รูปปั้นและภาพวาดนักบุญที่ประดับในวัดดลใจเราเกิดความศรัทธาต่อพระศาสนา เราคงลืมไปแล้วว่า ก่อนที่จะมีการปั้นและวาดภาพของท่าน ท่านได้ดำรงชีพ ไม่แตกต่างไปจากพวกเรา ท่านมีเนื้อหนังมังสาเหมือนเรา มีความประพฤติปกติ บางเวลาก็หัวเราะ บางครั้งก็ร้องไห้
ความจริงท่านทั้งหลายเป็นสามัญชนธรรมดา ผู้ซึ่งได้เลือกการดำเนินชีวิตผิดแผกจากผู้อื่น โดยอุทิศชีวิตของตนแด่พระเป็นเจ้า ชีวิตของนักบุญหลายๆองค์ไม่เพียงแต่สอนเราเจริญชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์ แต่อย่างสนุกสนานร่าเริงด้วย
การพูดจาเสียดสีตลกคะนอง การเล่นสำนวน การใช้คำพูดคมขำ เป็นการแสดงถึงบุคลิกลักษณะของนักบุญแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน สำหรับนักบุญบางองค์ วิธีปล่อยอารมณ์ขันบอกเราถึงอุปนิสัยของท่านในชีวิตประจำวัน
อารมณ์ขันของนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลาช่วยท่านพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทกับพระเป็นเจ้า บ่อยครั้ง ในการสนทนาของเทเรซากับองค์พระเจ้ามีการปะทะคารมกัน นักบุญไม่ยกเว้นแม้แต่พระเยซูเจ้า ครั้งหนึ่ง ขณะเดินทางไปยังอารามแห่งหนึ่ง เธอได้พบว่าแม่น้ำสายหนึ่งที่เธอจำเป็นต้องข้ามมีระดับน้ำค่อนข้างอันตราย เมื่อน้ำไหลเชี่ยว เทเรซาได้ถามว่า "พระเจ้าข้า อีกนานสักแค่ไหนผู้รับใช้พระองค์จะต้องฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้?" เธอได้เล่าว่า องค์พระเยซูเจ้าได้ตอบว่า "นี่คือวิธีที่เราปฏิบัติต่อเพื่อนของเรา" ซึ่งเทเรซาได้โต้ตอบว่า "พระเจ้าข้า มิน่า พระองค์จึงมีเพื่อนไม่กี่คน"
นักบุญฟรังซิสเดอซาลชอบใช้อารมณ์ขัน ผ่อนหนักผ่อนเบามโนธรรมของคนที่เคร่งศีลธรรมมากเกินไป ครั้งหนึ่งสตรีผู้หนึ่งได้ถามท่านว่า การเสริมสวยทาแก้มให้เป็นสีชมพูเป็นบาปหรือเปล่า นักบุญได้ตอบว่า นักเทววิทยาบางคนพิจารณาว่าการใช้เครื่องสำอางเป็นการล่วงเกินพระเป็นเจ้า เมื่อสตรีคะยั้นคะยอท่านตอบคำถามให้ตรงจุด นักบุญแนะนำว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดินทางสายกลาง ทาแก้มข้างเดียวก็พอ"
หลังจากพระนางพรหมจารีมารีอาได้ประจักษ์ให้นักบุญแบร์นาแดตเห็นหลายหน เธอได้เข้าอารามดำรงชีวิตชีมืด อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในคอนแวนท์ หลายๆคนที่มีความประทับใจในตัวเธอพยายามจะพบเธอให้ได้ วันหนึ่งชายคนหนึ่งมาหาเธอ เขาจำเธอไม่ได้ และยืนกรานขอพบนักบวชหญิงที่ได้เห็นแม่พระเมืองลูร์ด เพื่อต้านความพยายามอย่างไม่ลดละของเขา นักบุญแบร์นาแดตบอกว่า "ดีแล้ว ถ้าท่านเฝ้าจ้องมองที่ประตูนั้น ท่านจะเห็นเธอเดินเข้าไป" แล้วทันทีเธอได้เดินออกจากห้องไป
นักบุญโทมัสมอร์ใช้ไหวพริบปราบคนที่เย่อหยิ่งจองหองและนึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกอยู่เสมอ ครั้งหนึ่ง ท่านได้ทำงานกับผู้พิพากษาคนหนึ่งในกรุงลอนดอน เขาเป็นคนที่มีใจอคติต่อผู้เป็นเหยื่อของคนล้วงกระเป๋า เขาลงความเห็นว่าคนเหล่านั้นต้องรับผิดชอบต่อชะตากรรมของตนเอง และกล่าวหาว่าเขาทั้งหลายเป็นผู้ที่ไม่เอาใจใส่ดูแลกระเป๋าเงินของตัวเองให้ดีๆ มอร์ได้ตกลงกับขโมยว่า ถ้าเขาสามารถล้วงกระเป๋าผู้พิพากษาได้สำเร็จ ท่านจะช่วยเขาว่าความในศาล
ในระหว่างที่คดีดำเนินอยู่ จำเลยได้ขอพูดกับผู้พิพากษาเป็นการส่วนตัว ศาลได้อนุญาตและขณะที่นักล้วงกระเป๋าเข้าไปใกล้ท่าน เขาได้ขโมยกระเป๋าเงินของท่าน เมื่อนักโทษเดินกลับมายังที่นั่งของตน มอร์ได้ขอร้องผู้พิพากษาบริจาคเงินให้กับคนร้ายผู้น่าสงสาร เมื่อท่านเอามือสอดเข้าไปในกางเกงเพื่อหยิบกระเป๋าเงินออกมา ท่านพบว่ามันได้หายไปแล้ว มอร์ได้คืนกระเป๋าใบนั้นแก่ผู้พิพากษาและตำหนิท่านว่า "เนื่องจากท่านก็ยังโดนล้วงกระเป๋าต่อหน้าคนในศาล โปรดอย่าโทษคนที่ถูกล้วงกระเป๋า"
