ทุกอย่างในชีวิต พระเจ้าอนุญาติให้เกิดกับเราจริงหรอ ถามข้อเชื่อคาทอลิกครับ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ทุกอย่างในชีวิต พระเจ้าอนุญาติให้เกิดกับเราจริงหรอ
เอาแบบชัดๆก็เช่น เราถูกข่มขืน(ไม่ใช่หมายถึงผมน่ะ ถ้าใช่คง...ฉีก -*- ) เราถูกปล้น เราถูกแทง
คือ ตอนนี้ ประมาณว่า เจอบางกลุ่มคำสอนในศาสนาคริสต์เนี่ยล่ะ กล่าวไว้ประมาณนั้น
ทำให้ งงไปใหญ่เลย
จริงๆพระคัมภีร์ก็กล่าวถึงพระเจ้าว่ากำหนดทุกอย่างไว้แล้ว
แต่..มันก็แปลกๆ ไม่น่าใช่
เอาจริงๆแล้วยังไงหรอครับ เหอๆๆๆ
ขอความกระจ่างที ทำไมถึงมีแนวความเชื่อหลุดออกมาอย่างนั้นอ่ะ เหอๆๆๆๆๆ
เอาแบบชัดๆก็เช่น เราถูกข่มขืน(ไม่ใช่หมายถึงผมน่ะ ถ้าใช่คง...ฉีก -*- ) เราถูกปล้น เราถูกแทง
คือ ตอนนี้ ประมาณว่า เจอบางกลุ่มคำสอนในศาสนาคริสต์เนี่ยล่ะ กล่าวไว้ประมาณนั้น
ทำให้ งงไปใหญ่เลย
จริงๆพระคัมภีร์ก็กล่าวถึงพระเจ้าว่ากำหนดทุกอย่างไว้แล้ว
แต่..มันก็แปลกๆ ไม่น่าใช่
เอาจริงๆแล้วยังไงหรอครับ เหอๆๆๆ
ขอความกระจ่างที ทำไมถึงมีแนวความเชื่อหลุดออกมาอย่างนั้นอ่ะ เหอๆๆๆๆๆ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
คาทอลิกเชื่อว่าพระองค์ทรงยอมให้เกิดขึ้น เพราะว่าทรงมีแผนการเตรียมไว้ครับ
เราไม่สามารถรู้ได้ครับ ว่าแผนการของพระคืออะไรครับ แต่สามารถเชื่อได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ
เราไม่สามารถรู้ได้ครับ ว่าแผนการของพระคืออะไรครับ แต่สามารถเชื่อได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ
พระเจ้าทรงให้กำเนิดโลก ใช้เวลาหกวันในการ วันที่เจ็ดทรงพักผ่อน และเป็นพระเจ้าองค์เดียวกันที่นําวารีมาท่วมโลกในสมัยโนอาร์ เป็นพระเจ้าองค์เดียวกันที่ทรงให้พันทสัญยาแก่อับรามและตั้งชื่อให้ใหมม่ว่าอับราฮัม เป็นพระเจ้าองค์เดียวกันที่นำคนของพระองค์มาจากอียิป เป็นพระเจ้าองค์เดียวกันที่ทรงเนรเทศอิสราเอวให้ไปเป็นทาสที่บาบีโลน และเปนพระองค์ที่นำเขาเหล่านั้นกลับมายังแผ่นดินพันธสัญญา
และเป็นพระองค์ที่ส่งพระบุตรลงมาเพื่อถูกตรึงกางเขนเพื่อเราคนบาป ให้เราพ้นจากบาป ในเรื่องราวของโยบนั้น โยบทนทุกข์ที่ถือว่ามนุษย์ทุกคนทนได้ยาก และสาหัสที่สุด เสียบุตร เสียทรัพย์และเกื่อบเสียชีวิต และที่สำคัญคือเขาเกือบเสียศรัทธา จนพระเจ้าได้ทรงกอบกู้เขาจากสิ่งเหล่านั้น ทั้งนี้เพราะในเรื่องของโยบปีศาจได้ขอพระในการทนลองเขา
