“บาปหนักสมัยใหม่ 7 ประการ”

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

จันทร์ ก.ย. 08, 2008 10:21 pm

สองอาทิตย์ที่ผ่านมา มีข่าวจากสื่อมวลชนบางแหล่งว่า  วาติกันแถลงเรื่อง
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ จันทร์ ก.ย. 08, 2008 10:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ ก.ย. 08, 2008 10:33 pm

ขอบคุณที่แบ่งปันครับ ::001::
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

จันทร์ ก.ย. 08, 2008 10:35 pm

ขอบคุณที่แบ่งปันค่าาาา :grin: : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
EZRA
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 03, 2008 3:11 pm
ติดต่อ:

อังคาร ก.ย. 09, 2008 8:30 am

เห็นในเว็บของสังฆมลฑลแล้ว.. แต่เข้ามาอ่านอีก ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ ^^
tan
โพสต์: 390
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 13, 2008 8:47 pm
ติดต่อ:

อังคาร ก.ย. 09, 2008 12:47 pm

ผมเห็นด้วยในเรื่องที่กล่าวมานะ ในพระคำภีร์มีเขียนไว้ ในเรื่องที่เศรษฐีหนุ่มถามพระเยซูว่าต้องทำอย่างไรจึงจะได้ชีวิตรนิรันดร พระองค์ทอดพระเนตรเขาด้วยความเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า "ท่านยังขาดอิกสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกอย่างที่มี มอบเงินให้คนอยากจนแล้วท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด" เมื่อได้ฟังพระวาจา ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีสมบัติมากมาย จึงจากไปด้วยความทุกข์ (มาระโก10:22)
        เห็นได้ว่าการมีสมบัติมากไปไม่ใช้เรื่องผิดนะแต่ถ้ามีความยึดติดกับสิ่งเหล่านั้น ทำให้เราเสียพระราชัยสวรรค์ได้เลยละแม้วันเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปแต่ส่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนคือ ความชั่วยังคงวนเวียนอยู่ข้างเราเสมอ เราจะรอดได้ก้ต่อเมื่ออดทนและเชื่อในความรักของพระ การอภัย ความรัก การเสียสละ ความไม่เห็นแก่ตน ยอมรับความผิดพลาด และปรับปรุง นี้บางที่อาจทำให้เราเขาใจในพระและรักพระองคืมากขึ้น ก็ได้
       
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

อังคาร ก.ย. 09, 2008 1:53 pm

เป็นดอกของต้นเดิม คือบาปต้น 7 ประการ


ถ้าจะตัดต้องถอนที่ราก ไม่ใช่ตัดที่ดอก
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร ก.ย. 09, 2008 11:57 pm

พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน: เป็นดอกของต้นเดิม คือบาปต้น 7 ประการ


ถ้าจะตัดต้องถอนที่ราก ไม่ใช่ตัดที่ดอก
แต่บางทีดอก  มันก็หนาและใหญ่มาก  จนไม่เห็นราก  เลยไม่รู้ว่า  นี่คือ  ดอกของต้นบาป  ::001:: 

จริงๆ  ทั้ง 7 ข้อนี้  มีนัยยะทางเทววิทยาที่ลึกซึ้งนะคะ  ไม่ใช่อะไรตื้นๆง่ายๆ  มันเป็นภาพสะท้อนของบาปในยุคปัจจุบัน  เป็นภาพสะท้อนของคนในยุคนี้  และความรุนแรงต่างๆที่เกิดขึ้นในโลก 
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ พุธ ก.ย. 10, 2008 12:03 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
:+:Regina Pacis:+:
.
.
โพสต์: 944
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm

พุธ ก.ย. 10, 2008 10:30 pm

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ  ::001::
KuRapiKa
โพสต์: 383
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 30, 2008 10:49 am
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 11:04 am

ขอบคุณมากครับพี่  ::001::
†mommomza†
โพสต์: 207
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 17, 2008 2:13 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 5:32 pm

เห็นด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
bb_z
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 29, 2008 1:58 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 02, 2008 5:59 pm

ข้องใจสองข้อนี้อะครับ
ข้อที่
3. ความร่ำรวยขึ้นจนเกินไป (Accumulating excessive wealth)
2. การใช้ยีนของมนุษย์ในทางผิดศีลธรรม (Genetic manipulation)
6. การค้นคว้าทดลองที่ยังไม่สรุปตกลงด้านศีลธรรม (Morally debatable experiments)

