โปรดอย่าลืมฉัน (วิญญาณในไฟชำระ)
-
- ~@
- โพสต์: 698
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:52 pm
วันหนึ่งนักบุญโฟตินา (ผู้เห็นการประจักษ์พระเมตตา) ได้เห็นอักขาเทวดาของเธอเอง และเทวดากล่าวว่า "ตามฉันมาเถิด" ในช่วงขณะนั้นเธออยู่ในสถานที่ ที่เต็มไปด้วยควันไฟ และกองไฟที่เธอได้พบนั้นมีจำนวนมากมายที่ต้องทนทุกข์ทรมานในที่นั้นวิญญาณเหล่านั้นสวดภาวนาด้วยความร้อนรน แต่ไม่มีผลต่อวิญญาณของตนเอง.
พวกเราทั้งหลายสามารถช่วยวิญญาณเหล่านี้ได้ เปลวไฟที่เผาผลาญวิญญาณในไฟชำระ ไม่สามารถมาถึงนักบุญโฟตินาได้ อารักขาเทวดาของเธอไม่ได้ทอดทิ้งเธอไว้ลำพัง นักบุญโฟตินาถามวิญญาณในไฟชำระว่า "อะไรที่เป็นความทุกข์ทรมานมากที่สุดที่พวกเขาได้รับ" วิญญาณเหล่านั้นตอบว่า "ความทุกข์ทรมานมากที่สุดที่พวกเราได้รับก็คือ การเราไม่ได้อยู่พระเป็นเจ้า"
และนักบุญโฟตินาได้เห็น แม่พระเสด็จมาเยี่ยมดวงวิญญาณในไฟชำระ. เหล่าดวงวิญญาณในไฟชำระได้เรียกพระนางว่า "ดารารสมุทร 'Star of the Sea'." พระนางนำความบรรเทาใจให้กับวิญญาณเหล่านั้น ท่านนักบุญมีความปรารถนาที่จะถามวิญญาณในไฟชำระต่อ แต่อารักขาเทวดาของท่านให้สัญาณว่า ถึงเวลาต้องไปแล้ว และท่านได้ยินเสียงภายในของท่านกล่าวว่า "ความเมตตาของเราไม่ได้ต้องการเช่นนั้น แต่ความยุติธรรมเรียกร้อง"
แปลจาก "St. Michael's Book of Deliverance"
วิญญาณเหล่านี้ไม่สามารถจะช่วยตนเองได้จากบาปที่ได้กระทำและพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้า แต่เรามนุษย์สามารถจะช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้นได้ โดยการภาวนา, พลีกรรม, ขอมิสซา ฯลฯ ให้กับวิญญาณเหล่านั้นได้และเมื่อพวกเขาถูกปลดปล่อยจากแดนชำระ วิญญาณเหล่านั้นจะไม่มีวันลืมบุญคุณของผู้ที่ช่วยพวกเขาให้พ้นทุกข์.
วันนี้คุณได้สวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระแล้วรึยัง?
พวกเราทั้งหลายสามารถช่วยวิญญาณเหล่านี้ได้ เปลวไฟที่เผาผลาญวิญญาณในไฟชำระ ไม่สามารถมาถึงนักบุญโฟตินาได้ อารักขาเทวดาของเธอไม่ได้ทอดทิ้งเธอไว้ลำพัง นักบุญโฟตินาถามวิญญาณในไฟชำระว่า "อะไรที่เป็นความทุกข์ทรมานมากที่สุดที่พวกเขาได้รับ" วิญญาณเหล่านั้นตอบว่า "ความทุกข์ทรมานมากที่สุดที่พวกเราได้รับก็คือ การเราไม่ได้อยู่พระเป็นเจ้า"
และนักบุญโฟตินาได้เห็น แม่พระเสด็จมาเยี่ยมดวงวิญญาณในไฟชำระ. เหล่าดวงวิญญาณในไฟชำระได้เรียกพระนางว่า "ดารารสมุทร 'Star of the Sea'." พระนางนำความบรรเทาใจให้กับวิญญาณเหล่านั้น ท่านนักบุญมีความปรารถนาที่จะถามวิญญาณในไฟชำระต่อ แต่อารักขาเทวดาของท่านให้สัญาณว่า ถึงเวลาต้องไปแล้ว และท่านได้ยินเสียงภายในของท่านกล่าวว่า "ความเมตตาของเราไม่ได้ต้องการเช่นนั้น แต่ความยุติธรรมเรียกร้อง"
แปลจาก "St. Michael's Book of Deliverance"
วิญญาณเหล่านี้ไม่สามารถจะช่วยตนเองได้จากบาปที่ได้กระทำและพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้า แต่เรามนุษย์สามารถจะช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้นได้ โดยการภาวนา, พลีกรรม, ขอมิสซา ฯลฯ ให้กับวิญญาณเหล่านั้นได้และเมื่อพวกเขาถูกปลดปล่อยจากแดนชำระ วิญญาณเหล่านั้นจะไม่มีวันลืมบุญคุณของผู้ที่ช่วยพวกเขาให้พ้นทุกข์.
