ชีวิตฝ่ายจิตของพระราชาธิบดีโบดวง แห่งเบลเยี่ยม

[Andreas]

ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า "พระราชาธิบดีโบดวง แห่งเบลเยี่ยม พระราชประวัติที่ยังไม่เคยเปิดเผย" ซึ่งเขียนโดย พระคาร์ดินัล ซูเอเนนส์

สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง แห่งเบลเยี่ยม ทรงเป็นกษัตริย์ยุโรปซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก พระองค์ทรงเป็นคริสตชนผู้มีความศรัทธาในพระศาสนาอย่างลึกซึ้ง จะตื่นจากบรรทมแต่ยามเช้าตรู่ เพื่ออธิษฐานภาวนาส่วนพระองค์เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงทุกวัน ต่อจากนั้นพระองค์จะทรงร่วมในพิธีบูชามิสซา ณ โบสถ์น้อยในพระราชวัง ก่อนที่จะทรงปฏิบัติพระราชภารกิจต่าง ๆ จนเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วยุโรปว่าทั้งสองพระองค์คือสมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง และสมเด็จพระราชินีฟาบิโอลา ทรงเป็นแบบฉบับชวนศรัทธาและตัวอย่างที่งดงามสมควรยึดถือและปฏิบัติตามอย่างยิ่ง

สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวงทรงมีชีวิตฝ่ายจิตซึ่งชิดสนิทกับพระเจ้าอย่างลึกซึ้งซึ่งแสดงออกโดยการดำเนินชีวิตในแต่ละวันตามแบบคริสตชนและเปลี่ยนเป็นกิจการประจำวันในการบริการผู้อื่น พระองค์ทรงรักมวลมนุษย์ มิใช่เพื่อความรักต่อพระเจ้า แต่ด้วยความรักของพระเจ้า มิใช่เป็นการลดตนลงมา แต่เป็นความรู้สึกสำนึกอันลึกซึ้งหยั่งรากอย่างมั่นคงในความเชื่อว่า พวกเราทั้งหมดล้วนเป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น การเปิดใจกว้างและความพร้อมเพื่อผู้อื่นและผลพวงของสิ่งดังกล่าว ความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนในระดับน่าพิศวงของพระองค์ ทำให้พระองค์ทรงมีวิสัยทัศน์ที่กระจ่างแจ้งและคุณลักษณะพิเศษในการยอมรับสิ่งใหม่ ๆ

[Andreas]

จดหมายถึงผู้ไม่มีความเชื่อ : เหตุใดข้าพเจ้าจึงเชื่อ

[Andreas]

เสาะหาอาหารหล่อเลี้ยงประจำวัน : การภาวนายามเช้า
   การภาวนาเป็นช่วงเวลาอันสำคัญที่สุดของวันของสมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง ซึ่งตามปกติจะเป็นเวลาเช่าตรู่ ในบางโอกาส พระองค์จะเสด็จไปที่วัดน้อยในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นกรณียกเว้น
   พระองค์ทรงบันทึกว่า

[Andreas]

การเปิดตนต่อโลกในการสวดภาวนา

[Andreas]

พระราชกรณียกิจ

[Andreas]

การเฉลิมฉลองศีลมหาสนิท
พิธีบูชามิสซาประจำวันเป็นช่วงเวลาประเสริฐสุดของวันของพระราชาธิบดีโบดวง เป็นน้ำพุแห่งชีวิตในความแห้งแล้งทางจิตวิญญาณของโลกนี้ เมื่อพระราชกรณียกิจเรียกร้องให้เสด็จไปในที่ใดก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ในทวีปใด พระองค์ก็จะทรงขอให้มีพระสงฆ์ ซึ่งตามปกติจะเป็นพระสงฆ์ธรรมทูตชาวเบลเยี่ยมมาถวายบูชามิสซา
พระองค์ทรงติดตามการเปลี่ยนแปลงทางปีพิธีกรรมตามวันฉลองต่าง ๆ และข้อความจากพระคัมภีร์ในหนังสือมิสซาประจำวัน จากการที่ทรงเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองศีลมหาสนิทประจำวันดังกล่าว
ในสมุดบันทึกประจำวัน พระองค์ทรงบันทึกข้อคิดประจำวันที่ประทับพระราชหฤทัย บทเริ่มพิธีกรรม บทอ่านบทแรกของมิสซาประจำวัน หรือจากบทพระวรสาร และหลายครั้งทรงแบ่งปันเรื่องดังกล่าวกับพระสหายสนิททางโทรศัพท์ ในสมุดบันทึกเล่มเดียวกันนั้น มีบทภาวนาซึ่งถูกนำมาเปิดเผยให้ทราบหลังจากที่ได้สวรรคตแล้วอยู่บทหนึ่งที่พระองค์ทรงใช้เป็นเครื่องเร้าใจ เป็นการลงแส้ เพื่อช่วยให้พระองค์ประกอบพระราชกรณียกิจของพระองค์ บทภาวนาดังกล่าวนั้นคือ

