สเปนไม่เอาไม้กางเขน

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ธ.ค. 16, 2008 2:13 pm

สเปนไม่เอาไม้กางเขน

--------------------------------------------------------------------------------


ขณะที่เมืองไทย ยังง่วนอยู่กับกระแส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 16, 2008 6:03 pm

โอ้ว ระยะดักแด้แห่งความโกลาหลทางวิญญาณกำลังเริ่มต้น...

กลัวตอนสบายปีกเสียจริงๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
+L.O.V.E-->>JeSuS+
โพสต์: 85
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 29, 2008 3:44 pm
ที่อยู่: SilPaKorN

อังคาร ธ.ค. 16, 2008 6:06 pm

อ่าาาาาาา


มารซาตานมันกำลังรุกเข้ามาแล้วแน่เลยอ่าคัฟ



ลูกแกะสู้ๆๆๆๆๆๆๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
yack
โพสต์: 816
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 11:01 am

อังคาร ธ.ค. 16, 2008 6:12 pm

เป็นกำลังใจให้นะครับชาวสเปนทุกคน
ขอพระองค์ทรงเมตตาผู้หลงผิดด้วยเถิญ  : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

อังคาร ธ.ค. 16, 2008 8:16 pm

จริงๆ กฎหมายนี้ขัดกับสิทธิเสรีภาพพื้นฐานด้วยครับ

เพราะถ้าเราจะติดกางเขนที่หน้าบ้านเรา แล้วคนอื่นบอกให้เราเอาออก อันนี้ผิดครับ

ถ้าโรงเรียนเป็นโรงเรียนทางศาสนาแล้วบังคับให้เอาไม้กางเขนออก อันนี้ผิดครับ

จริงๆ ประเด็นไม่กางเขนในที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอเมริกาก็ถกเถียงกันมานานแล้ว

เรื่องนี้ คุยกันอีก ยาววววววววววววววววววววววว
ภาพประจำตัวสมาชิก
ouroboros
โพสต์: 36
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 26, 2008 8:07 am

อังคาร ธ.ค. 16, 2008 10:57 pm

ความเห็นชอบของประชาชนก็ต้องยอมรับฮะ ตามกฏห้ามติดที่สาธารณะคือโรงเรียน โรงพยาบาล ไม่ได้เพราะไม่ขัดกับเสรีภาพพื้นฐานอย่างพี่ Edwardius ว่า เพราะถ้าขัดจริงต้องห้ามคนติดตามบ้านด้วย ซึ่งเขาไม่ได้ห้าม

::008::เมื่อความจริงของพระคัมภีร์ถูกศาสตร์ต่างๆทำให้สั่นคลอนก็อย่างนี้แหละ
แก้ไขล่าสุดโดย ouroboros เมื่อ พุธ ธ.ค. 17, 2008 2:29 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ธ.ค. 17, 2008 12:55 pm

เมื่อกี้คุณพ่ออนุชา ไชยเดช ก็ได้นำเรื่องนี้มาเล่าให้นักศึกษาโปรฯฟัง ก่อนจะเล่าว่าคริสต์ศตวรรษที่ 16 สเปน และโปรตุเกต เป็นผู้ออกไปแพร่ธรรม
นำคนอื่นมารู้จักพระเจ้า  แต่มาถึงวันนี้ คนที่ประวัติศาสตร์บันทึกว่าประเทศที่ไปนำคนอื่นมารู้จักพระเจ้า
กำลังมีปัญหาเรื่องการยืนหยัดรักษาความเชื่อ :cheesy:
ภาพประจำตัวสมาชิก
(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
โพสต์: 892
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am

พุธ ธ.ค. 17, 2008 2:04 pm

วอนพระแม่มารีอา โปรดให้พวกเขาหันหลังให้กับสิ่งเลวร้ายที่เขาได้ทำลงไป ต่อพระผู้เป็นเจ้าเถิด อาแมน
Dis volentibus

พุธ ธ.ค. 17, 2008 2:52 pm

Edwardius เขียน: จริงๆ กฎหมายนี้ขัดกับสิทธิเสรีภาพพื้นฐานด้วยครับ

เพราะถ้าเราจะติดกางเขนที่หน้าบ้านเรา แล้วคนอื่นบอกให้เราเอาออก อันนี้ผิดครับ

ถ้าโรงเรียนเป็นโรงเรียนทางศาสนาแล้วบังคับให้เอาไม้กางเขนออก อันนี้ผิดครับ

จริงๆ ประเด็นไม่กางเขนในที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอเมริกาก็ถกเถียงกันมานานแล้ว

เรื่องนี้ คุยกันอีก ยาววววววววววววววววววววววว
เห็นด้วยมากๆ เจ้าค่ะ


พวกชอบอ้างตัวว่าไม่มีศาสนา/ลัทธิ ฯลฯ จริงๆก็มีนั่นเเหล่ะ คือ ลัทธิไม่นับถืออะไรเลย
- เเนวทางปฎิบัติของลัทธินี้ก็คืออ้างตนว่าไม่มีศาสนา
- เเนวทางเเพร่ธรรมของลัทธินี้ก็คือ....อย่างที่เห็นในบทความ พยายามขจัดความเชื่อของผู้มีศาสนา โดยอ้างเสรีภาพ(ของเขาคนเดียว)
เเละเเพร่ธรรมได้มีประสิทธิภาพซะด้วย เพราะมี "เจ้านายของโลก" คอยหนุนหลัง...เข้ากันได้ดี
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ พุธ ธ.ค. 17, 2008 2:54 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ouroboros
โพสต์: 36
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 26, 2008 8:07 am

พุธ ธ.ค. 17, 2008 11:11 pm

†Ecclēsia เขียน:
Edwardius เขียน: จริงๆ กฎหมายนี้ขัดกับสิทธิเสรีภาพพื้นฐานด้วยครับ

