ใกล้เข้ามาทุกขณะ
เมื่อวานนี้ผมได้ไปพบคุณพ่อคณะคาร์เมไลท์ซึ่งมาจากสิงคโปร์ ผมได้ขอคุณพ่อเลื่อนการเข้าคณะไปอีก 1 ปีกว่า ๆ เพราะผมรู้สึกว่าผมยังไม่พร้อมในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่
1. งานที่ทำอยู่ตอนนี้ เพราะตอนนี้ผมรับผิดชอบงานทางด้านพิมพ์หนังสือบทอ่านซึ่งต้องให้เสร็จในเดือนตุลาคมนี้ 2 เล่ม คือ วันอาทิตย์ปีC และวันธรรมดาปีคี่ และเมื่อเสร็จ 2 เล่มนี้แล้ว ก็ยังต้องพิมพ์ปีAและปีคู่ต่อ เพื่อใช้ในปีถัดไป ผมเองก็ทำอยู่คนเดียว
นอกจากนี้ผมก็ต้องรับผิดชอบงานศิลปะศักดิสิทธิ์แทนพนักงานคนที่ลาออกไปด้วย ยังไม่หมด ผมยังต้องรับผิดชอบงานคริตส์สัมพันธ์อีกด้วย แถมท้ายด้วยงานจิปาถะที่คุณพ่อเจ้านายผมรับมา ตอนนี้ทางสภาพระสังฆราชฯ ยังไม่ให้รับพนักงานใหม่ คนที่อยู่จริงต้องทำงานหนักเป็นหลายเท่า ถ้าผมลาออกไป งานของพระศาสนจักรก็จะขาดคนทำ ผมจึงรู้สึกว่า ผมยังไปไหนไม่ได้ จะกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง
2. ผมยังมีปัญหาทางด้านภาษา เนื่องจากยังไม่มีโอกาสไปเรียนจริง ๆ จัง ๆ เพราะหาเวลาไปไม่ได้ ผมก็ได้แค่ฝึกจากซีดี และฟังเพลงภาษาอังกฤษ ซึ่งก็ช่วยให้ คุณพ่อจากสิงคโปร์ชมว่า ผมพูดภาษาอังกฤษได้เยอะขึ้นกว่าครั้งก่อน ๆ ผมเองก็รู้สึกว่าผมฟังภาษาเข้าใจขึ้นกว่าเดิม
3. ด้านชีวิตฝ่ายจิต ผมรู้สึกว่ายังไม่พร้อม ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก แต่ผมคงให้รายละเอียดไม่ได้ แต่ผมคิดว่าน่าจะหาเวลาไปเข้าเงียบสัก 7 วัน
4. ผมยังหาผู้สืบทอดวิทยายุทธการเล่นอิเลคโทนไม่ได้ ถ้าผมไปที่วัดก็จะขาดคนเล่นอิเลคโทนในมิสซา
จึงขอแจ้งให้ทราบ และฝากไว้ในคำภาวนาของท่านด้วยครับ
1. งานที่ทำอยู่ตอนนี้ เพราะตอนนี้ผมรับผิดชอบงานทางด้านพิมพ์หนังสือบทอ่านซึ่งต้องให้เสร็จในเดือนตุลาคมนี้ 2 เล่ม คือ วันอาทิตย์ปีC และวันธรรมดาปีคี่ และเมื่อเสร็จ 2 เล่มนี้แล้ว ก็ยังต้องพิมพ์ปีAและปีคู่ต่อ เพื่อใช้ในปีถัดไป ผมเองก็ทำอยู่คนเดียว
นอกจากนี้ผมก็ต้องรับผิดชอบงานศิลปะศักดิสิทธิ์แทนพนักงานคนที่ลาออกไปด้วย ยังไม่หมด ผมยังต้องรับผิดชอบงานคริตส์สัมพันธ์อีกด้วย แถมท้ายด้วยงานจิปาถะที่คุณพ่อเจ้านายผมรับมา ตอนนี้ทางสภาพระสังฆราชฯ ยังไม่ให้รับพนักงานใหม่ คนที่อยู่จริงต้องทำงานหนักเป็นหลายเท่า ถ้าผมลาออกไป งานของพระศาสนจักรก็จะขาดคนทำ ผมจึงรู้สึกว่า ผมยังไปไหนไม่ได้ จะกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง
2. ผมยังมีปัญหาทางด้านภาษา เนื่องจากยังไม่มีโอกาสไปเรียนจริง ๆ จัง ๆ เพราะหาเวลาไปไม่ได้ ผมก็ได้แค่ฝึกจากซีดี และฟังเพลงภาษาอังกฤษ ซึ่งก็ช่วยให้ คุณพ่อจากสิงคโปร์ชมว่า ผมพูดภาษาอังกฤษได้เยอะขึ้นกว่าครั้งก่อน ๆ ผมเองก็รู้สึกว่าผมฟังภาษาเข้าใจขึ้นกว่าเดิม
3. ด้านชีวิตฝ่ายจิต ผมรู้สึกว่ายังไม่พร้อม ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก แต่ผมคงให้รายละเอียดไม่ได้ แต่ผมคิดว่าน่าจะหาเวลาไปเข้าเงียบสัก 7 วัน