บิล เกตส จะได้ขึ้นสวรรค์ไหมครับ เพราะเขารวยสุดในโลก รวยเกินไป รวยเว่อ ๆ แต่เด๋วนี้เขาหันมาทำด้านการกุศลเต็มทีแล้วนิครับ
ข้อที่สอง ใช้แค่ยีน ผิดศีลธรรมด้วยเหรอครับ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย
ข้อที่หก

ผมว่านะ สองข้อนี้ รวมกันเป็นข้อเดียวคือ ห้ามการทดลองที่จะส่งผลกระทบต่อความเชือที่ว่าพระเจ้าสร้างโลก เพราะความจริงก็คือ พระเจ้าเป็นคนสร้างโลก การทดลองใดๆ ซึ่งผลการทดลองจะมาขัดกับหลักความจริง ถือว่าเป็นบาปหนัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
bb_z
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 29, 2008 1:58 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 02, 2008 6:02 pm

ผมว่าบาปหนัก 7ประการสมัยเก่า ดีกว่านะครับ
มันนิยามคำว่าบาปได้ ดีกว่าอะ

ตรงๆดี ผมว่ามันไม่เก่าหรอก ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย อันในที่ตั้งขึ้นมา มัน.... อยุนะ  ::015::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พฤหัสฯ. ต.ค. 02, 2008 11:22 pm

เท่าที่อ่านดู 7 ข้อนั่น มันก็มีรากฐานมาจากบาป 7 ตัวเดิมอยู่ดีนี่นาครับ
(โลภ ยะโส โกรธ หลง ตะกละ อิจฉา เกียจคร้าน)

สรุป มันก็ของเดิมนั่นแหละแต่ที่ว่าเป็นของใหม่ก็แค่ "ผลส่วนหนึ่ง" ที่มาจากเจ้าเจ็ดตัวเก่าอยู่ดี
Dis volentibus

ศุกร์ ต.ค. 03, 2008 12:26 am

bb_z เขียน: ข้องใจสองข้อนี้อะครับ
ข้อที่
3. ความร่ำรวยขึ้นจนเกินไป (Accumulating excessive wealth)
2. การใช้ยีนของมนุษย์ในทางผิดศีลธรรม (Genetic manipulation)
6. การค้นคว้าทดลองที่ยังไม่สรุปตกลงด้านศีลธรรม (Morally debatable experiments)

บิล เกตส จะได้ขึ้นสวรรค์ไหมครับ เพราะเขารวยสุดในโลก รวยเกินไป รวยเว่อ ๆ แต่เด๋วนี้เขาหันมาทำด้านการกุศลเต็มทีแล้วนิครับ
ข้อที่สอง ใช้แค่ยีน ผิดศีลธรรมด้วยเหรอครับ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย
ข้อที่หก

ผมว่านะ สองข้อนี้ รวมกันเป็นข้อเดียวคือ ห้ามการทดลองที่จะส่งผลกระทบต่อความเชือที่ว่าพระเจ้าสร้างโลก เพราะความจริงก็คือ พระเจ้าเป็นคนสร้างโลก การทดลองใดๆ ซึ่งผลการทดลองจะมาขัดกับหลักความจริง ถือว่าเป็นบาปหนัก
- บิล เกตส์ ขึ้นสวรรค์ไหม ไม่รู้ ไม่ตัดสิน...เเต่รํารวยในที่นี้ หมายถึง มีเงินเเละไม่คิดจะบริจาคให้ใคร เกินความจำเป็นของคนๆนั้น
(ถ้าบิล เกตส์ มีตังค์เท่าข้าพเจ้า เขาอาจจะให้เงินเดือนพนักงานบริษัทไม่ได้ เเละอาจจะบริจาคทุนให้คนขัดสน ไม่ได้)

- ใช้ยีนในทางที่ผิดศีลธรรมค่ะ อ่านดีๆ ไม่ใช่ ใช้ยีนเเล้วผิดศีลธรรม
เช่น เอายีนมนุษย์ มาตัดต่อกับสุนัข...เป็นตัวคุณเอง ก็คงไม่ยอม

- ไม่เกี่ยวกับพระเจ้าสร้างโลกตรงไหนเลยค่ะ เเล้วให้ตายยังไงก็ไม่ขัดกันด้วย
ยกเว้นจะมีใครบางคนตีความพระคัมภีร์เเบบผิดๆ เข้าใจมาผิดๆ ฝังหัวมาผิดๆ
นึกว่าพระคัมภีร์ เป็นหนังสือชีวประวัติโลก  คุณอย่าเอามารวมกันดีกว่า มันเป็นการเเสดงถึงความ "ไม่มีเหตุผล" ของคุณเอง