เพราะถ้าเราจะติดกางเขนที่หน้าบ้านเรา แล้วคนอื่นบอกให้เราเอาออก อันนี้ผิดครับ

ถ้าโรงเรียนเป็นโรงเรียนทางศาสนาแล้วบังคับให้เอาไม้กางเขนออก อันนี้ผิดครับ

จริงๆ ประเด็นไม่กางเขนในที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอเมริกาก็ถกเถียงกันมานานแล้ว

เรื่องนี้ คุยกันอีก ยาววววววววววววววววววววววว
เห็นด้วยมากๆ เจ้าค่ะ


พวกชอบอ้างตัวว่าไม่มีศาสนา/ลัทธิ ฯลฯ จริงๆก็มีนั่นเเหล่ะ คือ ลัทธิไม่นับถืออะไรเลย
- เเนวทางปฎิบัติของลัทธินี้ก็คืออ้างตนว่าไม่มีศาสนา
- เเนวทางเเพร่ธรรมของลัทธินี้ก็คือ....อย่างที่เห็นในบทความ พยายามขจัดความเชื่อของผู้มีศาสนา โดยอ้างเสรีภาพ(ของเขาคนเดียว)
เเละเเพร่ธรรมได้มีประสิทธิภาพซะด้วย เพราะมี "เจ้านายของโลก" คอยหนุนหลัง...เข้ากันได้ดี
อ่านข่าวนี้เข้าใจผิดอะไรกันเป่าฮะเนี่ย กฏหมายไม่ได้เอาไม้กางเขนออกจากบ้านหรือโรงเรียนศาสนานะ ไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ใคร แค่โรงเรียนของรัฐและสถานที่สาธารณะที่ทุกคนใช้ร่วมกันได้เฉยๆ ไม่มีพูดถึงที่ส่วนบุคคลเลย

เมืองไทยโรงเรียนรัฐก็ไม่มีพระพุทธรูปติดเหมือนกัน ถ้ามีผมก็ไม่สบายใจจะเรียน โรงเรียนคริสต์ก็ไม่มีตั้งพระพุทธรูป โรงเรียนมุสลิมก็ไม่มีติดไม้กางเขนไม่ใช่เหรอฮะ รัฐบาลที่เป็นกลางทางศาสนาจะติดไม้กางเขนในโรงเรียนรัฐได้ยังไง

รัฐบาลที่เจริญแล้วต้องแยกศาสนากับการปกครองออกจากกันนะฮะ หน้าที่เปลี่ยนหัวใจคนเป็นของพระกับคริสตชนเท่านั้น ถ้าพระองค์จะเลือกไม่ช่วยชาวสเปนก็เป็นการตัดสินใจของท่านเช่นกัน ::008::
Dis volentibus

พุธ ธ.ค. 17, 2008 11:19 pm

ouroboros เขียน:
†Ecclēsia เขียน:
Edwardius เขียน: จริงๆ กฎหมายนี้ขัดกับสิทธิเสรีภาพพื้นฐานด้วยครับ

เพราะถ้าเราจะติดกางเขนที่หน้าบ้านเรา แล้วคนอื่นบอกให้เราเอาออก อันนี้ผิดครับ

ถ้าโรงเรียนเป็นโรงเรียนทางศาสนาแล้วบังคับให้เอาไม้กางเขนออก อันนี้ผิดครับ

จริงๆ ประเด็นไม่กางเขนในที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอเมริกาก็ถกเถียงกันมานานแล้ว

เรื่องนี้ คุยกันอีก ยาววววววววววววววววววววววว
เห็นด้วยมากๆ เจ้าค่ะ


พวกชอบอ้างตัวว่าไม่มีศาสนา/ลัทธิ ฯลฯ จริงๆก็มีนั่นเเหล่ะ คือ ลัทธิไม่นับถืออะไรเลย
- เเนวทางปฎิบัติของลัทธินี้ก็คืออ้างตนว่าไม่มีศาสนา
- เเนวทางเเพร่ธรรมของลัทธินี้ก็คือ....อย่างที่เห็นในบทความ พยายามขจัดความเชื่อของผู้มีศาสนา โดยอ้างเสรีภาพ(ของเขาคนเดียว)
เเละเเพร่ธรรมได้มีประสิทธิภาพซะด้วย เพราะมี "เจ้านายของโลก" คอยหนุนหลัง...เข้ากันได้ดี
อ่านข่าวนี้เข้าใจผิดอะไรกันเป่าฮะเนี่ย กฏหมายไม่ได้เอาไม้กางเขนออกจากบ้านหรือโรงเรียนศาสนานะ ไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ใคร แค่โรงเรียนของรัฐและสถานที่สาธารณะที่ทุกคนใช้ร่วมกันได้เฉยๆ ไม่มีพูดถึงที่ส่วนบุคคลเลย

เมืองไทยโรงเรียนรัฐก็ไม่มีพระพุทธรูปติดเหมือนกัน ถ้ามีผมก็ไม่สบายใจจะเรียน โรงเรียนคริสต์ก็ไม่มีตั้งพระพุทธรูป โรงเรียนมุสลิมก็ไม่มีติดไม้กางเขนไม่ใช่เหรอฮะ รัฐบาลที่เป็นกลางทางศาสนาจะติดไม้กางเขนในโรงเรียนรัฐได้ยังไง

รัฐบาลที่เจริญแล้วต้องแยกศาสนากับการปกครองออกจากกันนะฮะ หน้าที่เปลี่ยนหัวใจคนเป็นของพระกับคริสตชนเท่านั้น ถ้าพระองค์จะเลือกไม่ช่วยชาวสเปนก็เป็นการตัดสินใจของท่านเช่นกัน ::008::

ไม่ได้เข้าใจอะไรผิดค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ouroboros
โพสต์: 36
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 26, 2008 8:07 am

พุธ ธ.ค. 17, 2008 11:31 pm

ไม่เข้าใจผิดแล้วจะด่วนกล่าวหาเขาทำไมละฮะ เฮ้อ ไม่ทะเลาะดีกว่า ถ้าทำโกรธก็ขอโทษฮะ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 12:31 am

เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คริสตชนก็ต้องเข้มแข็งขึ้น จากกางเขนภายนอก ก็มาต้องเอามาอยู่ข้างใน