วันนี้คุณได้สวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระแล้วรึยัง?
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ม.ค. 24, 2009 7:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- เด็ก น้อย ผู้ หลง ทาง
- โพสต์: 89
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 10, 2009 2:20 pm
สวด แล้ว ค้าบ ผม ... ฮ่า ฮ่า
สวดคะ เวลาสวดสายประคำ..จะสวดให้ทันทีที่นึกได้
ในขณะเดียวกันก็นึกถึงไปถึงผู้ที่ยังอยู่ในโลกที่ต้องเผชิญกับปัญหาหนักๆในชีวิต..
บางคนอาจเลือกทางเดินที่ทิศทางตรงกันข้ามกับความรักของพระเป็นเจ้า
หรือชีวิตที่เลือกทำตามอำเภอใจของตน และปิดกั้นความรักความเมตตาของพระ
พวกเราก็ควรระลึกถึงและสวดภาวนาให้เพื่อนๆเราเหล่านี้ด้วยนะ..
อย่างเช่น...บทภาวนาของพระคุณเจ้ายอด พิมพิสาร..บทนี้
ข้าแต่พระเจ้า..
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และผู้ที่เห็นว่าชีวิตมีความยากลำบาก
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าชีวิตของตนเองโดดเดี่ยว
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และเห็นการดำเนินชีวิตต่อไปยากลำบาก
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าตัวเขากำลังจะตายอยู่คนเดียว
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าตัวเขากำลังทุกข์ทรมานอยู่
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
โปรดได้ทรงปลอบโยนและให้กำลังใจแก่พวกเขา
และโปรดสำแดงพระเมตตาของพระองค์แก่พวกเขาด้วยเถิด
อาเมน
ในขณะเดียวกันก็นึกถึงไปถึงผู้ที่ยังอยู่ในโลกที่ต้องเผชิญกับปัญหาหนักๆในชีวิต..
บางคนอาจเลือกทางเดินที่ทิศทางตรงกันข้ามกับความรักของพระเป็นเจ้า
หรือชีวิตที่เลือกทำตามอำเภอใจของตน และปิดกั้นความรักความเมตตาของพระ
พวกเราก็ควรระลึกถึงและสวดภาวนาให้เพื่อนๆเราเหล่านี้ด้วยนะ..
อย่างเช่น...บทภาวนาของพระคุณเจ้ายอด พิมพิสาร..บทนี้
ข้าแต่พระเจ้า..
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และผู้ที่เห็นว่าชีวิตมีความยากลำบาก
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าชีวิตของตนเองโดดเดี่ยว
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และเห็นการดำเนินชีวิตต่อไปยากลำบาก
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าตัวเขากำลังจะตายอยู่คนเดียว
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าตัวเขากำลังทุกข์ทรมานอยู่
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
โปรดได้ทรงปลอบโยนและให้กำลังใจแก่พวกเขา
และโปรดสำแดงพระเมตตาของพระองค์แก่พวกเขาด้วยเถิด
อาเมน
- เด็ก น้อย ผู้ หลง ทาง
- โพสต์: 89
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 10, 2009 2:20 pm
จะจำเอาไว้ใช้นะค้าบบบ ... ขอบคุณคร้าบignatius เขียน: สวดคะ เวลาสวดสายประคำ..จะสวดให้ทันทีที่นึกได้
ในขณะเดียวกันก็นึกถึงไปถึงผู้ที่ยังอยู่ในโลกที่ต้องเผชิญกับปัญหาหนักๆในชีวิต..