แต่เราคริสชนต้องเจอมากกว่าโยบ เราอาจได้ยินมาว่า พระเจ้าประทานสิ่งดีงามเสมอ แต่เราอย่าลืมว่าคริสชนต้องอดทนต่อความลำบากและอุปสรรคในชีวิต ความเป็นจริงคือโลกเรานั้นมีทั้งสิ่งที่ดีและเลว(เหตุจากบาปที่เราก่อขึ้น) เราต้องแบกกางเขนของเราทุกวัน ตามพระอาจารย์เจ้า บางครั้งเราอาจล้มแต่จงแน่ใจว่าพระมีแผนการสำหรับเราเสมอ คำพุดนี้อาจได้ยินจนคุ้นหู แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจแล้วมันมีค่าประเสริฐมากไม่ใช้เพียงแค่คำปลอบประโลท เป็นความจริงในชีวิตของผม
พระอนุญาติให้เกิดขึ้นในชีวิตขงเราทุกคน เพื่อให้เราเลือกระหว่างสาปแช่งพระและจมอยู่ตรงนั้นหรือ มองดูกางเขนของพระแล้วลุกขึ้นไม่ย่อท่อเดินต่อในความมั่นคง ผมขอสรุปไว้สั้นคือ เราคริสชนเป็นการดำเนินชีวิตที่ยอมรับกางเขนและเดินไปสู่พระราชัยบนทางของขวากหนามไม่ใช้กุหลาบ ให้เราเชื่อในพระเถิด และวเราจะพบว่าสุดท้ายพระรักเราเสมอ
พระอวยพระพรครับ
และเป็นพระองค์ที่ส่งพระบุตรลงมาเพื่อถูกตรึงกางเขนเพื่อเราคนบาป ให้เราพ้นจากบาป ในเรื่องราวของโยบนั้น โยบทนทุกข์ที่ถือว่ามนุษย์ทุกคนทนได้ยาก และสาหัสที่สุด เสียบุตร เสียทรัพย์และเกื่อบเสียชีวิต และที่สำคัญคือเขาเกือบเสียศรัทธา จนพระเจ้าได้ทรงกอบกู้เขาจากสิ่งเหล่านั้น ทั้งนี้เพราะในเรื่องของโยบปีศาจได้ขอพระในการทนลองเขา
แต่เราคริสชนต้องเจอมากกว่าโยบ เราอาจได้ยินมาว่า พระเจ้าประทานสิ่งดีงามเสมอ แต่เราอย่าลืมว่าคริสชนต้องอดทนต่อความลำบากและอุปสรรคในชีวิต ความเป็นจริงคือโลกเรานั้นมีทั้งสิ่งที่ดีและเลว(เหตุจากบาปที่เราก่อขึ้น) เราต้องแบกกางเขนของเราทุกวัน ตามพระอาจารย์เจ้า บางครั้งเราอาจล้มแต่จงแน่ใจว่าพระมีแผนการสำหรับเราเสมอ คำพุดนี้อาจได้ยินจนคุ้นหู แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจแล้วมันมีค่าประเสริฐมากไม่ใช้เพียงแค่คำปลอบประโลท เป็นความจริงในชีวิตของผม
พระอนุญาติให้เกิดขึ้นในชีวิตขงเราทุกคน เพื่อให้เราเลือกระหว่างสาปแช่งพระและจมอยู่ตรงนั้นหรือ มองดูกางเขนของพระแล้วลุกขึ้นไม่ย่อท่อเดินต่อในความมั่นคง ผมขอสรุปไว้สั้นคือ เราคริสชนเป็นการดำเนินชีวิตที่ยอมรับกางเขนและเดินไปสู่พระราชัยบนทางของขวากหนามไม่ใช้กุหลาบ ให้เราเชื่อในพระเถิด และวเราจะพบว่าสุดท้ายพระรักเราเสมอ
พระอวยพระพรครับ
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
ถ้าพรุ่งนี้ผมไปคณะฯ เรียนๆอยู่แล้วช้อคตายคาห้องแลคเชอร์
ก็...ไม่เป็นไรครับ
เพราะพระกำหนดไว้แล้ว
