Saint Bernadette of Lourdes
นักบุญแบร์นาแด๊ต แห่ง ลูด
องค์อุปถัมภ์ : ต่อต้านอาการป่วยไข้, ต่อต้านโรคภัย, ต่อต้านความยากไร้, ต่อต้านอาการเจ็บป่วย, บรรดาผู้คนที่ถูกเยาะเย้ยเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของตน, ผู้ยากไร้, ชุมพาบาล, คนเลี้ยงแกะ, ผู้เจ็บป่วย
ชื่อของท่านมีความหมายแปลว่า “กล้าหาญดังหมี” ท่านเกิดที่เมืองลูดส์ประเทศฝรั่งเศสวันที่ 7 มกราคม ปี1844 ท่านเป็นบุตรสาวของนายฟรังซิส และ นางหลุยส์ โซเบรู แบร์นาแด๊ต ผู้ซึ่งเป็นบิดามารดาผู้ยากไร้ ท่านมีร่างกายที่บอบบาง และป่วยเป็นโรคหืดอย่างรุนแรง
ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 1858 ขณะที่ท่าน น้องสาว และเพื่อนๆ กำลังหาฟืนอยู่ ท่านได้เห็นแม่พระประจักษ์ปรากฏกายที่ถ้ำ ซึ่งมีชื่อว่า เมสาเบล บนฝั่งแม่น้ำเกฟ ใกล้เมืองลูดส์ สตรีสวยงามมากยืนอยู่บนเมฆเหนือต้นกุหลาบ แต่งกายชุดสีชาวและสีฟ้า ได้ยิ้มให้กับท่าน แล้วทำสำคัญมหากางเขนด้วยสายประคำ ท่านก็ได้คุกเข่าลงตาม ควักสายประคำออกมา และเริ่มสวดสายประคำ และหลังจากท่านได้บอกให้ทุกคนรู้ถึงเหตุแม่พระประจักษ์ ก็มีฝูงชนก็มาชุมนุมกัน ณ ที่ๆ ท่านได้เห็นแม่พระตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 4 มีนาคม เจ้าหน้าที่บ้านเมืองพยายามข่มขู่ท่านให้กลัว เพื่อท่านจะได้ถอนคำพูด หากแต่ท่านก็ยังยืนกรานเรื่องแม่พระประจักษ์ว่าเกิดขึ้นจริง
แม่พระได้ประจักษ์ให้ท่านเห็นทั้งหมด 17 ครั้ง พระนางได้ขอให้ท่านสวดเพื่อให้คนบาปทั้งหลาย และทำกิจใช้โทษบาปแทนคนบาป แรกเริ่มนั้น ไม่มีคนเชื่อว่าแม่พระได้ประจักษ์มา ทำให้ท่านต้องทุกข์ใจมาก แล้ววันหนึ่งแม่พระได้บอกให้ท่านขุดดินบนพื้นถ้ำ ก็เกิดเหตุอัศจรรย์มีตาน้ำพุได้ไหลออกมา และเป็นตาน้ำพุมหัศจรรย์ ที่สามารถรักษาคนป่วยและคนพิการให้กลับหายดีได้ และในวันที่ 25 มีนาคม ท่านได้ประกาศว่า แม่พระได้บอกว่า พระนางคือการปฏิสนธินิรมลทิน และต้องการให้สร้างวัดหลังหนึ่งที่นั่น เจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ปิดกั้นน้ำพุจากฝูงชนและชะลอการสร้างวัด แต่ข่าวการประจักษ์และสิ่งมหัศจรรย์ที่ติดตามมาได้แพร่สะพัดจนถึงพระกรรณของพระนางยูยีน พระมเหสีของพระเจ้านโปเลียนที่ 3 และการสร้างวัดก็ได้รับอนุมัติให้ดำเนินต่อไป ฝูงชนได้มาชุมนุมกันใหม่อย่างแน่นขนัด ปราศจากการรบกวนของพวกต่อต้าน
ในปี 1866 ท่านได้ไปอยู่กับคณะนักบวชหญิงแห่งนอเตอร์ดามในเมืองเนเวอร์ ได้เป็นนักบวชฝึกหัด และได้รับการกดขี่ข่มเหงอย่างทารุณโหดร้ายจากนวกจารย์ ผู้ควบคุมนักบวชใหม่ การกระทำอันไร้ความเมตตาปราณีได้จบสิ้นลง เมื่อเธอพบว่าแบร์นาแด๊ตได้ป่วยหนัก เป็นโรคที่รักษาไม่หายและเจ็บปวดทรมานมาก และยังผลให้ท่านได้สิ้นใจที่เมืองเนเวอร์วันที่ 16 เมษายน ปี 1879 และก่อนที่ท่านจะมรณภาพนี่เอง ท่านยังคงยืนยันถึงการประจักษ์มาของแม่พระ
ลูดส์กลายเป็นเมืองที่คริสตชนทั่วโลกไปแสวงบุญ ลำธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ผลิตน้ำสัปดาห์ละ 27,000 แกลลอน ตั้งแต่วันที่แม่พระได้ประจักษ์แก่ท่านแบร์นาแด๊ต พระสันตะปาปาปิโอที่ 11 ได้แต่งตั้งท่านเป็นบุญราศีในปี 1925 และนักบุญในปี 1933 ศพของท่านไม่เน่าเปื่อย นอนอยู่ในโลงแก้ว ใบหน้าอิ่มเอม มีสีเลือดผาด ราวกับคนกำลังนอนหลับ และเหมือนเยี่ยงเจ้าหญิงนิทรา
ครั้งหนึ่งระหว่างที่ท่านเป็นซิสเตอร์อยู่ เพื่อนนักบวชได้ถามท่านว่า การที่แม่พระได้ให้ความสนใจแก่ท่านเป็นพิเศษ ทำให้ท่านรู้สึกว่าตัวเองเป็นบุคคลสำคัญหรือไม่ ท่านได้ตอบว่า
"ฉันไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย! ฉันเปรียบเหมือนไม้กวาดด้ามหนึ่ง เมื่อคนใช้งานเสร็จแล้ว เขาก็เอาไม้กวาดด้ามนั้นไว้หลังประตู แม่พระได้เลือกฉัน เพราะฉันเป็นคนที่ไม่มีความรู้เลย"
เป็นเครื่องหมายแสดงออกซึ่งความสุภาพถ่อมตนอย่างที่ท่านเป็น นักบุญยอห์นเวียนเนย์ องค์อุปถัมภ์พระสงฆ์พูดว่า
"ฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพเป็นพื้นฐานของฤทธิ์กุศลทุกชนิด เปรียบเหมือนสายโซ่ที่ร้อยลูกประคำ ถ้าเอาโซ่ออก ลูกประคำจะหล่นกระจัดกระจาย" ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราไม่มีฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพ เราจะไม่มีฤทธิ์กุศลอะไรเลย เพราะฉะนั้นปิศาจพยายามล่อลวงมนุษย์ให้หลงกลอุบายของมัน เพื่อมันจะได้ทำลายฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพ แล้วมนุษย์คนนั้นก็จะตกอยู่ในอำนาจมืดของมันตลอดไป”