แต่ก็แย่ในแง่ที่ว่า บรรยากาศคาทอลิกก็จะหายไป ก็เหมือนเมืองไทยที่เราไม่ค่อยเห็นกางเขนตามที่ต่างๆ ถามว่า เราอยู่กันได้มั้ย เราก็อยู่กันได้นะ  ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น แต่ถ้าเลือกได้ เราก็อยากได้บรรยากาศของเรามากกว่า

และที่เจ็บปวดคือ คนที่เรียกร้องกลับเป็นคนในสเปนเองที่เป็นคาทอลิก คือถ้าคนต่างศาสนามาเรียกร้องก็จะพอเข้าใจได้ว่า มันรบกวนเค้า  ซึ่งเราก็ไม่ควรทำ  แต่คาทอลิกเอง พอเห็นแล้ว รู้สึกรบกวนนี่ อันนี้วิกฤตินะ มันเกิดอะไรขึ้น  ::009:: เห็นหน้าพระแล้วรู้สึกถูกรบกวนเนี่ย แล้วเห็นว่า เป็นการยัดเยียดความเชื่อเนี่ย  ::009::

มองในแง่ดีคือ จากคนที่ไม่สนใจพระเจ้า เพราะเห็นอยู่ทั่วไปจนชินตา คราวนี้ก็อาจจะเป็นโหยหามากขึ้นก็ได้ เหมือนกับว่า ตอนอยู่ด้วยกัน เห็นกันอยู่ ก็ไม่เคยจะใยดี คราวนี้ ลองหายหน้าไปบ้าง ก็อาจจะนึกถึงกันมากขึ้น และในมิติที่ลึกขึ้นก็ได้  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 12:53 am

ต้องขอขอบคุณ คุณ ouroboros นะครับที่ช่วยติงอะไรบางอย่าง

ส่วนตัวเป็นนักรัฐศาสตร์เ้ลยขอกลับไปอ่านข่าวต้นตอ สาวกันไปถึงข่าวต่างประเทศเลย ปรากฎว่า

1. สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การตรากฎหมาย (เท่าที่อ่านเจอนะครับ) แต่เป็นคำตัดสินของศาลที่ให้โรงเรียนแห่งหนึ่งปลดสัญลักษณ์ทางศาสนาออก เพราะสัญลักษณ์ดังกล่าว (crucifix-ไม้การเขนที่มีพระเยซูตรึงอยู่) แสดงความเป็นคาทอลิกมาก อันขัดกับรัฐธรรมนูญของสเปนว่าด้วยความเป็นกลางทางศาสนา และการแยกรัฐออกจากศาสนา โดยศาลเห็นว่า การมีสัญลักษณ์ดังกล่าวในห้องเรียนจะทำให้เด็กมองว่า รัฐ และ ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเชื่อมโยงกัน

2. มีเจ้าหน้าที่ของรัฐออกมาให้ความเห็นสนับสนุนคำตัดสินดังกล่าวด้วย โดยอ้างอิงถึงรัฐธรรมนูญของสเปนว่าด้วยความเป็นกลางทางศาสนา และการแยกรัฐออกจากศาสนา เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เห็นว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในความดูแลของผู้บริหารโรงเรียน และจึงเป้นหน้าที่ของผู้บริหารเองที่จะตัดสินใจให้คงสัญลักษณ์ไว้ หรือปลดออก

3. พระคาร์ดินัลแห่งโทเลโด้ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่าเป็นความพยายามสร้างกระแสความกลัวศาสนาคริสต์ (Chritophobic) ซึ่งพระคาร์ดินัลเห็นว่า เป็นความพยายามที่ทำลายอัตลักษณ์ของชาวสเปนที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ L
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 12:55 am

เอาเข้าไป
Dis volentibus

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 1:19 am

ouroboros เขียน: ไม่เข้าใจผิดแล้วจะด่วนกล่าวหาเขาทำไมละฮะ เฮ้อ ไม่ทะเลาะดีกว่า ถ้าทำโกรธก็ขอโทษฮะ
หึหึหึ....ไม่ทะเลาะดีกว่าค่ะ ::013::
Dis volentibus

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 1:48 am

ouroboros เขียน: ไม่เข้าใจผิดแล้วจะด่วนกล่าวหาเขาทำไมละฮะ เฮ้อ ไม่ทะเลาะดีกว่า ถ้าทำโกรธก็ขอโทษฮะ
เฮ้อ.....



ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
silver
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 29, 2008 8:33 am

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 9:00 am

ouroboros เขียน:
†Ecclēsia เขียน:
Edwardius เขียน: จริงๆ กฎหมายนี้ขัดกับสิทธิเสรีภาพพื้นฐานด้วยครับ

เพราะถ้าเราจะติดกางเขนที่หน้าบ้านเรา แล้วคนอื่นบอกให้เราเอาออก อันนี้ผิดครับ

ถ้าโรงเรียนเป็นโรงเรียนทางศาสนาแล้วบังคับให้เอาไม้กางเขนออก อันนี้ผิดครับ

จริงๆ ประเด็นไม่กางเขนในที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอเมริกาก็ถกเถียงกันมานานแล้ว

เรื่องนี้ คุยกันอีก ยาววววววววววววววววววววววว
เห็นด้วยมากๆ เจ้าค่ะ


พวกชอบอ้างตัวว่าไม่มีศาสนา/ลัทธิ ฯลฯ จริงๆก็มีนั่นเเหล่ะ คือ ลัทธิไม่นับถืออะไรเลย
- เเนวทางปฎิบัติของลัทธินี้ก็คืออ้างตนว่าไม่มีศาสนา
- เเนวทางเเพร่ธรรมของลัทธินี้ก็คือ....อย่างที่เห็นในบทความ พยายามขจัดความเชื่อของผู้มีศาสนา โดยอ้างเสรีภาพ(ของเขาคนเดียว)
เเละเเพร่ธรรมได้มีประสิทธิภาพซะด้วย เพราะมี "เจ้านายของโลก" คอยหนุนหลัง...เข้ากันได้ดี
อ่านข่าวนี้เข้าใจผิดอะไรกันเป่าฮะเนี่ย กฏหมายไม่ได้เอาไม้กางเขนออกจากบ้านหรือโรงเรียนศาสนานะ ไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ใคร แค่โรงเรียนของรัฐและสถานที่สาธารณะที่ทุกคนใช้ร่วมกันได้เฉยๆ ไม่มีพูดถึงที่ส่วนบุคคลเลย