บางคนอาจเลือกทางเดินที่ทิศทางตรงกันข้ามกับความรักของพระเป็นเจ้า
หรือชีวิตที่เลือกทำตามอำเภอใจของตน และปิดกั้นความรักความเมตตาของพระ
พวกเราก็ควรระลึกถึงและสวดภาวนาให้เพื่อนๆเราเหล่านี้ด้วยนะ..
อย่างเช่น...บทภาวนาของพระคุณเจ้ายอด พิมพิสาร..บทนี้
ข้าแต่พระเจ้า..
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และผู้ที่เห็นว่าชีวิตมีความยากลำบาก
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าชีวิตของตนเองโดดเดี่ยว
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และเห็นการดำเนินชีวิตต่อไปยากลำบาก
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าตัวเขากำลังจะตายอยู่คนเดียว
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าตัวเขากำลังทุกข์ทรมานอยู่
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
โปรดได้ทรงปลอบโยนและให้กำลังใจแก่พวกเขา
และโปรดสำแดงพระเมตตาของพระองค์แก่พวกเขาด้วยเถิด
อาเมน
คราบ สวดแล้วคราบ สวดเสมอ สงสารคราบ ผมเองก้อาจต้องไป่นั้นคราบ ผมเป็นคนบาป คือ ผมขาดจากการทำบาปไม่ได้เลยคราบ
สวดให้เสมอสำหรับเพื่อนที่ล่วงหน้าไปก่อน
อาแมนignatius เขียน:
ข้าแต่พระเจ้า..
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และผู้ที่เห็นว่าชีวิตมีความยากลำบาก
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าชีวิตของตนเองโดดเดี่ยว
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และเห็นการดำเนินชีวิตต่อไปยากลำบาก
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าตัวเขากำลังจะตายอยู่คนเดียว
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
และพบว่าตัวเขากำลังทุกข์ทรมานอยู่
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงเอาใจใส่ดูแล ผู้ที่ร้องไห้ในคืนนี้
โปรดได้ทรงปลอบโยนและให้กำลังใจแก่พวกเขา
และโปรดสำแดงพระเมตตาของพระองค์แก่พวกเขาด้วยเถิด
อาเมน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
สวดให้เสมอครับ เพราะรู้ว่าเราสามารถช่วยเค้าได้ด้วยคำภาวนา, ขอมิสซา และการพลีกรรมครับ
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
อ่า เอ่อ เราสวดบ้างไม่สวดบ้างอะคะช่วงนี้
รู้สึกผิดจัง
รู้สึกผิดจัง
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พยายามสิครับ เราต้องทำให้ได้~Holy Maiden Nerine~ เขียน: อ่า เอ่อ เราสวดบ้างไม่สวดบ้างอะคะช่วงนี้
รู้สึกผิดจัง
-
- ~@
- โพสต์: 698
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:52 pm
เรื่องการพบแม่ของหญิงสาวคนใช้
ประเทศฝรั่งเศส มีหญิงคนใช้ชื่อแจนเน็ตมาเรีย ขณะร่วมพิธีมิสซาและคุณพ่อได้เทศน์เกี่ยวกับวิญญาณในไฟชำระ เธอก็มีความศรัทธาต่อวิญญาณในไฟชำระเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้ฟังเทศนา และเธอได้คิดว่าความน่ากลัวเพียงไรที่ดวงวิญญาณเหล่านั้นถูกลืม,ถูกทอดทิ้งและไม่มีใครสวดให้จากเพื่อนบนโลกนี้
และในระหว่างบทเทศน์ที่เธอทบทวนได้ คือวิญญาณที่ใกล้ชำระหมดแล้ว 1 มิสซาสามารถช่วยให้เขาหลุดพ้นได้ โดยเฉพาะวิญญาณที่ใกล้ถึงสวรรค์แล้ว
แจนเน็ตมาเรีย ได้รับค่าจ้างเพียงน้อยนิดแต่เธอไม่เคยลืมที่จะขอมิสซาเพื่อวิญญาณในไฟชำระ ตามความตั้งใจของเธอ
ครั้นหนึ่งเธอได้ไปปารีส กับนายหญิงของเธอ แต่แจนเน็ตมาเรีย ก็ได้ล้มป่วยลงเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ก็ต้องอยู่รักษาตัวเป็นเวลานาน นายหญิงของเธอก็ต้องกลับบ้านของเธอก่อนและหวังว่า แจนเน็ตมาเรียคงจะกลับมาบ้านในไม่ช้า แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้นและต้องอยู่ที่โรงพยาบาลนานเกินไป
ในที่สุดแจนเน็ตมาเรียก็สามารถที่จะออกจากโรงพยาบาลได้ แต่เธอเหลือเงินติดตัวแค่ 1 ฟรังค์เท่านั้น!