การทดลอง ในที่นี้ ยกตัวอย่างเช่น...ทดลองระเบิด เช่น อยู่ดีๆคุณอยากทดลองระเบิด อยากทราบว่าสภาพศพของคนที่โดนระเบิดเป็นอย่างไร
เเล้วอยู่ดีๆ คุณก็เอาระเบิดไปลง คนบริสุทธิ์ตายมากมาย เพื่อผลการทดลองของคุณ อันนี้ผิดศีลธรรมไหม...ผิด
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ต.ค. 03, 2008 6:07 am

ขอขยายผลเพิ่มเติม ข้อ ๖ การทดลองที่ยังไม่ได้ข้อยุติทางศีลธรรม
คือ บางทีแม้แต่การผลิตอาวุธขึ้นมา...ทางศีลธรรมเองก็ยังไม่ได้ข้อยุติ
เพราะปกติอาวุธ สร้างขึ้นมาเพื่อทำลายชีวิต ดังนั้นในทางผลจึงเป็นการผิดศีลธรรม

ขอบคุณฮะ
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

พุธ ต.ค. 08, 2008 12:19 am

น้องเจนเยี่ยมไปเลย ::020::
ภาพประจำตัวสมาชิก
bb_z
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 29, 2008 1:58 pm

จันทร์ ต.ค. 27, 2008 5:02 am

- บิล เกตส์ ขึ้นสวรรค์ไหม ไม่รู้ ไม่ตัดสิน...เเต่รํารวยในที่นี้ หมายถึง มีเงินเเละไม่คิดจะบริจาคให้ใคร เกินความจำเป็นของคนๆนั้น
(ถ้าบิล เกตส์ มีตังค์เท่าข้าพเจ้า เขาอาจจะให้เงินเดือนพนักงานบริษัทไม่ได้ เเละอาจจะบริจาคทุนให้คนขัดสน ไม่ได้)
แล้วแค่ไหนถึงเรียกว่า พอดี(ไม่เกินความจำเป็นของคนๆนั้นละครับ) ถึงอย่างงั้นผมว่ามันก็ไม่เหมาะอยุ่ดีครับ บิล เกตส์เขาหาเงินมาได้ ด้วยความสามารถของเขาเองไม่ได้ไปโกงใคร ดังนั้นเขาก็มีสิทธิ์ที่จะใช้เงินของเขา ถ้าไม่ทำให้ใครเดือนร้อนเขาก็ไม่น่าจะบาปนิครับ (บาปเพราะรวยเกิน -*-)
- ใช้ยีนในทางที่ผิดศีลธรรมค่ะ อ่านดีๆ ไม่ใช่ ใช้ยีนเเล้วผิดศีลธรรม
เช่น เอายีนมนุษย์ มาตัดต่อกับสุนัข...เป็นตัวคุณเอง ก็คงไม่ยอม

- ไม่เกี่ยวกับพระเจ้าสร้างโลกตรงไหนเลยค่ะ เเล้วให้ตายยังไงก็ไม่ขัดกันด้วย
ยกเว้นจะมีใครบางคนตีความพระคัมภีร์เเบบผิดๆ เข้าใจมาผิดๆ ฝังหัวมาผิดๆ
นึกว่าพระคัมภีร์ เป็นหนังสือชีวประวัติโลก  คุณอย่าเอามารวมกันดีกว่า มันเป็นการเเสดงถึงความ "ไม่มีเหตุผล" ของคุณเอง
ผมขอโทษแล้วกันครับที่เข้าใจผิด
-
การทดลอง ในที่นี้ ยกตัวอย่างเช่น...ทดลองระเบิด เช่น อยู่ดีๆคุณอยากทดลองระเบิด อยากทราบว่าสภาพศพของคนที่โดนระเบิดเป็นอย่างไร
เเล้วอยู่ดีๆ คุณก็เอาระเบิดไปลง คนบริสุทธิ์ตายมากมาย เพื่อผลการทดลองของคุณ อันนี้ผิดศีลธรรมไหม...ผิด
ด้วยความรู้ที่มีอยุ่น้อยนิดของผมเข้าใจว่า ประเทศที่ชอบล่าอาณานิคม เขานับถือศาสนาคริสติมิใช่เหรอครับ
ประเทศที่ประชาชนกว่าร้อยละ40% เชื่อว่าพระเจ้าสรางโลก (ประเทศสหรัฐอเมริกา) มิใช่หรอกหรือครับที่ทำสงครามกับอิรัก เหตุผลเพราะหวังน้ำมันโดยกล่าวหาว่าเขามีอาวุธร้ายแรง แต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ
Dis volentibus

