คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา

วันระลึกถึงนักบุญ 365-6วัน ประวัตินักบุญ และวันฉลองสำคัญของคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

ศุกร์ ส.ค. 31, 2012 6:59 pm

รูปภาพ
ชีวิตวัยเยาว์ (Youth)

คุณแม่เทเรซา เป็นธิดาของนายนิโคล บอญักซุย (NiKolle Bojaxhui) กับนาง ดรานา เบอร์ไน (Drana Bernai) จากเชื้อสายชาวอิตาเลียน เป็นครอบครัวชนชั้นกลาง คุณแม่เทเรซาเกิดวันที่ 26 สิงหาคม 1910 ได้รับพิธีรับศีลล้างบาป (Baptized) ณ วัดดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ที่เมือง สคอปเจ (Skopje) เมืองหลวงของสาธารณรัฐอัลบาเนียนแห่งมาเซโดเนีย ในวันที่ 27 สิงหาคม 1910 และได้รับนามว่า กอนซา (Gonxha) หรือ อักแนส (Agnes) อักแนสเป็นลูกคนที่สามและคนสุดท้อง มีพี่สาวคนโตชื่ออาก้า (Aga) พี่ชายชื่อ ลาซาร์ (Lazar)


หนูน้อยอักแนสในเยาว์วัย ไปโรงเรียนของรัฐพร้อมกับพี่สาวและพี่ชายและเรียนได้ดี แม้ว่าสุขภาพของเธอไม่สู้แข็งแรงนักก็ตาม แต่เธอก็ไปเรียนคริสตศาสนธรรมที่วัด เข้าเป็นสมาชิกของคณะนักขับร้องของวัด และอยู่ในกลุ่มเยาวชนคาทอลิกที่มีชื่อว่า "ธิดามารีย์" (Daughters of Mary) เธอสนใจอ่านเรื่องราวของพวกธรรมทูต และชีวประวัตินักบุญเป็นพิเศษ

คุณแม่เทเรซาสรุปชีวิตครอบครัวในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นไว้ว่า "พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกันดีมาก เป็นต้นหลังจากที่คุณพ่อของเราเสียชีวิตไปแล้ว เรามีชีวิตอยู่เพื่อกันและกัน เราพยายามทำให้กันและกันมีความสุข พวกเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันดีมาก และเราเป็นครอบครัวที่มีความสุข"

ลาซาร์พี่ชายของคุณแม่เทเรซา ได้กล่าวถึงชีวิตด้านศาสนาของแม่และพี่สาวน้องสาวของตนว่า "เรามีบ้านอยู่ใกล้วัดดวงหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า บางครั้งดูเหมือนว่าคุณแม่และพี่สาวน้องสาวของผมจะอยู่ในวัดพอ ๆ กับอยู่ที่บ้านทีเดียว พวกเขามักจะเข้าไปร่วมกับพวก นักขับร้อง กิจกรรมทางศาสนาและสนใจเรื่องเกี่ยวกับงานธรรมทูตต่างๆ"

ลาซาร์ยังพูดถึงความใจกว้างของผู้เป็นมารดาด้วยว่า "คุณแม่ไม่เคยปล่อยให้คนจนที่มาเคาะประตูบ้านของเราต้องกลับไปมือเปล่าเลย เมื่อพวกลูกๆมองคุณแม่แบบแปลก ๆ คุณแม่ก็จะพูดว่า จำไว้นะว่า แม้คนเหล่านั้นจะไม่ใช่ญาติพี่น้องของเรา แม้ว่าเขาจะยากจนก็ตาม เขาก็เป็นพี่น้องของเราด้วย"

กระแสเรียก (The Call)

รูปภาพ
เมื่ออายุ 12 ปี อักแนสเกิดมีความรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า ถูกเรียกให้ไปใช้ชีวิตเป็น นักบวชธรรมทูต เป็นเสียงเรียกที่สงบนิ่งอยู่ภายในตัวเธอ เป็นเวลาหลายปีทีเดียว ในระหว่างนั้นเธอยังเป็นสมาชิกที่ขยันขันแข็งของกลุ่ม "ธิดามารีย์" อยู่ต่อไป พร้อมกับมีความสนใจเรื่องดินแดนธรรมทูต มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่โดยได้รับการสนับสนุนจากบรรดาพระสงฆ์ (บาทหลวง) ที่วัด