เธอจะทำเช่นไร? จะไปทางไหนดี? และมีความคิดหนึ่งวูบเข้ามา เธอยังไม่ได้ของมิสซาเพื่อไฟชำระเลย แต่เธอมีแค่ 1 ฟรังค์เท่านั้น. นั่นยังไม่พอที่จะซื้อแม้กระทั้งอาหารเลย! แต่เธอมีความไว้ใจว่าวิญญาณในไฟชำระจะไม่ทอดทิ้งเธอ
ดังนั้นเธอจึงไปที่วัดและถวายเงินให้คุณพ่อเพื่อขอมิสซาแด่ไฟชำระ เมื่อมิสซาจบเธอออกจากวัด ความกังวลและความเศร้าที่ยังอยู่บนใบหน้าของเธอ และตอนนั้นมีชายหนุ่มเดินมาที่เธอและถามเธอว่าต้องการความช่วยเหลือไหม?
แจนเน็ตมาเรีย ก็ได้บอกกับชายหนุ่มคนนั้นถึงเรื่องราวของเธออย่างสั้นๆ และเธอได้บอกกับเขาว่า เธอต้องการงานทำ ในขณะที่เธอเล่าให้ชายคนนั้นฟัง เธอรู้สึกถึงความบรรเทาใจ และมีความหวังอีกครั้งหนึ่ง
ชายหนุ่มตอบว่า "ผมยินดีที่จะช่วยเหลือคุณครับ ผมรู้มาว่ามีบ้านใหญ่อยู่หลังหนึ่ง ต้องการคนใช้ ตามผมมาที่นี่เถิด" และเขาก็พาเธอไปหยุดที่บ้านหลังนั้นและเขาก็จากไป เมื่อเธอกดกริ่ง เจ้าของบ้านลงมาเปิด แจนเน็ตมาเรียถามเจ้าของบ้านว่า "คุณนายค่ะ ดิฉันรู้มาว่าคุณนายต้องการคนใช้ใช่ไหมค่ะ? ดิฉันกำลังตกงาน ดิฉันยินดีที่จะทำงานค่ะ" เจ้าของบ้านถึงกลับประหลาดใจและตอบว่า "เธอรู้ได้อย่างไรว่า ฉันต้องการคนใช้? เมื่อตะกี้ฉันพึ่งไล่คนใช้ฉันออก เธอไม่ได้เห็นหล่อนเดินออกไปจากบ้านฉันรึ?"
แจนเน็ตมาเรียตอบว่า " ไม่เจ้าค่ะ คนที่พาฉันมาที่นี่เป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง"
เจ้าของบ้านตอบว่า "เป็นไปไม่ได้!" " ไม่มีชายหนุ่มคนไหนที่จะรู้ว่าฉันต้องการคนใช้ "
แต่คุณผู้หญิงค่ะ แจนเน็ตมาเรีย ตอบด้วยความตื่นเต้นและชี้ไปที่รูปของชายคนนั้นที่แขวนอยู่ที่กำแพง " ชายคนนั้นค่ะ! ที่บอกกับดิฉัน"
เจ้าของบ้านตอบ "นั่นเป็นลูกชายคนเดียวของฉัน เขาตายได้ปีกว่าแล้ว!"
