St. Thomas More
นักบุญ โทมัส มอร์
องค์อุปถัมภ์ : ลูกเลี้ยง, บุพการีเลี้ยง, นักการเมือง, ครอบครัวใหญ่, ทนายความ, การแต่งงานที่ยากลำบาก, เลขานุการราชสำนัก
ท่านเป็นองค์อุปถัมภ์ของบรรดาทนายความ ผู้เกิดในปี 1478 หลังจากท่านได้สำเร็จการศึกษาจากสาขาศาสนศาสตร์ กับประวัติศาสตร์คลาสสิคแล้ว ท่านก็เข้าไปศึกษาต่อที่อ็อกฟอร์ด ในสาขาทางกฎหมาย และเมื่อสำเร็จการศึกษาออกมา ท่านก็เริ่มลงแรงทำงานด้านกฎหมาย จนมีส่วนเข้าร่วมกับทางรัฐสภา
ในปี 1505 ท่านได้สมรสกับ เจน โคลท์ ผู้ให้กำเนิดบุตรธิดามาด้วยกัน 4 คน แต่ไม่นานนักแม้จะยังสาวอยู่ ภริยาของท่านผู้นี้ก็จากไปในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ท่านไปสมรสใหม่กับแม่ม้ายนาม อลิซ มิดเดิ้ลต้อน เพื่อให้นางมาเป็นมารดา คอยดูแลลูกๆ อีก 4 คน ด้วยความที่ท่านเป็นคนหัวไวและปราดเปรื่อง ท่านจึงได้ไปศึกษาผลงานของบรรดาพระบิชอปและนักวิชาการอีกมากมาย จนในที่สุด ในปี 1516 ท่านก็ได้ประพันธ์หนังสือในระดับโลก อย่าง “ยูโธเปีย” ออกมา ชื่อเสียงเรียงนามของท่านแผ่ขยายขจรไปไกล จนถึงกับไปต้องตาต้องใจพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ซึ่งพระองค์ได้ทรงเรียกท่านโทมัส มอร์ มาทำงานให้พระองค์ และสุดท้าย ก็แต่งตั้งท่านเป็น ท่านลอร์ด ในปี 1529
ในคราวที่พระเจ้าเฮนรี่ดึงดันเรื่องการวิวาห์ของพระองค์ โดยไม่ใส่ใจคำทัดทานและอำนาจสูงสุดของพระสันตะปาปาและพระศาสนจักร ท่านก็ได้ลงแรงในการรังสรรค์งาน เขียนบทความงานเพื่อปกป้องพระศาสนจักร และในปี 1534 ท่านกับนักบุญยอห์น ฟิชเชอร์ สหายคนสนิทของท่าน ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ ในฐานะผู้นำของศาสนจักรแห่งอังกฤษ ทำให้ท่านทั้งคู่ถูกจับคุมขังในหอคอย ก่อนจะถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหากบฏต่อชาติในเวลาต่อมา
ก่อนที่ท่านจะถูกประหาร ท่านได้กล่าวเบื้องหน้าศาลว่า ท่านมิอาจขัดต่อมโนธรรมของตัวท่านเองได้ และปรารถนาที่จะเชื่อในการตัดสินของตัวท่านเองว่า “เราทั้งหมดนี้ อาจได้เข้าไปอยู่ในสวรรค์ร่วมกัน สู่การไถ่กู้ชั่วนิรันดร์” และในวาระสุดท้ายที่นั่งร้านของลานประหาร ก่อนที่ท่านจะถูกตัดศีรษะนี่เอง ท่านก็ยังลั่นกล่าวกับฝูงชนที่มาชมอีกด้วยว่า “ข้าพเจ้าตายอย่างผู้รับใช้ที่ดีของกษัตริย์ หากแต่เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ผู้มาก่อนผู้ใด”