Saint Agnes
นักบุญอักแนส
องค์อุปถัมภ์ : คู่แต่งงาน, คู่หมั้นหมาย, ความบริสุทธิ์ของร่างกาย, พรหมจรรย์, ธัญพืช, คนสวน, ความสะอาดบริสุทธิ์, ลูกเสือหญิง, เด็กสาว, เหยื่อของการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
สิ่งสื่อแทนถึงท่าน : คนขายเนื้อ, มงกุฎหนาม, ลูกแกะ, ใบปาล์ม, สตรีผมยาว กับลูกแกะ ในบางครั้งมีดาบอยู่ที่ลำคอด้วย / สตรีกับนกเขา ที่คาบแหวนไว้ในจงอยปาก / สตรี ผ็มีลูกแกะอยู่เคียงข้าง
ท่านเกิดในตระกูลที่ร่ำรวยมีชื่อเสียงและมั่งคั่งตระกูลหนึ่งของโรมัน เมื่อวันที่ 28 มกราคม ช่วงคริสตศักราช 400 ในสมัยการปกครองของ จักพรรดิ ดิโอเคลเธียน ท่านได้เติบโตมาอย่างดีในครอบครัวคริสตศาสนิกชน เป็นเด็กสาวที่เพียบพร้อม และ งดงาม ในยามที่ท่านได้มรณภาพเป็นมรณสัขขีนั้น ท่านพึ่งมีอายุเพียงแค่ 13 ปี เท่านั้น สาเหตุก็เพราะความงามและความเพียบพร้อมของท่านนี่เอง ทำให้มีชายหนุ่มมากหน้าหลายตาได้ตกหลุมรักท่านและขอท่านแต่งงาน แต่ท่านก็กล่าวปฏิเสธไปทั้งหมด โดยท่านบอกว่าท่านได้หมั้นหมาย ทางจิตวิญญาณ กับพระเจ้าในสวรรค์ คือ องค์พระเยซูคริสต์เจ้าไว้แล้ว ไม่ว่าใครจะเกลี่ยกล่อมเพียงไรท่านก็ไม่ละทิ้งความศรัทธาความมุ่งมั่นนั้น จนกระทั่งชายคนหนึ่งซึ่งเป็นบุตรแห่งตระกูลที่มีชื่อเสียงของโรมได้มาหลงรักท่าน และถูกปฏิเสธกลับไปเฉกเช่นชายหนุ่มคนอื่นๆ ชายผู้นั้นโกรธมาก ซ้ำยังรู้สึกราวกับว่าถูกลบหลู่เกียรติยศของตน เขาจึงแจ้งไปยังทางฝั่งผู้ปกครองของโรมันว่าท่านเป็นคริสต์ศาสนิกชน
ในตอนแรกนั้นทางเจ้าหน้าที่ และ ผู้พิพากษา ได้ปฏิบัติกับนักบุญ อักแนสอย่างนุ่มนวล และ สุภาพ ทั้งนี้ทั้งนั้นเชื่อว่าเป็นผลมาจากตระกูลอันมั่งคั่งและความมีชื่อเสียงของตัวท่านด้วย ทางเจ้าหน้าที่พยายามกล่อมให้ท่านละทิ้งความศรัทธาในศาสนาคริสต์เสีย แต่ท่านก็ยังตอบอย่างเรียบๆ อย่างเดิมว่า ท่านปฏิญาณจะรักษาพรหมจรรย์ของท่านเพื่ออุทิศถวายวิญญาณอันบริสุทธิ์ของตนแด่พระเจ้าในสวรรค์ ดังนั้นในโลกนี้ท่านจึงไม่ขอหมั้นหมายแต่งงานหรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางชู้สาวอีก เมื่อวิธีละมุนละม่อมใช้ไม่ได้ผล มาตรการที่รุนแรง การทรมานที่โหดร้ายก็เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่เกือกเหล็กร้อนๆ การทำร้ายร่างกาย และการทรมานอื่นๆ แต่ท่านก็หาแสดงความหวาดหวั่นออกมาไม่ พวกเขาได้นำตัวท่านไปเบื้องหน้ารูปปั้นเทพเจ้าของพวกตน และบังคับท่านให้ทิ้งความศรัทธาในพระเจ้า และให้สักการบูชารูปปั้นเหล่านั้นแทน แต่สิ่งเดียวที่ท่านทำมีเพียงเครื่องหมายสำคัญมหากางเขน