จันทร์ ต.ค. 27, 2008 9:42 am

แล้วแค่ไหนถึงเรียกว่า พอดี(ไม่เกินความจำเป็นของคนๆนั้นละครับ) ถึงอย่างงั้นผมว่ามันก็ไม่เหมาะอยุ่ดีครับ บิล เกตส์เขาหาเงินมาได้ ด้วยความสามารถของเขาเองไม่ได้ไปโกงใคร ดังนั้นเขาก็มีสิทธิ์ที่จะใช้เงินของเขา ถ้าไม่ทำให้ใครเดือนร้อนเขาก็ไม่น่าจะบาปนิครับ (บาปเพราะรวยเกิน -*-)
ก็ไม่ได้มีใครว่าเขา(บิล เกตส์)บาปนิ่คะ :grin:
เเละปกติเขาก็บริจาคเงินเป็นทุนการศึกษาให้นักเรียนในสหรัฐมากมายอยู่เเล้ว

ด้วยความรู้ที่มีอยุ่น้อยนิดของผมเข้าใจว่า ประเทศที่ชอบล่าอาณานิคม เขานับถือศาสนาคริสติมิใช่เหรอครับ
ประเทศที่ประชาชนกว่าร้อยละ40% เชื่อว่าพระเจ้าสรางโลก (ประเทศสหรัฐอเมริกา) มิใช่หรอกหรือครับที่ทำสงครามกับอิรัก เหตุผลเพราะหวังน้ำมันโดยกล่าวหาว่าเขามีอาวุธร้ายแรง แต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ
ถ้าจำไม่ผิด ประเทศนี้ไม่ได้ยึดพระบัญญัติ เสมือน กฎหมายบ้านเมือง เหมือนในบางประเทศเเถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้หรอกค่ะ  :smiley:
เเล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับพรรครีพับลิกัน (สังเกตได้จากโพล เลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯปีนี้)  :grin:

ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ :angel:
ภาพประจำตัวสมาชิก
bb_z
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 29, 2008 1:58 pm

จันทร์ ต.ค. 27, 2008 3:43 pm

ก็ไม่ได้มีใครว่าเขา(บิล เกตส์)บาปนิ่คะ 
เเละปกติเขาก็บริจาคเงินเป็นทุนการศึกษาให้นักเรียนในสหรัฐมากมายอยู่เเล้ว
แล้วถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่บิล เกตส์ ละครับ เป็นคนที่รวยมากๆ รวยด้วยความสามารถของตัวเองและรวยโดยสุจริต แต่เขายังไม่รู้สึกว่าพอดีแล้ว(แต่คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาเป็นมหาเศรษฐี) เขาจึงไม่บริจาค เขาบาปไหม
Dis volentibus

จันทร์ ต.ค. 27, 2008 4:34 pm

bb_z เขียน: แล้วถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่บิล เกตส์ ละครับ เป็นคนที่รวยมากๆ รวยด้วยความสามารถของตัวเองและรวยโดยสุจริต แต่เขายังไม่รู้สึกว่าพอดีแล้ว(แต่คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาเป็นมหาเศรษฐี) เขาจึงไม่บริจาค เขาบาปไหม
ตรงนี้ไม่ต้องไปดูถึงบาปหนักสมัยใหม่ก็ได้นะคะ  :grin:
ย้อนกลับไปตั้งเเต่ บาปต้น 7ประการเลยก็ยังไงได้

โดนเรื่อง "ความตระหนี่" (Covetousness) ไปเต็มๆเลยค่ะ  :grin: เพราะไม่บริจาค
ในพระคัมภีร์ เเม้เเต่หญิงม่ายที่มีเงินเพียง 2 เหรียญ ยังบริจาคเลย

นายคนนี้(ที่คุณสมมติขึ้นมา) มีเงินขนาดที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็น มหาเศรษฐีได้ เเสดงว่า ปัจจุบันต้องมีกินมีใช้มากทีเดียว
เเละนอกจากปัจจุบันจะ "รวย" อยู่เเล้ว!!!!!!!