ผมเลยไม่ซีเรียสไงครับ โลกนี้อะไรจะเกิดก้อเกิดครับ พรุ่งนี้ตาย ...ก้อตายครับ
ผมสนใจโลกหน้ามากกว่า
ก็...ไม่เป็นไรครับ
เพราะพระกำหนดไว้แล้ว
ผมเลยไม่ซีเรียสไงครับ โลกนี้อะไรจะเกิดก้อเกิดครับ พรุ่งนี้ตาย ...ก้อตายครับ
ผมสนใจโลกหน้ามากกว่า
คำว่า อณุญาติให้เกิดขึ้น กับ กำหนดไว้ ไม่เหมือนกันครับ
ลองอ่านอันนี้ดูเข้าใจว่าอย่างไร
รม 5:12-21 อาดัมและพระเยซูคริสตเจ้า
(12)บาปเข้ามาในโลกเพราะมนุษย์คนเดียว และความตายเข้ามาเพราะบาปฉันใด ความตายก็แพร่กระจายไปถึงมนุษย์ทุกคนเพราะทุกคนทำบาปฉันนั้น (13)ก่อนที่จะมีธรรมบัญญัติ บาปมีอยู่ในโลกแล้ว แต่เมื่อยังไม่มีธรรมบัญญัติก็ไม่นับว่าเป็นบาป (14)ถึงกระนั้น ความตายก็มีอานุภาพเหนือมนุษยชาติตั้งแต่อาดัมมาจนถึงโมเสส มีอานุภาพเหนือแม้คนที่ไม่ได้ทำบาปเหมือนกับอาดัมที่ได้ล่วงละเมิด อาดัมเป็นรูปแบบล่วงหน้าของผู้ที่จะมาในภายหลัง (15)แต่การล่วงละเมิดต่างกับของประทานให้เปล่าถ้ามวลมนุษย์ ต้องตายเพราะการล่วงละเมิดของมนุษย์คนเดียว พระหรรษทานของพระเจ้าและของประทานโดยทางพระหรรษทานจากมนุษย์คนเดียว คือพระเยซูคริสตเจ้า ก็ยิ่งสมบูรณ์ขึ้นสำหรับมวลมนุษย์ (16)ของประทานต่างกับการล่วงละเมิดของมนุษย์คนเดียวที่ทำบาป บาปของมนุษย์คนเดียวเป็นเหตุให้มนุษยชาติถูกพระเจ้าลงโทษ แต่เมื่อมนุษย์ทำบาปมากแล้ว ของประทานที่ให้เปล่านั้นกลับนำความชอบธรรมมาให้ (17)ถ้ามนุษย์คนเดียวล่วงละเมิด ทำให้ความตายมีอำนาจปกครองเหนือมนุษยชาติเพราะการล่วงละเมิดของมนุษย์คนเดียวนั้น เดชะพระเยซูคริสตเจ้าพระองค์เดียว ทุกคนที่ได้รับพระหรรษทานอย่างสมบูรณ์และความชอบธรรมเป็นของประทาน ก็ยิ่งจะมีชีวิตและมีอำนาจปกครองมากขึ้น (18)ด้วยเหตุนี้ การล่วงละเมิดของมนุษย์คนเดียวเป็นเหตุให้มนุษย์ทุกคนถูกลงโทษฉันใด กิจการชอบธรรมของมนุษย์คนเดียวก็นำความชอบธรรมที่บันดาลชีวิตมาให้มนุษย์ทุกคนฉันนั้น (19)มวลมนุษย์กลายเป็นคนบาปเพราะความไม่เชื่อฟังของมนุษย์คนเดียวฉันใด มวลมนุษย์ก็จะเป็นผู้ชอบธรรมเพราะความเชื่อฟังของมนุษย์คนเดียวฉันนั้น (20)ธรรมบัญญัติเข้ามา เพื่อการล่วงละเมิดจะได้ทวีขึ้น ที่ใดบาปทวีขึ้น ที่นั่นพระหรรษทานก็ยิ่งทวีขึ้นมากกว่า (21)ดังนี้ บาปเข้ามามีอำนาจปกครองนำความตายมาให้ฉันใด พระหรรษทานก็จะมีอำนาจปกครองโดยอาศัยความชอบธรรมนำไปสู่ชีวิตนิรันดร เดชะพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราฉันนั้น
ลองอ่านอันนี้ดูเข้าใจว่าอย่างไร