"ตายรึ!" เป็นเขาแน่ๆค่ะคุณผู้หญิง เพราะเขานำดิฉันมาที่นี่ ดูที่รอยแผลที่ตาเขา ดิฉันจำเขาได้"
และแจนเน็ตมาเรียก็ได้เล่าเรื่องเงิน 1 ฟรังค์ที่เธอมีติดตัว เพื่อขอมิสซาแด่ไฟชำระ โดยเฉพาะวิญญาณที่ได้ใกล้ไปสวรรค์ เมื่อฟังจบเจ้าของบ้านได้อ้าแขนต้อนรับเธอ "มาเถิด เธอมาอยู่กับฉัน ไม่ใช่ฐานะคนใช้ แต่ในฐานะลูกสาวของฉัน เพราะเธอได้ช่วยลูกชายสุดที่รักของฉันไปสวรรค์ ฉันไม่สงสัยเลยว่า เป็นเขาที่นำเธอมาที่นี่"
แปลจาก http://www.theworkofgod.org/Library/Pur ... ELP%20THEM
ประเทศฝรั่งเศส มีหญิงคนใช้ชื่อแจนเน็ตมาเรีย ขณะร่วมพิธีมิสซาและคุณพ่อได้เทศน์เกี่ยวกับวิญญาณในไฟชำระ เธอก็มีความศรัทธาต่อวิญญาณในไฟชำระเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้ฟังเทศนา และเธอได้คิดว่าความน่ากลัวเพียงไรที่ดวงวิญญาณเหล่านั้นถูกลืม,ถูกทอดทิ้งและไม่มีใครสวดให้จากเพื่อนบนโลกนี้
และในระหว่างบทเทศน์ที่เธอทบทวนได้ คือวิญญาณที่ใกล้ชำระหมดแล้ว 1 มิสซาสามารถช่วยให้เขาหลุดพ้นได้ โดยเฉพาะวิญญาณที่ใกล้ถึงสวรรค์แล้ว
แจนเน็ตมาเรีย ได้รับค่าจ้างเพียงน้อยนิดแต่เธอไม่เคยลืมที่จะขอมิสซาเพื่อวิญญาณในไฟชำระ ตามความตั้งใจของเธอ
ครั้นหนึ่งเธอได้ไปปารีส กับนายหญิงของเธอ แต่แจนเน็ตมาเรีย ก็ได้ล้มป่วยลงเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ก็ต้องอยู่รักษาตัวเป็นเวลานาน นายหญิงของเธอก็ต้องกลับบ้านของเธอก่อนและหวังว่า แจนเน็ตมาเรียคงจะกลับมาบ้านในไม่ช้า แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้นและต้องอยู่ที่โรงพยาบาลนานเกินไป
ในที่สุดแจนเน็ตมาเรียก็สามารถที่จะออกจากโรงพยาบาลได้ แต่เธอเหลือเงินติดตัวแค่ 1 ฟรังค์เท่านั้น!
เธอจะทำเช่นไร? จะไปทางไหนดี? และมีความคิดหนึ่งวูบเข้ามา เธอยังไม่ได้ของมิสซาเพื่อไฟชำระเลย แต่เธอมีแค่ 1 ฟรังค์เท่านั้น. นั่นยังไม่พอที่จะซื้อแม้กระทั้งอาหารเลย! แต่เธอมีความไว้ใจว่าวิญญาณในไฟชำระจะไม่ทอดทิ้งเธอ
ดังนั้นเธอจึงไปที่วัดและถวายเงินให้คุณพ่อเพื่อขอมิสซาแด่ไฟชำระ เมื่อมิสซาจบเธอออกจากวัด ความกังวลและความเศร้าที่ยังอยู่บนใบหน้าของเธอ และตอนนั้นมีชายหนุ่มเดินมาที่เธอและถามเธอว่าต้องการความช่วยเหลือไหม?