4. ผมยังหาผู้สืบทอดวิทยายุทธการเล่นอิเลคโทนไม่ได้ ถ้าผมไปที่วัดก็จะขาดคนเล่นอิเลคโทนในมิสซา
จึงขอแจ้งให้ทราบ และฝากไว้ในคำภาวนาของท่านด้วยครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 20, 2007 2:05 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เชื่อและวางใจนะครับพี่เพชร
พระองค์ทรงเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นครับ
พระองค์ทรงเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
โฮว์ สู้ ๆ ตาเพชร
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เลื่อนสักปี ก็ดี ฮะพี่เพชร เพื่อว่าการงานที่ทำอยู่ขณะนี้จะเป็นประสบการณ์ชีวิตในการรับใช้พระรูปแบบหนึ่ง
ส่วนความห่วงใยทั้งหลาย พี่เพชรอย่าไปกังวลเลย แค่อธิษฐานวิงวอนในเรื่องนั้นๆ พระเจ้าทรงดูแลเอง งานรับใช้เหมือนกับการวิ่งผลัด ฮะ..................แต่ตื่นเต้นจัง กั๊บ
ส่วนความห่วงใยทั้งหลาย พี่เพชรอย่าไปกังวลเลย แค่อธิษฐานวิงวอนในเรื่องนั้นๆ พระเจ้าทรงดูแลเอง งานรับใช้เหมือนกับการวิ่งผลัด ฮะ..................แต่ตื่นเต้นจัง กั๊บ
What are you doing with your discernment process? Do you have a spiritual director?
I'm now discerning on my religious life vocation.... It's a wonderful experience for me... So, feel free to write me.. I'm willing to speak English with you regarding the discernment..
I'm now discerning on my religious life vocation.... It's a wonderful experience for me... So, feel free to write me.. I'm willing to speak English with you regarding the discernment..
Me too! :)Buddy เขียน: So, feel free to write me.. I'm willing to speak English with you regarding the discernment..
And in relation to the keyboard playing, I'm willing to learn from you, but unfortunatly I don't hav so much time to do so >_<
anyway, I wish that everything will be according to God's will,
God bless u kub
-
- โพสต์: 100
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 18, 2005 12:25 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพ
คุณ Petch ไม่ใช่คุณคนเดียวครับ
ผมก็เหมือนกัน
เนื่องจากได้รับการเสนอชื่อเป้นสภาอภิบาลของวัด..
และรับผิดชอบนักขับร้องรอบเย็นของวัด
ทำให้เรื่องการพิจารณากระแสเรียก กับพ่อปิโตโย คณะเยสุอิตของผม
ต้องเลื่อนไปจนกว่าจะพ้น 3 ปัที่ทำหน้าที่สภาอภิบาล
แต่ก็ถือว่านี่เป็นการรับใช้อย่างหนึ่ง และเป็นการเตรียมตัวเราด้วย
ผมจะมีเวลาเรียนให้จบ ๆ
มีเวลาทำงาน ๆ เตรียมตัว ๆ และศึกษากระแสเรียกให้ถ่องแท้
อีกอย่างผมรู้สึกลึกๆ ว่าเหตุผลที่ยังบอกไม่ได้ของคุณเพชร
จะเป็นเหตุผลเดียวของผมเหมือนกันนะ..
จะภาวนาให้กันและกันครับ
ขอพระแม่มารีย์ ดวงดาราแห่งการแพร่ธรรม
วิงวอนเพื่อเพื่อนพี่น้องผู้มีกระแสเรียกทุกคน
TPP
:-)
ผมก็เหมือนกัน
เนื่องจากได้รับการเสนอชื่อเป้นสภาอภิบาลของวัด..
