++ นิมิต และ ความฝัน สารถึงพวกเรา ++

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Alatariel

พุธ ม.ค. 26, 2005 8:52 pm

เอาความฝันแรกมาลงแล้วนะ อันนี้ดีที่เซฟเก็บไว้

ความฝันแรกที่เราจำได้ดี เพราะช่วงนั้น
เราคิดนู้นคิดนี้เยอะแยะมากกกก
ประมาณว่ามีเรื่องน้อยใจมากค่ะ น้อยใจ จิง ด้วย จำได้ๆ :P
จีนเป็นคนเครียดมากเป็นทุนอยู่แล้ว แล้วก็เหมือนไม่มีที่พึ่งเลย
ทำอะไรก็ดูเหมือนจะทำคนเดียวซะหมดเลยท้ออะค่ะ

แต่ว่าก็ไม่ถึงกลับคิดสั้น แค่คิดไม่ตกก็เท่านั้น ร้องไห้เกือบทุกวัน
เอ๊ะ!! หรือทุกวันจำไม่ค่อยได้อะ
ช่วงนั้นก็มีงานที่ต้องไปทำที่ต่างจังหวัดมากด้วย
แล้วคืนนึงจีนก็ฝัน ในความฝันของจีนนั้นมีจิงอยู่ด้วยนะ

จิงชวนจีนไปเรียนพิเศษเป็นเพื่อนกัน พอเข้าไปไหนชั้นเรียน จีนได้นั่งข้างหลังจิง
แต่มีคนมานั่งคั่นไว้คนนึง พอไม่นาน คลาสก็เริ่ม แล้ว Sister เดินเข้ามา

ตอนที่จีนเห็น Sister คนนั้น จีนเกิดความสงสัยมาก
เพราะว่าไม่เหมือน Sister ที่จีนเห็นในกรุงเทพฯ
sister ผู้นี้ไม่ใช้ผู้หญิงที่สวยงาม แต่น่าเคารพ
จีนเห็นด้านหน้าไม่ถนัด แต่เห็นด้านข้างได้ชัด
Sister ผู้นี้ไม่มีดั้งจมูก บอกได้ว่าเป็นคนอีสานเลยค่ะ
จีนก็คิดอยู่ว่าที่ภาคอีสาน มีคนนับถือศาสนาคริสต์ด้วยเหรอ
ได้แต่คิดเพราะจีนไม่รู้อะไรเลย

พอ Sister ยืนประจำหน้าชั้นเรียน ทุกคนในห้องก็ใส่เสื้อคลุมสีฟ้า
จีนกับคนข้างหลังไม่มีเสื้อคลุมก็ไม่รู้จะทำไง แล้วทุกคนก็เริ่มสวด
หลังจากสวดเสร็จ Sister ก็สั่งให้ทุกคนในห้องต้องถอดเสื้อคลุมก่อนเริ่มเรียนกัน
ใครไม่ถอดเสื้อคลุมไม่ได้นะ ต้องถอดทุกคนแล้วก็เลือบมองมาทางจีน

เอาล่ะสิ จีนไม่มีเสื้อคลุม คนข้างหลังก็เหมือนกัน เขาสะกิดถามจีน
จีนก็ได้แต่บอกว่าจะถามเพื่อนให้ จีนกระวนกระวายใจตะโกนถามจิงทันที
(แบบไม่มีเสียงทำปากเอาอะค่ะ) "เฮ้ยจิง แกไม่เห็นบอกเลยว่าต้องใส่เสื้อคลุม"
จิงก็ตอบกลับมาทันที "บอกไปแล้วไง แกไม่มีเสื้อคลุมเหรอ" จีนว่า "ไม่มีอะสิ"
จิงตอบต่อ "งั้นแกก็ถอดเสื้อชั้นนอก แกออกก็ได้แล้ว ข้างในแกก็ใส่สีขาวเหมือนกัน"

จีนก็งงอยู่สักพักเพราะตอนแรกจีนว่าจีนไม่ได้ใส่เสื้อสีขาวแต่พอจิงบอก จีนถึงเห็นว่า
เอ๊ะ นี้เราใส่เสื้อแขนยาวสีขาวไว้ข้างในจริงๆด้วย คนข้างหลังก็เหมือนกัน
จีนเลยแนะนำคนข้างหลังในถอดเสื้อนอกออก
จนเราเหลือแต่เสื้อสีขาว จึงนั่งเรียนตามปกติ

จากนั้น Sister ก็บอกว่าเราจะมาดูปาฏิหาริย์ของแม่พระกัน

ที่จอมอนิเตอร์มีภาพที่ฉายให้เห็น รูปปั้นแม่พระองค์ใหญ่
ใหญ่มากๆสูงประมาณตึก 4ชั้นได้
ผู้คนที่ไปสักการะเยอะแยะเห็นเหลือตัวเท่ามด
แม่พระในหน้าจอกำลังเคลื่อนไหว
แม่พระพนมมือแล้วกางออกพร้อมโค้งเหมือนรับคำพูด
ภาพฉายใกล้เข้าไป จีนสังเกตและก็คิดว่านี้มันปาฏิหาริย์จริงๆ
รูปปั้นไม่มีข้อต่ออะไรเลย ทำไมโค้งได้ด้วยไม่มีกลไก แต่โค้งรับได้ด้วย