รม 5:12-21 อาดัมและพระเยซูคริสตเจ้า
(12)บาปเข้ามาในโลกเพราะมนุษย์คนเดียว และความตายเข้ามาเพราะบาปฉันใด ความตายก็แพร่กระจายไปถึงมนุษย์ทุกคนเพราะทุกคนทำบาปฉันนั้น (13)ก่อนที่จะมีธรรมบัญญัติ บาปมีอยู่ในโลกแล้ว แต่เมื่อยังไม่มีธรรมบัญญัติก็ไม่นับว่าเป็นบาป (14)ถึงกระนั้น ความตายก็มีอานุภาพเหนือมนุษยชาติตั้งแต่อาดัมมาจนถึงโมเสส มีอานุภาพเหนือแม้คนที่ไม่ได้ทำบาปเหมือนกับอาดัมที่ได้ล่วงละเมิด อาดัมเป็นรูปแบบล่วงหน้าของผู้ที่จะมาในภายหลัง (15)แต่การล่วงละเมิดต่างกับของประทานให้เปล่าถ้ามวลมนุษย์ ต้องตายเพราะการล่วงละเมิดของมนุษย์คนเดียว พระหรรษทานของพระเจ้าและของประทานโดยทางพระหรรษทานจากมนุษย์คนเดียว คือพระเยซูคริสตเจ้า ก็ยิ่งสมบูรณ์ขึ้นสำหรับมวลมนุษย์ (16)ของประทานต่างกับการล่วงละเมิดของมนุษย์คนเดียวที่ทำบาป บาปของมนุษย์คนเดียวเป็นเหตุให้มนุษยชาติถูกพระเจ้าลงโทษ แต่เมื่อมนุษย์ทำบาปมากแล้ว ของประทานที่ให้เปล่านั้นกลับนำความชอบธรรมมาให้ (17)ถ้ามนุษย์คนเดียวล่วงละเมิด ทำให้ความตายมีอำนาจปกครองเหนือมนุษยชาติเพราะการล่วงละเมิดของมนุษย์คนเดียวนั้น เดชะพระเยซูคริสตเจ้าพระองค์เดียว ทุกคนที่ได้รับพระหรรษทานอย่างสมบูรณ์และความชอบธรรมเป็นของประทาน ก็ยิ่งจะมีชีวิตและมีอำนาจปกครองมากขึ้น (18)ด้วยเหตุนี้ การล่วงละเมิดของมนุษย์คนเดียวเป็นเหตุให้มนุษย์ทุกคนถูกลงโทษฉันใด กิจการชอบธรรมของมนุษย์คนเดียวก็นำความชอบธรรมที่บันดาลชีวิตมาให้มนุษย์ทุกคนฉันนั้น (19)มวลมนุษย์กลายเป็นคนบาปเพราะความไม่เชื่อฟังของมนุษย์คนเดียวฉันใด มวลมนุษย์ก็จะเป็นผู้ชอบธรรมเพราะความเชื่อฟังของมนุษย์คนเดียวฉันนั้น (20)ธรรมบัญญัติเข้ามา เพื่อการล่วงละเมิดจะได้ทวีขึ้น ที่ใดบาปทวีขึ้น ที่นั่นพระหรรษทานก็ยิ่งทวีขึ้นมากกว่า (21)ดังนี้ บาปเข้ามามีอำนาจปกครองนำความตายมาให้ฉันใด พระหรรษทานก็จะมีอำนาจปกครองโดยอาศัยความชอบธรรมนำไปสู่ชีวิตนิรันดร เดชะพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราฉันนั้น
เจอแค่บางกลุ่มที่สอนแบบนี้เหรอครับ... ผมว่าผมเจอสอนแบบนี้ทุกกลุ่มเลยนะ
มนุษย์เรานี่ก็แปลก เวลาเจอเรื่องร้ายๆก็เอาแต่ถามพระต่อว่าพระ
"ทำไมต้องให้เกิดแบบนี้กับเราด้วย"
"มันยุติธรรมกับเรา กับเค้าแล้วหรือ"
แต่เวลาเกิดเรื่องดีๆ ไม่เห็นที่จะถามพระด้วยอะไรๆแบบนี้บ้าง
"ผมสมควรกับสิ่งดีๆแบบนี้แล้วหรือ"
"ทำไมผมไม่ถูกลงโทษเสียบ้าง"
คิดว่าตัวเองดีพอที่จะไม่ถูกทดสอบแล้วเหรอ?