และรับผิดชอบนักขับร้องรอบเย็นของวัด
ทำให้เรื่องการพิจารณากระแสเรียก กับพ่อปิโตโย คณะเยสุอิตของผม
ต้องเลื่อนไปจนกว่าจะพ้น 3 ปัที่ทำหน้าที่สภาอภิบาล
แต่ก็ถือว่านี่เป็นการรับใช้อย่างหนึ่ง และเป็นการเตรียมตัวเราด้วย
ผมจะมีเวลาเรียนให้จบ ๆ
มีเวลาทำงาน ๆ เตรียมตัว ๆ และศึกษากระแสเรียกให้ถ่องแท้
อีกอย่างผมรู้สึกลึกๆ ว่าเหตุผลที่ยังบอกไม่ได้ของคุณเพชร
จะเป็นเหตุผลเดียวของผมเหมือนกันนะ..
จะภาวนาให้กันและกันครับ
ขอพระแม่มารีย์ ดวงดาราแห่งการแพร่ธรรม
วิงวอนเพื่อเพื่อนพี่น้องผู้มีกระแสเรียกทุกคน
TPP
:-)
OK!! Well, just IM me your best time you can online and I can talk to you in English..Ot@ เขียน:Me too! :)Buddy เขียน: So, feel free to write me.. I'm willing to speak English with you regarding the discernment..
And in relation to the keyboard playing, I'm willing to learn from you, but unfortunatly I don't hav so much time to do so >_<
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ทำไม ทำ มา พี่เพชร กับพี่ พับเพ็ต อาจจะเข้าจำพรรษาที่อารามปีเดียวกันก็ได้ อิอิ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณพ่อพอลล๊อกเพิ่งบอกผลทดสอบจิตวิทยาของผมครับ ซึ่งรวมทั้งผลวัดไอคิวด้วย
เรื่องไอคิวผมก็จัดอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สามารถเรียนเพื่อเป็นนักบวชได้
ส่วนด้านจิตวิทยา ก็เป็นคนปกติธรรมดา ไม่เป็นโรคจิต
แต่ก็มีนิสัยที่ต้องปรับปรุงหลายอย่าง เช่น ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่ชอบเข้าสังคม ชอบตามคนอื่นไม่เป็นผู้นำ เก็บกดความรู้สึกไม่แสดงออกทำให้คนอื่นดูไม่ออก มีความก้าวร้าวแต่ไม่แสดงออกมาภายนอกแต่จะระบายทางคำพูดวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนจุดเด่นคือ มีระเบียบวินัย ซึ่งดู ๆ แล้ว ล้วนเป็นจุดอ่อนที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน หากอยากเข้าคณะนักบวชที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น
ผมก็เลยยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับชีวิตต่อไปดีครับ ก็ได้แต่สวดภาวนา และทำให้ชีวิตใกล้ชิดพระเจ้าเพื่อจะได้เข้าใจพระประสงค์ของพระองค์ชัดเจนขึ้น งานที่ทำในตอนนี้ก็หนักมาก ถือว่าพลีกรรมใช้โทษบาป เพราะแค่งานหนักยังไม่พอ พี่ที่ร่วมงานกันก็คอยทำให้ผมรู้สึกแย่มากยิ่งขึ้นด้วยการซ้ำเติม ตำหนิที่ผมทำงานไม่ถูกใจเขา เลยทำให้เครียดจนเป็นโรคกระเพาะ และปวกศีรษะเป็นบางครั้ง มันเลยซ้ำจุดอ่อนของผมจนทำให้รู้สึกว่าจะหาทางแก้ไขยังไงดี บางทีก็คิดจะเปลี่ยนงานไปทำที่อื่นซะเลยหากสิ้นปีนี้ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ผมก็อาจจะไปทำงานที่สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี เพราะพระคุณเจ้าประธานก็ได้ชวนผมประมาณ 2-3 ครั้งให้ไปทำงานที่นั่น แต่อีกใจนึงก็ยังเป็นห่วงงานในส่วนกลาง ซึ่งตำแหน่งผมไม่มีใครอยู่ทนเลย เพราะงานเยอะเกินไป และพี่คนนั้นคอยจิก แถมปัจจัยที่ให้ก็ไม่ค่อยเพียงพอ
