นักบุญที่ฉลอง วัน 5 ตุลาคม

วันระลึกถึงนักบุญ 365-6วัน ประวัตินักบุญ และวันฉลองสำคัญของคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Veritas
โพสต์: 483
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 01, 2010 1:24 pm

จันทร์ ต.ค. 04, 2010 10:37 am

นักบุญที่ฉลอง วัน 5 ตุลาคม


Saint Faustina Kowalska
นักบุญโฟสติน่า โควาลสกี้




รูปภาพ



รูปภาพ





ท่านเป็นธิดาคนที่ 3 ในบรรดาพี่น้องร่วมกันสิบผู้ ท่านได้เข้ารับการศึกษาเล่าเรียน หากแต่ได้เล่าเรียนเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น แล้วต้องมีอันไปทำงานเป็นสาวใช้ตามบ้านให้กับครอบครัวอื่น หลังจากที่ท่านถูกปฎิเสธไม่ได้เข้าร่วมในคณะทางศาสนาหลายต่อหลายคณะ ท่านก็บวชเป็นนางชีในคณะ ชุมนุมแห่งซิสเตอร์แห่งแม่พระการุณย์ (Congregation of the Sisters of Our Lady of Mercy) ในวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ ในวันที่ 1 สิงหาคม ปี 1925 โดยทางชุมนุมคณะนี้ได้มีการอุทิศให้ความช่วยเหลือ และให้การศึกษากับบรรดาสตรีผู้ประสบปัญหาเคราะห์กรรมทั้งหลาย ส่วนท่านหลังจากเข้าร่วมกับคณะชุมนุมแล้ว ก็เปลี่ยนนามของตนใหม่ เป็น ซิสเตอร์ มาเรีย โฟสติน่า แห่งศีลมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ และตลอดช่วงระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ท่านก็ได้ทำงานหลากหน้าที่ หลายสถานะ คือ เป็นทั้งกุ๊ก คนสวน และ คนทำความสะอาด


ท่านอุทิศถวายตนเป็นพิเศษจากดวงหฤทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ ต่อศีลมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ และต่อความเป็นเอกภาพ ปรองดอง ซึ่งนั่นนำพาชีวิตท่านไปสู่การเข้าถึงฌานลึกล้ำในชีวิตของท่าน ท่านเริ่มที่จะได้รับนิมิต ได้รับซึ่งการไขแสดง และประสบซึ่งรอยแผลศักดิ์สิทธิ์อันซ่อนเร้น ท่านเริ่มที่จะบันทึกประสบการณ์การเข้าถึงฌานทางจิตเหล่านี้ไว้ในไดอารี่ของท่าน โดยสิ่งที่บันทึกแทบจะไม่ใช่การบันทึกเขียนหนังสือบทความอะไรเลย หากแต่เป็นการถ่ายทอดตามภาษาพูดอย่างง่ายๆ ไปเรื่อยๆ โดยปราศจากซึ่งเครื่องหมายคำพูด และเครื่องหมายเว้นวรรคตอน และทั้งหมดกินจำนวนบันทึกไปร่วมถึง 700 หน้า บันทึกของท่านถูกส่งไปยังโรม และได้รับการพิจรนาจากพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 (ซึ่ง ณ เวลานั้นพระองค์ยังทรงเป็นอาร์คบิชอปอยู่) จนได้รับการรับรองจากวาติกันว่าผลงานชิ้นนี้คือการประกาศแจ้งซึ่งความรักจากองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยแท้จริง และยังผลให้บันทึกของท่านถูกตีพิมพิ์ในชื่อ พระการุณย์ในจิตวิญญาณของฉัน (Divine Mercy in my Soul)


ในปี 1930 ท่านได้รับสารแห่งพระเมตตาจากพระเยซูเจ้า ที่พระองค์ดำรัสบอกให้เผยให้นานาประชาชาติทั่วโลกได้รับรู้ คือสารแห่งพระเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์แต่ละคน และต่อมวลมนุษยชาติทั้งหมด พระเยซูเจ้าดำรัสตรัสให้มีการวาดภาพขึ้นหนึ่งผืนภาพของพระองค์ พร้อมข้อความที่ให้จารึกคู่กันว่า

“พระเยซูเจ้าข้า ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์”
“Jesus, I Trust in You.”

พร้อมกับภาพของเส้นแสงสองเส้น หนึ่งมีสีแดง และอีกหนึ่งมีสีขาว และทั้งสองเส้นแสงพุ่งออกมาจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า


ท่านถูกขอให้กระทำดำรงตนเป็นแบบอย่างแห่งความเมตตาต่อผู้อื่น และใช้ชีวิตทั้งหมดของท่านทั้งชีวิต ในการเลียนแบบการเสียสละของพระเยซูเจ้า ซึ่งท่านก็กระทำได้อย่างดี ตลอดจนช่วงชีวิตที่ครองตนเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างที่ท่านเป็น



ตัวอย่างเรื่องราวส่วนหนึ่ง ที่ท่านได้จดไว้ในสมุดบันทึกประจำวันของท่าน [ขอขอบคุณเนื้อหาส่วนนี้จากเว็บอิสระ]