แต่ก็ยังคิดว่า ฉันรวยไม่พอ...ฉันจะรวยกว่านี้อีก.....(ตีความจากข้อความนี้ "แต่เขายังไม่รู้สึกว่าพอดีแล้ว")
ความรู้สึกนี้เเหล่ะค่ะ เเถวบ้านเรียกว่า โลภ
ผิดบาปต้นอีก1 "โลภอาหาร" (Gluttony)

สมบัติเเท้

มธ 6:19

ท่านทั้งหลายจงอย่าสะสมทรัพย์สมบัติบนเเผ่นดินนี้เลย
ที่นี่ทรัพย์สมบัติทั้งหลายถูกสนิมเเละขมวนกัดกิน
เเละถูกขโมยเจาะช่องเจ้ามาขโมยไปได้
เเต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่น
ไม่มีสนิมหรือขมวนกัดกิน
เเละขโมยก็เจาะช่องเข้ามาขโมยไม่ได้
เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด
ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย


ป.ล. อย่างไรก็ตาม การจะตอบว่า "ทำเช่นนี้เป็นบาปหรือไม่" ไม่สามารถตอบได้ง่ายๆ
เพราะมันขึ้นอยู่กับมโนธรรมของเเต่ละคน ซึ่งเเน่นอนว่า มีพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bb_z
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 29, 2008 1:58 pm

จันทร์ ต.ค. 27, 2008 9:38 pm

คำว่า "โลภ" กับ "ไม่บริจาค" มันความหมายไม่เหมือนกันนะครับ

การที่เราบริจาคหรือไม่บริจาค มันเป็นสิทธิ์ของเรานะครับ ผมว่า

ให้ตังขอทานเป็นการบริจาคไหม (เป็น ใช่ไหมครับ )
ขอทาน เราตังเขาไป ขอทานก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหาของสังคม และขอทานก็ทำกันเป็นขบวนการ ขอทานที่จังหวัดผมบางคนมีเงินฝากธนาคารหลายหมื่นเชียว
KuRapiKa
โพสต์: 383
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 30, 2008 10:49 am
ติดต่อ:

จันทร์ ต.ค. 27, 2008 10:48 pm

bb_z เขียน: คำว่า "โลภ" กับ "ไม่บริจาค" มันความหมายไม่เหมือนกันนะครับ

การที่เราบริจาคหรือไม่บริจาค มันเป็นสิทธิ์ของเรานะครับ ผมว่า

ให้ตังขอทานเป็นการบริจาคไหม (เป็น ใช่ไหมครับ )
ขอทาน เราตังเขาไป ขอทานก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหาของสังคม และขอทานก็ทำกันเป็นขบวนการ ขอทานที่จังหวัดผมบางคนมีเงินฝากธนาคารหลายหมื่นเชียว
ก็ยังไม่มีใครบอกเลยนี่ครับ ว่า "โลภ" กับ "ไม่บริจาค" ความหมายเหมือนกัน

ที่น้องเจน บอกด้านบนคือ

1. ถ้าไม่บริจาค คือผิด เรื่องความตระหนี่
2. นายคนนี้(ที่คุณสมมติขึ้นมา) มีเงินขนาดที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็น มหาเศรษฐีได้ เเสดงว่า ปัจจุบันต้องมีกินมีใช้มากทีเดียว
เเละนอกจากปัจจุบันจะ "รวย" อยู่เเล้ว!!!!!!!

แต่ก็ยังคิดว่า ฉันรวยไม่พอ...ฉันจะรวยกว่านี้อีก.....(ตีความจากข้อความนี้ "แต่เขายังไม่รู้สึกว่าพอดีแล้ว")
ความรู้สึกนี้เเหล่ะ เเถวบ้านเรียกว่า โลภ

ซึงมันก็คนละหัวข้อกันเลยครับ

แล้วเรื่องการบริจาค ก็เป็นสิทธิ์ของใครของมัน ใช่แล้วครับผม
แต่ว่าไม่จำเป็นต้องบริจาคขอทานนี่ครับ  บริการมูลนิธิสงเคราะห์คนพิการ หรืออย่างอื่นก็ได้
และเรื่องบริจาคให้คนพิการ แค่เราคิดว่าเป็นการทำบุญก็พอครับ คิดว่าให้แล้ว ก็สบายใจ
ไม่ต้องคิดว่าเขาจะเป็นขบวนการหรือหรือแก๊งอะไรหรอกครับ
การบริจาคแบบเต็มใจให้ก็เพียงพอแล้วครับ
Dis volentibus