หนทางแห่งกระแสเรียกผมคงต้องลุ้นกันต่อไปนะครับ
เรื่องไอคิวผมก็จัดอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สามารถเรียนเพื่อเป็นนักบวชได้
ส่วนด้านจิตวิทยา ก็เป็นคนปกติธรรมดา ไม่เป็นโรคจิต
แต่ก็มีนิสัยที่ต้องปรับปรุงหลายอย่าง เช่น ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่ชอบเข้าสังคม ชอบตามคนอื่นไม่เป็นผู้นำ เก็บกดความรู้สึกไม่แสดงออกทำให้คนอื่นดูไม่ออก มีความก้าวร้าวแต่ไม่แสดงออกมาภายนอกแต่จะระบายทางคำพูดวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนจุดเด่นคือ มีระเบียบวินัย ซึ่งดู ๆ แล้ว ล้วนเป็นจุดอ่อนที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน หากอยากเข้าคณะนักบวชที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น
ผมก็เลยยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับชีวิตต่อไปดีครับ ก็ได้แต่สวดภาวนา และทำให้ชีวิตใกล้ชิดพระเจ้าเพื่อจะได้เข้าใจพระประสงค์ของพระองค์ชัดเจนขึ้น งานที่ทำในตอนนี้ก็หนักมาก ถือว่าพลีกรรมใช้โทษบาป เพราะแค่งานหนักยังไม่พอ พี่ที่ร่วมงานกันก็คอยทำให้ผมรู้สึกแย่มากยิ่งขึ้นด้วยการซ้ำเติม ตำหนิที่ผมทำงานไม่ถูกใจเขา เลยทำให้เครียดจนเป็นโรคกระเพาะ และปวกศีรษะเป็นบางครั้ง มันเลยซ้ำจุดอ่อนของผมจนทำให้รู้สึกว่าจะหาทางแก้ไขยังไงดี บางทีก็คิดจะเปลี่ยนงานไปทำที่อื่นซะเลยหากสิ้นปีนี้ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ผมก็อาจจะไปทำงานที่สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี เพราะพระคุณเจ้าประธานก็ได้ชวนผมประมาณ 2-3 ครั้งให้ไปทำงานที่นั่น แต่อีกใจนึงก็ยังเป็นห่วงงานในส่วนกลาง ซึ่งตำแหน่งผมไม่มีใครอยู่ทนเลย เพราะงานเยอะเกินไป และพี่คนนั้นคอยจิก แถมปัจจัยที่ให้ก็ไม่ค่อยเพียงพอ
หนทางแห่งกระแสเรียกผมคงต้องลุ้นกันต่อไปนะครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
สู้ ๆ ครับพี่เพชร
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
เอ่อ เพชร คงต้องค่อยสะสางจากตัวเราก่อนนะ ค่อยคิด และค่อยจัดการ อย่าเอาความรู้สึกและเรื่องทุกอย่างมาอยู่บนบ่าเรา เดี๋ยวสับสน
อย่างเรื่องงาน พี่ว่าเพชร ต้องคุยกับผุใหญ่ ถึงความตั้งใจของเรา และปัญหาของเราในตอนนี้ อย่าแบกรับอะไรไว้เองทั้งหมด เพราะงานนั้นต้องเป็นความรับผิดชอบร่วมกันทุกคนควรมีส่วนในการรับรู้และแก้ไขปัญหา ไม่อย่างนั้น คนทำงานที่นั่น ก็ไม่มีโอกาสได้รู้จักการทำงานเป็นทีมเสียที ทำให้พัฒนาศักยภาพได้อย่างล่าช้า
เรื่องนิสัยที่ควรปรับปรุง พี่ว่าเพชรมีความั่นคงทางอารมณ์อยู่พอสมควร คือยอมรับข้อเสียของตัวเอง นี่ก็ใช้ได้แล้วนา ขั้นต่อไปคือพยายาม ขัดเกลา เช่น พยายามพุดถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง อย่างที่เป็นอยู่จริง ๆ แต่อยู่บนความสุภาพ เช่น โกรธ ก็ให้รู้ว่าโกรธ ก็บอกให้คนอื่นรู้ว่า โกรธ นะเนี่ย แล้วรีบพยายามจัดการให้หายไป ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไร ถ้าเราจะโกรธบ้าง