เมืองไทยโรงเรียนรัฐก็ไม่มีพระพุทธรูปติดเหมือนกัน ถ้ามีผมก็ไม่สบายใจจะเรียน โรงเรียนคริสต์ก็ไม่มีตั้งพระพุทธรูป โรงเรียนมุสลิมก็ไม่มีติดไม้กางเขนไม่ใช่เหรอฮะ รัฐบาลที่เป็นกลางทางศาสนาจะติดไม้กางเขนในโรงเรียนรัฐได้ยังไง

รัฐบาลที่เจริญแล้วต้องแยกศาสนากับการปกครองออกจากกันนะฮะ หน้าที่เปลี่ยนหัวใจคนเป็นของพระกับคริสตชนเท่านั้น ถ้าพระองค์จะเลือกไม่ช่วยชาวสเปนก็เป็นการตัดสินใจของท่านเช่นกัน ::008::

เออ....... คุณ ouroboros ครับ ผมขอนอนยันและยืนยันด้วยนะครับว่า โรงเรียนรัฐที่ผมเรียนมีพระพุทธรูปใหญ่เบอเร้ออยู่ในโรงเรียนด้วยครับ แถมครูยังบอกให้นักเรียนที่เดินเข้ามาโรงเรียนให้ไหว้พระพุทธรูปด้วยครับ ::006:: และขอบอกด้วยนะว่า และเคยมีคนเล่าให้ฟังด้วยว่า มีวันหนึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ ทางโรงเรียนเชิญพระสงฆ์มาเทศน์ที่โรงเรียน พระสงฆ์ยังพูดเหน็บแนมศาสนาอื่นด้วยครับ(ไม่ขอบอกว่าเป็นศาสนาไหนนะ เดี๋ยวคนในบอร์ดนี้จะอารมณ์ไม่ดี) อ้อ โรงเรียนที่ผมเรียนเป็นโรงเรียนดังแถวสะพานปลา ใกล้วัดอัสสัมแหละ คงพอจะเดาได้ ลองเดินไปหน้าโรงเรียนจะเห็นพระพุทธรูปเบอเร้อเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ouroboros
โพสต์: 36
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 26, 2008 8:07 am

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 9:48 am

นั่นเป็นปัญหาเมืองไทยฮะคุณ silver แต่สังเกตสิว่าหลายๆโรงเรียนก็เริ่มย้ายออกแล้ว ที่ยกตัวอย่างไทย เพื่ออธิบายจิตวิญญาณของกฏหมายฮะว่าเสรีภาพทางศาสนาคือรัฐบาลต้องไม่สนับสนุนศาสนาใดเป็นพิเศษ ซึ่งรัฐบาลตะวันตกทำตามหลักนี้อย่างเคร่งครัด ลองไปดูยุโรปตะวันตกอย่างอังกฤษหรือฝรั่งเศสได้ ฝรั่งเศสใส่ผ้าคลุมหัวแบบมุสลิมไปโรงเรียนยังไม่ได้เลย อเมริกาที่ว่าเคร่งๆยังเข้มงวดกับกฏนี้มาก บัญญัติสิบประการติดหน้าสถานที่ราชการเขายังไม่อนุญาตยกเว้นในบางรัฐที่คนเขาสนับสนุนให้ติดจริงๆ กรณีนั้นก็ตามเสียงประชาชน

ลองอ่าน Stone v. Graham, McCreary County v. ACLU of Kentucky, Van Orden v. Perry ดู ทุกกรณีศาลตัดสินว่าผิดรัฐธรรมนูญหมดยกเว้น Van Orden v. Perry เพราะรัฐไม่ได้เป็นคนตั้ง เอกชนบริจาค อันนั้นก็ไม่ถือว่าละเมิดสิทธิ์หรือกฏหมาย ป้ายทะเบียนรถเขียนตราว่า"ฉันเป็นคริสต์"เขายังไม่อนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นออกเลย

กฏหมายสังคมกับกฏหมายอาณาจักรสวรรค์ต้องแยกกันฮะ ถ้ากฏรัฐสนับสนุนศาสนาใดเป็นพิเศษ วันไหนแอนตี้ไครสต์เป็นผู้นำบ้างก็จะใช้มันเป็นเครื่องมือสนับสนุนลัทธิของมันบ้าง กำแพงของรัฐกับศาสนาเลยต้องมีเพื่อรับรองเสรีภาพทางศาสนาของทุกคน ทุกลัทธิ หน้าที่เปลี่ยนหัวใจไม่ใช่ของรัฐฮะ

พระท่านยังสอนเลยว่า
Matthew 22:21
Then he said to them, "Give to Caesar what is Caesar's, and to God what is God's."

22:21 เขาทูลพระองค์ว่า "ของซีซาร์" แล้วพระองค์ตรัสกับเขาว่า "เหตุฉะนั้นของของซีซาร์จงถวายแก่ซีซาร์ และของของพระเจ้าจงถวายแด่พระเจ้า"

บทนี้พูดเรื่องจ่ายภาษี แต่เห็นไหมฮะว่าสอนให้ก็ทำตามกฏหมายรัฐบาล ถึงเป็นทาสพระยังสอนให้เชื่อฟังนายเลย เรื่องนี้ก็เช่นกัน

