอให้ คุณแม่อมราตั้งให้ล่ะ ???

ถ้ามาม๊าตังให้เหรอคะ "โรส แมรี่" แน่นอน หึ หึ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 25, 2005 10:58 pm

นักบุญแคเธอลีน ลาบูเร

รูปภาพ รูปภาพ

Zoe ลาบูเร เกิดที่ Fain-les Moutiers ประเทศฝรั่งเศส เป็นลูกคนที่เก้าในพี่น้องทั้งหมดสิบเอ็ดคน เธอได้เสียแม่เมื่ออายุเก้าขวบ สาวน้อยหงอยเหงาได้กอดรูปปั้นพระนางพรหมจารีมารีอาในอ้อมแขนของเธอและพูดว่า: "ต่อไปนี้แม่พระต้องเป็นแม่ของหนู"

หลังจากไปอยู่กับป้าได้สองปี Zoe กับพี่สาวคนหนึ่งกลับมาอยู่บ้านเพื่อจะได้ดูแลน้องๆ ในครอบครัวใหญ่

เมื่อเธออายุยี่สิบสี่ปี Zoe ได้เข้าอารามเป็นนักบวชหญิงคณะธิดาเมตตาของนักบุญวินเซนต์เดอปอล ที่กรุงปารีส เธอใช้ชื่อนักบวชซิสเตอร์แคธเธอรีน เธอได้รับใช้คนจนเป็นเวลาสี่สิบหกปี

วันที่ 18 กรกฏาคม 1830 การประจักษ์ครั้งแรกได้เกิดขึ้นที่ศูนย์ของคณะ ซิสเตอร์แคธเธอรีน ได้เห็นสุภาพสตรีคนหนึ่งนั่งอยู่ทางขวามือของโบสถ์ เมื่อซิสเตอร์แคธเธอรีนเข้าไปใกล้เธอ หญิงจากเมืองสวรรค์ผู้มาเยี่ยมเยียนได้ให้คำแนะนำแก่เธอว่า จะต้องทำอย่างไรเวลาที่ประสบความทุกข์ยากลำบาก และได้ชี้ไปที่พระแท่นบูชามิสซา ซึ่งเป็นศูนย์กลางชีวิตแห่งความบรรเทาใจ เธอพูดว่า: "จงมาที่เชิงพระแท่นบูชามิสซา ที่ซึ่งเป็นแหล่งแจกจ่ายพระหรรษทานทุกชนิด" ซิสเตอร์แคธเธอรีนได้เรียนวิธีสวดภาวนาจากเธอ: "เมื่อฉันไปสวดที่โบสถ์ ฉันวางตัวต่อหน้าพระพักตร์พระเป็นเจ้า ฉันพูดกับพระองค์: "พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ ถ้าพระองค์ประทานบางสิ่งบางอย่างแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าดีใจ ถ้าพระองค์ไม่ประทานอะไรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ เพราะข้าพเจ้าไม่สมควรได้รับอะไรเลยจากพระองค์ ข้าพเจ้าระลึกถึงความทุกข์ยากและความยินดีต่างๆ ... และข้าพเจ้าฟัง" เธอบอกซิสเตอร์แคธเธอรีนว่าเธอจะมอบงานให้ทำชิ้นหนึ่งซึ่งจะนำความทุกข์มาให้เธออย่างใหญ่หลวง เธอยังได้ทำนายไว้ล่วงหน้าว่าจะมีการรวมกลุ่มต่อต้านนักบวชที่กรุงปารีสในปี 1870

วันที่ 27 พฤศจิกายน 1830 แม่พระได้ประจักษ์ให้ซิสเตอร์แคธเธอรีนเห็นในโบสถ์เล็กของศูนย์คณะธิดาเมตตาที่กรุงปารีส เธอได้บรรยายความสวยงามของแม่พระ: "สวยงามในความครบครันแห่งความงาม" แม่พระได้ให้เธอเห็นเหรียญมหัศจรรย์ พระนางได้มอบหมายให้เธอทำเหรียญนี้และเผยแพร่ความศรัทธา ในเวลานั้น จิตตาธิการของเธอคุณพ่อ Aladel เพียงคนเดียวทราบเรื่องแม่พระประจักษ์ สี่สิบห้าปีให้หลังซิสเตอร์แคธเธอรีนได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่อธิการฟัง เธอสิ้นใจวันที่ 31 ธันวาคม 1876 และศพของเธอไม่เน่าเปื่อย แต่เหมือนคนกำลังนอนหลับอยู่

พระสันตะปาปาปิโอที่สิบสองได้ประกาศซิสเตอร์แคธเธอรีนเป็นนักบุญในปี 1942

เมื่อพระนางมารีอาประจักษ์มาเหมือนอย่างในเหรียญมหัศจรรย์ซิสเตอร์แคธเธอรีนได้ยินพระวาจานี้: "จงทำเหรียญตามตัวอย่างนี้ ทุกคนที่สวมจะได้รับพระหรรษทานยิ่งใหญ่"

เวลาผ่านไปเป็นปีๆ เหรียญแม่พระแห่งการปฏิสนธินิรมลทิน เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เหรียญมหัศจรรย์" เป็นเครื่องมือแจกจ่ายพระหรรษทานสำหรับคนที่สวมด้วยความเชื่อและความวางใจ

ด้านหน้าของเหรียญเป็นรูปพระนางพรหมจารีมารีอา จากแขนสองข้างของพระนางที่กางออกไปมีลำแสงพุ่งออกมา เป็นสัญลักษณ์แห่งพระหรรษทานสำหรับคนที่ขอพระหรรษทาน รอบๆ ขอบนอกของเหรียญมีบทภาวนา: "โอ้ พระนางมารีอาแห่งการปฏิสนธินิรมลทิน โปรดภาวนาเพื่อเรา ผู้มาวอนขอความช่วยเหลือจากพระนาง!"