จันทร์ ต.ค. 27, 2008 10:49 pm

bb_z เขียน: การที่เราบริจาคหรือไม่บริจาค มันเป็นสิทธิ์ของเรานะครับ ผมว่า

อันนี้คุณพูดถูกค่ะ เป็นสิทธิ์ของเราจริงๆ

คนที่มีทรัพย์สมบัติ หากคิดดีๆก็ควรจะขอบพระคุณพระเจ้า เพราะพระองค์ให้โอกาสเราช่วยเหลือพี่น้องคนอื่นๆ
น้อยคนนักที่จะบอกว่า "การทำดี ทำให้จิตใจเขาไม่สงบสุข" ค่ะ  :angel:

ในพระคัมภีร์ก็มีกล่าวไว้

- จงมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจกัน... (คส 3:12)

- อย่าเห็นแก่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว...จงเห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่นด้วย (ฟป 2:4)

- จงยื่นมือช่วยคนยากจนเช่นกัน เพื่อท่านจะได้รับพระพรอย่างอุดม (บสร 7:32)

พระคัมภีร์ไม่ได้บังคับจิตใจ ให้ใครต้องบริจาคเงินหรอกนะคะ เเต่ทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้า
เเละมีประโยชน์เพื่อสั่งสอนว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุงแก้ไขเเละอบรมให้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม (2ทธ 3:16) : xemo026 :


พระเจ้าอวยพรค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ อังคาร ต.ค. 28, 2008 12:30 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

อังคาร ต.ค. 28, 2008 8:56 am

ด้วยความรู้ที่มีอยุ่น้อยนิดของผมเข้าใจว่า ประเทศที่ชอบล่าอาณานิคม เขานับถือศาสนาคริสติมิใช่เหรอครับ
ประเทศที่ประชาชนกว่าร้อยละ40% เชื่อว่าพระเจ้าสรางโลก (ประเทศสหรัฐอเมริกา) มิใช่หรอกหรือครับที่ทำสงครามกับอิรัก เหตุผลเพราะหวังน้ำมันโดยกล่าวหาว่าเขามีอาวุธร้ายแรง แต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ
มันก็ไม่ได้แปลว่า เขาไปทำแบบนั้น เขาจะไม่บาป เพราะว่าประเทศเขานับถือคริสต์นี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
bb_z
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 29, 2008 1:58 pm

อังคาร ต.ค. 28, 2008 4:23 pm

แต่ก็ยังคิดว่า ฉันรวยไม่พอ...ฉันจะรวยกว่านี้อีก.....(ตีความจากข้อความนี้ "แต่เขายังไม่รู้สึกว่าพอดีแล้ว")
ความรู้สึกนี้เเหล่ะ เเถวบ้านเรียกว่า โลภ
แล้วแค่ไหนถึงเรียกว่าไม่โลภ(พอดีแล้ว) เอาไรมาเป็นเกณฑ์ครับ (ไม่มี) มันขึ้นอยุ่กับแต่ละคนนะครับ สมมุติ คนทั่วโลกบอกว่า นาย ก. เป็นมหาเศรษฐี แต่นายก็ไม่เคยบริจาค เพราะเขาต้องการสิ่งต่างๆนานา เพื่อความสุขส่วนตนอยู่เรื่อยๆ และเขามีความคิดว่าเงินที่เขาหามาได้ เขาจะเก็บไว้ให้ลูกให้หลานเขา เพื่อวันข้างหน้าลูกหลานเขาจะได้ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องรอให้ใครมาบริจาค

อย่างงี้เขาสมควรบาปไหมครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

อังคาร ต.ค. 28, 2008 9:16 pm

bb_z เขียน:
แต่ก็ยังคิดว่า ฉันรวยไม่พอ...ฉันจะรวยกว่านี้อีก.....(ตีความจากข้อความนี้ "แต่เขายังไม่รู้สึกว่าพอดีแล้ว")
ความรู้สึกนี้เเหล่ะ เเถวบ้านเรียกว่า โลภ
แล้วแค่ไหนถึงเรียกว่าไม่โลภ(พอดีแล้ว) เอาไรมาเป็นเกณฑ์ครับ (ไม่มี) มันขึ้นอยุ่กับแต่ละคนนะครับ สมมุติ คนทั่วโลกบอกว่า นาย ก. เป็นมหาเศรษฐี แต่นายก็ไม่เคยบริจาค เพราะเขาต้องการสิ่งต่างๆนานา เพื่อความสุขส่วนตนอยู่เรื่อยๆ และเขามีความคิดว่าเงินที่เขาหามาได้ เขาจะเก็บไว้ให้ลูกให้หลานเขา เพื่อวันข้างหน้าลูกหลานเขาจะได้ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องรอให้ใครมาบริจาค