พระอวยพรฮะ
แก้ไขล่าสุดโดย ouroboros เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 9:59 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 11:02 am

silver เขียน:
ouroboros เขียน:
†Ecclēsia เขียน: เห็นด้วยมากๆ เจ้าค่ะ


พวกชอบอ้างตัวว่าไม่มีศาสนา/ลัทธิ ฯลฯ จริงๆก็มีนั่นเเหล่ะ คือ ลัทธิไม่นับถืออะไรเลย
- เเนวทางปฎิบัติของลัทธินี้ก็คืออ้างตนว่าไม่มีศาสนา
- เเนวทางเเพร่ธรรมของลัทธินี้ก็คือ....อย่างที่เห็นในบทความ พยายามขจัดความเชื่อของผู้มีศาสนา โดยอ้างเสรีภาพ(ของเขาคนเดียว)
เเละเเพร่ธรรมได้มีประสิทธิภาพซะด้วย เพราะมี "เจ้านายของโลก" คอยหนุนหลัง...เข้ากันได้ดี
อ่านข่าวนี้เข้าใจผิดอะไรกันเป่าฮะเนี่ย กฏหมายไม่ได้เอาไม้กางเขนออกจากบ้านหรือโรงเรียนศาสนานะ ไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ใคร แค่โรงเรียนของรัฐและสถานที่สาธารณะที่ทุกคนใช้ร่วมกันได้เฉยๆ ไม่มีพูดถึงที่ส่วนบุคคลเลย

เมืองไทยโรงเรียนรัฐก็ไม่มีพระพุทธรูปติดเหมือนกัน ถ้ามีผมก็ไม่สบายใจจะเรียน โรงเรียนคริสต์ก็ไม่มีตั้งพระพุทธรูป โรงเรียนมุสลิมก็ไม่มีติดไม้กางเขนไม่ใช่เหรอฮะ รัฐบาลที่เป็นกลางทางศาสนาจะติดไม้กางเขนในโรงเรียนรัฐได้ยังไง

รัฐบาลที่เจริญแล้วต้องแยกศาสนากับการปกครองออกจากกันนะฮะ หน้าที่เปลี่ยนหัวใจคนเป็นของพระกับคริสตชนเท่านั้น ถ้าพระองค์จะเลือกไม่ช่วยชาวสเปนก็เป็นการตัดสินใจของท่านเช่นกัน ::008::

เออ....... คุณ ouroboros ครับ ผมขอนอนยันและยืนยันด้วยนะครับว่า โรงเรียนรัฐที่ผมเรียนมีพระพุทธรูปใหญ่เบอเร้ออยู่ในโรงเรียนด้วยครับ แถมครูยังบอกให้นักเรียนที่เดินเข้ามาโรงเรียนให้ไหว้พระพุทธรูปด้วยครับ ::006:: และขอบอกด้วยนะว่า และเคยมีคนเล่าให้ฟังด้วยว่า มีวันหนึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ ทางโรงเรียนเชิญพระสงฆ์มาเทศน์ที่โรงเรียน พระสงฆ์ยังพูดเหน็บแนมศาสนาอื่นด้วยครับ(ไม่ขอบอกว่าเป็นศาสนาไหนนะ เดี๋ยวคนในบอร์ดนี้จะอารมณ์ไม่ดี) อ้อ โรงเรียนที่ผมเรียนเป็นโรงเรียนดังแถวสะพานปลา ใกล้วัดอัสสัมแหละ คงพอจะเดาได้ ลองเดินไปหน้าโรงเรียนจะเห็นพระพุทธรูปเบอเร้อเลยครับ
พระพุทธรูปหน้าโรงเรียนรัฐผมเห็นเกือบทุกโรงเรียนเลยนะ- -"
โรงเรียนที่ว่า ร.ร.วัดสุท... สินะ อิอิ (เรียนกันได้ไงหว่าเหม็นคาวปลามากๆ ผมนั่งรถผ่านหลับๆยังตื่นเลย -*-)
พระที่เทศน์เหน็บศาสนาอื่นคงไม่พ้นคริสต์ หรอกครับ ไม่ว่าจะการเรียนการสอนอะไรก็มักจะ "กัด" เรา (ตัวไรกัดคิดเอาเอง) แต่ที่ ป.โท มักชื่นชมอิสลาม (เฉพาะผู้ชายนะคิดเอาเองว่าชื่นชมเรื่องไร)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 1:41 pm

บางทีมันก็เป็นเรื่องของการ "ถือดี" อ่ะครับ

หลายครั้งเราไปตัีดสินพฤติกรรมของคนอื่นก็เพราะความ "ถือดี" คิดว่าตัว "รู้ดี" และ "เข้าใจดี" กว่าคนอื่น

บางทีเรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เราเห็น ได้ยิน หรือได้รู้มา มันอาจตรงข้ามกันเลยก็ได้

พระถึงพยายามสอนเราไม่ให้ด่วนตัดสินใครไงครับ เพราะงานพิพากษานั้นมิใช่ของเรา แต่เป็นของพระองค์เอง

เฮ้อ! เรื่องตัดสินคนอื่นนี่ ถ้าใครไม่โดนกับตัวคงไม่รู้หรอกครับ อืม...มีใครเคยโดนคาบอร์ดนี้แบบผมบ้าง 555+

พระเจ้าอวยพรทุกคนครับ ขอให้ใช้สิทธิตามกฎหมายเท่าที่ไม่เดือดร้อนใครนะครับ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 9:56 am

สวดภาวนาเพื่อประเทศสเปนและประเทศอื่น ๆ ที่กำลังคิดแบบนั้นนะครับ ::008::
ภาพประจำตัวสมาชิก
^_^Matthew^_^
โพสต์: 354
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 2:03 am
ที่อยู่: 125 ม.7 ถ.ชัยภูมิ-สีคิ้ว ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 36000
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 10:27 am

สงครามฝ่ายวิญญาณมีทุกที่แหละครับ ที่สำคัญคือคำอธษฐานของเรานี้แหละ
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 12:49 pm