เมื่อไม่มีวิธีใดสามารถบังคับท่านได้ เจ้าหน้าที่จึงขู่ว่าจะนำตัวท่านไปขังไว้ในซ่องโสเภณี หมายจะให้ผู้ชายในโรมทุกคนมากระทำชั่วร้ายต่อความเป็นพรหมจารีอันบริสุทธิ์ของท่าน แต่ท่านก็ไม่เกรงกลัว ดังนั้นท่านจึงถูกนำตัวไปไว้ในซ่อง พร้อมกับผู้ชายทั่วโรมที่หมายปองในตัวท่านมานานที่แห่แหนกันเข้าไปหมายจะกระทำชั่วช้าลามก แต่ทุกคนที่เข้าไปก็มีอันต้องหยุดตื่นตะลึง เมื่อสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเบื้องพวกเขามิได้เป็นเพียงภาพเด็กสาวธรรมดา แต่เป็นภาพนิมิตอันเจิดจ้าของนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ ทำให้ทุกคนได้แต่รู้สึกเคารพด้วยความเกรงกลัว และจากที่นั่นไปอย่างเงียบๆ แต่ชายที่จิตวิญญาณต่ำทรามบางคนผู้ที่ไม่เกรงกลัวยังหมายจะล่วงละเมิดท่าน ก็ถูกแสงอันเจิดจ้าทำให้ตาบอดและล้มลงไปนอนกับพื้น ท่าน อักแนส เห็นดังนั้นก็สวดภาวนาอุทิศให้กับเขา และไม่นานนักเขาก็หายกลับเป็นปกติ ตาสามารถมองเห็นได้อีกครั้ง และไม่คิดกล้าที่จะล่วงละเมิดท่านอีกเลย
ด้วยเหตุนี้เอง ความบริสุทธิ์ของท่านจึงได้ถูกรักษาไว้อย่างอัศจรรย์ เมื่อไม่สามารถเปลี่ยนความรักและศรัทธาในพระเจ้าของท่านและไม่สามารถหาการลงโทษใดๆ ท่านได้อีกแล้ว เจ้าหน้าที่โรมันจึงตัดสินประหารชีวิตของท่านเสีย ด้วยการมัดติดกับหลักปักเสาเพื่อที่จะเผาทั้งเป็น แต่ไฟก็ไม่ยอมติดอย่างน่าอัศจรรย์ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจำต้องเปลี่ยนวิธีประหารชีวิตเป็นการตัดศีรษะแทน นักบุญ อักแนสได้ก้าวเข้าไปในลานประหารอย่างสมัครใจ ด้วยสีหน้าที่อิ่มเอิบเปี่ยมความสุขราวกับเจ้าสาวที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์เลยทีเดียว แม้แต่ในห้วงสุดท้าย พวกเขาก็พยายามกล่อมให้ท่านละทิ้งความศรัทธาของท่าน แต่แน่นอนว่าคำตอบของท่านยังคงหนักแน่นเช่นเดิมกับศรัทธาที่ไม่สั่นคลอนของท่าน ทำให้ท่านถูกตัดศีรษะและถึงแก่มรณกรรมลงในที่สุดด้วยวัยเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น (มีบางหลักฐานเชื่อว่าท่านถูกแทงจนเสียชีวิตมากกว่าถูกตัดศีรษะ)
พระธาตุของท่านถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในโบสถ์แห่ง เซนต์ อักแนส ฟูออริ เล มูรา ในโรม ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นเหนืออุโมงค์ที่เป็นสุสานของท่าน ขณะที่มีโบสถ์แห่งนักบุญ อักแนส โดย บอร์โรมินิ ในเปียซ่า ถูกสร้างขึ้น ณ สถานที่ซึ่งท่านถูกประหาร