ขณะรอประหารชีวิต มอร์ยังมีอารมณ์ขัน ผู้คุมได้แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อท่าน ขอโทษท่านสำหรับสภาพโหดร้ายในคุก ซึ่งท่านได้ตอบว่า "ถ้าข้าพเจ้าทนไม่ไหว ก็ดันข้าพเจ้าทะลุประตูของท่านออกไปเลย"
ในวัยเด็ก นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูคงจะซุกซนมาก วันหนึ่งพี่สาวคนโตได้เอาตุ๊กตาที่สะสมไว้มาให้เทเรซาและเซลีนดู และบอกว่า ให้เลือกตัวที่ชอบที่สุด ทีละคน และยกตัวนั้นให้เลย ถึงแม้ว่าเซลีนเป็นคนแรกที่เลือก เธอได้หยิบลูกบอลขึ้นมา และเปิดออกโอกาสให้เทเรซาเลือกเป็นคนแรก เธอพูดว่า "ฉันขอเลือกหมดทุกตัว" และเอาตุ๊กตาทั้งหมดไปครอบครองไว้เพียงคนเดียว
เสียงหัวเราะเป็นพระพรของพระเป็นเจ้า และมีแหล่งกำเนิดมาจากความร่าเริงยินดี ขณะที่เราเคารพนับถือนักบุญ เป็นสักขีพยานในความทุกข์ยากของท่าน เราก็สามารถมีส่วนร่วมในเสียงหัวเราะและความร่าเริงยินดีของท่านด้วย
(ที่มา : http://www.issara.com/article/saint.html)
นักบุญก็มีอารมณ์ขัน
ขอบคุณครับที่นำมาให้อ่าน สาระดีๆ มีความรู้ แถมทำให้อารมณ์ดีขึ้นอีกตังหาก
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
โดนมากๆViridian เขียน:
เธอได้พบว่าแม่น้ำสายหนึ่งที่เธอจำเป็นต้องข้ามมีระดับน้ำค่อนข้างอันตราย เมื่อน้ำไหลเชี่ยว เทเรซาได้ถามว่า "พระเจ้าข้า อีกนานสักแค่ไหนผู้รับใช้พระองค์จะต้องฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้?" เธอได้เล่าว่า องค์พระเยซูเจ้าได้ตอบว่า "นี่คือวิธีที่เราปฏิบัติต่อเพื่อนของเรา" ซึ่งเทเรซาได้โต้ตอบว่า "พระเจ้าข้า มิน่า พระองค์จึงมีเพื่อนไม่กี่คน" [/color]
แหม นักบุญรู้จักคุยสนุกกะพระเจ้าด้วยแฮะ (พระองค์ก็ยังใจดีรับมุข)
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบใจจ้า
- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
ขอบคุณค่า
-
- โพสต์: 11
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 21, 2008 10:28 pm
ขอบคุณค่ะ....อ่านไปยิ้มไป...แต่ชอบอันนี้สุดๆViridian เขียน: ... "พระเจ้าข้า อีกนานสักแค่ไหนผู้รับใช้พระองค์จะต้องฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้?" เธอได้เล่าว่า องค์พระเยซูเจ้าได้ตอบว่า "นี่คือวิธีที่เราปฏิบัติต่อเพื่อนของเรา" ซึ่งเทเรซาได้โต้ตอบว่า "พระเจ้าข้า มิน่า พระองค์จึงมีเพื่อนไม่กี่คน"....
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
ชอบอันนี้อ่ะคะ จี้สุดๆ คิดได้นะคะ ท่านนักบุญ
นักบุญฟรังซิสเดอซาลชอบใช้อารมณ์ขัน ผ่อนหนักผ่อนเบามโนธรรมของคนที่เคร่งศีลธรรมมากเกินไป ครั้งหนึ่งสตรีผู้หนึ่งได้ถามท่านว่า การเสริมสวยทาแก้มให้เป็นสีชมพูเป็นบาปหรือเปล่า นักบุญได้ตอบว่า นักเทววิทยาบางคนพิจารณาว่าการใช้เครื่องสำอางเป็นการล่วงเกินพระเป็นเจ้า เมื่อสตรีคะยั้นคะยอท่านตอบคำถามให้ตรงจุด นักบุญแนะนำว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดินทางสายกลาง ทาแก้มข้างเดียวก็พอ"
นักบุญฟรังซิสเดอซาลชอบใช้อารมณ์ขัน ผ่อนหนักผ่อนเบามโนธรรมของคนที่เคร่งศีลธรรมมากเกินไป ครั้งหนึ่งสตรีผู้หนึ่งได้ถามท่านว่า การเสริมสวยทาแก้มให้เป็นสีชมพูเป็นบาปหรือเปล่า นักบุญได้ตอบว่า นักเทววิทยาบางคนพิจารณาว่าการใช้เครื่องสำอางเป็นการล่วงเกินพระเป็นเจ้า เมื่อสตรีคะยั้นคะยอท่านตอบคำถามให้ตรงจุด นักบุญแนะนำว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดินทางสายกลาง ทาแก้มข้างเดียวก็พอ"