[Andreas]

ในจอกแห่งความทุกข์ทรมาน: ทางกางเขนที่มีหลายภาค

   พระชนม์ชีพของพระราชาธิบดีโบดวงนั้นถูกความทุกข์ทรมานนานประการรุมทึ้ง และทิ้งร่องรอยไว้กับพระองค์ตังแต่ยังทรงพระเยาว์ ที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับพระองค์ คือ

[Andreas]

เมื่อต้องทรงประจัญหน้ากับความทุกข์ทรมาน

[Andreas]

ปัญหาวิกฤติที่จะต้องหาทางออก

[Andreas]

เมื่อความตาย่างกรายเข้ามาอย่างสงบ
ความตายเป็นเรื่องที่ทรงคาดคิดอยู่เสมอ
   ย้อนไปในปี 1969 พระราชาธิบดีโบดวงทรงบันทึกว่า

[Andreas]

สวรรคตในประเทศสเปน
พระราชธิบดีโบดวงทรงสวรรคตที่พระราชวังฤดูร้อนของพระองค์ที่โมทรีล ประเทศสเปนในวันที่ 31 กรกฎาคม 1993 ด้วยอาการพระหทัยล้มเหลว มีผู้พบพระองค์สวรรคตที่ระเบียงที่ประทับที่ทรงโปรดที่จะปลีกพระองค์มาอยู่ตามลำพังเพื่อทรงสวดภาวนา ทรงพระอักษร หรือทรงเฝ้าทอดพระเนตรดวงดาว
ในวันหนึ่งพระองค์ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทภาวนาสั้น ๆ ส่วนพระองค์ ขึ้นมาบทหนึ่ง ซึ่งเหมาะสมกับสถานที่ดังกล่าวโดยเฉพาะ

[Cho]

ท่านเป็นอีกหนึ่งแบบอย่างที่ดีเยี่ยมสำหรับคริสตชนอย่างเรา ขอบคุณ คุณ Andreas มากครับ ที่นำเสนอสำหรับแบบอย่างคริสตชนของท่านผู้นี้แก่เรา ขอพระเป็นเจ้าอวยพระพรครับ *ok

[Andreas]

ข้อความบางตอนจากบทเทศน์ของพระคาร์ดินัล ดันนัลส์ ในพิธีพระบรมศพพระราชาธิบดีโบดวง

[Batholomew]

ขอบคุณครับ พี่เพชร

[Announcer]

พิมพ์เก่งจังเลยครับ แล้วก็ขอบคุณเนื้อหาสาระดีๆครับ

[Andreas]

ผมพิมพ์ไม่เก่งหรอกครับ ที่พิมพ์นี่ก็เพราะกำลังหัดพิมพ์อยู่ครับ เลยหาอะไรที่มีประโยชน์พิมพ์ดีกว่า

[B_U_D_D_Y]

I really like this...

[Andreas]

ขอขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงประทานแบบอย่างแห่งความศักดิ์สิทธิ์นี้แก่พวกเรา และยังมีพระราชจริยวัตรที่ดีงามมากมายที่ผมไม่ได้นำมาลงไว้ในตอนต้น จึงอยากแบ่งปันเพิ่มเติม

ในช่วงที่สมเด็จพระราชธิบดีโบดวงทรงประชวรด้วยโรคพระหทัย พระองค์ทรงมีความอดทนต่อความเจ็บป่วยนี้ ทรงซ่อนพระอาการเจ็บปวดเสมอเมื่อต้องปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ประชาชนจะเห็นแต่รอยยิ้มของพระองค์

การนึกถึงความตายและถึงวาระสุดท้ายอย่างกระทันหันนั้นหาใช่เรื่องแปลกสำหรับพระองค์ไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีท้าย ๆ ของพระชนม์ชีพของพระองค์นั้น บ่อย ๆ ทรงนึกถึงความเป็นไปได้ที่จะสิ้นพระชนม์อย่างกระทันหันอันเป็นผลมาจากโรคพระหทัยกำเริบที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ พระองค์ทรงอดทนต่อโรคดังกล่าวอย่างกล้าหาญและเป็นที่รู้กันน้อยมาก บรรดาประชาชนที่แลเห็นพระองค์ทรงสัมผัสพระหัตถ์ และทรงพระสรวลอย่างน่ารักในขณะที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในที่สาธารณะนั้น หาได้รู้แม้แต่นิดหนึ่งไม่ว่าทรงต้องฝืนพระวรกายเป็นอย่างมากเพียงใด เมื่อต้องทรงอยู่ต่อหน้าฝูงชน มีไม่น้อยครั้งเลยที่พระราชพิธีการเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