แต่พี่ว่านะ เพชร ต้องหาคนคุยด้วย คนที่เป้นผู้ใหญ่มากพอที่จะให้คำแนะนำเราได้
อย่างเรื่องงาน พี่ว่าเพชร ต้องคุยกับผุใหญ่ ถึงความตั้งใจของเรา และปัญหาของเราในตอนนี้ อย่าแบกรับอะไรไว้เองทั้งหมด เพราะงานนั้นต้องเป็นความรับผิดชอบร่วมกันทุกคนควรมีส่วนในการรับรู้และแก้ไขปัญหา ไม่อย่างนั้น คนทำงานที่นั่น ก็ไม่มีโอกาสได้รู้จักการทำงานเป็นทีมเสียที ทำให้พัฒนาศักยภาพได้อย่างล่าช้า
เรื่องนิสัยที่ควรปรับปรุง พี่ว่าเพชรมีความั่นคงทางอารมณ์อยู่พอสมควร คือยอมรับข้อเสียของตัวเอง นี่ก็ใช้ได้แล้วนา ขั้นต่อไปคือพยายาม ขัดเกลา เช่น พยายามพุดถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง อย่างที่เป็นอยู่จริง ๆ แต่อยู่บนความสุภาพ เช่น โกรธ ก็ให้รู้ว่าโกรธ ก็บอกให้คนอื่นรู้ว่า โกรธ นะเนี่ย แล้วรีบพยายามจัดการให้หายไป ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไร ถ้าเราจะโกรธบ้าง
แต่พี่ว่านะ เพชร ต้องหาคนคุยด้วย คนที่เป้นผู้ใหญ่มากพอที่จะให้คำแนะนำเราได้
เราตามมาสนับสนุนเพชรเหมือนเดิม
เราว่าแบบทดสอบของพ่อพอลนี่แม่นนะ หลายคนเคยบอกเราอย่างนี้ แต่เราว่าเรื่องอุปนิสัยเท่าที่เพชรเล่ามาก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร พวกเราเป็นมนุษย์ก็มึความบกพร่องเป็นธรรมดา เรื่องปรับเปลี่ยนนั้น เพชรก็อย่าไปกังวลใจว่าต้องเปลี่ยนแบบหักศอกหรือเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปน่ะ
ความเข้าใจผิดประการหนึ่งที่อาจเกิดสำหรับคนที่จะไปบวชก็คือความเข้าใจว่าตัวเองต้องบริสุทธิ์ไร้มลทินเสียก่อนจึงจะไปบวชได้ จริงๆแล้วไม่ใช่เช่นนั้น ไม่งั้นก็คงต้องรอจนแก่ตายไปก็ยังไม่ได้ไปบวช เพียงแค่เพชรมีความตั้งใจอย่างแท้จริงจะปรับเปลี่ยน เราว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องไปรอให้นิสัยทั้งหลายที่เพชรเห็นว่าไม่ดีหรือเห็นว่าควรเปลี่ยนให้หายไปหมดสิ้นก่อนแล้วค่อยไปบวชหรอก เราว่าเพชรเหมาะสมและพร้อมแล้ว สมัครบวชแล้วก็ค่อยๆเปลี่ยน เชื่อเราดิ
สำหรับเรา นิสัยของเพชรที่ว่ามา เราไม่เห็นว่าเป็นปัญหาเลย เราไม่มองด้วยซ้ำไปว่าเป็นสิ่งไม่ดี เรามองว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับมนุษย์คนหนึ่ง จริงๆไม่ต้องรอให้พ่อพอลทดสอบ นิสัยพวกนั้นของเพชรเราก็พอมองออกแล้วแหละ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา เราไม่เห็นว่าเพชรจะเป็นคนไม่ดีอะไร อย่าคิดมากไปนะ จากประสบการณ์ที่เราเคยไปอยู่ที่บ้านคาร์เมไลท์ เราว่าเพชรเข้าไปอยู่กับพวกเขาได้สบาย ปรับตัวนิดหน่อยก็เป็นเรื่องธรรมดา ไปอยู่ต่างประเทศ วัฒนธรรมบางอย่างอาจเปลี่ยนไป เรื่องภาษาก็ต้องพูดอังกฤษ อยู่กันเป็นหมู่คณะ คนก็มาจากที่ต่างๆ ไม่ใช่คนในครอบครัวพ่อแม่เดียวกัน เราว่าการปรับตัวเป็นเรื่องที่ต้องเจออยู่แล้วแหละ ต่อให้เพชรเป็นเทวดาไร้มลทิน ก็ต้องปรับตัวอยู่ดี จริงปะ