(741)
“วันนี้ เทวดาได้พาข้าพเจ้าไปชมเหวลึกในนรก มันเป็นสถานที่แห่งการเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส ช่างใหญ่โตมหึมา กว้างใหญ่ไพศาล และน่ากลัวสยองขวัญที่สุด! การทรมานหลายชนิดที่ข้าพเจ้าได้มองเห็น
(1) การสูญเสียพระเป็นเจ้า
(2) การเศร้าโศกเสียใจของมโนธรรมไม่มีวันจบ
(3) สภาพของวิญญาณแต่ละดวงจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
(4) ไฟเจาะทะลุวิญญาณโดยไม่ไหม้เป็นเถ้าถ่าน การเจ็บปวดทรมานที่น่ากลัวยิ่งนัก ไฟที่เผาผลาญจิตวิญญาณโดยเฉพาะ ถูกจุดโดยพระพิโรธของพระเป็นเจ้า
(5) ความมืดสนิทชั่วนิรันดร และกลิ่นเหม็นอันน่าขยะแขยง สะอิดสะเอียน ชวนให้สำลัก ถึงแม้ว่ามืดสนิท ปิศาจและวิญญาณตกนรกมองเห็นกันและกัน และเห็นความชั่วร้ายทุกชนิดของผู้อื่นและของตัวเองด้วย
(6) การมีซาตานเป็นเพื่อนตลอดไป
(7) การหมดอาลัยตายอยาก การเกลียดองค์พระเจ้า การพูดจาหยาบคาย การสาปแช่งและสบประมาท สิ่งเหล่านี้ คือ การทรมานของทุกคนที่อยู่ในนรก
และไม่ได้มีเพียงแค่นี้ ยังมีการทรมานโดยเฉพาะสำหรับวิญญาณแต่ละดวง ประสาททั้งห้า (เห็น ฟัง ดม ลิ้มรส รู้สึก) ต้องเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส วิญญาณถูกทรมานอย่างน่ากลัว ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้ ขึ้นกับวิธีการทำบาป มีถ้ำและเหวแห่งการทรมาน ที่ซึ่งชนิดของการทรมานอันหนึ่งแตกต่างจากอีกอันหนึ่ง

ถ้าพระเป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพไม่ค้ำจุนข้าพเจ้าไว้ ข้าพเจ้าคงสิ้นใจไปแล้วที่ได้เห็นการทรมานเหล่านั้น คนบาปทั้งหลาย จงรับรู้ว่า ท่านจะต้องทรมานตลอดชั่วนิรันดร โดยประสาททั้งห้าซึ่งท่านได้ใช้ทำบาป (161) ข้าพเจ้ากำลังจดบันทึกตามพระบัญชาของพระเป็นเจ้า เพื่อวิญญาณจะได้ไม่มีข้อแก้ตัวว่าไม่มีนรก หรือ ไม่มีใครเคยไปที่แห่งนั้นมาก่อน ดังนั้นไม่มีใครพูดได้ว่าที่แห่งนั้นมีรูปร่างลักษณะอะไร?

ข้าพเจ้า ซิสเตอร์โฟสตินา โดยพระราชโองการของพระเป็นเจ้า ได้ไปเยือนถึงก้นบึ้งนรก เพื่อข้าพเจ้าจะได้บอกมนุษย์เรื่องนรก และเป็นพยานยืนยันว่า นรกมีจริง บัดนี้ข้าพเจ้าไม่อาจพูดเรื่องนี้ แต่ข้าพเจ้าได้รับพระบัญชาให้เขียนไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ปิศาจได้เกลียดข้าพเจ้าอย่างท่วมท้น แต่พวกมันต้องนบนอบข้าพเจ้าตามพระบัญชาของพระเป็นเจ้า สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เขียนเป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของทั้งหมดที่ได้เห็น แต่ข้าพเจ้าได้สังเกตุเห็นสิ่งสำคัญประการหนึ่ง วิญญาณส่วนมากเป็นมนุษย์ที่ไม่เชี่อว่า นรกมีจริง

เมื่อการเยือนนรกของข้าพเจ้าจบลง ข้าพเจ้าก็ยังคงหวาดกลัวสยองขวัญ วิญญาณที่อยู่ที่นั่นต้องเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส!

ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าสวดภาวนาเพิ่มขึ้นด้วยความร้อนรน เพื่อคนบาปจะได้กลับใจ ข้าพเจ้าวอนขอพระเป็นเจ้า โดยไม่หยุดยั้ง โปรดทรงเมตตาคนบาปทั้งหลาย โอ้ พระเยซูเจ้าข้า ข้าพเจ้ายอมรับการทรมานทุกอย่างจนกระทั่งโลกสิ้นพิภพ รวมทั้งการทรมานที่เจ็บปวดที่สุด ดีกว่าทำเคืองพระทัยพระองค์ด้วยบาปเพียงเล็กน้อย”
ตอบกลับโพส