แต่ความบรรเทาของพระองค์มาจากพระเจ้าและแม่พระ
ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 1992 ทรงบันทึกว่า
"พระเจ้าข้า ข้าพเจ้ารู้สึกเหนื่อย ไม่สามารถพักผ่อนได้ในตอนกลางคืน ส่วนในตอนกลางวันไม่ได้มอบตนเองอย่างเพียงพอต่อพระองค์ จึงก่อให้เกิดความเครียดและความไม่สมดุลขึ้น
พระเจ้าข้า โปรดสอนข้าพเจ้าให้ดำเนินชีวิตด้วยปรีชาญาณ สายตาจ้องไปที่พระองค์เสมอ โปรดสอนข้าพเจ้าให้กราบนมัสการพระบิดาเจ้าโดยทางการกราบบูชาพระองค์ต่อพระบิดา โปรดสอนข้าพเจ้าให้วางตนอยู่ในอ้อมอกของพระมารดาและพระราชินีของข้าพเจ้าและให้คงอยู่ ณ ที่นั้นด้วยจิตใจอันสงบเงียบภายในและด้วยการมอบตนโดยสิ้นเชิงต่อพระนาง..... พระเจ้าข้า โปรดสอนข้าพเจ้าให้ถวายชีวิตของข้าพเจ้าแด่พระองค์โดยไม่ทวงคืนเลย แต่ให้มีความเคารพต่อชีวิตนั้น เพราะว่าชีวิตนั้นเป็นของพระองค์"

[Wasu]

ขอบคุณพระองค์ที่ทรงเปิดทางสว่างให้ข้าพระองค์หลุดรอดจากความโง่เขลาและขอบคุณพระแม่ผู้ยิ่งใหญ่ในทุกๆสิ่งที่พระองค์ประทานให้ อาแมน.. :)

[Andreas]

เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง แห่งเบลเยี่ยม ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์ทรงเคยเสด็จมาเยือนประเทศไทยหลายครั้ง พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีฟาบิโอลา พระองค์ทรงเป็นพระสหายสนิทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งสองพระองค์ทรงรักและนับถือกันเสมือนเป็นพระเชษฐาพระอนุชา และทั้งพระราชาธิบดีโบดวงกับพระราชินีฟาบิโอลาก็ทรงรักสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสมือนดังพระธิดาของพระองค์ เพราะทั้งสองพระองค์ไม่ทรงมีรัชทายาท เนื่องจากพระราชินีฟาบิโอลาทรงมีปัญหาพระสุขภาพซึ่งไม่อาจทรงพระครรภ์ได้ ทุกครั้งที่ทั้งสองพระองค์เสด็จมาประเทศไทย พระองค์จะทรงเชิญคุณพ่อกุสตาฟ โรเซ่น บาทหลวงธรรมทูตซาเลเซียนชาวเบลเยี่ยม ซึ่งทำงานในประเทศไทย มาถวายบูชามิสซาให้ทุกวันที่พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง เวลานี้คุณพ่อทำงานอภิบาลคริสตชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คุณพ่อเป็นคนที่น่ารักมาก ท่านพยายามสร้างโรงเรียนสามัญและโรงเรียนฝึกอาชีพให้ลูกหลานชาวใต้ได้มีการศึกษาสามารถประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว เพราะท่านเชื่อว่าหากพวกเขามีงานทำก็จะไม่เข้าขบวนการก่อความไม่สงบ คุณพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ประชาชนที่นั่นก็เคารพรักคุณพ่อ ท่านไม่เคยถูกเบียดเบียนจากกลุ่มก่อความไม่สงบเลย โรงเรียนที่ท่านดูแลก็มีลูก ๆ ชาวมุสลิมมาเรียนเป็นจำนวนมากพอสมควร และคุณพ่อจะมีความสุขและภูมิใจมากหากท่านได้เล่าแบ่งปันประสบการร์เกี่ยวกับพระราชิธิบดีโบดวงและพระราชินีฟาบิโอลา

[minnie]

ขอบพระคุณค่ะ :D

[~@Little lamb@~]

[quote="B_U_D_D_Y"]
I really like this...