เพชร เราพูดมายาว กลัวพูดหลงประเด็นเหมือนกัน สรุปเอาเป็นว่า เราว่าเพชรเหมาะสมกับการเป็นนักบวช นิสัยที่เพชรอาจคิดว่าไม่ค่อยดีนั้น บางทีเพชรอาจคิดมากไป เรียกร้องจากตัวเองมากไป อย่างไรเสียเราว่าพวกเราก็เป็นมนุษย์ธรรมดา ความบกพร่องก็เป็นของคู่กันกับพวกเราอยู่แล้ว ในการไปบวชสิ่งสำคัญไม่ใช่การเป็นคนดีไร้มลทินแล้วค่อยสมัครบวช(ไม่งั้นก็ต้องรอจนตายกันไปข้างหนึ่ง) แต่อยู่ที่"ความมุ่งมั่นหรือเจตนาอย่างจริงใจที่จะปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงตัวเอง"ให้เข้ากับหมู่คณะได้(ในฐานะผู้ดำรงชีวิตเป็นหมู่คณะ)และให้เข้าใกล้พระยิ่งขึ้นทุกวันๆและกลับกลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในที่สุดน่ะ
ความตั้งใจที่หนักแน่นสำคัญที่สุด
เราว่าแบบทดสอบของพ่อพอลนี่แม่นนะ หลายคนเคยบอกเราอย่างนี้ แต่เราว่าเรื่องอุปนิสัยเท่าที่เพชรเล่ามาก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร พวกเราเป็นมนุษย์ก็มึความบกพร่องเป็นธรรมดา เรื่องปรับเปลี่ยนนั้น เพชรก็อย่าไปกังวลใจว่าต้องเปลี่ยนแบบหักศอกหรือเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปน่ะ
ความเข้าใจผิดประการหนึ่งที่อาจเกิดสำหรับคนที่จะไปบวชก็คือความเข้าใจว่าตัวเองต้องบริสุทธิ์ไร้มลทินเสียก่อนจึงจะไปบวชได้ จริงๆแล้วไม่ใช่เช่นนั้น ไม่งั้นก็คงต้องรอจนแก่ตายไปก็ยังไม่ได้ไปบวช เพียงแค่เพชรมีความตั้งใจอย่างแท้จริงจะปรับเปลี่ยน เราว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องไปรอให้นิสัยทั้งหลายที่เพชรเห็นว่าไม่ดีหรือเห็นว่าควรเปลี่ยนให้หายไปหมดสิ้นก่อนแล้วค่อยไปบวชหรอก เราว่าเพชรเหมาะสมและพร้อมแล้ว สมัครบวชแล้วก็ค่อยๆเปลี่ยน เชื่อเราดิ
สำหรับเรา นิสัยของเพชรที่ว่ามา เราไม่เห็นว่าเป็นปัญหาเลย เราไม่มองด้วยซ้ำไปว่าเป็นสิ่งไม่ดี เรามองว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับมนุษย์คนหนึ่ง จริงๆไม่ต้องรอให้พ่อพอลทดสอบ นิสัยพวกนั้นของเพชรเราก็พอมองออกแล้วแหละ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา เราไม่เห็นว่าเพชรจะเป็นคนไม่ดีอะไร อย่าคิดมากไปนะ จากประสบการณ์ที่เราเคยไปอยู่ที่บ้านคาร์เมไลท์ เราว่าเพชรเข้าไปอยู่กับพวกเขาได้สบาย ปรับตัวนิดหน่อยก็เป็นเรื่องธรรมดา ไปอยู่ต่างประเทศ วัฒนธรรมบางอย่างอาจเปลี่ยนไป เรื่องภาษาก็ต้องพูดอังกฤษ อยู่กันเป็นหมู่คณะ คนก็มาจากที่ต่างๆ ไม่ใช่คนในครอบครัวพ่อแม่เดียวกัน เราว่าการปรับตัวเป็นเรื่องที่ต้องเจออยู่แล้วแหละ ต่อให้เพชรเป็นเทวดาไร้มลทิน ก็ต้องปรับตัวอยู่ดี จริงปะ
เพชร เราพูดมายาว กลัวพูดหลงประเด็นเหมือนกัน สรุปเอาเป็นว่า เราว่าเพชรเหมาะสมกับการเป็นนักบวช นิสัยที่เพชรอาจคิดว่าไม่ค่อยดีนั้น บางทีเพชรอาจคิดมากไป เรียกร้องจากตัวเองมากไป อย่างไรเสียเราว่าพวกเราก็เป็นมนุษย์ธรรมดา ความบกพร่องก็เป็นของคู่กันกับพวกเราอยู่แล้ว ในการไปบวชสิ่งสำคัญไม่ใช่การเป็นคนดีไร้มลทินแล้วค่อยสมัครบวช(ไม่งั้นก็ต้องรอจนตายกันไปข้างหนึ่ง) แต่อยู่ที่"ความมุ่งมั่นหรือเจตนาอย่างจริงใจที่จะปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงตัวเอง"ให้เข้ากับหมู่คณะได้(ในฐานะผู้ดำรงชีวิตเป็นหมู่คณะ)และให้เข้าใกล้พระยิ่งขึ้นทุกวันๆและกลับกลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในที่สุดน่ะ