ต่อจากที่จีนอึ้งไม่นาน จีนก็ตื่น ฝันครั้งนั้นจีนก็คิดว่าแปลกมาก จีนไม่น่าฝันแบบนั้นนี่น่า
จีนไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง ไม่ว่าจะจิงหรือพี่ปอ เพราะจีนกลัวว่าจะเป็นการลบลู่หรือเปล่า ที่ฝันแบบนี้
แต่ก็ไม่น่าใช่ การโค้งของแม่ไม่ได้โค้งคำนับ แต่เป็นโค้งแบบรับฟังการสวดภาวนาของฝูงคน
จีนลองเล่าให้พี่กาญ (ที่บ้านจิง)ฟังพี่กาญว่า แม่อาจจะรู้ว่าจีนมีทุกข์ไม่มีที่จะระบายหรือพูดคุยด้วย
เลยอยากให้จีนคุยกับแม่หรือว่าจะขอพรแม่ก็ได้ ทันทีที่ได้ยิน จีนก็ตั้งจิตขอทันที ว่าขอให้จีนมีความกล้า
ในการแก้ปัญหาต่างๆ มีกำลังใจไม่ท้อ จีนจะพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
หลังจากนั้น จีนก็รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก คงเป็นเพราะจีนรู้สึกมีคนรับฟังจีนด้วยมั้ง
แล้วพี่กาญก็บอกให้ลองเล่าให้จิงกับพี่ปอฟัง

สุดท้ายจึงได้รู้ว่า ฝันครั้งนั้น เหมือนเป็นฝันบอกเหตุ
พอดีกับที่บริษัทมีจัดงานที่อุดรธานี พี่ปอ ม่าม้า จิงจิง จะไปแสวงบุญที่สองคอน
จีนก็ได้ติดตามไปด้วย พี่ปอว่า Sister ที่จีนเห็นอาจจะเป็นนักบุญราศีก็ได้ (เขียนถูกหรือเปล่าค่ะ)
ทันทีที่จีนตามไปโบถส์และเห็นภาพนักบุญฯ จีนก็ตะลึง ก็คนนี้เลยที่จีนเห็นในฝัน นักบุญฯ พิลา คนนี้เลยค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Alatariel เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 27, 2005 12:17 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ม.ค. 27, 2005 12:18 am

ขอแยกกระทู้ใหม่นะคะ
ใครที่เคยฝันเกี่ยวกับพระเจ้า
ฝันดี ฝันที่น่ารัก ฝันที่ชุบชูด้วงใจให้แช่มชื่น ฝันให้กำลังใจ
(ต้องเป็นฝันที่เกี่ยวกับพระ หรือ นักบุญ หรือมีกลิ่นอายของพระเจ้านะคะ)

เชิญมาแบ่งปันฝันร่วมกันที่นี่นะคะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 27, 2005 12:19 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nihil
~@
โพสต์: 1763
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 4:36 pm
ที่อยู่: Pax
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ม.ค. 27, 2005 3:17 am

เอาฝันเก่าๆที่บันทึกไว้ในไดอารี่มาลงก่อนนะครับ

อันนี้ฝันวันที่ 9 เดือน เมษายน ปี 04 เวลาประมาณเช้าตรู่


เริ่มฝันด้วยการเห็นยานอวกาศบินออกจากโลกไป ผมเห็นภาพในยานอวกาศ
และเห็นภาพโลก แต่ที่แปลกคือในยานอวกาศที่มีนักบินอยู่นั้น มีพระเยซูเจ้าประทับอยู่ในยานด้วย พระองค์เฝ้ามองดูยานและนักบินในนั้น

จากนั้นผมไปโผล่ที่โบสถ์ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่และกว้างมาก มีผู้คนอยู่เต็มไปหมด แต่กว่าครึ่งเป็นคนที่เจ็บป่วยและไม่สบาย บ้างก็นั่งกับพื้น บ้างก็นอนเปลร้องโอดครวญด้วยความทรมานเต็มไปหมด จนดูเหมือนโรงพยาบาลมากกว่าโบสถ์ กลางโบสถ์นั้นมีพระเยซูประทับอยู่ แต่พระองคืกลับยืนอยู่เพียงลำพัง รอบๆพระองค์ไม่มีใครเข้าไปหาเลย จนกระทั่งมีคนป่วยคนหนึ่งร้องเจ็บปวดเสียงดังมาก เขาพยายามเดินไปพร้อมร้องเจ็บปวดไปด้วย ทันใดนั้นเองร่างกายของเขาค่อยๆกลายเป็นเด็กไป แบบเป็นเด็กตัวเล็กๆเลยอะครับ แล้วเขาก็วิ่งไปหาพระเยซูตรงกลางโบสถ์ พระองค์ยิ้มให้เด็กคนนั้น ปรกมือให้เขาแล้วเด็กคนนั้นก็ยิ้มอย่างร่าเริงและหายไม่สบายแล้ว
เหมือนพระองค์รักษาให้เขา