การที่มีรูป ที่ใครก็รู้ว่าคนที่อยู่บนกางเกนนั้น รักคนทั้งโลก ในที่ต่างๆมันแย่มากหรือไง!!! งง เค้าไม่อยากได้พระ แล้วเค้ายังไม่อยากให้คนอื่นได้ด้วย หยั่งงี้ ถ้าผมชอบดูรูปพระเยซูที่อยู่ตามที่ต่างๆ เพื่อผมจะได้นึกถึงพระองค์บ้าง เวลาที่เห็นรูปของพระองค์ มันไม่จำกัดสิทธิที่ผมพึ่งจะมี มากเกินไปหรอครับ (ตกลงเค้ามีสิทธิ แต่ผมไม่มีสิทธิ ว่างั้น)
สิ่งที่เค้าทำผมว่ามัน เป็นการเบียดเบียนทางศาสนาน่ะครับ หยั่งงี้ไม่ต้องมีวัดกันพอดี เพราะวัดก็เป็นสถานที่สาธาระนะ เหมือนกัน สงสัย อีกหน่อย ผมคงต้องไปตามบาทหลวงมาทำมิซสาที่บ้านแล้วมั่งครับ เพราะเดี๋ยวทำมิซสาในที่สาธาระนะ จะเป็นการแสดงออกให้คนอื่นเห็น แล้วเค้าจะเข้าใจว่าที่ผมไปวัดน่ะ ไปเบียดเบียนเค้าด้วยเหมือนกัน แสดงออกให้เค้าเห็นมากเกินไป เดี๋ยวเค้าเปลี่ยนเป็นคริสต์กลับใจไปด้วย อีกหน่อยผมอาจติดคุกได้ ที่ไปทำให้เค้าเปลี่ยนศาสนา
จิงๆผมว่า ถ้าเค้าไม่อยากให้ศาสนามีผลทางการเมืองหรืออารายต่างๆ ก็ทำแบบพี่ไทยเราซิครับ เอาศาสนาประจำชาติออกไปเรย ง่ายจะตาย 555+
สงสัย คงไปแสวงบุญสเปนไม่ได้ซะแล้ว อีกหน่อยเค้าจะปิดวัดของทุกศาสนาไปเรยป่าวครับ
กำล่ะครับ น้องEcclesia หวังว่าม่าม๊า คงพาเราไปฝรั่งเศส ก่อนที่ทางยุโรปเค้าจะเอาพระออกจากที่สถาระนะกันหมดน่ะครับ แงแง

พระเยซูเจ้าที่น่ารักของลูก อีกหน่อยเวลาที่ลูกอยู่ข้างนอกบ้าน ลูกคงต้องนึกถึงพระพักตร์พระองค์ในใจกับรูปของพระองค์ในกระเป๋าสตางค์ซะแล้วหรือพระเจ้าข้า ลูกรักพระองค์ ลูกเชื่อในพระองค์ ลูกหวังในพระองค์ ลูกนมัสการพระองค์ ลูกของสมาโทษ แทนผู้ที่ไม่รักพระองค์ ไม่เชื่อในพระองค์ ไม่หวังในพระองค์ ไม่นมัสการพระองค์
ภาพประจำตัวสมาชิก
ouroboros
โพสต์: 36
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 26, 2008 8:07 am

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 1:07 pm

หน้าที่เผยแพร่ศาสนาไม่ใช่ของรัฐนะฮะ อย่าปนบทบาทกันสิ เขาไม่ได้ห้ามประชาชนเผยแพร่ศาสนาหรือติดไม้กางเขนในบ้านหรือสถานที่ส่วนบุคคลนะฮะ วัดถือเป็นที่สาธารณะ ใครจะสมัครใจเข้าก็เข้า พระให้มนุษย์มีอิสระเพราะแบบนี้ไงฮะ จริงๆเรื่องบูชาพระองค์ท่านก็อยากให้ทำเงียบๆในบ้านอยู่แล้ว

มัทธิว 6:6 ฝ่ายท่าน เมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ทอดพระเนตรเห็นในที่ลี้ลับจะทรงโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่านอย่างเปิดเผย

ขนาดอฐิษฐานถึงท่าน พระยังให้ทำแบบเงียบๆ น่ารักเรียบร้อยเลย ::001:: รัฐเป็นกลางเรื่องติดสัญลักษณ์บูชาก็ถูกแล้วละ

รัฐกับศาสนาแยกกันดีแล้วฮะ ประวัติศาสตร์ก็สอนว่าปนกันไม่ดี เพราะถ้าฝั่งไหนเสื่อมอีกฝั่งก็เสื่อมเสียด้วย จะกลายเป็นบั่นทอนศาสนาแทน

อย่าตกใจเกินกว่าเหตุเลยนะฮะ ข่าวเองก็เขียนเหมือนอยากให้คนอ่านเกิดอารมณ์มากไปหน่อย เหมือนว่าชาวคริสต์กำลังถูกดขี่ อ่านต้องใช้วิจารณญาณอย่างที่พี่ Edwardius ไปลองตรวจดูต้นฉบับแล้วว่าข่าวจริงไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น

พระอวยพรจ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 1:42 pm

จริงๆ เรื่องนี้ไม่น่าจะต้องมาถกเถียงกันนะครับ เำำพราะ solution มันต่างกัน

ไทยคริสต์มองเรื่องนี้ในมุมของการคุกคาม เพราะในประเทศไทยเราถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยทางศาสนาครับ

พอมีอะไรแบบนี้เราจะรู้สึกว่าเป็นการเบียดเบียนของอำนาจรัฐ

แต่สเปนไม่เหมือนกันครับ ถ้าเราไปอยู่ที่โน่น คาทอลิกถือเป็นคนส่วนใหญ่ก็จริง

แต่ในขณะเดียวกัน ศาสนาอื่น รวมถึงศาสนาคริสต์นิกายอื่นๆ ก็กลายเป็นชนกลุ่มน้อยทางศาสนาไปอีก

การห้ามติด Crucifix เป็นการลดแรงเสียดทานทางการเมืองหลายๆ อย่างครับ

เพราะกลุ่มทางศาสนาในต่างประเทศ กับ บริบททางการเมืองในหลายๆ เรื่องมันแยกกันยาก

เช่นว่า ตอนนี้กฎหมายขอให้โรงเรียนรัฐแห่งหนึ่งเอา crucifix ออก อาจกลายเป็นบรรทัดฐานว่า สถานที่ใดๆทางราชการห้ามมิให้ติดสัญลักษณ์ทางศาสนา