ความตั้งใจที่หนักแน่นสำคัญที่สุด
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่ชอบเข้าสังคม เชื่อมั๊ยคะว่า อันนี้สำคัญสำหรับการเป็นนักบวชนะ ครั้งหนึ่งพ่อจั่วเล่าว่า พ่อเป็นคนแบบนี้ชอบสวด สวดแทบทั้งวัน ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้าน เกือบโดนออกจากบ้านเณร แต่พระเลือก พ่อโดนอธิการเรียกไปติเตียนความประพฤติ และสามารถปรับตัวได้ เลยอยู่มาถึงทุกวันนี้
พี่เพชร สู้ๆ นะ
นี่คือบททดสอบ ทดลองเรานะ วันนี้ฟังเทศน์จากพ่อที่วัดฟาติมา พ่อยกตัวอย่างว่า
พระเยซูทรงเป็นพระบุตรที่มีความสุขสบายทุกอย่างบนสวรรค์ ยังทรงขอลงมาต่ำกว่า ฑูตสวรรค์ คือเป็นมนุษย์นั่นเอง
เพราะพระองค์รักเรา และต้องการเผชิญความยากลำบากร่วมกับเรา พระองค์ลำบากกว่าเรามากมายนัก
ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อมหรอก พี่ ไม่ต้องคิดมากเลย ใจเย็นๆ นึกถึงพระมากๆ นะ หนูจะภาวนาให้พี่ด้วย
ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์นะ
สู้ๆ พี่เพชร
เอ่อ ขอแถม อยากได้สายประคำคล้องคอ อ่า เด๊ว IM ไปหา อิอิ
นี่คือบททดสอบ ทดลองเรานะ วันนี้ฟังเทศน์จากพ่อที่วัดฟาติมา พ่อยกตัวอย่างว่า
พระเยซูทรงเป็นพระบุตรที่มีความสุขสบายทุกอย่างบนสวรรค์ ยังทรงขอลงมาต่ำกว่า ฑูตสวรรค์ คือเป็นมนุษย์นั่นเอง
เพราะพระองค์รักเรา และต้องการเผชิญความยากลำบากร่วมกับเรา พระองค์ลำบากกว่าเรามากมายนัก
ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อมหรอก พี่ ไม่ต้องคิดมากเลย ใจเย็นๆ นึกถึงพระมากๆ นะ หนูจะภาวนาให้พี่ด้วย
ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์นะ
สู้ๆ พี่เพชร
เอ่อ ขอแถม อยากได้สายประคำคล้องคอ อ่า เด๊ว IM ไปหา อิอิ
ผมต้องขอบขอบคุณพี่น้องทุก ๆ คนที่รับฟังและให้กำลังใจครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ยินดีครับAndreas เขียน: ผมต้องขอบขอบคุณพี่น้องทุก ๆ คนที่รับฟังและให้กำลังใจครับ
เพชรอย่ากังวลใจไปนะ พระเยซูเรียกนักบุญเปโตร แต่แล้วภายหลังท่านกลับปฏิเสธพระองค์ พระเยซูเรียกนักบุญเปาโลทั้งๆที่ท่านมุ่งร้ายต่อกลุ่มคริสตชน เราไม่คิดว่าเพชรจะปฏิเสธพระเยซู และเราก็ไม่คิดด้วยว่าเพชรจะไปมุ่งร้ายกลุ่มคริสตชนที่ไหน แล้วแปลกเหรอที่พระเจ้าจะทรงเรียกเพชรไปทำงานรับใช้พระองค์ในฐานะนักบวช เราว่าเพชรมีความพร้อมและเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งนะ
ผมจะไปสิงคโปร์เดือนกรกฎาคมนี้แล้วหละครับ ไปเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบโทเฟล 6 เดือน แล้วจึงเข้าบ้านเณรเพื่อเรียนปรัชญา