ความสนใจของอักแนสในดินแดนธรรมทูต ได้รับการยืนยันจากเสียงเรียกชัดเจนให้เข้าสู่ชีวิตนักบวช ในขณะที่เธอกำลังสวดภาวนาอยู่หน้าพระแท่นรูปพระแม่มารีย์องค์อุปถัมภ์แห่งสคอปเจ (Patroness of Skopje) "พระแม่สวดภาวนาเพื่อดิฉัน และช่วยดิฉันให้ค้นพบ พระกระแสเรียกของตนเอง" ด้วยคำแนะนำและความช่วยเหลือของพระสงฆ์คณะเยสุอิต ชาวยูโกสลาเวียผู้หนึ่ง เธอจึงได้ขอสมัครเข้าคณะซิสเตอร์แม่พระแห่งลอเร็ตโต (ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่าซิสเตอร์ไอริช) เธอถูกดึงดูดจากการทำงานธรรมทูตของซิสเตอร์เหล่านี้ในประเทศอินเดีย

อักแนสออกเดินทางไปศูนย์กลางของคณะซิสเตอร์ในไอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 1928 หลังจากเรียนภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 เดือน อักแนสก็ออกเดินทางโดยทางเรือมุ่งสู่ประเทศอินเดีย และมาถึงที่นั่นวันที่ 6 มกราคม 1929 และอยู่ที่กัลกัตตา เพียงหนึ่งอาทิตย์ และถูกส่งไปยังเมืองดาร์จิลิง (Darjeeling) บริเวณเทือกเขาหิมาลัย เพื่อเริ่มชีวิตนวกภาพของเธอ

หลังจากเป็นนวกเณรีได้ 2 ปี อักแนสก็ปฏิญาณตัวครั้งแรก (First vows) เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1931 เป็นซิสเตอร์ในคณะซิสเตอร์พระแม่แห่งลอเร็ตโต และเปลี่ยนชื่อจาก อักแนส เป็น เทเรซาแห่งลิซิเออร์

ซิสเตอร์และคุณครู ( Sister and Teacher )

หลังจากการปฏิญาณตัวชั่วคราวแล้ว ซิสเตอร์เทเรซาก็มาอยู่ที่กัลกัตตา เป็นครูสอนภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ที่โรงเรียนเซนต์แมรี่ ที่ดำเนินการโดยคณะซิสเตอร์พระแม่แห่งลอเร็ตโตนี้ และหลังจากได้รื้อฟื้นคำปฏิญาณถวายตัวหลายครั้งแล้ว ที่สุดซิสเตอร์เทเรซาก็ได้ถวายคำปฏิญาณครั้งสุดท้าย (Final vows) เป็นซิสเตอร์คณะแม่พระแห่งลอเร็ตโต เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1937 (คณะซิสเตอร์นี้ตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 16 ในประเทศอังกฤษ โดยแมรี่ วาร์ด)

คุณแม่เทเรซาได้สรุปชีวิตในช่วงเป็นนักบวชอยู่ในคณะซิสเตอร์พระแม่แห่งลอเร็ตโต ไว้ว่า "ดิฉันเป็นซิสเตอร์ที่มีความสุขที่สุดในคณะซิสเตอร์พระแม่แห่งลอเร็ตโต ดิฉันอุทิศตัวสอนเรียน ดิฉันทำงานด้วยความรักต่อพระเจ้า เป็นงานแพร่ธรรมที่แท้จริง ดิฉันชอบงานนั้นมาก" ต่อมาคุณแม่ เทเรซาได้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการในโรงเรียนเซนต์แมรี่


การเรียกครั้งที่ 2 (The second call)