ซึ่งในทางหนึ่้งอาจดูเป็นการข่มน้ำใจของชาวคาทอลิก แต่กับศาสนาคริสต์นิกายอื่นๆ อาจเป็นเรื่องดีสำหรับเขาก็ได้ ที่รัฐมีบทบาทเป็นกลางมากขึ้น

นานาจิตตัง อย่าไปยึดติดกับสิ่งอันเป็นวัตถุมากเลยครับ

นักบุญท่านหนึ่งสอนเราแล้วว่า เมื่อเราทำทุกหนทางแล้วทุกอย่างไม่ดีขึ้น หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลง ให้ท่านอธิษฐานภาวนา

นี่อาจเป็นเพียงการทดลองจากพระองค์ครับ จงตั้งใจภาวนากันเถิด
Dis volentibus

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 2:45 pm

หน้าที่ของคริสตชนต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

เพราะความรักต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
จงอ่อนน้อมเชื่อฟังมนุษย์ทุกคนที่มีอำนาจปกครอง
ทั้งพระจักรพรรดิซึ่งมีอำนาจสูงสุด เเละผู้ว่าราชการ
ซึ่งได้รับการเเต่งตั้งให้ลงโทษ
ผู้กระทำความชั่วเเละยกย่องผู้กระทำดี
พระเจ้ามีพระประสงค์ให้ท่านทำความดี
ปิดปากโง่เขลามิให้พูดไร้สาระ
จงประพฤติตนดุจคนอิสระ
อย่าใช้อิสรภาพเป็นข้ออ้างเพื่อปิดบังความชั่ว

เเต่จงประพฤติดุจผู้รับใช้ของพระเจ้า
จงให้เกียรติทุกคน จงรักพี่น้องผู้มีความเชื่อ
จงเคารพยำเกรงพระเจ้า
จงถวายพระเกียรติเเด่พระจักรรพรรดิ

1เปโตร 2:13
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 3:50 pm

คุณเป็นคริสต์ ก็แสดงตัว  ติดกางเขน  มันก็ถูกแล้ว

การติดตามที่สาธารณะ ก็เพราะศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติ

สถานศึกษา พยาบาล ถ้าเป็นของคริสต์  จะติดก็ถูกแล้ว
คุณจะเข้ามาใช้บริการของสถานศึกษา หรือ พยาบาลของคริสต์
ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่แสดงตัวตนของเขา

ถ้าไม่พอใจ ก็ไปใช้บริการ ของสถานที่ที่ไม่นับถือคริสต์สิ 
ถ้าดูแล้วมันแสลงใจ ก็ไปใช้บริการที่อื่น  แต่นี่มันคือการเบียดเบียนศาสนารูปแบบใหม่ต่างหาก

คนที่ผ่านร่างกฏมายมา ก็คงเป็นพวกไม่มีศาสนาเหมือนกัน
ถึงๆได้บ้าจี้ทำตาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 4:50 pm

เพราะแบบนี้ไงฮะ จริงๆเรื่องบูชาพระองค์ท่านก็อยากให้ทำเงียบๆในบ้านอยู่แล้ว

มัทธิว 6:6 ฝ่ายท่าน เมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในที่ลี้ลับ
และพระบิดาของท่านผู้ทอดพระเนตรเห็นในที่ลี้ลับจะทรงโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่านอย่างเปิดเผย

น้องครับ อันนี้ที่น้องหมายถึงเนี่ย เค้าหมายถึงการสวดภาวนาครับ ไม่ได้หมายถึงเรื่องบูชาพระเจ้าน่ะครับ อย่าเข้าใจผิดครับ
ไม่งั้นสมัยอับบราฮัม ไม่ต้องบูชาพระเจ้าด้วยแกะกันในบ้านด้วยเรยหรอครับ ทำทุกอย่างในบ้านเรย จะคุยเรื่องพระกันที มาเข้ามาในห้อง อย่าให้ใครรู้ ประชาชนรู้ รู้แล้วเดี๋ยวพระไม่โปรดบำเหน็ด

แล้วพี่ไม่ได้คิดเกินกว่าเหตุนะครับ อยากให้น้องเข้าใจใหม่ ก็อย่างที่น้องบอก ว่าการเมืองกับศาสนาไม่ใช่เรื่องเดียวกัน ก็ถูกแล้ว แต่ตอนนี้เค้ากำลังใช้การเมือง ใช้กฏหมายมายุ่งกับศาสนา ไม่ใช่หรอครับ แล้วประเพณีความเชื่อ ศิลปะ ตามสถานที่สาธาระต่างๆ สมัยก่อน ย่อมมีการอ้างอิงถึงสิ่งที่คนส่วนใหญ่นับถึอ
เช่นเมืองไทย เป็นเมืองพุทธ สิ่งสร้างต่างๆ ยังอ้างอิงถึงความเชื่อ ยกตัวอย่าง เช่น ทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เราใช้ก็เพิ่งสร้างมาไม่นาน ยังมีกินรี อยู่ตามริมถนนทางเข้า แล้วถ้าทางสเปนเห็นว่าการที่มีรูปเทวดา ตามเสาไฟ อนุเสาวรีของนักบุญ ต่างๆ เป็นการสร้างบรรยกาศทางศาสนาคริสต์มากเกินไปล่ะครับ ถ้าเค้าบอกว่าเออ มันก็เก่าๆแล้ว รื้อๆ ทำใหม่ไปเรย แบบเรียบไปเรย ไม่ต้องมีรวดลายอารายตามสะพาน ส่วนอนุเสาวะรีก็เอาออก แล้วก็เอารูปปั้นคนแบบโป้ๆ มาวางแทน แล้วก็บอกว่าเรื่องทำมะชาติ artมาก แล้วมันก็จะทำให้คนที่เห็นคิดว่าเรื่องเนื้อหนังก็เป็นเรื่องปรกตินี่นา ยังมีอนุเสาวะรีเรย โดยเฉพาะเยาวชน อย่าคิดว่าพี่เกินกว่าเหตุเรยน่ะครับ ขนาดไม้กางเขนยังเอาออกได้พาสาไรกับศิลปะที่เกี่ยวกับทางศาสนา หรือรูปปั้นนักบุญ หรืออะไรที่โน่มเอียงไปทางศาสนา คนรุ่นใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ ก็กลาย เป็นคนไม่เอาศาสนาอารายเรยกันหมด อย่าลืมน่ะครับสภาพแวดล้อมก็ผลกับคนด้วยจริงไม๊ครับ