ด้านหลังของเหรียญมีอักษรตัว M พร้อมด้วยไม้กางเขนตั้งอยู่บนบาร์รอดตัวเอ็ม เป็นการระลึกถึงพระมหาทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสตเจ้า ภายใต้สัญลักษณ์เหล่านี้มีรูปพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า และดวงพระทัยนิรมลทินของพระนางมารีอา ไม่มีคำอธิบายอะไร "หัวใจสองดวงพร้อมกับดาวสิบสองดวงล้อมรอบสัญลักษณ์ทั้งหมดมีความหมายเพียงพอ"

ให้เราภาวนา นักบุญแคธเธอรีนลาบูเร โปรดสอนเราสวดภาวนาตามที่แม่พระได้สอนท่าน ให้เรามีความเข้มแข็งและความอดทนในความทุกข์ยาก และได้รับความบรรเทาใจโดยมีพระแท่นบูชามิสซาเป็นศูนย์กลางชีวิต ให้เรามีความศรัทธาต่อเหรียญมหัศจรรย์ พระนางพรหมจารีมารีอา มารดาแห่งการปฏิสนธินิรมลทิน จะได้คุ้มครอง ปกป้อง รักษา และประทานพระหรรษทานแก่เรา อาแมน

บทสวดขอพระแม่เหรียญมหัศจรรย์

ข้าแต่พระนางพรหมจารีมารีอา มารดาพระเจ้า มารดาแห่งการปฏิสนธินิรมลทิน เราถวายตัวแด่พระแม่เหรียญมหัศจรรย์ ขอให้เหรียญนี้เตือนใจเราตลอดเวลาถึงความรักและความศรัทธาของเราต่อพระแม่ ขณะสวมเหรียญนี้ ขอพระแม่โปรดพิทักษ์รักษาเรา ให้เราดำรงชีวิตอยู่ในพระหรรษทานของพระบุตร

โอ้ พระนางพรหมจารีมารีอา มารดาพระมหาไถ่ ผู้ทรงฤทธานุภาพยิ่งนัก โปรดขอพระหรรษทานให้ข้าพเจ้า ลูกของพระแม่ ข้าพเจ้าจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพระแม่เสมอ ข้าพเจ้าจะได้ตายในศีลในพระพรของพระเป็นเจ้า และวันหนึ่งข้าพเจ้าจะได้พบพระแม่ในสวรรค์ มีความสุขชั่วนิรันดร อาแมน

โอ้ พระนางมารีอาแห่งการปฏิสนธินิรมลทิน โปรดภาวนาเพื่อเรา ผู้มาวอนขอความช่วยเหลือจากพระนาง
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ม.ค. 25, 2005 11:01 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 25, 2005 11:03 pm

ส่วนนักบุญองค์อื่นๆ ลองกดดูที่นี่นะคะ

http://www.issara.com/holy/st/
MarioAntonio
~@
โพสต์: 698
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:52 pm

อังคาร ม.ค. 25, 2005 11:22 pm

Oh! Don't be upset Jing. You can't be her godmother but you can be her godsister...(By the way who is your patron St. ?) ???
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 25, 2005 11:30 pm

นักบุญเทเรซา แห่ง ลีซิออร์ งัยโจ้
(เราหน้าคล้ายๆป่ะ อิอิ)

รูปท่านตอนเด็กๆที่เราเอามาแปะของล่างเนี่ยงัย
MarioAntonio
~@
โพสต์: 698
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:52 pm

อังคาร ม.ค. 25, 2005 11:34 pm

Yes I think so. I know the Carmelite sister here too. They are very friendly and very prayful. (So holyyyy)รูปภาพCarmelite Monastery (Melbourne/ Australia).
แก้ไขล่าสุดโดย MarioAntonio เมื่อ พุธ ม.ค. 26, 2005 12:01 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ ม.ค. 26, 2005 12:21 am

สวยจังเลย *inlove
jokeja

พุธ ม.ค. 26, 2005 4:01 pm

ขอบคุณมากนะคะ เข้าไปอ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ น่ารักจริงๆเลย ;)
:+:Regina Pacis:+:
.
.
โพสต์: 944
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm

ศุกร์ ก.พ. 01, 2008 6:16 pm

เพื่อนนักบวชได้ถามเธอว่า การที่แม่พระได้ให้ความสนใจแก่เธอเป็นพิเศษ เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นบุคคลสำคัญหรือไม่? แบร์นาแด๊ตได้ตอบว่า "ฉันไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย! ฉันเปรียบเหมือนไม้กวาดด้ามหนึ่ง เมื่อคนใช้งานเสร็จแล้ว เขาก็เอาไม้กวาดด้ามนั้นไว้หลังประตู แม่พระได้เลือกฉัน เพราะฉันเป็นคนที่ไม่มีความรู้เลย" เธอช่างเปี่ยมด้วยฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพ! 


  : xemo023 :    : xemo023 :





::017::
ตอบกลับโพส