ในวันที่ 10 กันยายน 1946 "วันที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า" (Inspiration day) นี่เป็นคำที่คุณแม่เทเรซาใช้เรียกวันนั้น เธอเล่าว่า "ขณะที่ดิฉันกำลังเดินทางโดยรถไฟจากกัลกัตตาไปดาร์จิลิง เพื่อทำกิจศรัทธาร่วมกับซิสเตอร์คนอื่นๆ ดิฉันกำลังสวดภาวนาอยู่เงียบๆ เมื่อดิฉันเกิดความรู้สึกมีเสียงเรียกขึ้นมาในกระแสเรียก (The Call) ของดิฉัน สารนั้นชัดเจนยิ่งนัก ดิฉันจะต้องออกจากอาราม และอุทิศตนช่วยเหลือคนยากจนโดยไปใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางพวกเขา ดิฉันรู้ว่าจะต้องไปที่ไหน แต่ดิฉันไม่ทราบว่าจะไปที่นั่นได้อย่างไร"


การตัดสินใจ (Decision)

การจากบรรดาซิสเตอร์พระแม่แห่งลอเร็ตโตไปนั้น เป็นสิ่งที่ยากยิ่งสำหรับซิสเตอร์เทเรซา เพื่อจะทำเช่นนั้นเธอต้องได้รับอนุญาตจากทางกรุงโรม หลังจากมีการตกลงเรียบร้อยแล้วในคณะของเธอ ที่สุด เธอก็ได้รับอนุญาตให้เจริญชีวิตเป็นซิสเตอร์นอกอารามได้ เธอออกจากอารามเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 1948 หลังจากเปลี่ยนชุดนักบวชซิสเตอร์พระแม่แห่งลอเร็ตโตแล้ว สวมชุดส่าหรีสีขาว ซึ่งก็ดูเหมือนๆกับพวกผู้หญิงยากจนที่สุดในอินเดียสวมใส่อยู่ ส่าหรีนั้นมีแถบสีฟ้า เป็นสัญลักษณ์ถึงความปรารถนาของคุณแม่เทเรซาที่อยากเลียนแบบพระแม่มารีย์

คุณแม่เทเรซาออกจากกัลกัตตา เพื่อไปรับการอบรมหลักสูตรเร่งรัดเรื่องการพยาบาลพื้นฐานเป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นก็ลงมือปฏิบัติสิ่งที่เธอปรารถนาคือ อุทิศตนรับใช้คน ยากจนที่สุดในบรรดาคนยากจนทั้งหลาย ตามชุมชนแออัดในเมืองกัลกัตตา ในปีนั้นเองที่เธอยื่นขอและได้รับสิทธิเป็นพลเมืองอินเดีย ซึ่งเธอจะคงไว้จนตลอดชีวิตของเธอ พระสันตะปาปา เปาโลที่ 6 (Pope Paolo VI) ทรงมอบสิทธิเป็นพลเมืองวาติกันให้คุณแม่เทเรซาด้วยในช่วงปลายปี ค.ศ.1970 เพื่อช่วยให้การเดินทางทำงานธรรมทูตของคุณแม่สะดวกขึ้น


พันธกิจ ( Mission )

รูปภาพ
ในวันที่ 19 มีนาคม 1949 มีผู้ติดตามคุณแม่เทเรซากลุ่มแรกในกระแสเรียกใหม่ของคุณแม่ จึงมีสุภาสิณี ดาส (Subashini Dad) สมัครมาร่วมงานกับคุณแม่ และจะเป็นซิสเตอร์คนแรกของคณะนักบวชที่จะเกิดขึ้น

หลังจากปี 1949 "ดิฉันก็เห็นสุภาพสตรีตามกันมาคนแล้วคนเล่า คนพวกนั้นเคยเป็นลูกศิษย์ของดิฉันมาก่อนทั้งสิ้น พวกเขาต้องการมอบทุกสิ่งแด่พระเจ้า และพวกเขาก็รีบที่จะทำเช่นนั้น" และในวันที่ 7 ตุลาคม 1950 ตรงกับวันฉลองแม่พระแห่งสายประคำศักดิ์สิทธิ์ (The Feast day of Our Lady of the Rosary) ทางกรุงโรมก็ได้รับรองคณะนักบวชธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม (The Constitution of the Society of the Missionaries of Charity