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Andreas เขียน: ผมจะไปสิงคโปร์เดือนกรกฎาคมนี้แล้วหละครับ ไปเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบโทเฟล 6 เดือน แล้วจึงเข้าบ้านเณรเพื่อเรียนปรัชญา
ยินดีด้วย แล้วจะสวดให้นะจ๊ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ยินดีด้วยครับพี่
Andreas เขียน: ผมจะไปสิงคโปร์เดือนกรกฎาคมนี้แล้วหละครับ ไปเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบโทเฟล 6 เดือน แล้วจึงเข้าบ้านเณรเพื่อเรียนปรัชญา
แม้แต่สวรรค์ยังร่วมยินดี
ขอคำภาวนาจากน้องพี่เพื่อผู้หว่านคนใหม่ของพระราชัยด้วย
ก่อนที่ทางคณะนั้นจะแจ้งข่าวให้ผมทราบ ผมก็สวดภาวนาและเปิดพระวรสารได้ ลูกา บทที่ 5 เรื่องการทรงเรียกเลวี และหลังจากที่ผมทราบข่าวแล้ว วันต่อมา ผมก็สวดภาวนาและเปิดได้พระวรสารเรื่องนี้อีก ซึ่งเรื่องนี้ที่อยู่ในพระวรสารนักบุญลูกามีรายละเอียดและคำที่สะกิดใจมากสำหรับผม คือ เลวีหรือมัทธิวเป็นคนเก็บภาษี ซึ่งชาวยิวถือว่าเป็นคนบาป ผมก็เห็นว่าตัวผมก็เป็นคนบาปเช่นเดียวกัน ...พระเยซูเจ้าทรงเรียกเขา "จงตามเรามาเถิด"...สิ่งที่เลวีตอบสนองต่อเสียงเรียกนั้นก็คือ "ลุกขึ้น" ทำให้ผมนึกถึงการลุกขึ้นมาจากบาป เมื่อเราทำบาปเราได้ล้มลง แต่เลวีได้ลุกขึ้นมาเมื่อพระเยซูเจ้าทรงเรียกเขา ...และเขาได้ "สละสิ่งสารพัดทิ้ง" ทำให้ผมเข้าใจว่าผมต้องละทิ้งความบาป ละทิ้งอำเภอใจตนเอง ละทิ้งสิ่งที่จะเหนี่ยวรั้งไม่ให้ลุกขึ้น และ "ติดตามพระองค์ไป"
ช่วงนี้ผมรู้สึกถูกประจญบ่อยขึ้นจากความอ่อนแอ ขอบคุณที่ช่วยสวดภาวนาให้ผมนะครับ ขอให้ผมสามารถลุกขึ้นได้นาน ๆ ไม่กลับไปนั่งเก็บภาษีอีก เพื่อจะได้สามารถติดตามพระเยซูเจ้าตลอดไป
ช่วงนี้ผมรู้สึกถูกประจญบ่อยขึ้นจากความอ่อนแอ ขอบคุณที่ช่วยสวดภาวนาให้ผมนะครับ ขอให้ผมสามารถลุกขึ้นได้นาน ๆ ไม่กลับไปนั่งเก็บภาษีอีก เพื่อจะได้สามารถติดตามพระเยซูเจ้าตลอดไป
ดีมาก ในวันนี้ถ้าท่านได้ยินเสียงของพระองค์ ก็อย่าทำใจแข็งเลยAndreas เขียน: ก่อนที่ทางคณะนั้นจะแจ้งข่าวให้ผมทราบ ผมก็สวดภาวนาและเปิดพระวรสารได้ ลูกา บทที่ 5 เรื่องการทรงเรียกเลวี และหลังจากที่ผมทราบข่าวแล้ว วันต่อมา ผมก็สวดภาวนาและเปิดได้พระวรสารเรื่องนี้อีก ซึ่งเรื่องนี้ที่อยู่ในพระวรสารนักบุญลูกามีรายละเอียดและคำที่สะกิดใจมากสำหรับผม คือ เลวีหรือมัทธิวเป็นคนเก็บภาษี ซึ่งชาวยิวถือว่าเป็นคนบาป ผมก็เห็นว่าตัวผมก็เป็นคนบาปเช่นเดียวกัน ...พระเยซูเจ้าทรงเรียกเขา "จงตามเรามาเถิด"...สิ่งที่เลวีตอบสนองต่อเสียงเรียกนั้นก็คือ "ลุกขึ้น" ทำให้ผมนึกถึงการลุกขึ้นมาจากบาป เมื่อเราทำบาปเราได้ล้มลง แต่เลวีได้ลุกขึ้นมาเมื่อพระเยซูเจ้าทรงเรียกเขา ...และเขาได้ "สละสิ่งสารพัดทิ้ง" ทำให้ผมเข้าใจว่าผมต้องละทิ้งความบาป ละทิ้งอำเภอใจตนเอง ละทิ้งสิ่งที่จะเหนี่ยวรั้งไม่ให้ลุกขึ้น และ "ติดตามพระองค์ไป"
ช่วงนี้ผมรู้สึกถูกประจญบ่อยขึ้นจากความอ่อนแอ ขอบคุณที่ช่วยสวดภาวนาให้ผมนะครับ ขอให้ผมสามารถลุกขึ้นได้นาน ๆ ไม่กลับไปนั่งเก็บภาษีอีก เพื่อจะได้สามารถติดตามพระเยซูเจ้าตลอดไป