อย่างงี้เขาสมควรบาปไหมครับ
ก็เพราะเขาต้องการสิ่งต่างๆ นานา เพื่อความสุขส่วนตน... เห็นได้ชัดเลย ความสุขส่วนตน พระเยซูเจ้าก็สอนเราแล้วว่าสุขที่แท้จริงคือการได้ให้ เขาอาจไม่บาปตรงนี้ แต่ว่า ถ้าเรื่อยๆ ล่ะ โดยไม่ทำทานช่วยเหลือใครเลย คำว่าเรื่อยๆ อยากได้เรื่อยๆ นี่แหล่ะครับ โลภ กับ ตัณหา

เขามีความคิดว่าเงินเขาหามาได้ จะเก็บไว้ให้ลูกหลาน เพื่อลูกหลานจะได้ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องรอให้ใครมาบริจาค - พระเยซูเจ้าลงมาบังเกิดก็ไม่ได้สุขสบายนะครับอย่าลืม ให้ลองดูอุปมาเรื่องเศรษฐีกับลาซารัส แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่เขาอยู่สุขสบายเพราะมรดกเยอะ จะบาป แต่ว่า ถ้าเขาไม่รู้จักให้ มัวแต่จะเก็บๆ ไว้ อยู่ดีๆ วันหนึ่งบ้านบึ้มตายทั้งบ้าน เงินล่ะ?

ถ้าสมมติว่าโลกเรารวยหมด แต่ละคนใช้แต่ของของตน โดยไม่นึกถึงใครเลย คนเราจะเห็นแก่ตัวขนาดไหน? (ผมไม่ได้ฟันธง คิดเอาเองว่าขนาดไหน) แล้วการที่ทุกคนมีพอแล้ว ไม่มีใครรวยไม่มีใครจน ไม่มีใครทำทาน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรักจะกำเนิดได้อย่างไร (คิดเอาเองอีกเช่นกัน)

คำตอบของคำถามของคุณ หาได้ในพระคัมภีร์ครับ ลองเปิดอ่านดูนะ
Dis volentibus

อังคาร ต.ค. 28, 2008 11:15 pm

bb_z เขียน:
แล้วแค่ไหนถึงเรียกว่าไม่โลภ(พอดีแล้ว) เอาไรมาเป็นเกณฑ์ครับ (ไม่มี) มันขึ้นอยุ่กับแต่ละคนนะครับ สมมุติ คนทั่วโลกบอกว่า นาย ก. เป็นมหาเศรษฐี แต่นายก็ไม่เคยบริจาค เพราะเขาต้องการสิ่งต่างๆนานา เพื่อความสุขส่วนตนอยู่เรื่อยๆ และเขามีความคิดว่าเงินที่เขาหามาได้ เขาจะเก็บไว้ให้ลูกให้หลานเขา เพื่อวันข้างหน้าลูกหลานเขาจะได้ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องรอให้ใครมาบริจาค

อย่างงี้เขาสมควรบาปไหมครับ

เอา พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เป็นเกณฑ์ค่ะ

1. โลภ
ความหมาย

น. ความอยากได้ไม่รู้จักพอ. (ป., ส.).

อาการของนาย ก. ที่เกี่ยวข้อง
- "เพราะเขาต้องการสิ่งต่างๆนานา เพื่อความสุขส่วนตนอยู่เรื่อยๆ "
- "แต่เขายังไม่รู้สึกว่าพอดีแล้ว"


2. ตระหนี่
ความหมาย

[ตฺระหฺนี่] ว. หวงไม่อยากให้ง่าย ๆ เช่น ตระหนี่ทรัพย์ ตระหนี่ความรู้.