ตอนนั้นมีหญิงสาวเกือบ 30 คนอยู่ในคณะของคุณแม่เทเรซา มี 12 คนที่ได้ทำพิธีปฏิญาณตัวตลอดชีพแล้ว มีนวกชนอยู่ 12 คน ที่เหลือเป็นผู้สมัครเณรี (Postulants) พวกซิสเตอร์เองก็ต้องการมีอารามเป็นของตนเอง พวกเขาเป็น "แขกรับเชิญ" อยู่ในแฟลตที่มีคนเช่าไว้ให้เราโดยได้รับบริจาคจาก มิแชล โกเมซ (Michael Gomes) พวกซิสเตอร์ใช้เวลาศึกษาเล่าเรียน และรับการอบรมชีวิตนักบวช ในขณะเดียวกันก็ดูแล เอาใจใส่เด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้งตามชุมชนแออัด คนเจ็บป่วย และคนที่กำลังจะตาย



วาระสุดท้าย (The Last Time)

ในปี ค.ศ. 1988-1989 คุณแม่เทเรซาป่วยเป็นโรคหัวใจ และต้องเข้าโรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง มิใช่เป็นครั้งแรกที่คุณแม่เทเรซาตรากตรำทำงานหนักจนถึงขั้นหมดเรี่ยวแรง และต้องถูกส่งโรงพยาบาล แม้สมเด็จพระสันตะปาปา ก็ยังทรงขอร้องคุณแม่ให้ดูแลเอาใจใส่สุขภาพของตัวเธอเองบ้าง แพทย์คอยตรวจสอบเธอเป็นระยะ ๆ แล้วยังสั่งให้คุณแม่พักรักษาตัวเป็นเวลา 6 เดือนในวันที่ 16 เมษายน 1990 คุณแม่เทเรซาลาออกจากตำแหน่งคุณแม่มหาธิการิณีของคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม เนื่องจากสุขภาพไม่ดี เมื่อผ่อนคลายจากภาระรับผิดชอบต่าง ๆ แล้ว คุณแม่เทเรซาก็สามารถเดินทางไปเยี่ยมบ้านซิสเตอร์ของคณะในที่ต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ต่อมาในเดือนกันยายน 1990 คุณแม่เทเรซาได้รับการเรียกร้องให้พักจากการเกษียณและได้รับเลือกเป็นมหาธิการิณีของคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรมอีกครั้ง เนื่องจากบรรดาซิสเตอร์ทราบเป็นอย่างดีถึงอัจฉริยภาพความเป็นผู้นำฝ่ายจิตของคุณแม่เทเรซาในคณะซิสเตอร์ ธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม จึงได้เลือกคุณแม่เป็นผู้นำอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าคุณแม่จะมีอายุ 80 ปีและสุขภาพไม่สู้ดีนักก็ตาม
ในปี 1997 คุณแม่เทเรซา ได้ลาออกจากผู้นำคณะ เนื่องจากเจ็บป่วยมาก ในวันที่ 13 มีนาคม ซิสเตอร์นิรุมารา ได้รับเลือกเป็นผู้นำคณะคนใหม่

คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา ได้มรณะอย่างสงบเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1997 อายุ 87 ปี
รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

.......... : xemo026 : : xemo026 : love in jesus : xemo026 : : xemo026 : ...........
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 8:20 pm

รักมากๆ :s015:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ก.ย. 26, 2012 9:09 pm

ลูก sun น่ารักมากเอาเรื่องดีๆมาลง มาแบ่งปัน ทำให้คนอื่นๆได้อ่าน ได้รู้จัก
มีประโยชน์มากค่ะ แบบนี้น่ารัก หนูเมจิก็ได้รู้จัก และรักท่านมากๆด้วยดีจริงๆ
:s007:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พุธ ก.ย. 26, 2012 9:36 pm

ค่ามามี้ ::022:: ::022::
ตอบกลับโพส