เชื้อไฟเพียงเล็กน้อยย่อมทำให้ไฟไหม้บ้านได้น่ะครับ แล้วอาจจะมีหลายคนที่จะตายในบ้านด้วย
Edwardius เขียน: จริงๆ เรื่องนี้ไม่น่าจะต้องมาถกเถียงกันนะครับ เำำพราะ solution มันต่างกัน

ไทยคริสต์มองเรื่องนี้ในมุมของการคุกคาม เพราะในประเทศไทยเราถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยทางศาสนาครับ

พอมีอะไรแบบนี้เราจะรู้สึกว่าเป็นการเบียดเบียนของอำนาจรัฐ

แต่สเปนไม่เหมือนกันครับ ถ้าเราไปอยู่ที่โน่น คาทอลิกถือเป็นคนส่วนใหญ่ก็จริง

แต่ในขณะเดียวกัน ศาสนาอื่น รวมถึงศาสนาคริสต์นิกายอื่นๆ ก็กลายเป็นชนกลุ่มน้อยทางศาสนาไปอีก

การห้ามติด Crucifix เป็นการลดแรงเสียดทานทางการเมืองหลายๆ อย่างครับ

เพราะกลุ่มทางศาสนาในต่างประเทศ กับ บริบททางการเมืองในหลายๆ เรื่องมันแยกกันยาก

เช่นว่า ตอนนี้กฎหมายขอให้โรงเรียนรัฐแห่งหนึ่งเอา crucifix ออก อาจกลายเป็นบรรทัดฐานว่า สถานที่ใดๆทางราชการห้ามมิให้ติดสัญลักษณ์ทางศาสนา

ซึ่งในทางหนึ่้งอาจดูเป็นการข่มน้ำใจของชาวคาทอลิก แต่กับศาสนาคริสต์นิกายอื่นๆ อาจเป็นเรื่องดีสำหรับเขาก็ได้ ที่รัฐมีบทบาทเป็นกลางมากขึ้น

นานาจิตตัง อย่าไปยึดติดกับสิ่งอันเป็นวัตถุมากเลยครับ

นักบุญท่านหนึ่งสอนเราแล้วว่า เมื่อเราทำทุกหนทางแล้วทุกอย่างไม่ดีขึ้น หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลง ให้ท่านอธิษฐานภาวนา

นี่อาจเป็นเพียงการทดลองจากพระองค์ครับ จงตั้งใจภาวนากันเถิด
ผมว่ามันอาจจะไม่ดีอย่างที่คุณกำลังคิดก็ได้น่ะครับ ในเมื่อที่สะเปนเค้ายังไม่สนใจคนส่วนใหญ่เรย

อีกอย่างวัตถุที่คุณพูดเนี่ย เป็นสัญญาลักษณ์ของศาสนาคริสต์ทั้งหมด ไม่ได้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คนทั่วไปถ้าพูดว่าไม้กางเขนเค้าก็ว่าคริสต์ล่ะครับ ไม่มารู้ลึกหรอกว่า คริสต์ตัง หรือ คริสต์เตียน หรือคริสต์นิกายอื่นๆ

ผมว่าถ้ามีแต่พระอยู่ในบ้าน พระเยซูจะลงมาเทศสอนประชาชนทำไมครับ อยู่ในบ้านกับแม่พระจนขึ้นสวรรค์ ไปเรยก็ได้ไม่ต้องมาโดนด่าว่า โดนฆ่าแบบนี้ เพราะพระองค์ทรงเทศน์สอนนอกบ้าน ให้คนรู้ว่าความจริงคืออะไร

ผมว่าเค้าน่ะเอาการเมืองมายุ่งกับ ศาสนามากเกินไปต่างหาก ถ้าคนส่วนใหญ่ตามบัตรประชาชนเป็นคริสต์ ผมว่าผู้บริหารบ้านเมือง เกินครึ่งก็เป็นคริสต์ ถ้างั้นผมว่าคนที่เล่นการเมืองต่างหากควรจะไม่มีศาสนา จะได้ไม่มีข้ออ้างใดๆว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันกับทางศาสนา เวลาเกิดไรขึ้นก็ "อ่อ ผมกับเพื่อนร่วมรัฐบาลที่ไม่มีศาสนาเป็นคนคิดเอง ทำเองครับ ไม่เกี่ยวอะไรกันกับศาสนาเรยนะครับ"

ผมยอมรับครับว่าผมทนไม่ได้ ที่ได้ยินข่าวแบบนี้ ที่ใครหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญอะไร

พระเยซูเจ้าที่น่ารักของลูก อีกหน่อยเวลาที่ลูกอยู่ข้างนอกบ้าน ลูกคงต้องนึกถึงพระพักตร์พระองค์ในใจกับรูปของพระองค์ในกระเป๋าสตางค์ซะแล้วหรือพระเจ้าข้า ลูกรักพระองค์ ลูกเชื่อในพระองค์ ลูกหวังในพระองค์ ลูกนมัสการพระองค์ ลูกของสมาโทษ แทนผู้ที่ไม่รักพระองค์ ไม่เชื่อในพระองค์ ไม่หวังในพระองค์ ไม่นมัสการพระองค์
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 11:55 pm

ลองนึกสภาพโรงพยายาลเซ็นต์หลุยส์ไม่มีรูปไม้กางเขนติดอยู่สิ  แล้ววัดน้อยละ?
ตอบกลับโพส