3. หวง
ความหมาย

ก. ไม่อยากให้, สงวนไว้, กันไว้

อาการของนาย ก. ที่เกี่ยวข้อง
- "แต่นายก็ไม่เคยบริจาค "
- "เขาจึงไม่บริจาค "


ถ้าเป็นคนใจดี บริจาคคนอื่นซัก 5 บาท ก็ยังดีค่ะ....บริจาค 5 บาท คงไม่ถึงกับทำให้ชีวิตลูกหลานตนเองต้องตกอับหรอกนะคะ  :azn:
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ อังคาร ต.ค. 28, 2008 11:18 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
bb_z
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 29, 2008 1:58 pm

พุธ ต.ค. 29, 2008 2:14 am

เขามีความคิดว่าเงินเขาหามาได้ จะเก็บไว้ให้ลูกหลาน เพื่อลูกหลานจะได้ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องรอให้ใครมาบริจาค - พระเยซูเจ้าลงมาบังเกิดก็ไม่ได้สุขสบายนะครับอย่าลืม ให้ลองดูอุปมาเรื่องเศรษฐีกับลาซารัส แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่เขาอยู่สุขสบายเพราะมรดกเยอะ จะบาป แต่ว่า ถ้าเขาไม่รู้จักให้ มัวแต่จะเก็บๆ ไว้ อยู่ดีๆ วันหนึ่งบ้านบึ้มตายทั้งบ้าน เงินล่ะ?
มันยุติธรรมเหรอครับ กว่าที่คนคนหนึ่งจะสร้างเนื้อสร้างตัวได้ แล้วมีความคิดอยากเก็บเงินที่ตัวเองหามาได้ให้ลูกให้หลานใช้ ลูกหลานจะได้ไม่ลำบาก
หรือให้เขาเอาเงินที่หามาทั้งชีวิต บริจาค เหลือไว้ใช้พอตัวเอง
ลูกหลานเกิดมาให้มาดิ้นรนเอาเองไม่ต่างไรกับลูกหลานของขอทาน(สมมุตินะครับ)


ถึงคุณ †Ecclēsia

ช่วยดูพจนารุกรมให้ทีครับ ว่าคำว่า แค่ไหน ถึงเรียกว่า "พอ"
Dis volentibus

พุธ ต.ค. 29, 2008 4:08 am

ภาษาอังกฤษอธิบายได้เข้าใจมากกว่า

คำว่าพอ...
- enough (adv.)
to the degree that is necessary or wanted....

- moderately (adv.)
in a way which is not extreme or stays within reasonable limits. (ชัดเจนนะคะ)


ในกรณีของบาปหนักข้อที่คุณสงสัย "รวยเกินความจำเป็น"  (ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดรีพลายตามหลังมาอีกมากมายนั้น)
ภาษาอังกฤษนอกจาก "Accumulating excessive wealth" เเล้ว ยังเขียนได้อีกว่า "the obscenely rich"

The obscenely rich

- Obscene (adj.)
extremely unfair, immoral or unpleasant...

+ immoral (adj) = morally wrong

Ex.  It's immoral to be rich while people are starving and homeless. (ตัวอย่างเขาได้ใจมาก)

ข้อสังเกต :ดิคเล่มนี้พิมพ์ออกมาก่อนที่พระสันตะปาปาจะประกาศให้อาการ "รวยเกินความจำเป็น" เป็นบาปซะอีกนะคะ
จากตัวอย่างตะกี้ เเสดงว่าสังคมทั่วไป(รวมถึงคนเขียนหนังสือ) ได้ยอมรับมาก่อนเเล้วว่า การที่รวย ขณะที่คนอื่นเขายากลำบาก นั้นผิดศีลธรรม

อ้างอิง :Longman Exams Dictionary

ลองเปรียบเทียบดูเองเเล้วกันนะคะ ว่ามหาเศรษฐีที่คุณสมมติขึ้นมานั้น เข้าข่ายหรือเปล่า 

เเต่"พอ" สำหรับข้าพเจ้าเเล้วเเหล่ะค่ะ...เกิดขอบเขตเนื้อหาของกระทู้นี้มาพักนึงเเล้ว  That's enough for me...
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ พุธ ต.ค. 29, 2008 5:24 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ ต.ค. 29, 2008 5:43 am

เรื่องบาปหนักสมัยใหม่เนี่ย  คนที่จะเถียงได้  ความรู้พื้นฐานทางเทววิทยาต้องมีมากกว่านี้นะคะ  จะได้รู้ว่า  เค้าคิดอะไรกัน  มีพื้นฐานความคิดมาจากไหน เพราะความคิดที่ออกมาค่อนข้างลึกซึ้ง  และที่สำคัญ  ต้องรู้นิยามพื้นฐานของคำว่า  "บาป" ก่อน  ไม่งั้นคุยกันคนละเรื่องเลย
ตอบกลับโพส