อันแรกพี่ปอตีความออกมาเรื่องพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่เป็นเจ้าแห่งจักรวาล แม้เรื่องการไปเหยียบดวงจันทร์หรือไปนอกโลกได้นั่นก็เพราะพระองค์อนุญาติถึงเกิดขึ้นได้ หาใช่เพราะความยิ่งใหญ่ของมนุษย์เลย แม้จะนอกโลกในจักรวาลก็ยังอยู่ในความคุ้มครองและพระหัคถ์ของพระองค์

ส่วนอีกอันผมว่าเหมือนกับว่าคนเราเจ็บป่วย และ ประสบทุกข์มากมายจากบาปและสิ่งต่างๆ แต่กลับไม่มีใครหาการบรรเทาหรือการรักษาจากพระเยซูเลย และการจะเข้าหาพระเยซูต้องมีหัวใจเยี่ยงเด็กเล็กๆที่บริสุทธิ์เช่นนั้นในการไปหาพระองค์ แล้ว พระองค์จะทรงบรรเทารักษาปลอบประโลมให้เรา

ก็ตีความมาได้แบบนี้อะครับ *ok
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. ม.ค. 27, 2005 10:09 pm

จริงทีเดียว หลายๆคน ไม่ยอมหันมาหาพระเจ้า แม้ตัวเองจะทุกข์สาหัส เพียงเพราะกลัวจะโดนหาว่างมงาย กลัวโดนหาว่าโง่ แต่เด็กเล็กๆ เขาไม่คิดสิ่งใดนอกจากความเชื่อใจในพ่อแม่อย่างบริสุทธิ์ใจ และวิ่งเข้าหาความช่วยเหลือดังนั้นเขาจึงได้รับ

คนหลายๆคน ก็เถียงไม่ออก เมื่อโดนคำถามว่าวิญญาณของเรามาจากไหน ผู้ที่ให้กำเนิดวิญญาณของเรา จะไม่รักเราหรือ แต่กระนั้นพวกเขาแม้จะยอมรับว่าพระเจ้ามีจริง แต่หลายๆคน กลับยังไม่ยอมหันมาพึ่งพระองค์ เพราะกลัวแต่จะโง่ กลัวแต่จะไม่วิทยาศาสตร์ และนั่นทำให้ความทุกข์ของเขา ไม่ได้หายไปไหนเลย
spirit

ศุกร์ ม.ค. 28, 2005 1:10 am

Holy เขียน: จริงทีเดียว หลายๆคน ไม่ยอมหันมาหาพระเจ้า แม้ตัวเองจะทุกข์สาหัส เพียงเพราะกลัวจะโดนหาว่างมงาย กลัวโดนหาว่าโง่ แต่เด็กเล็กๆ เขาไม่คิดสิ่งใดนอกจากความเชื่อใจในพ่อแม่อย่างบริสุทธิ์ใจ และวิ่งเข้าหาความช่วยเหลือดังนั้นเขาจึงได้รับ

คนหลายๆคน ก็เถียงไม่ออก เมื่อโดนคำถามว่าวิญญาณของเรามาจากไหน ผู้ที่ให้กำเนิดวิญญาณของเรา จะไม่รักเราหรือ แต่กระนั้นพวกเขาแม้จะยอมรับว่าพระเจ้ามีจริง แต่หลายๆคน กลับยังไม่ยอมหันมาพึ่งพระองค์ เพราะกลัวแต่จะโง่ กลัวแต่จะไม่วิทยาศาสตร์ และนั่นทำให้ความทุกข์ของเขา ไม่ได้หายไปไหนเลย
โดนคะโดน :'( :'(
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 5:21 pm

Holy เขียน: จริงทีเดียว หลายๆคน ไม่ยอมหันมาหาพระเจ้า แม้ตัวเองจะทุกข์สาหัส เพียงเพราะกลัวจะโดนหาว่างมงาย กลัวโดนหาว่าโง่ แต่เด็กเล็กๆ เขาไม่คิดสิ่งใดนอกจากความเชื่อใจในพ่อแม่อย่างบริสุทธิ์ใจ และวิ่งเข้าหาความช่วยเหลือดังนั้นเขาจึงได้รับ

คนหลายๆคน ก็เถียงไม่ออก เมื่อโดนคำถามว่าวิญญาณของเรามาจากไหน ผู้ที่ให้กำเนิดวิญญาณของเรา จะไม่รักเราหรือ แต่กระนั้นพวกเขาแม้จะยอมรับว่าพระเจ้ามีจริง แต่หลายๆคน กลับยังไม่ยอมหันมาพึ่งพระองค์ เพราะกลัวแต่จะโง่ กลัวแต่จะไม่วิทยาศาสตร์ และนั่นทำให้ความทุกข์ของเขา ไม่ได้หายไปไหนเลย
เยื่ยมครับ
ตอบกลับโพส