ดีพอที่ควรจะได้อะไรดีๆแลวเหรอ?
มนุษย์เรานี่ก็แปลก เวลาเจอเรื่องร้ายๆก็เอาแต่ถามพระต่อว่าพระ
"ทำไมต้องให้เกิดแบบนี้กับเราด้วย"
"มันยุติธรรมกับเรา กับเค้าแล้วหรือ"
แต่เวลาเกิดเรื่องดีๆ ไม่เห็นที่จะถามพระด้วยอะไรๆแบบนี้บ้าง
"ผมสมควรกับสิ่งดีๆแบบนี้แล้วหรือ"
"ทำไมผมไม่ถูกลงโทษเสียบ้าง"
คิดว่าตัวเองดีพอที่จะไม่ถูกทดสอบแล้วเหรอ?
ดีพอที่ควรจะได้อะไรดีๆแลวเหรอ?
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
อนุญาติครับ
แต่ไม่มีการผจญอันไหนที่เกินกว่าความแข็งแรงของเราครับ(รวมถึงเหตุการ์ณร้ายๆที่เกิดกับเราด้วย) ทั้งนี้ก็เกิดขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางวิญญาณของเราทั้งสิ้นทั้งเพื่อชดเชยบาปของเรา หรือเพื่อวิญญาณในไฟชำระ พี่น้องที่เจ็บป่วยทุกข์ทรมาณอีกซีกนึงของโลกครับ
finally you will see in heaven
แต่ไม่มีการผจญอันไหนที่เกินกว่าความแข็งแรงของเราครับ(รวมถึงเหตุการ์ณร้ายๆที่เกิดกับเราด้วย) ทั้งนี้ก็เกิดขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางวิญญาณของเราทั้งสิ้นทั้งเพื่อชดเชยบาปของเรา หรือเพื่อวิญญาณในไฟชำระ พี่น้องที่เจ็บป่วยทุกข์ทรมาณอีกซีกนึงของโลกครับ
finally you will see in heaven
ขอเสริมเรื่องการทดลองต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันด้วย
จดหมายของนักบุญยากอบ::ยก 1:12-18 ผู้ที่มีมานะอดทนต่อการถูกทดลองย่อมเป็นสุข เพราะเมื่อเขาผ่านการทดลองนั้น เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาจะประทานให้ผู้ที่รักพระองค์ อย่าให้ผู้ใดที่ถูกทดลอง พูดว่า
จดหมายของนักบุญยากอบ::ยก 1:12-18 ผู้ที่มีมานะอดทนต่อการถูกทดลองย่อมเป็นสุข เพราะเมื่อเขาผ่านการทดลองนั้น เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาจะประทานให้ผู้ที่รักพระองค์ อย่าให้ผู้ใดที่ถูกทดลอง พูดว่า
พระอวยพรพี่บองๆจ้าbillabong007 เขียน: พระอวยพรทุกคนน่ะคร้าบบบบบ เมื่อวานเพิ่งคุยก่ะน้องเจนเรื่องนี้เอง ขอบใจน้องเจนด้วยน่ะ จุ๊บๆๆ
มีเขียนไว้ในหนังสือประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อที่ 58 ดังนี้
ทำไมพระเป็นเจ้าจึงทรงปล่อยให้มีความชั่วร้ายเกิดขึ้น
ความเชื่อทำให้เรามั่นใจว่า
พระเป็นเจ้าจะไม่ทรงอนุญาตให้ความชั่วร้ายเกิดขึ้น
ถ้าความชั่วร้ายนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความดี
พระเป็นเจ้าได้ทรงกระทำให้เกิดอัศจรรย์ในเหตุการณ์ของการสิ้นพระชนม์ เเละกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า
ที่จริงเเล้ว จากความชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ทางด้านศีลธรรมทั้งปวง (การประหารพระบุตรของพระองค์)
พระองค์ได้ทรงนำความดีอันยิ่งใหญ่ทุกประการออกมา (พระสิริรุ่งโรจน์เเดพระคริสตเจ้าเเละการไถ่กู้ชาวเรา)
พระเจ้ามิใช่ต้นเหตุเเห่งความร้ายเชิงจริยธรรม(เทียบ น. ออกัสติน)ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม
อย่างไรก็ดี พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้ความชั่วร้ายเกิดขึ้น โดยเคารพต่อเสรีภาพของสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา
เเละ ทรงรู้วิธีที่จะดึงความดีออกมาจากความร้ายนั้น (CCC 311)
ทำไมพระเป็นเจ้าจึงทรงปล่อยให้มีความชั่วร้ายเกิดขึ้น
ความเชื่อทำให้เรามั่นใจว่า
พระเป็นเจ้าจะไม่ทรงอนุญาตให้ความชั่วร้ายเกิดขึ้น
ถ้าความชั่วร้ายนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความดี
พระเป็นเจ้าได้ทรงกระทำให้เกิดอัศจรรย์ในเหตุการณ์ของการสิ้นพระชนม์ เเละกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า
ที่จริงเเล้ว จากความชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ทางด้านศีลธรรมทั้งปวง (การประหารพระบุตรของพระองค์)
พระองค์ได้ทรงนำความดีอันยิ่งใหญ่ทุกประการออกมา (พระสิริรุ่งโรจน์เเดพระคริสตเจ้าเเละการไถ่กู้ชาวเรา)
พระเจ้ามิใช่ต้นเหตุเเห่งความร้ายเชิงจริยธรรม(เทียบ น. ออกัสติน)ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม
อย่างไรก็ดี พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้ความชั่วร้ายเกิดขึ้น โดยเคารพต่อเสรีภาพของสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา
เเละ ทรงรู้วิธีที่จะดึงความดีออกมาจากความร้ายนั้น (CCC 311)
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ พุธ พ.ย. 12, 2008 2:54 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อิอิ...ใจตรงกันจัง..พี่กะจะเอามาลงพอดี...ข้อเดียวกันอีกต่างหาก..†Ecclēsia เขียน: มีเขียนไว้ในหนังสือประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อที่ 58 ดังนี้
ทำไมพระเป็นเจ้าจึงทรงปล่อยให้มีความชั่วร้ายเกิดขึ้น
ความเชื่อทำให้เรามั่นใจว่า
พระเป็นเจ้าจะไม่ทรงอนุญาตให้ความชั่วร้ายเกิดขึ้น
ถ้าความชั่วร้ายนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความดี
พระเป็นเจ้าได้ทรงกระทำให้เกิดอัศจรรย์ในเหตุการณ์ของการสิ้นพระชนม์ เเละกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า
ที่จริงเเล้ว จากความชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ทางด้านศีลธรรมทั้งปวง (การประหารพระบุตรของพระองค์)
พระองค์ได้ทรงนำความดีอันยิ่งใหญ่ทุกประการออกมา (พระสิริรุ่งโรจน์เเดพระคริสตเจ้าเเละการไถ่กู้ชาวเรา)
พระเจ้ามิใช่ต้นเหตุเเห่งความร้ายเชิงจริยธรรม(เทียบ น. ออกัสติน)ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม
อย่างไรก็ดี พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้ความชั่วร้ายเกิดขึ้น โดยเคารพต่อเสรีภาพของสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา
เเละ ทรงรู้วิธีที่จะดึงความดีออกมาจากความร้ายนั้น (CCC 311)
น้องเจนก็ลงให้ก่อน..ขอบคุณนะจ๊ะ
ดีจังพี่ไม่ต้องพิมพ์เอง
จิตใจตรงกัน ผูกพันรักใหม่ignatius เขียน: อิอิ...ใจตรงกันจัง..พี่กะจะเอามาลงพอดี...ข้อเดียวกันอีกต่างหาก..
น้องเจนก็ลงให้ก่อน..ขอบคุณนะจ๊ะ
ดีจังพี่ไม่ต้องพิมพ์เอง
ป.ล. พระเป็นเจ้าประสงค์ให้ข้าน้อย พลีกรรมเเทนพี่โอ๋น่ะเจ้าค่ะ
จ๊ะ..ขอบคุณมาก งั้นพี่จะสวดภาวนาให้น้องเจนเสมอๆนะ...†Ecclēsia เขียน:จิตใจตรงกัน ผูกพันรักใหม่ignatius เขียน: อิอิ...ใจตรงกันจัง..พี่กะจะเอามาลงพอดี...ข้อเดียวกันอีกต่างหาก..