แจนเน็ตมาเรีย ก็ได้บอกกับชายหนุ่มคนนั้นถึงเรื่องราวของเธออย่างสั้นๆ และเธอได้บอกกับเขาว่า เธอต้องการงานทำ ในขณะที่เธอเล่าให้ชายคนนั้นฟัง เธอรู้สึกถึงความบรรเทาใจ และมีความหวังอีกครั้งหนึ่ง
ชายหนุ่มตอบว่า "ผมยินดีที่จะช่วยเหลือคุณครับ ผมรู้มาว่ามีบ้านใหญ่อยู่หลังหนึ่ง ต้องการคนใช้ ตามผมมาที่นี่เถิด" และเขาก็พาเธอไปหยุดที่บ้านหลังนั้นและเขาก็จากไป เมื่อเธอกดกริ่ง เจ้าของบ้านลงมาเปิด แจนเน็ตมาเรียถามเจ้าของบ้านว่า "คุณนายค่ะ ดิฉันรู้มาว่าคุณนายต้องการคนใช้ใช่ไหมค่ะ? ดิฉันกำลังตกงาน ดิฉันยินดีที่จะทำงานค่ะ" เจ้าของบ้านถึงกลับประหลาดใจและตอบว่า "เธอรู้ได้อย่างไรว่า ฉันต้องการคนใช้? เมื่อตะกี้ฉันพึ่งไล่คนใช้ฉันออก เธอไม่ได้เห็นหล่อนเดินออกไปจากบ้านฉันรึ?"
แจนเน็ตมาเรียตอบว่า " ไม่เจ้าค่ะ คนที่พาฉันมาที่นี่เป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง"
เจ้าของบ้านตอบว่า "เป็นไปไม่ได้!" " ไม่มีชายหนุ่มคนไหนที่จะรู้ว่าฉันต้องการคนใช้ "
แต่คุณผู้หญิงค่ะ แจนเน็ตมาเรีย ตอบด้วยความตื่นเต้นและชี้ไปที่รูปของชายคนนั้นที่แขวนอยู่ที่กำแพง " ชายคนนั้นค่ะ! ที่บอกกับดิฉัน"
เจ้าของบ้านตอบ "นั่นเป็นลูกชายคนเดียวของฉัน เขาตายได้ปีกว่าแล้ว!"
"ตายรึ!" เป็นเขาแน่ๆค่ะคุณผู้หญิง เพราะเขานำดิฉันมาที่นี่ ดูที่รอยแผลที่ตาเขา ดิฉันจำเขาได้"
และแจนเน็ตมาเรียก็ได้เล่าเรื่องเงิน 1 ฟรังค์ที่เธอมีติดตัว เพื่อขอมิสซาแด่ไฟชำระ โดยเฉพาะวิญญาณที่ได้ใกล้ไปสวรรค์ เมื่อฟังจบเจ้าของบ้านได้อ้าแขนต้อนรับเธอ "มาเถิด เธอมาอยู่กับฉัน ไม่ใช่ฐานะคนใช้ แต่ในฐานะลูกสาวของฉัน เพราะเธอได้ช่วยลูกชายสุดที่รักของฉันไปสวรรค์ ฉันไม่สงสัยเลยว่า เป็นเขาที่นำเธอมาที่นี่"
แปลจาก http://www.theworkofgod.org/Library/Pur ... ELP%20THEM
-
- ~@
- โพสต์: 698
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:52 pm
บันทึกของไฟชำระ
http://uk.geocities.com/palangjai2004/purgatory3.html
บทภาวนาเพื่อปลดปล่อยวิญญาณในไฟชำระ
http://uk.geocities.com/devoutlife2006/purgatory5.html
http://uk.geocities.com/palangjai2004/purgatory3.html
บทภาวนาเพื่อปลดปล่อยวิญญาณในไฟชำระ
http://uk.geocities.com/devoutlife2006/purgatory5.html
ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วนึกถึงตัวเองMarioAntonio เขียน: บันทึกของไฟชำระ
http://uk.geocities.com/palangjai2004/purgatory3.html
บทภาวนาเพื่อปลดปล่อยวิญญาณในไฟชำระ
http://uk.geocities.com/devoutlife2006/purgatory5.html