น้องเจนก็ลงให้ก่อน..ขอบคุณนะจ๊ะ
ดีจังพี่ไม่ต้องพิมพ์เอง
ป.ล. พระเป็นเจ้าประสงค์ให้ข้าน้อย พลีกรรมเเทนพี่โอ๋น่ะเจ้าค่ะ
ขอบพระคุณมากมายเจ้าค่ะignatius เขียน: จ๊ะ..ขอบคุณมาก งั้นพี่จะสวดภาวนาให้น้องเจนเสมอๆนะ...
ป.ล. เจอกันในคำภาวนา
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์
ถ้าทำความดีเเล้วความชั่วมันก็ไม่ก้าวกายเราหรอกครับ
ถามในใจว่าคุณจะเป็นคนเเบบไหนเหรียญมีสองด้าน
หัวก้อย s=saint s=satan
God Bless you..
ถ้าทำความดีเเล้วความชั่วมันก็ไม่ก้าวกายเราหรอกครับ
ถามในใจว่าคุณจะเป็นคนเเบบไหนเหรียญมีสองด้าน
หัวก้อย s=saint s=satan
God Bless you..
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
นั่นล่ะ อันนี้ตอบตรงประเด็น และก็ขอบคุณน้องเจนมากที่ช่วยหาแหล่งที่มาให้†Ecclēsia เขียน: มีเขียนไว้ในหนังสือประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อที่ 58 ดังนี้
ทำไมพระเป็นเจ้าจึงทรงปล่อยให้มีความชั่วร้ายเกิดขึ้น
ความเชื่อทำให้เรามั่นใจว่า
พระเป็นเจ้าจะไม่ทรงอนุญาตให้ความชั่วร้ายเกิดขึ้น
ถ้าความชั่วร้ายนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความดี
พระเป็นเจ้าได้ทรงกระทำให้เกิดอัศจรรย์ในเหตุการณ์ของการสิ้นพระชนม์ เเละกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า
ที่จริงเเล้ว จากความชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ทางด้านศีลธรรมทั้งปวง (การประหารพระบุตรของพระองค์)
พระองค์ได้ทรงนำความดีอันยิ่งใหญ่ทุกประการออกมา (พระสิริรุ่งโรจน์เเดพระคริสตเจ้าเเละการไถ่กู้ชาวเรา)
พระเจ้ามิใช่ต้นเหตุเเห่งความร้ายเชิงจริยธรรม(เทียบ น. ออกัสติน)ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม
อย่างไรก็ดี พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้ความชั่วร้ายเกิดขึ้น โดยเคารพต่อเสรีภาพของสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา
เเละ ทรงรู้วิธีที่จะดึงความดีออกมาจากความร้ายนั้น (CCC 311)
ที่ถามถึงคาทอลิก ไม่ได้หมายถึงว่า คาทอลิกสอนสิ่งที่ผมเจอมานั้น
และข้อเชื่อของพระศาสนจักรข้อนี้ ก็ตรงกับความเชื่อของผม
แต่มันมีบางกลุ่มจริงๆครับ ซึ่งคำถามผมอาจไม่ชัด ที่สอนคล้ายๆประมาณว่า พระเจ้าประสงค์เรื่องไม่ดีในชีวิต อะไรทำนองนั้น โดยมิได้เพื่อการเสริมสร้าง แต่เป็นการจำยอมอะไรบางอย่าง ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่เหมือนมันตกขอบ
ข้อนี้บางคริสตจักรสอนคลุมเคลือไปด้วยซ้ำผมว่าอย่างนั้น ทำให้เกิดกรณีครหาพระเจ้าขึ้น โดยผลร้ายแรงที่ชัดที่สุดก็คือ พระเจ้าเป็นคนสร้างซาตาน
ผมไม่ขออธิบายมาก แค่ตอนนี้รู้แล้วว่าข้อเชื่อคาทอลิกเป็นไงก็โอเคแล้ว
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
น้องเจนเยี่ยม